ลูกชาวนา

ส่องหล้า

ฉันมิใช่ชาวนาผู้กล้าแกร่ง
ฉันเป็นเพียงผู้มีแรงมหาศาล
ฉันเป็นเพียงผู้ตรากตรำทำแต่งาน
ฉันเป็นเสี้ยวตำนานชาวนาไทย
ยุคสมัยไร้รอยต่อกับพ่อแม่
ยุคผู้เฒ่าผู้แก่ถูกผลักใส
ปล่อยทุ่งรกควายร้างแสนห่างไกล
คอมคราดไถก่ายกองมิต้องดิน
ท้องทุ่งนาอ้างว้างเส้นทางรก
ผืนแผ่นอกแห่งแม่พนาสิน
เคยผุดผ่องรวงทองของแผ่นดิน
สูญเสียสิ้นยุคข้าน่าเศร้าใจ
ยุคสมัยรุ่งเรืองของเครื่องจักร
คนไร้หลักพลัดพรากดูหลากไหล
ทุนนิยมยกย่องเป็นกลไก
แต่ชีวิตจิตใจมิได้ปรุง
คิดถึงดวงดอกข้าวเจ้ารวงกล้า
คิดถึงกลิ่นข้าวปลาที่แม่หุง
แกงเคยแบ่งเพื่อนบ้านทั้งป้าลุง
ความเรืองรุ่งเนืองนองทั่วท้องนา
ในวันคืนผ่านไปหัวใจเหงา
ท้องทุ่งเศร้ารวงโศกสลดหา
สิ้นรอยไถซากซังหัวคันนา
เหลือปู่ย่าตาแก่ชะแง้คอย
ต้องมาเป็นลูกจ้างข้างถนน
อึดอดทนฟันฝ่ามิล้าถอย
สู้อดทนกลืนกล้ำเพื่อย้ำรอย
หวังเรียงร้อยรอยเท้าลูกชาวนา
เมล็ดเงินหว่านเกลื่อนเอื้อนความหวัง
ใช้กำลังลงแรงแสวงหา
ชุ่มด้วยเหงื่อเม็ดเงินที่หว่านมา
เศรษฐกิจตีตราค่าร่วงโรย
เก็บดอกเหงื่อเผื่อไว้เอาใจร้อย
เก็บร่องรอยทุกข์ร้อนอ่อนระโหย
เงียบลำเค็ญเย็นชีวันอันดิ่งโดย	
ทุกข์ปรายโปรยอ่อนแรงแห่งเวลา
อกระอุอานกระอักท้นกระฉอก
โรยแล้วดอกแห่งเงินที่เพลินหา
ชีวิตจริงฉันคือลูกชาวนา
ฉันมิใช่ขี้ข้าในเมืองกรุง				
comments powered by Disqus
  • รหัสสมาชิก3898-น้ำ

    12 กุมภาพันธ์ 2546 23:52 น. - comment id 108680

    เขียนได้เพราะดีครับ
  • อัลมิตรา

    13 กุมภาพันธ์ 2546 22:45 น. - comment id 108846

    :) สื่อด้วยอักษร มองเห็นภาพในจิตนาการ ค่ะ
  • ใจปลายทาง

    24 กุมภาพันธ์ 2546 15:38 น. - comment id 110393

    ชอบค่ะ เพราะมาก สือความหมายได้ดี

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน