คนชัยภูมิ.. ภูมิใจ..ชัยภูมิ

ยิปซี4

ชัยภูมิ...ดอกกระเจียวเริ่มบาน
ชัยภูมิ...ดอกกระเจียวกำลังงาม
ชัยภูมิ...สวยในทุกยาม
ชัยภูมิ...มีป่าและหินที่สวยงาม
ชัยภูมิ...มีน้ำตกและสายธาร
ชัยภูมิ...ชัยภูมิ...มี  4  อุทยาน
ชัยภูมิ...ยังมีบ้านดินที่งดงาม
ชัยภูมิ...คือบ้านของเรา				
comments powered by Disqus
  • ครูกระดาษทราย

    18 มิถุนายน 2551 16:58 น. - comment id 863560

    36.gifอยากมาเที่ยวชัยภูมิจังเลยค่ะ
  • อัลมิตรา

    18 มิถุนายน 2551 17:09 น. - comment id 863568

    ชัยภูมิ ทิวทัศน์สวย รวยป่าใหญ่ มีช้างหลาย ดอกไม้งาม 
    ลือนามวีรบุรุษ สุดยอดผ้าไหม พระใหญ่ทวารวดี 
    
    
    กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
    
     
    ๑. ทิวทัศน์สวย
    
     
    ..๏ แนวฟ้าป่าฟื้น
    แฝงความสดชื่น                      ดาษดื่นหมื่นพันธุ์ 
    ผลิกดอกออกผล                      ปะปนระคนกัน
    มากมีสีสัน                              สารพันพฤกษ์ไพร 
    
     ..๏ จากเมล็ดเกล็ดน้อย
    ดินชุ่มชื่นคอย                         ต้นน้อยแปลกไป 
    ชูช่อรอแสง                              ต้นแปลงแซงใบ
    ชูช่อรอไสว                              ตราบใหญ่ไม้ยืน 
    
    ..๏ มากมวลสกุณา
    รูปลักษณ์แปลกตา                   นำพาสดชื่น 
    ขยับหลีกพลิกผ่าน                  พุ่งทะยานดาษดื่น
    ล่อนถลาแฉลบคืน                   สู่พื้นพงพนา 
    
    ..๏ ท้องนาป่าไร่
    ลมลิ่วพลิ้วไหว                        ช่อไสวเหลือคณา 
    พืชผักพริกแดง                        บวบแฟงแตงกวา
    ใหญ่น้อยห้อยระย้า                                ควรน่าชื่นชม 
    
    ..๏ เป็นผลกสิกรรม
    พากเพียรเช้าค่ำ                       แดดย้ำกรำลม 
    คลายร้อนอ่อนล้า               ครั้งทัศนาชม
    สดชื่นรื่นรมย์                   สุขสมเกษมศานต์ 
    
    ..๏ รวงทองผ่องแพร้ว
    เพลินพลิ้วทิวแถว               ตามแนวเนิ่นนาน 
    ลู่เรียงเบี่ยงเบน                 โอนเอนเสียงผสาน
    ดุจโคลงกาพย์กานท์            แห่งท่านจอมกวี ฯ 
    
     
    ๒. รวยป่าใหญ่
    
    ..๏ ต้นไม้มหาศาล                  
    แตกกิ่งอิงก้าน                         สอดผสานสลับสี                     
    ลำต้นโตใหญ่                          ดอกใบโสภี
    กลีบแย้มดรุณี                          กลิ่นมีรันจวน 
    
    ..๏ แข็งแกร่งสูงเด่น
    เรียงรายหลบเร้น               โอนเอนเรรวน 
    ก้านโยกกิ่งย้าย                  ตามสายลมหวน
    กิ่งก้านเชิญชวน                      สำนวนเสียงระงม 
    
    ..๏ เช่นเสียงดนตรี
    ไพเราะมากมี                          ควรที่เพลินชม 
    พริ้งเพราะเสนาะนัก              บ้างหนักเบาสม
    กิ่งก้านเกลียวกลม                   ยามลมรำเพย 
    
    ..๏ ต้นพะยอมสูงยิ่ง
    ดอกงามล้ำจริง                  สวยพริ้งงอกเงย 
    ผลิบานสะคราญแย้ม           กลีบแง้มพิไลเผย
    ลมโชยชิดเชย                          จิตใจรัญจวน 
    
    ..๏ ใบไม้ร่วงพื้น
    เก่าใหม่ดาษดื่น                 กลับคืนทั่วถ้วน 
    เคยสูงงามแสน                 หากแม้นผันผวน
    ล่วงพื้นทั้งมวล                        ต่างล้วนแหลกสลาย 
    
    ..๏ น้ำตกแตกกระเซ็น
    ชื่นใจใสเย็น                    แลเห็นฟองพราย 
    แสนใสสะอาดนัก              ควรจักผ่อนคลาย
    ร่มรื่นชื่นสบาย                        แหวกว่ายในนที 
    
    ..๏ เห็นมวลมัศยา
    แหวกว่ายไปมา                 งามตาหลากสี 
    แซงสลับสับหลีก               บ้างปลีกฝูงหนี
    อิสระเสรี                                 ในนทีห้วงละหาน ฯ 
    
     ..๏ โขดหินน้อยใหญ่
    หลากขนาดทั่วไป                   อยู่ในชลธาร 
    ฤๅใครจัดตั้ง                             เสมือนดั่งมฆวาน
    เสกสร้างทิพย์พิมาน               ตั้งตระการเหลือคณา
    
    
     ๓. มีช้างหลาย 
    
     ..๏ เห็นโขลงคชสาร
    พังพลายกรายผ่าน              สมัครสมานยาตรา
    ช้างน้อยคอยแม่                 ช้างแก่ขนาบมา
    พลายผู้ดูท่า                              แสนสง่ายามเดิน
    
     ..๏ เป็นโขลงขึงขัง
    ห้อมล้อมหน้าหลัง             คับคั่งดำเนิน
    เกาะกลุ่มเกี่ยวก้อย              ใหญ่น้อยเมียงเมิล
    แอบอิงวิ่งเดิน                          เพลิดเพลินชมไพร
    
     ..๏ สำเนียงกังวาน
    ลือลั่นสั่นสะท้าน                    ขับขานสนั่นไกล
    ย่ำเท้ายาตรา                            เชื่องช้าสง่าใน-
    โอบอ้อมล้อมไป                     ห่วงใยโขลงตน 
    
     ..๏ อ้อยไผ่ไม้ป่า
    กล้วยสุกเหลือคณา                  ปรี่หาอลวน 
    อ้อยเข้าปากช้าง                       มีบ้างคะนองตน
    เล่นสนุกซุกซน                       เบียดตนบังตัว
    
     ..๏ เก่งกาจฉลาดล้ำ
    สัตว์ร้ายกรายกล้ำ               บ่ระส่ำหวาดกลัว 
    ชูงวงงาขาว                      แกร่งกร้าวพยุงตัว
    สอดส่องมองทั่ว                      บ่ กลัวภัยพาล 
    
     ..๏ มีอ่อนโยนบ้าง                  
    พงศ์เผ่าเหล่าช้าง                เคยสร้างตำนาน 
    ศึกยุทธหัตถี                     ครั้งที่โบราณ
    คู่องค์ภูมิบาล                           ป้องบ้านกันเมือง 
    
     ..๏ นวยนาตรยาตรา
    งดงามนักหนา                        กิริยาแสนเชื่อง 
    เป็นสัตว์เก่งฉกาจ                   ทั้งฉลาดปราดเปรื่อง
    สร้างชื่อลือเลื่อง                      ว่าเมืองแห่งช้าง 
    
     
    ๔. ดอกไม้งาม 
    
    ..๏ จากดินถิ่นโคลน
    เขาเขินเนินโนน               แตกโคนต้นบาง 
    เกาะกลุ่มเรียงราย               มากมายหลายอย่าง
    นางแย้มนวลปรางค์                โอ้ช่างงามลออ 
    
     ..๏ ติดดินถิ่นต่ำ
    ดอกพุดพิสุทธิ์ล้ำ                     ควรคำเยินยอ 
    มิใช่ดอกฟ้า                             งามสง่าใดหนอ
    ดอกหญ้ายังพอ                       ใคร่ขอเด็ดดม 
    
     ..๏ สดชื่นรื่นนัก
    สวยงามล้ำลักษณ์               ใจจักลุ่มหลง 
    ครั้นมองทัศนา                  ท้องนาป่าพง           
    จับจิตจำนง                             ยิ่งคงอัศจรรย์ 
    
     ..๏ ดอกขะแยงแพงพวย
    ดอกกะเจียวครามสวย             แก้วด้วยสารพัน 
    ดอกหญ้ายอดทแยง                 แซกแซงแข่งกัน
    ภู่ผึ้งพัลวัน                               สุขสันต์ระเริงใจ
    
     ..๏ ดอกหญ้างามสลอน
    ลมพัดปลิวว่อน                  สัญจรใกล้ไกล 
    ขาวสวยบริสุทธิ์                 บ่ หยุดพลิ้วไหว      
    แต้มแต่งพงไพร                      เสมือนไหมม่านแพร 
    
     ..๏ รองเท้านารี
    หลายหลากมากสี               โสภีจริงแท้ 
    เกาะกิ่งก้านไม้                  พริ้มพิไลยิ่งแล                        
    ภู่พวงเขี้ยวกระแต*                 งามแท้ตรึงตรา 
    
     ..๏ กล้วยไม้ช่องาม
    ออกดอกเหลืองอร่าม           ม่วงครามโสภา 
    ชมพูชูช่อ                                 ขาวลออลักขณา
    เกาะไม้ใบหนา                       พึ่งพาอาศัย 
    
     ..๏ ดอกพยอมเจ้าเอย
    ยามลมรำเพย                          ล่วงเลยร้างไกล 
    โมกป่าเบ่งบาน                       พุดตาลแก้วไพร
    ล่วงดินถิ่นใด                           ต่างได้ชื่นชม ฯ
    
     
    ๕. ลือนามวีรบุรษ
    
    ..๏  กำเนิดเกิดมา                    
    พร้อมความเก่งกล้า                 ควรค่าชนนิยม 
    เกริกไกรปรากฏ                      เป็นบทความคม
    ยศศักดิ์เหมาะสม            ขอก้มกราบกราน ฯ
    
    ..๏  พระยาภักดี-
    ชุมพล  นามนี้           ยังมีเล่าขาน 
    เป็นจดหมายเหตุ          อุทเทสตำนาน
    คือพงศาวดาร                ลูกหลานได้เรียน ฯ
    
    ..๏ นามเดิมคือ  แล 
    ปณิธาณมั่นแท้                        แน่วแน่พากเพียร 
    เกิดที่เวียงจันทร์                      เขตขัณฑ์สถิตย์เสถียร
    รับราชการเจียร*             ตามระเบียนแบบแผน ฯ
    
    ..๏ ครั้นลาราชการ
    จึ่งย้ายถิ่นฐาน                         จากบ้านผ่านแดน 
    ข้ามลำน้ำโขง                          อยู่โยงแว่นแคว้น    
    ณ สยามเมืองแมน                    ดินแดนขวานทอง ฯ
    
    ..๏ พี่น้องเมืองลาว
    พอได้ทราบข่าว                       เรื่องราวยกย่อง 
    ในความมุ่งมั่น                        พากันปรองดอง
    ร่วมเรียงเคียงข้อง           เสมือนน้องพี่กัน ฯ
    
    ..๏ ด้วยความภักดี
    บ่ ลืมคุณที่                               บารมีราชันย์ 
    ที่ตนเคยได้-                            อาศัยเวียงจันทร์
    จึ่งได้ร่วมกัน                คงมั่นบูชา ฯ
    
    ..๏ เครื่องบรรณาการ
    นำถวายกราบกราน                 เทิดท่านกษัตรา 
    จนได้ความชอบ                      ท่านมอบยศฐา-       
    นันดรศักดิ์มา                นามว่าท่านขุน- ฯ
    
    ..๏ ภักดีชุมพล 
    ปรากฏแก่ตน                           อวยผลเกื้อหนุน 
    เนื่องความกตัญญู                   ด้วยรู้บุญคุณ
    จึ่งเจริญยิ่งวิรุฬห์            ท่านขุนเปรมปรีดิ์ ฯ
    
    ..๏ ครั้นได้ตรองเหตุ
    ตนอยู่ขอบเขต                        ประเทศสยามนี้ 
    อยู่เย็นเป็นสุข            ทั่วทุกถิ่นที่
    เนื่องด้วยปราณี              พระบารมีภูมินทร์ ฯ
    
    ..๏ ควรได้เทิดไท้
    องค์จอมกษัตริย์ไทย               ด้วยใจทั้งสิ้น 
    เคารพเทิดทูน                          บาทมูลสยามินทร์
    องค์เจ้าชีวิน                 ตราบสิ้นชีวา ฯ
    
    ..๏ เจ้านครเวียงจันทร์
    ทราบความเช่นนั้น                  ภาคทัณฑ์โทษา
    ให้เร่งจับกุม                            ควบคุมตนมา
    แล้วพึงพิพากษา                      เข่นฆ่าตัดหัว ฯ
    
     ..๏ รี้พลกองทัพ
    มากเหลือคณานับ                   เพื่อจับกุมตัว 
    ท่านขุนภักดี ฯ                        บ่ มีหวาดกลัว
    ประกาศให้ทั่ว                         เร่งระรัวกลับกลอง ฯ
    
     ..๏ มวลชนคนกล้า
    ต่างขันอาสา                            ร่วมมาปกป้อง 
    เมืองราชสีมา                           นคราทั้งผอง
    อริราชครอบครอง                    จนต้องสู้รบ ฯ
    
     ..๏ ท่านขุนภักดี 
    ท้าวโม ฯ ท่านนี้                      ควรที่เคารพ 
    วางกลอุบาย                             มากมายเจนจบ
    ไพร่พลสมทบ                         ร่วมรบต่อกร ฯ
    
     ..๏ จนลาวแตกพ่าย
    บ้างเจ็บล้มตาย                        เข้าทำลายพลากร 
    ทหารลาวแตกทัพ                    หากกลับเมืองก่อน
    จักถูกพระจักรธร                    บั่นทอนชีพพลัน ฯ
    
     ..๏ จึ่งรี่กำลัง
    เข้ารบอีกครั้ง                           สู้อย่างมุ่งมั่น 
    จนได้จับกุม                            ต่างรุมห้ำหั่น
    ดาบทิ่มแทงฟัน                       ขุน ฯ นั่นวายชนม์  ฯ
    
     ..๏ ด้วยความอาจหาญ
    องค์พระภูมิบาล                      โปรดปราณเหลือล้น 
    อวยยศฐานัน-                         ดรพลันแก่ตน
    เป็น  พระยา  สุรชน        ให้คนเลื่องลือ ฯ
    
     ..๏ นี้คือตำนาน
    ให้มวลลูกหลาน                     เล่าขานยึดถือ 
    เคารพกราบไหว้                      คงไว้เป็นชื่อ
     พระยาภักดี  คือ              ขึ้นชื่อลือชา ฯ
    
    ... โทษที ไม่ได้จัดคอลัมน์ให้ดูสบายตา พอดีรีบน่ะ 
    เขียนก็ยังไม่จบ ขาดผ้าไหมกับพระใหญ่ทราวดี
    ไหน ๆ ก็เป็นคนชัยภูมิแล้ว ฝากเขียนต่อละกันน๊า ..
  • ฝากฝัน

    18 มิถุนายน 2551 19:10 น. - comment id 863585

    36.gif36.gif36.gif
    ฝากฝัน..คนอาศัยชัยภูมินะ....
    แตก็ภูมิใจที่เป็นคนได้อาศัยที่นั่น
  • 19 มิถุนายน 2551 01:34 น. - comment id 863665

    36.gif36.gif36.gif
  • คนรู

    19 มิถุนายน 2551 04:13 น. - comment id 863708

    36.gif36.gif
    ---------------ต่อ-------------
    จัตุรัสเมืองพระนะรินทร์  ถิ่นแร่เกลือ  งามเหลือหอสมุด  สุดยอดผ้าไหม  กว้างใหญ่บึงละหาน  โบราณเส็งกลอง
    
    บ้านผม ครับ
  • คนรู

    19 มิถุนายน 2551 04:14 น. - comment id 863709

    พี่น้องจิตกุศล
  • หนุ่มน้อย

    19 มิถุนายน 2551 11:18 น. - comment id 863773

    พูดถึงเมืองชัยภูมิ
    ทำให้คิดถึงเพื่อนที่เป็น สส. อยู่จังหวัดชัยภูมิที่ชื่อ สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ครับ 
    
    36.gif36.gif36.gif
  • ผมชื่อโจ้

    19 มิถุนายน 2551 13:11 น. - comment id 863792

    โอว! ชัยภูมิมีสาวงาม
    เป็นเมืองเล็ก ๆ
    มีซกเล็ก
    มีหมูกระทะ
    มีห้างหรือยัง(ไม่รู้)
    
    **แต่ที่ต้องขอบคุณสำหรับอานิสงส์ของกลอนนี้
    คือ กาพย์สุรางคนางค์ 28
    ขอบคุณ คุณอัลมิตรา 
    ผมขาดหายการแต่งกาพย์นี้ไปนานมากแล้ว
  • ยิปซี4

    19 มิถุนายน 2551 13:31 น. - comment id 863800

    ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาครับ
    
    ...ชัยภูมิมีเรื่องราวอีกมายครับเพียงแต่ผมไม่สามารเขียนป็นกลอนได้ดีและยังไม่ได้เอารูปเข้ามาครับ
    
    ขอบคุณทุกคนครับ
  • puipui

    13 ธันวาคม 2551 04:48 น. - comment id 923561

    จากมาทำงาน
    ถึงห่างกันแสนไกล
    แต่ดวงใจฉันยังคิดถึงเสมอ
    
    มาทำงานเกือบปีแล้ว
    คิดถึงบ้าน
    คิดถึงชัยภูมิจัง
    เปลี่ยนเป็นไงบ้างก็ไม่รู้

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน