มาเปล่า....ไปเปล่า

ลุงแทน

.......เสียงระฆังวังเวงวิเวกแว่ว
แก๊ง.แก๊ง.แผ่วจากหนใดที่ไหนหนอ
วิหกร้องขันคูกู่เสียงคลอ
หอมละออกลิ่นมาลีคลี่ดอกบาน
จิตวิญญาณลอยวนอยู่หนไหน
โปรดจงช่วยกลับมาคืนผสาน
เป็นหนึ่งเดียวกับเรือนร่างดั่งต้องการ
อย่าซมซานเป็นกายทิพย์พเนจร
แสงแห่งธรรมสาดส่องทั่วท้องหล้า
ต่างจรมาน้อมรับฟังคำสั่งสอน
กิเลสที่กลางฤทัยเริ่มคลายคลอน
พนมกรน้อมรับภควันต์
เสียงธรรมะสะวะนะประสานก้อง
ดั่งเสียงร้องบรรเลงเพลงสวรรค์
ขับกล่อมมวลเวไนยสารพัน
ให้ยึดมั่นในศรัทธาค่าความดี
จักษุได้รู้เห็นเป็นแก่นสาร
ถึงความเจ็บปวดทรมานความบัดสี
เห็นการเกิดแก่เจ็บตายบรรดามี
ทั้งโลกีย์ตัญหาน่าเศร้าใจ
ความดีไม่เคยทำเลยสักนิด
ครั้นชีวิตใกล้จะลับดับสลาย
กระเสือกกระสนดิ้นรนหนีความตาย
เริ่มเห็นพระรำไรในสันดาน
โสตสองข้างควรรับสดับบ้าง
ทุกสิ่งอย่างล้วนนิจจังตามสังขาร
ไม่มั่นคงจีรังยั่งยืนนาน
ต้องแตกดับตามกาลกำหนดมา
จะต้องการสิ่งใดอะไรเล่า
เรามาเปล่าก็ไปเปล่านั่นแหละหนา
สร้างความดีประดับไว้ในโลกา
ดั่งผกาหอมระรินทั่วถิ่นไพร...
*กุหลาบขาว*				
comments powered by Disqus
  • ลุงแทน

    25 พฤศจิกายน 2550 14:20 น. - comment id 789401

    .........ธรรมะเป็นของจริง ปฏิบัติจริง ได้ผลจริง.....
    
    ธรรมทั้งหลาย จำได้ง่าย รู้ได้ยาก
    เหมือนครกสาก ไม่รู้รส บดอาหาร
    รสของเกลือ ผู้ที่เชื่อ ต้องรับประทาน
    รสมันหวาน รู้ด้วยใจ ภายในตน 
    
    ยังไม่รู้รส ธรรมทั้งหมด มองไม่เห็น
    ไม่บำเพ็ญ จิตไม่คลาย ไม่ได้ผล
    รู้ตามปริยัติ ไม่ปฏิบัติ ฝึกหัดตน
    ไม่อดทน ไม่เป็นพระ ไม่ชนะมาร 
    
    จิตเป็นพระ ต้องชนะ กามฉันท์
    เครื่องผูกพัน อยู่ใน วัฏสงสาร
    ตัวมิจฉา ความเห็นผิด จิตเป็นพาล
    เพราะเกียจคร้าน ไม่บำเพ็ญ ไม่เห็นธรรม 
    
    จิตเห็นธรรม ก็เห็น พระตถาคต
    จิตรู้รส จิตปลดเปลื้อง เป็นเรื่องขำ
    แรงสัจจะ แรงทมะ ชนะกรรม (คือชนะกาม)
    ผู้ปฏิบัติธรรม มั่นอดทน ได้ผลจริง 
    
    จิตเห็นกาย ในกาย คลายกำหนัด
    ผู้ปฏิบัติ จะรู้ได้ ทั้งชายหญิง
    เห็นวัตถุ ภายนอกกาย กลางเป็นลิง
    เจอะของจริง ตามพุทธพจน์ หมดกังวล 
    
    เป็นบุญเลิศ ผู้มาเกิด เป็นมนุษย์
    เป็นชาวพุทธ จิตศรัทธา สถาผล
    น้อมธรรมะ มาปฏิบัติ ฝึกหัดตน
    ทุกทุกคน รู้ได้ชัด ปัจจัตตัง 
    
    ผู้ประมาท ต้องเป็นทาส อยู่ในโลก
    แม้มีโชค ไม่ทำดี ไม่มีหวัง
    ธรรมทั้งหลาย พระตรัสไว้ ไม่ปิดบัง
    หมดรักชัง รู้ด้วยตน ทุกคนเอย
  • ลุงแทน

    25 พฤศจิกายน 2550 14:33 น. - comment id 793178

    ..........เห็นพระ   กราบพระ   ครั้งใด
    
    ทำใจ         ให้ถูก         ด้วยหนา
    
    ชาวพุทธ    กราบด้วย   ปัญญา
    
    ใช่ว่า          กราบด้วย    งมงาย
    
    เห็นพระ   กราบพระ    ตรั้งใด
    
    น้อมใจ      ตามไป       เช่นว่า
    
    หัวแหลม   นั้นคือ        ปัญญา
    
    ทุกข์มา      ดับได้          ทันที
    
    หูยาน        คือ ความ     หนักแน่น
    
    ไม่แล่น     รับเสียง       เร็วรี่
    
    ใครว่า       ใครด่า           ท้าตี
    
    ไม่มี          โมโห           วู่วาม
    
    มองต่ำ       คือตา            สติ
    
    ไม่ดำริ       ในสิ่ง         ทั้งสาม
    
    คือการ        ดำริ            ในกาม
    
    พยาบาท    และการ      เบียดเบียน
    
    เห็นพระ   กราบพระ    ทุกครั้ง
    
    ระวัง         อย่ากราบ     ให้เพี้ยน
    
    พระพักตร์ ยิ้มแย้ม       ใม่เปลี่ยน
    
    เพราะใจ  โล่งเตียน      เบิกบาน
    
    นิ้วมือ       สั้นยาว          เท่ากัน
    
    สิ่งนั้น      คือรัก             แผ่ซ่าน
    
    เมตตา      กรุณา            ตลอดกาล
    
    สงสาร     สรรพสัตว์     เสมอกัน
    
    กราบ        องค์พุทธ      รูปครั้งใด
    
    ตั้งใจ       ดำรง              คงมั่น
    
    น้อมเอา   คุณธรรม      อนันต์
    
    เหล่านั้น  มาไหว้         ในตน
    
    นั่งลุก      เดินเหิน       ไปไหน
    
    
    ดอกบัว     เกิดได้          ทุกหน
    
    คือความ    บริสุทธ์       หลุดพ้น
    
    มิมี            เจือปน        กิเลสกามฯ
  • บนข.

    25 พฤศจิกายน 2550 16:21 น. - comment id 793201

    มาฟังโอวาทธรรมครับ อยากเห็นคนอย่างลุแทนเยอะๆ70.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน