กลางกรุงกลางนา

ณ.คลองฉวาง

จากดินแดนแผ่นดินท้องถินเกิด
ที่กำเนิดเป็นคนขึ้นมาได้
เขาเมืองกรุงเมืองฟ้าศิวิไลซ์
หวังให้ใครมากมายสบายกัน
    เคยทำนามองไปเห็นฟ้ากว้าง
นกกระยางโฉบกินปลาในแหล่งน้ำ
ปี่ซังข้าวแว่วเสียงสุดชื่นช่ำ
แสนสุดช้ำต้องจากทุกอย่างไป
     นาที่มีกลายเป็นที่รกร้าง
หวังจะสร้างใหม่มิอาจจะทำได้
ธรรมชาติเดี๋ยวนี้มันเปลียนไป
อีกหนี้สิน มากมายมาประดัง
    ตัดสินใจขึ้นรถไฟด้วยความหวัง
จะมีทางลืมตาอ้าปากได้
จุดมุงหมายคือเมืองฟ้าเมืองกรุงไกล
คงจะมีงานให้เราได้ทำ
    ถึงเมืองกรุงมุงหวังหารายได้
ไปสมัครงานหลากหลายยังสิ้นหวัง
เหงื่อหยาดหยดรสรินสิ้นกำลัง
ยังเรายังไม่ได้งานเลย
 นั่งสิ้นหวังข้างทางบาทวิถี
ทำอย่างไรดีกับชีวิตวันข้างหน้า
ลองอีกทีโอกาสต้องมีมา
ต้องรีบหางานให้ได้มีเงิน
  เดินสมัครหางานอยู่หลายที่
ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้
บางครั้งน้ำตาตกช้ำชอกใจ
ถูกเขาหลอกเงินไปไม่รู้ตัว
    ทำไมไม่เป็นอย่างที่คาดเอาไว้
เมืองศิวิไลซ์ โหดร้ายกว่าที่จะหวัง
หมดเรี่ยวแรง หมดเงิน  หมดกำลัง
ล้มลงนั้งสิ้นหวัง กลางเมืองกรุง				
comments powered by Disqus
  • พิมพรรณ

    22 มกราคม 2552 20:37 น. - comment id 939667

    41.gif41.gif
    
    แวะมาอ่านกลอนค่ะ
  • Alto2

    22 มกราคม 2552 22:02 น. - comment id 939726

    มาทางเหนือบ้างดีไหม อิอิ41.gif41.gif
  • ประทีปดาว

    23 มกราคม 2552 14:31 น. - comment id 939907

    ทางใต้ก็ได้นะค่ะ  ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ
    
    1.gif36.gif1.gif
  • krajokngao

    23 มกราคม 2552 15:51 น. - comment id 939935

    ความเป็นจริงจากส่วนหนึ่งในสังคมไทยค่ะ
    41.gif41.gif41.gif
    เขียนได้เห็นภาพและสื่อถึงความเป็นจริงได้ดีค่ะ
    6.gif6.gif6.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน