โจอี้ เด็กชายเท้าพิการ...

ปีกฟ้า

ตอนที่โจอี้เกิดมา ด้วยความที่ฉันเพิ่งมีเขาเป็นคนแรก
ฉันก็ดูไม่ออกว่ามีลูกชายเท้าพิการ
รู้เหมือนกันว่าดูเท้าเขาบิดๆแปลกๆ
แต่ไม่รู้จริงจังว่าลูกตัวเองเท้าแป
คุณหมอบอกว่าเราไม่ต้องกังวล
เพราะถ้าแกได้รับการรักษาดูแลก็จะเดินได้เป็นปรกติ
แต่อาจวิ่งไม่ถนัดนัก
ช่วงแรกเกิดถึงสามขวบ โจอี้ต้องเทียวเข้ารับการผ่าตัด
ดามเหล็กนวดขา ทำกายภาพบำบัด ออกกำลัง
และฝึกการใช้เท้า พออายุราวแปดขวบ
แกก็เดินได้ปรกติจนดูไม่ออกว่าแกเคยมีปัญหาที่เท้ามาก่อน
ถ้าแกต้องเดินมาแกๆ อย่างเช่นเวลาไปสวนสัตว์หรือสวนสนุก
แกจะบ่นๆว่าเจ็บขา เมื่อยขา เราก็จะพักกันสักครู่
หาเครื่องดื่มหรือไอศกรีมกินกัน คุยเรื่องสัตว์ที่ดูมา
หรือว่าจะไปเล่นอะไรต่อ
เราไม่ได้บอกแกหรอก
ว่าทำไมแกจึงเจ็บขาหรือเมื่อยขาง่ายๆ อย่างนั้น
เราไม่ได้บอกเลยว่าเรารู้แล้ว
รู้ดีว่าอาการพวกนี้จะเกิดขึ้นเนื่องจากเท้าแกผิดปรกติมาแต่กำเนิด
แต่แกเองไม่เคยรู้เลย
ยามที่เด็กๆละแวกบ้านเราวิ่งเล่นกัน
โจอี้นึกสนุกก็จะต้องลงไปเล่นด้วย
เราไม่เคยบอกเลยว่าแกไม่สามารถวิ่งได้เร็วและคลอ่งอย่างเด็กอื่น
ไม่เคยบอกว่าแกไม่เหมือนเพื่อน แกเลยไม่รู้
เมื่อตอนแกขึ้นมัธยม โจอี้เลือกเข้าชมรมวิ่งทางไกล
แกซ้อมวิ่งทุกวัน ดูเหมือนจะต้องซ้อมหนักกว่าเพื่อนๆ
แกอาจจะรูสึกว่าการวิ่งที่เพื่อนๆวิ่งได้ดีตามธรรมชาติ
ออกจะเป็นเรื่องยากสำหรับแกเท่านั้นเอง
เราไม่เคยพูดว่า ไม่ว่าจะซ้อมหนักแค่ไหน
ทั้งชมรมจะมีเพียง 7 คนเท่านั้น
ได้ที่ร่วมทีมลมกรดซึ่งจะมีโอกาสทำคะแนนให้โรงเรียน
เราไม่เคยบอกว่า เขาคงไม่ผ่านรอบคัดเลือกด้วย
ดังนั้นแกจึงไม่คิดเรื่องนี้
โจอี้ยังซ้อมวิ่งต่อไป วิ่งวันละสี่ห้าไมล์ทุกวัน
มีอยู่วันหนึ่งที่ฉันไม่เคยลืม วันนั้นแกเป็นไข้
ตัวร้อนถึง 103 องศา แต่ก็ยังจะซ้อมวิ่งที่โรงเรียน
ฉันไม่สบายใจเลย พอแกไปแล้ว
ฉันเฝ้ากังวลว่าประเดี๋ยวทางโรงเรียนคงจะติดต่อมา
ให้ไปรับแกกลับบ้าน
แต่ก็ไม่มีใครโทรศัทพ์มาตาม
ฉันจึงออกไปดูเส้นทางที่ทางชมรมใช้เป็นเส้นทางซ้อมวิ่งทางไกล
หวังนิดหน่อยว่าหากแกได้เห็นฉัน
แกอาจจะตัดสินใจไม่ซ้อมก็ได้
พอไปถึงกลางทางก็เห็นแกวิ่งอยู่คนเดียว
สองข้างทางเป็นต้นไม้ร่มครึ้ม ฉันจะชะลอรถเคียงแกไป
อดถามไม่ได้ว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง
ไม่เป็นไรครับ อีกสองไมล์ก็เสร็จแล้วแม่
โจอี้ตาแดงก่ำด้วยพิษไข้ เหงื่อออกท่วมตัว
แต่แกก็ยังสืบเท้าวิ่งต่อไป
เราไม่เคยบอกแกว่า
คนเป็นไข้ขนาดนั้นจะไม่สามารถวิ่งได้ถึง 4 ไมล์
ดังนี้แกจึงไม่เคยคิดเรื่องนี้
อีกสองสัปดาห์ต่อมา
หนึ่งวันก่อนที่จะมีการแข่งขันรอบตัดเชือกของฤดูกาลนั้น
มีการคัดตัวทีมที่ชมรม
ปรากฏว่าโจอี้ติดหนึ่งในเจ็ดของทีมโรงเรียน
และเป็นเด็กชั้นมัธยมหนึ่งคนเดียวในทีม
นอกนั้นเป็นนักวิ่งรุ่นพี่ทั้งหมด
เราไม่เคยบอกแกว่า
อย่าได้หว้งเลยจะติดทีมวิ่งทางไกลของโรงเรียน เราไม่เคยพูดเลย เราไม่เคย
บอกว่าแกจะไม่มีทางทำได้....
แกไม่รู้ และแกจึงทำได้
คนเราทำได้เพราะคิดว่าตัวเองทำได้........				
comments powered by Disqus
  • โยนาห์

    26 มกราคม 2545 09:44 น. - comment id 32222

    สอนได้ดีมากให้กำลังคนที่หมดกำลังใจ
    ไม่ว่าจะครบไม่ครบ32แต่ตั้งใจที่จะทำ
    ก็ทำได้สำเร็จแน่นอน  ขอเป็นกำลังให้
    ทุกคนที่กำลังจะสิ้นหวังเอาโจอี้เป็นแบบ
  • Jeminine

    26 มกราคม 2545 13:16 น. - comment id 32251

    ไม่มีสิ่งใด ยากเกินความพยายาม และหัวใจนักสู้ ขอปรบมือดังๆ ในโจอี้นะคะ ^-^
  • ข้าวปล้อง

    26 มกราคม 2545 23:05 น. - comment id 32306

    ประทับใจที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความรักของแม่ หรือ นักสู้ตัวน้อย ๆ แต่หัวใจไม่ได้น้อยอย่างที่เห็นเลย ยิ่งใหญ่จริง ๆ
  • น้ำแข็ง

    27 มกราคม 2545 00:58 น. - comment id 32323

    อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจจังค่ะ.. 7.gif
  • เสี้ยว

    27 มกราคม 2545 10:11 น. - comment id 32380

    ขนลุกเลยค่ะ พี่ปีกฟ้า
  • คะน้า

    27 มกราคม 2545 18:00 น. - comment id 32421

    เป็นเรื่องที่ดีมาก ชอบประโยคสุดท้ายที่สุด
    คนเราทำได้เพราะคิดว่าตัวเองทำได้
    หากมีทัศนคติแบบนี้ให้กับตัวเองสิ่งที่ฝันไม่ไกลเกินเอื้อมจริงๆ
  • แก้วรัดเกล้า

    28 มกราคม 2545 11:47 น. - comment id 32509

    อ่านเรื่องนี้แล้วประทับใจค่ะ  สิ่งที่แทรกมาในเรื่องนี้คงทำให้เอ๋สู้ได้โดยไม่มีคำไหนมาเป็นเครื่องกำหนดกฏเกณฑ์ในการสู้เป็นแน่แท้ใช่ไหมค่ะ
  • ทาระ

    28 มกราคม 2545 14:55 น. - comment id 32564

    ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ดีที่สุดอีกครั้ง
  • กุ๊กกิ๊ก

    28 มกราคม 2545 14:57 น. - comment id 32565

    ประทับใจมากเลยค่ะ  ทำให้ตัวเองรู้สึกว่าอุปสรรคที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่มันเล็กนิดเดียวเอง

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน