เสียงในความเงียบ

วฤก


๏ ดึกดื่นดาวพราวเด่นล้อเพ็ญโสม
ยลโพยมหยาดละอองของหมอกหนาว
น้ำค้างหยดรดหลั่งเสียงดังกราว
ยะเยือกร้าวลมพัดสะบัดมา
นกนอนเคียง เคียงนอน เกาะคอนคู่
ร้องขันคู คูขัน ขวัญผวา
ฤๅจิตหวั่น หวั่นจิต ในนิทรา
ฝันผลาญพร่า พร่าผลาญ ล้างปราณฤๅ
ดึกสงัด สงัดเสียง สำเนียงร้อง
สิ้นทำนอง ทำนองขับ ร้องรับหรือ
โอ้เรไร เรไรร้อง ก้องระบือ
ใครนะยื้อ นะยื้อยุด ฉุดให้เบา
ดึกดื่นดาวพราวพร่างเคียงข้างโสม
ยลโพยมพยับหม่นกมลเหงา
น้ำค้างหยดรดหลั่งหลบบังเงา
นั่งจับเจ่าจับสำเนียงเสียงเงียบงัน ๚				
comments powered by Disqus
  • วฤก

    28 พฤศจิกายน 2544 11:16 น. - comment id 21486

    แฮ่ม ...ลืมบอกรายละเอียด
    กลอนบทที่สอง ... กลอักษร "นกกางปีก" ครับ
    ซ้ำและเรียงกลับคำ ของคำที่ ๒,๓ คำที่ ๔,๕
    ที่เรียกว่ากลอักษร เพราะสมัยก่อนจะเขียนแค่คำที่
    ๑ ๒ ๓ แล้วเป็น ๖ ๗ ๘ เลย คนอ่านต้องถอดกลเป็น
    จึงจะสามารถอ่านได้ครับ ทั้ง ๘ คำตามลักษณะกลอนแปด
  • วฤก

    28 พฤศจิกายน 2544 11:19 น. - comment id 21487

    แก้ไข .... 
    กลอนบทที่สอง ... กลอักษร "นกกางปีก" ครับ
    ซ้ำและเรียงกลับคำ ของคำที่ ๒,๓ เป็นคำที่ ๔,๕
    ที่เรียกว่ากลอักษร เพราะสมัยก่อนจะเขียนแค่คำที่
    ๑ ๒ ๓ แล้วเป็น ๖ ๗ ๘ เลย คนอ่านต้องถอดกลเป็น
    จึงจะสามารถอ่านได้ครบ ทั้ง ๘ คำตามลักษณะกลอนแปด
  • วฤก

    28 พฤศจิกายน 2544 11:24 น. - comment id 21488

    กลอนบทที่สาม ผมเขียนเลียนแบบกลบท "รักร้อย"
    กลบทนี้จะบังคับให้ซ้ำคำที่ ๓ กับ ๔
    เช่น "ก็รับรู้ รู้อยู่ มีคู่รัก"
    
    ที่ผมเขียนมา ..เป็นทำเทียมเลียนแบบ 
    เพราะขยายเป็นกลอนเก้าแล้วซ้ำคำที่ ๒ ๓ กับ ๔ ๕ 
     แต่ลีลากลอนยังนับได้ว่าเป็นกลบท "รักร้อย" อยู่ครับ
  • may

    28 พฤศจิกายน 2544 12:14 น. - comment id 21497

    เขียนได้ยาวมากเลยนะคะ เป็นอะไรที่มโนภาพได้เลยอ่ะ
  • ม้าก้านกล้วย

    28 พฤศจิกายน 2544 14:44 น. - comment id 21523

    เพราะครับ ทั้งเพราะ ทั้งได้ความรู้จากครูกลอน
    เห็นว่าง่าย แต่ แต่งยากนะ เพราะนอกจากสำผัสแล้ว ต้องระวังเงื่อนไขกลอักษรอีก
    ซูฮกเลย
  • ผีเสื้อปีกบางฯ

    28 พฤศจิกายน 2544 19:53 น. - comment id 21561

    เพราะจังค่ะ
  • mono

    28 พฤศจิกายน 2544 20:02 น. - comment id 21566

    เพราะมากค่ะ...แถมได้ความรู้อีกด้วย...ชอบค่ะ
  • คะน้า

    28 พฤศจิกายน 2544 20:21 น. - comment id 21574

    อ่านแล้วสนุกดีกับกลบทที่สลับไปมาและคล้อง
    จองกันอย่างไพเราะ ดีค่ะ กลอนดีจัง
  • run

    28 พฤศจิกายน 2544 21:29 น. - comment id 21599

    ภาษาสวยจังนะ
  • dokkoon

    28 พฤศจิกายน 2544 23:10 น. - comment id 21617

    นับถือในความรู้จริงจ้ะ ถือว่ามีบุญได้มาอ่านบทกลอนที่ดีเยี่ยมอย่างนี้นะ
  • คนแก่ดูดาว

    29 พฤศจิกายน 2544 03:13 น. - comment id 21650

    นับถือนับถือ เก่งเจงๆครับป๋ม
  • ธนรัฐ สวัสดิชัย

    29 พฤศจิกายน 2544 03:26 น. - comment id 21657

    เพราะมากเลยจ้า... แล้วก็น่ารักดีด้วย... ได้ความรู้ด้วยละ.... ดีจังเลยจ้า....
    ชอบคำว่า "ครูกลอน" ทีพี่ม้า.... ตั้งให้จังเลยจ้า ขอเรียกว่าครูกลอนด้วยคนจ้า...
  • น้ำแข็ง

    29 พฤศจิกายน 2544 19:39 น. - comment id 21828

    เพราะมากๆ เหมือนเคยค่ะ..แถมยังได้ความรู้อีก..ขออนุญาติเรียกว่าครูกลอน ด้วยคนน๊ะคะ..^_^..
  • กานต์..อันเป็นที่รัก

    30 พฤศจิกายน 2544 03:29 น. - comment id 21916

    ชอบมากเพราะมากๆเลย..อาจารย์
  • โคลอน

    30 พฤศจิกายน 2544 08:20 น. - comment id 21935

    เพราะมากจริงๆค่ะ..วฤก...เด๋วขอซุ่มไปหัดแต่งกลอนกลบทมั่งนะคะ  จดๆๆๆๆรายละเอียด  (^_^)
  • วฤก

    30 พฤศจิกายน 2544 19:43 น. - comment id 22059

    ขอขอบคุณทุกท่าน และทุกความเห็นที่ให้ไว้ครับ ... 
    แหะ ๆๆ ตื้นตันจนพิมพ์ไม่ออก ...
  • แก้วรัดเกล้า

    8 ธันวาคม 2544 13:20 น. - comment id 23670

    อย่างเดิม คือดีใจที่ได้อ่านกลอนดี ดีค่ะ ชื่นชม ชื่นชม
  • ทะเลขวัญ ผู้หญิงคนธรรมดาๆ กับใจเดิมๆ

    12 มกราคม 2545 13:26 น. - comment id 30059

    ดึกดื่นเดือนหมองดาวร้องไห้
    จันทร์เศร้าแขวนฟ้าท้าหนาว
    น้ำตาใจแกล้มน้ำตาจันทร์กับดาวพราว
    ใจรานร้าวระทมห่มด้วยกาลเวลา
    
    จันทราหลบบังเข้าเมฆหม่น
    กมลขวัญหวั่นไหวคอยผวา
    อยากให้ปุยเมฆกล่อมฝันเลิกเหว่ว้า
    อยากพ้อว่าลมจ๋าอย่าจากไกล!

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน