กบฎสภา

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

ผู้แทนประชาธิปัติ         ประทุษร้ายชัด
ทุ่มอัดประธานสภา
ประมวลกฏหมายอาญา   บ่งไว้มาตรา
หนึ่งร้อยสิบสามทั้งหมด
เข้าข่ายชัดเจนเป็นกบฎ    หากไม่มีลด
ตามกฏประหารชีวิต
ผู้แทนหลายคนทำผิด      แถมหนุนพันธมิตร
ออกฤทธิ์ปิดถนนหนทาง
ผู้ก่อการร้ายข้อกาง          สุวรรณภูมิตัวอย่าง
ปิดทางเสียหายไม่ติดคุก
กบฎสภาเที่ยวนี้คงสนุก    เสื้อแดงเขาลุก
ขึ้นบุกต่อต้านปฏิวัติ
สภาพิจารณาเคร่งครัด    จึงเลื่อนตามถนัด
เตรียมจัดประชุมต่อไป
ประชุมกรุงเทพฯไม่ได้     ย้ายไปเชียงใหม่
แน่ใจกฏหมายปรองดอง
ผ่านเพื่อประชาไทยผอง    เป็นโอกาศทอง
กึกก้องไชโยโห่ชัย....
				
comments powered by Disqus
  • ศรีสมภพ

    3 มิถุนายน 2555 15:26 น. - comment id 1235323

    หันมาคุยกันดีกว่า
    อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า
    เดี๋ยวคมมีดกรีดบาดเอา
    อาจต้องเศร้ากันทั้งเมือง
    
    ประวิติศาสตร์ที่พลาดพลั้ง
    เคยประดังจนคางเหลือง
    หันกลับไปไม่ได้เรื่อง
    ม็อบเต็มเมืองเรื่องชักใหญ่
    
    ค่อยๆคุย ค่อยๆฟัง
    อย่าคลุ้มคลั่งอย่าหวั่นไหว
    ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป
    อาจอีกไกล..เข้าใจกัน
    
    อย่าหุนหัน ..ต้องปันใจ  อภัยกัน  !
    
    29.gif27.gif
  • บุญพร้อม

    3 มิถุนายน 2555 18:03 น. - comment id 1235328

    ทำอะไร  ได้ดังใจ คือไทยแท้  เขาว่ามาครับ
    
       20.gif20.gif
  • ฝากอ่าน ขอความยุติธรรมให้คนร่วมชาติ

    4 มิถุนายน 2555 08:15 น. - comment id 1235342

    ศาสนาและการเมืองโลก+ไทย
    
    
    
    
    
    
    
    
    
     
    
    
    
    เปลว สีเงิน
     4 June 2555 - 00:00
    
    
    
    
    
      ครับ...วันนี้ เป็นวันเพ็ญ กลางเดือน ๗ เป็นวันประสูติ-ตรัสรู้-ปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเรียกว่า "วันวิสาขบูชา" แต่ปีนี้ เราจะได้ยินคำว่า "พุทธชยันตี" ควบคู่กับวันวิสาขบูชา เพื่อความรู้ร่วมกัน ผมขอนุญาตนำข้อมูลจาก "มูลนิธิการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนา" มาตีพิมพ์ตรงนี้ ดังนี้
        พุทธชยันตี (Buddha Jayanti) เป็นชื่อเรียกงานเฉลิมฉลองหรือพิธีบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องในวาระแห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชาในประเทศไทยนั่นเอง พุทธชยันตีนี้ เป็นที่รู้จักกันดีของชาวพุทธนานาชาติอย่างในประเทศศรีลังกา อินเดีย พม่า เป็นต้น 
        โดยเฉพาะในช่วงการเฉลิมฉลอง พุทธชยันตี ๒๕ พุทธศตวรรษ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ (ถือกันว่าเป็นกึ่งพุทธกาล) แต่สันนิษฐานว่า มีการเริ่มต้นงานเฉลิมฉลองพุทธชยันตีนี้ ภายหลังจากที่ประเทศศรีลังกา ได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษในปี พ.ศ.๒๔๙๑ และจากการที่ ดร.อัมเบดการ์ (Dr.Babasaheb Bhimrao Ramji Ambedkar) ได้ฟื้นฟูพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย 
        โดยมีการนำชาวอินเดียประมาณ ๒ แสนคนปฏิญาณตนเป็นชาวพุทธ เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ (อินเดีย ศรีลังกา นับเป็น พ.ศ.๒๕๐๐ เร็วกว่าไทย ๑ ปี) เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพุทธชยันตี ๒๕ พุทธศตวรรษ นอกจากนี้ รัฐบาลประเทศอินเดียยังได้สร้างสวนสาธารณพุทธชยันตีไว้ที่กรุงนิวเดลี เพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับวาระนี้ด้วย 
        สำหรับรัฐบาลไทย จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเฉลิมฉลองพุทธชยันตี ๒๕ พุทธศตวรรษ ด้วยการสร้างพุทธมณฑลเป็นอนุสรณ์สถาน ประกาศให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ โดยกำหนดให้วันพระหรือวันธรรมสวนะเป็นวันหยุดราชการ (ประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี ฉบับที่ ๙ ลงวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๙) และมีการพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาไทยครบชุดฉบับแรก เป็นต้น 
        สำหรับการเฉลิมฉลองในระดับนานาชาตินั้น รัฐบาลพม่าได้เป็นเจ้าภาพในการจัด "ฉัฏฐสังคีติ คือการสังคายนาพระไตรปิฎกระดับนานาชาติ โดยทางพม่านับเป็นการสังคายนาครั้งที่ ๖ แล้วได้จัดพิมพ์พระไตรปิฎกบาลีและคัมภีร์ทั้งหลายขึ้นเป็นจำนวนมาก
        พุทธชยันตีหมายความว่าอะไร?
        พุทธชยันตี โดยรากศัพท์ของคำว่าชยันตี มาจากคำว่า "ชย คือชัยชนะ อันหมายถึงชัยชนะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มีต่อหมู่มารและกิเลสทั้งปวงอย่างสิ้นเชิง อันทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้บังเกิดขึ้นในโลก พุทธชยันตีจึงมีความหมายว่าเป็น การตรัสรู้และการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย 
        ในปัจจุบัน พุทธชยันตียังถูกตีความในความหมายถึงชัยชนะของพุทธศาสนาและชาวพุทธด้วย เช่น การได้รับเอกราชและมีสิทธิ์ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเป็นครั้งแรกของชาวพุทธในประเทศศรีลังกา การฉลองปีใหม่ชาวพุทธโดยไม่มีเหล้าสุรายาเสพติดสิ่งมึนเมาทั่วทั้งประเทศศรีลังกา การเอาชนะสิ่งเลวร้ายในสังคมจนทำให้ประเทศศรีลังกามีสถิติอาชญากรรมต่ำมากๆ
        สำหรับวาระสำคัญในปีปัจจุบันเนื่องในมหาธัมมาภิสมัย พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้นั้น ถ้าถือตามหลักการคำนวณปีพุทธศักราชแบบไทย อยู่ในช่วงระหว่าง วิสาขบูชา ๒๕๕๔-วิสาขบูชา ๒๕๕๕ ทั้งนี้ ในวันวิสาขบูชา ๒๕๕๔ ที่ผ่านมานี้ (๑๗ พ.ค.๒๕๕๔) เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ ๒๕๙๙ ปีเต็ม และเริ่มเข้าสู่ปีที่ ๒,๖๐๐ แห่งการตรัสรู้ 
        โดยคำนวณจากการนำปีพุทธศักราชที่เริ่มนับหลังจากการปรินิพพาน บวกด้วย ๔๕ อันเป็นจำนวนพรรษาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ดำเนินพุทธกิจ ภายหลังการตรัสรู้จวบจนเสด็จดับขันธปรินิพพาน (สูตรการคำนวณจำนวนปีการตรัสรู้ = ปี พ.ศ.+๔๕) 
        ดังนั้น ในวันวิสาขบูชาปี พ.ศ.๒๕๕๕ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสรู้ครบ ๒,๖๐๐ ปีบริบูรณ์ ในประเทศต่างๆ ที่มีชาวพุทธเข้มแข็งได้ประกาศให้มีการเฉลิมฉลองในวาระนี้เป็นเวลา ๓ ปี (๒๕๕๓-๒๕๕๕) ดังเช่นในประเทศศรีลังกา พม่า อินเดีย เป็นต้น ได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างตื่นตัวและยิ่งใหญ่ 
        ที่สำนักงานใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา ก็มีการจัดงานฉลองใหญ่ในช่วงวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา สำหรับประเทศไทยได้มีการจัดงานในระดับภาคประชาชนกว่า ๒ ปีที่ผ่านมาในวงจำกัด ส่วนในระดับรัฐบาล สมควรที่รัฐบาลไทยจะประกาศให้มีการเฉลิมฉลองใหญ่ตลอดปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ นี้อย่างเป็นทางการ
        เอาละครับ เรื่องการศาสนาผ่านไป ก็มาหาความรู้เรื่องการเมือง-การโลกกันบ้าง ผมอ่านเรื่อง "ฐานทัพวันนี้" ที่ผู้ใช้นามว่า Thanong ทวีตไว้น่าสนใจ ผมจะนำบางตอนมาให้อ่าน ถ้าสนใจฉบับเต็ม คลิกไปอ่านที่ thanongkhanthong@gmail.com นะครับ
    เรื่องฐานทัพวันนี้
        ดูการเมืองภูมิภาคระหว่างสหรัฐและจีน กับการเมืองไทยระหว่าง TS และฝ่ายต่อต้าน จะเห็นได้ว่ารูปแบบเดียวกันเดี๊ยะ จีนอยู่เฉยๆ ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย แต่สหรัฐกำลังเต้นเป็นงิ้ว เหมือนเจ้าเข้าสิง สหรัฐเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกก่อนด้วยการประกาศนโยบายปิดล้อมจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว
         เหมือนกับที่สหรัฐปิดล้อมโซเวียตหลังสงครามโลก 2 (containment policy) เพื่อเปิดฉากสงครามเย็น ตอนนั้นโซเวียตบอบช้ำจากสงครามโลก 2 มาก ประชากรตายสัก 20 ล้านคนได้ ไม่มีศักยภาพที่จะเป็นศัตรูกับสหรัฐ
        สหรัฐชนะสงครามโลก 2 ด้วยการทำสงครามนอกบ้าน แต่ประธานาธิบดีทรูแมนเป็นคนริเริ่ม "ลัทธิจักรวรรดินิยม" ด้วยการก่อสงครามเย็น 
        สร้างอุตสาหกรรมทหาร ตั้ง CIA, NSC หน่วยงานหลักๆ จะให้คนอเมริกันคล้อยตามก็ต้องสร้างศัตรูคือ โซเวียต ต่อมาจีน เพื่อให้เกิดความกลัว ทั้งๆ ที่ตอนนั้นโซเวียตไม่มีน้ำยาอะไร เพราะเจ๊งจากสงครามจนเกือบหมด
        ระหว่างนั้นสหรัฐมีการขยายฐานทัพไปทั่วโลก ดำเนินนโยบาย Constant Conflict/Perpetual War เพื่อเป็นข้ออ้างในการสร้างแสนยานุภาพทางทหารหลังสงครามโลก 2 มีสงครามน้อยใหญ่ไปทั่ว เวียดนาม เกาหลี ตะวันออกกลาง ฯลฯ 
        โลกไม่เคยสงบเลย เขาเรียกว่า order through chaos คือควบคุมผ่านจลาจลวุ่นวาย RT @korbsak: เห็นภาพโลจิสติกส์สหรัฐขนของเข้าอู่ตะเภาชัดขึ้น ข้อมูลจากเว็บของ Nasa หลังสงครามเย็น สหรัฐชนะ โซเวียตล่ม กำแพงเบอร์ลินล่ม ทุกคนคิดว่าโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสันติสุขที่แท้จริง แต่...เกิดลัทธิก่อการร้ายขึ้น มีผู้นำเผด็จการที่ต้องกำจัด สงครามไม่เคยหยุด!
        ตอนนี้เป้าของสหรัฐคือจีน เพราะถ้าไม่ทำอะไรจีนจะแซงหน้า จะเข้าไปควบคุมกิจการโลกตะวันตกหมด เพราะยุโรป อเมริกากำลังล้มละลาย ที่อเมริกากลัวมากที่สุดคือ การที่จีนจะปล่อยลอยตัวเงินหยวน ถ้าปล่อยหยวนลอยตัว หยวนจะเป็นเงินสกุลหลักของโลกทันที
        นั่นหมายความว่า จีนสามารถพิมพ์เงินหยวนไปซื้อสินทรัพย์ทั่วโลกอย่างสบายๆ เหมือนกับที่อเมริกาทำมาหลังสงครามโลก 2
        ค่าเงินยูโรกำลังจะเดี้ยง จะลาก $ ไปด้วย จีนจะสวนกลับด้วยการลอยตัวหยวน ผลที่ตามมาคือ ความต้องการ $ จะน้อยลง อเมริกาจะกู้แพงขึ้น ค่าเงินจะตก เงินเฟ้อจะพุ่งทะยานเมื่อ $ จากทั่วโลกไหลกลับเข้าประเทศ
        เพราะฉะนั้น สหรัฐยอมไม่ได้ที่จะให้จีนพิมพ์หยวนออกมาแข่ง เพราะตัวเองจะฉิบหายทันที จีนนิ่งมาก คอยจนกว่ายุโรปจะบอบช้ำที่สุด ให้สหรัฐป่วนอีกรอบทางการเงิน ก่อนที่จะลอยตัวหยวน ใช้หยวนเข้าไปกอบกู้ เอาประเทศอื่นเป็นพวก
        เพราะฉะนั้น นักเศรษฐศาสตร์โนเบลอย่าง Joseph Stiglitz, Robert Mundell ต่างตีกันจีน โดยบอกว่าทางออกคือ World Currency โดย World Currency จะมาจากฐานตะกร้าเงินที่มี ดอลลาร์ ปอนด์ เยน หยวน ทองบ้าง เป็นองค์ประกอบ โดยที่สหรัฐ อังกฤษ ยังคงควบคุมระบบการเงินโลกอยู่ต่อไป
        แต่จีนคงจะไม่โง่หรอกนะ!
        ต้องจับตาดูเยอรมนีด้วย เพราะว่าเยอรมนีน่าจะจับมือกับรัสเซียและจีน เพราะเยอรมนีเจ็บหนักจากสงครามโลก 2 จากอังกฤษ อเมริกา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะ เยอรมนีจะกลับไปพิมพ์มาร์ค จีนจะพิมพ์หยวน สองสกุลนี้จะแข็ง 
        ยูโรจะเป็นกงเต๊ก ปอนด์จะดิ่งเหว $ จะร่วง เพราะว่าไม่ได้ monopoly อีกแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเป็นที่มาของการปิดล้อมจีน เพราะสหรัฐ-อังกฤษจะยอมให้จีน และพันธมิตรใหม่มาครองแชมป์แทนตัวเองไม่ได้
        ถามว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ? 
        อเมริกาขาลงแน่นอน อเมริกาไม่มีเวลา ส่วนจีนมีทุนสำรอง $3 ล้านล้าน ยังมีเวลาหายใจหลายปี เมื่อยูโรล่มสลาย อเมริกาจะได้ผลกระทบอย่างหนัก (ที่จริงทั่วโลก) การเมืองภายในจะกระเพื่อม คนตกงาน ดาวโจนส์เจ๊ง บริษัทกลาง-เล็กล้ม แล้วปัญหาสังคมจะตามมา ฯลฯ
        เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นที่อเมริกาต้องเร่งเครื่องเพื่อการเผชิญหน้ากับจีน ตอนนี้ผู้นำสหรัฐวิ่งว่อนทั้งภูมิภาคเพื่อเสริมสร้างฐานการทหารในการปิดล้อมจีน ใช้ประเทศพวกนี้เป็นฐาน ตัวเองลอยตุ๊บป่องๆกลางทะเลด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ โดนมัดมือชก เพราะเป็นฐานทัพอเมริกามานาน เข้ามาแล้วไม่ยอมออก ฯลฯ
        การเร่งเครื่องของอเมริกาในภูมิภาค ทำให้เกิดการเร่งเครื่องในพม่ารวมทั้งไทยไปด้วย เราถึงได้เห็นนางคลินตัน ผู้นำตะวันตกบินเข้าออกพม่าเป็นว่าเล่น ซูจีเลยกลายเป็น เดอะเลดี้ ดังระเบิดโลก เพราะเขาเตรียมมาให้อย่างดี ฯลฯ    
        ทุกอย่างเป็นละคร ไม่มีอะไรเป็นเรื่องบังเอิญ RT@korbsak ดูผังของอู่ตะเภา ที่ระบุพื้นที่ที่ Nasa เตรียมเข้ามา พร้อมบริเวณจอดเครื่อง DC 8 ของ Nasa lockerz.com/s/214025647 RT @nopnop2008: RT@korbsak รัฐบาลไทยอนุญาตเมื่อไหร่ อย่างไร เพราะข้อมูลการขนย้ายชัดเจนว่า ได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ฯลฯ
        แกนนำแดงเป็นแค่คนแจวเรือให้ TS และ TS ก็เป็นแค่คนแจวเรือให้.... (คิดเอาเอง) มันเป็นทอดๆ แต่คนไทยเราต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จนสุดชีวิต ถ้าไม่เข้าใจที่เขียนมาทั้งหมด ก็เตรียมรับกรรมกันถ้วนหน้า ประเทศกำลังจะล่มสลาย เรากำลังจะเป็นแบบซีเรีย
        TS ในที่นี้หมายถึงใคร ไม่รู้ให้ไปถามน้องสาวเขาครับ.
    
    .
     46.gif
  • ผมคนไม่กินหญ้าครับ อยากให้คุณไม่กินหญ้าเหมือนผม

    4 มิถุนายน 2555 10:07 น. - comment id 1235343

    ปรพธานสภา มันบ้าอำนาจ
    
    เผด็จการ
    
    ผมว่าปชป ต้องทำอะไรเพื่อหยุดกฏหมายครับ
    
    ดีกว่าฆ่าคนพวกเดียวกันตายแล้วโทษคนอื่น
    
    จริงไหมครับ คุณฤกษ์
  • คนไม่ตื้นเขิน มีปัญญาเหนือศรัทธา

    6 มิถุนายน 2555 11:09 น. - comment id 1235421

    จาตุรนต์ ชี้ อำนาจประชาชนถูกปล้น- ชนชั้นนำ ไม่อยากปรองดอง - คาดเกิด ยุบพรรค อีกรอบวันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 14:36:00 น.
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    เมื่อวันที่  3 มิถุนายน  ที่โรงแรมอมารีเอเทรียม ถนนเพชรบุรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้สภาผู้แทนราษฎร ระงับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 
    
    
    
    
    
    นายจาตุรนต์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการแถลงครั้งแรกหลังได้รับสิทธิพลเมืองกลับคืนมา และรู้สึกว่าการเมืองต้อนรับแบบดุเดือดพอสมควร ในฐานะพลเมืองชั้นสอง ไม่มีสิทธิเป็นคนมา 5 ปี ขณะนี้ มีสิทธิได้เท่ากับพลเมืองทั่วประเทศ แต่พบว่าสิทธิประชาชนทั่วประเทศ กำลังถูกปล้นไปอีกครั้ง
    
    
    
    
    ขณะนี้มีข่าวลือว่าจะมีการรัฐประหาร  ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำรัฐประหาร โดยผู้นำกองทัพ เพราะ จริงๆ แล้วเกิดรัฐประหารโดยกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ขึ้นแล้ว ฉะนั้น ใครคิดต่อต้าน รัฐประหาร โดยคิดว่า ต้องระวังกระทั่งเกิดการรัฐประหารแล้วค่อยออกมาต่อต้าน  ก็ขอให้เข้าใจว่า การรัฐประหารได้เริ่มขึ้นแล้ว ฉะนั้นการต่อต้านควรจะกระทำได้แล้ว นายจาตุรนต์กล่าว 
    
    
    
    
    นายจาตุรนต์ กล่าวตอนหนึ่งว่า คาดอยู่แล้วตั้งแต่ต้นว่า ชนชั้นนำคงไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญนี้อย่างง่ายๆ แต่นึกไม่ออกว่าจะใช้วิธีไหน ตอนแรกคิดว่า รอให้ผ่านวาระ 3 ไปก่อน แล้วค่อยไปยื่นให้ศาลตีความ แต่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจวินิจฉัย เมื่อร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาเสร็จ จึงมาใช้ช่องทางรัฐธรรมนูญมาตรา 68 จริงๆ ไม่ใช่ช่องทางที่ใช้ได้เลย แต่เมื่อกล้าใช้ช่องนี้แสดงว่าต้องกล้าล้ม 
    
    
    
    
    เมื่อถามว่า ชนชั้นนำ หมายถึงคนกลุ่มใด นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ชนชั้นนำ ก็คือชนชั้นนำ คือคนที่ยังมีอำนาจทั้งหลาย หรือคนที่ยังมีอำนาจแฝงอยู่ตามรัฐธรรมนูญนี้ คนที่คิดจะล้มอำนาจรัฐบาลที่มาจากประชาชน  เหมือนเคยล้มรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ล้มรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พอคราวนี้จะแก้รัฐธรรมนูญโดยสภา ก็คิดจะล้ม เรื่องนี้ อาจจะนำไปสู่การยุบพรรครอบใหม่อะไรอีกสารพัด ก็เป็นได้ ทั้งๆ ที่กระบวนการทุกอยย่างดำเนินตามรัฐธรรมนูญ จึงถือว่า เป็นการกระทำที่ร้ายแรงมาก
    
    
    
    
    เมื่อถามว่า รัฐบาลนี้ ถูกหลอกเกี่ยวกับการปรองดองหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า รัฐบาลเองคงไม่ได้โดนหลอกอะไร เพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกระบวนการทั้งหลาย  แต่นี่แสดงให้เห็นว่า ไม่มีความพยายามที่จะปรองดองใดๆ เลยจากชนชั้นนำในประเทศนี้ มีแต่พยายามรักษา อำนาจตัวเองไว้และมีแต่จะทำลายกระบวนการที่จะทำให้บ้านเมือง เป็นประชาธิปไตยทุกวิถีทาง ชัดเจน  โดยไม่คำนึงถึงวิกฤตใดๆที่จะตามมาถือเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวอย่างยิ่งของกระบวนการนี้
    
    
    
    นายจาตุรนต์ กล่าวถึงเหตุผลที่มองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการรัฐประหารโดยตุลาการภิวัฒน์ว่า ขณะนี้เกิดการร่วมกันของกระบวนการหนึ่งที่เคยใช้มาในการ ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ หรือเป็นกระบวนการต่อเนื่องจากการรัฐประหารนั่นเอง คือ เกิดการร่วมมือกันเคลื่อนไหวโดยพรรคการเมือง ในกลุ่มการเมืองที่ไม่คำนึงถึงกฎกติกาบ้านเมือง ประชุมสภาไม่คำนึงถึงรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ การชุมนุม ไม่คำนึงถึงการปฏิบัติตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน มีความร่วมมือเผด็จศึกทำนองเดียว กับที่เกิดในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่ครั้งนี้ จะมีผลมากกว่านั้น คือเปลี่ยนแปลงเนื้อหา รัฐธรรมนูญแล้วสกัดกั้น ปิดโอกาส ประชาชนในการแก้รัฐธรรมนูญ ผ่านกลไก รัฐสภา 
    
    
    
    
    
    นายจาตุรนต์กล่าวว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับไต่สวน ร้องว่ามีการกระทำล้มล้างระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครอง โดยวิธีการมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือรับไต่สวนตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมีคำสั่งไปยังประธานรัฐสภาให้ชะลอการพิจารณา รัฐธรรมนูญวาระ 3 
    
    
    
    นายจาตุรนต์กล่าวว่า การมีมติรับไต่สวนก็ดี การสั่งให้ชะลอการลงมติ ของรัฐสภาก็ดี เป็นการกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญเนื่องจากรัฐธรรมนูญ กำหนดว่าอำนาจบัญญัติกฎหมาย รวมทั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจสภา ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจวินิจฉัยรัฐธรรมนูญ เพราะมีอำนาจวินิจฉัยเพียงพระราชบัญญัติ ฉะนั้นในขั้นที่พิจารณายังไม่เสร็จ ไม่รู้รัฐสภาจะมีมติอย่างไร ศาลรัฐธรรมนูญ ยิ่งไม่มีอำนาจพิจารณา 
    
    
    "ผมเห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าข่าย มาตรา 68 และศาลรัฐธรรมนูญ กำลังละเมิด หลักการ แบ่งแยกอำนาจ กระทำการขัด รัฐธรรมนูญ เสียเองเป็นการล้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เท่ากับยึดอำนาจแก้ไขกฎหมาย แก้ไข รัฐธรรมนูญ ไปจาก ประชาขน นอกจาก นำไปสู่การล้มการแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะมีผล ห้าม ไม่แก้รัฐธรรมนูญขนานใหญ่ เท่ากับได้ทำลายช่องทางที่ประชาชน จะทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ปิดช่องทางที่สังคม จะใช้แก้ปัญหาความขัดแย้ง แตกต่างทางความคิดโดยกระบวนการทางประชาธิปไตย"นายจาตุรนต์กล่าว
    
    
    
    นายจาตุรนต์กล่าวอีกว่า สังคมไทยขัดแย้ง 2 เรื่องคือ 1 ใครควรเป็นรัฐบาล และ 2 รัฐธรรมนูญ ควรเป็นยังไง ข้อแรก ประชาชนตัดสินไปแล้ว และ กำลังจะตัดสินผ่านรัฐสภา ว่า รัฐธรรมนูญ ควรเป็นอย่างไร แต่ศาลรัฐธรรมนูญ กำลังใช้อำนาจนอกเหนือ รัฐธรรมนูญ มาล้มกระบวนการนี้ เป็นการผลักประเทศสู่วิกฤต ครั้งใหญ่ ปิดช่องแก้ความขัดแย้ง ทำให้ ประเทศอยู่ในภาวะล่อแหลมเผชิญหน้า เป็นวิกฤต ร้ายแรงยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ 
    
    
    
    นายจาตุรนต์กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจ ประชาชน ว่าเกิดรัฐประหารแล้ว เกิดการกระทำขัด รัฐธรรมนูญ เป็นภัยร้ายแรง ต่อประชาธิปไตย ประเทศ ต้องสกัดกั้น กระบวนการนี้ต่อไป ผู้ร่วมกระบวนการนี้ เป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่ต่อต้าน ไม่แสดงความเห็นเชิงหลักการที่หนักแน่นเพียงพอยากทัดทานกระบวนการโดยกระบวนการตุลาการภิวัฒน์
    
    
    
    "เฉพาะหน้า ผมเสนอว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งชะลอการพิจารณาของ รัฐสภา ผมเสนอว่า รัฐสภา ไม่บังควรที่จะ ปฎิบัติตาม คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ เพราะคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ สิ่งที่ผูกพันองค์กรอื่น ไม่เหมือนคำวินิจฉัยซึ่ง ผูกพันคณะรัฐมนตรีและ รัฐสภา  รัฐสภา จึงจำเป็น ต้องทำตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 291 คือพิจารณา ลงมติ วาระ 3 เมื่อพ้นกำหนด 15 วัน หลังผ่านวาระ2 ประชาชนควรรณรงค์ อย่างจริงจังเพื่อ ถอดถอน ตุลาการส่วนใหญ่ เพราะ เนื่องจากกระทำการขัดรัฐธรรมนูญเอง นอกจากนั้น ก็มาตั้งหลัก รับมือกระบวนการ รัฐประหารครั้งนี้ เพื่อผลักดันบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย" นายจาตุรนต์กล่าว 
    
    
    
    นายจาตุรนต์ กล่าวว่า สำหรับกระบวนการยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้ดำเนินการ แต่มาแสดงความเห็นด้วยว่าควรจะทำ 
    
    
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับสิทธิทางการเมืองแล้ว จะเข้าชื่อถอดถอนหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขณะนี้มาปลุกระดม ยุยง ส่งเสริมดำเนินการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ส่วนจะลงชื่อด้วยหรือไม่ต้อง ขอดูก่อนว่าจะถูกบิดเบือนอะไรหรือเปล่า การดำเนินการของประชาชน ทั้งการรณรงค์ และการยื่นถอดถอน ทำภายใต้กฎหมาย จึงไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา แต่การดำเนินการครั้งนี้ เท่ากับสร้างวิกฤต ครั้งใหญ่ที่สุด ตั้งแต่หลังรัฐประหาร ปี 2549 เป็นต้นมา และจะเป็นปัญหายืดเยื้อยาวนานต่อไป 
    
    
    
    นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่าว่า การแก้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จะทำให้ อำนาจกลุ่มองค์กรและชนชั้นนำถูกลดลง ฉะนั้น การขัดขวางแก้ รัฐธรรมนูญเกิดจากการ ไม่ยอมรับอำนาจ ประชาชนและรักษาอำนาจชนชั้นนำ ซึ่งเป็นส่วนน้อยมากของสังคม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน