+++ สร้อยคำ สร้อยโคลง +++

วฤก

๏ สร้อยโคลงคือเศษพ้น.......ผังความ.....เขียนแล
พากย์ต่อเต็มพจน์ตาม...........แต่งไซร้
เสียงขานขับโคลงยาม..........เยื้อนอ่อน-...ช้อยฮา
หากประดิดประดอยได้........ประดับสร้อยผสานสม ฯ
๏ เฉก พ่อ แม่ พี่ ใช้.............ชี้บุค-.......คลพ่อ
พึงพากย์เพียงประยุกต์.........อย่างแล้
เขียนตามท่านตามอุค-.........หะแต่ง.....ตามพี่
พจน์พิสิฐพิเศษแท้...............ที่สร้างเสร็จสลวย ฯ
๏ นา นอ เนอ นั่นพร้อม........เพียงดัง-....นี้นอ
แล ร่วม แฮ ฮา ยัง................อย่างนั้น
ก็ดี กับ บารนี ฟัง.................ดังดั่ง-.....นั้นนา
เป็นอัฏฐะอรรถชั้น...............เช่นนี้พจีผล ฯ
๏ อีก อา เอย เอ่ยโอ้..............อกอัด.....อั้นอา
ฤๅ ฤฤๅร้องขัด.....................ขุ่นข้อง
เทอญ รา กถาชัด..................ใช้เพื่อ  ขอพ่อ
เลย ต่าง เฮย ให้ร้อง.............สลับข้างความหมาย ๚ะ๛
๑๔ ธันวาคม ๒๕๔๖				
comments powered by Disqus
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    15 ธันวาคม 2546 11:51 น. - comment id 191376

    ขอบคุณครูผู้สั่ง        สอนศิษย์  ดีเฮย
    จำจดบันทึกติด        สมุดตั้ง
    เขียนโคลงมักทำผิด กาลก่อน  มีแฮ
    ยึดเหนี่ยวคำครูรั้ง   มุ่งสร้างงานงาม
    
    เข้าชั้นเรียนครับ
    
    
  • วฤก

    15 ธันวาคม 2546 14:36 น. - comment id 191417

    ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
    
    ๏ ขอบคุณศิษย์ที่สร้าง........สืบคำ.......โคลงเฮย
    สุ จิ ปุ ลิ ทำ........................ทั่วแล้ว
    เหมือนอย่างบุราณนำ...........แน่วก่อน.....กล้านา
    สัมฤทธิ์ศาสตร์โคลงแผ้ว......ผ่องข้ามกาลสมัย ฯ
    
    
  • วฤก

    15 ธันวาคม 2546 14:49 น. - comment id 191419

    งั้นขอรวบรวมภาคทฤษฎีไว้ที่นี่ด้วยนะ 
    
    สร้อยโคลงมีได้เฉพาะในบาทที่ ๑ และ ๓ (บางครั้งก็เห็นในบาท ๔ ด้วย)
    ใช้ในกรณีที่นักประพันธ์ไม่สามารถบรรจุคำได้พอดีกับจำนวนคำในบาท (๗ คำ)
    จึงจำเป็นต้องใส่คำที่เกินไปเป็นสร้อยโคลง ซึ่งมีสองพยางค์
    พยางค์แรกเป็นคำที่เกินมานั้น พยางค์ที่สองเป็นคำที่โบราณจารย์กำหนดไว้ให้เป็นสร้อยโคลง ดังนี้ 
    
    ๑. พ่อ ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล เช่น ฤทธิ์พ่อ, นี้พ่อ, นาพ่อ ฯลฯ
    ศัตรูหมู่พาลา ...................................... พาลพ่าย ฤทธิ์พ่อ
    
    ๒. แม่ ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล หรือเป็นคำร้องเรียก เช่น แม่แม่, มาแม่ ฯลฯ
    แสนศึกแสนศาสตร์ซ้อง ..................... แสนพัน มาแม่
    
    ๓. พี่ ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล อาจทำหน้าที่เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑ หรือบุรุษที่ ๒ ก็ได้ เช่น เรือพี่, ฤๅพี่ ฯลฯ
    สองเขือพี่หลับไหล ............................. ลืมตื่น ฤๅพี่
    
    ๔. เลย ใช้ในความหมายเชิงปฏิเสธ เช่น เรียมเลย, ถึงเลย ฯลฯ
    ประมาณกึ่งเกศา ............................... ฤๅห่าง เรียมเลย
    
    ๕. เทอญ มีความหมายในเชิงขอให้มี หรือขอให้เป็น เช่น ตนเทอญ ฯลฯ
    สารพัดเขตจักรพาล ........................... ฟังด่ำ บลเทอญ
    
    ๖. นา ดังนั้น เช่นนั้น 
    จำบำราศบุญเรือง ............................ รองบาท พระนา
    
    ๗. นอ มีความหมายเช่นเดียวกับคำอุทานว่า หนอ หรือ นั่นเอง
    ยอกไหล่ยอกตะโพกปาน .................. ปืนปัก อยู่นอ
    
    ๘. บารนี สร้อยคำนี้ นิยมใช้มากในลิลิตพระลอ มีความหมายว่า ดังนี้ เช่นนี้
    กินบัวอร่อยโอ้ .................................. เอาใจ บารนี
    
    ๙. รา มีความหมายละเอียดว่า เถอะ เถิด
    วานจวนชำระใจ ............................... ความทุกข์ พี่รา
    
    ๑๐. ฤๅ มีความหมายเชิงถาม เหมือนกับคำว่า หรือ
    มกุฏพิมานมณ ................................. ฑิรทิพย์ เทียมฤๅ
    
    ๑๑. เนอ มีความหมายว่า ดังนั้น เช่นนั้น
    วันรุ่งแม่กองทวิ ................................ ทศพวก นายเนอ
    
    ๑๒. ฮา มีความหมายเช่นเดียวกับ คำสร้อย นา
    กวัดเท้าท่ามวยเตะ .......................... ตึงเมื่อย หายฮา
    
    ๑๓. แล มีความหมายว่า อย่างนั้น เป็นเช่นนั้น
    กัลยาเคยเชื่อไว้ ............................... วางใจ มาแล
    
    ๑๔. ก็ดี มีความหมายทำนองเดียวกับ ฉันใดก็ฉันนั้น
    นิทานนิเทศท้าว ............................... องค์ใด ก็ดี
    
    ๑๕. แฮ มีความหมายว่า เป็นอย่างนั้นนั่นเอง ทำนองเดียวกับคำสร้อย แล
    อัชฌาสัยแห่งสามัญ ........................ บุญแต่ง มาแฮ
    
    ๑๖. อา สร้อยคำนี้ไม่มีความหมายแน่ชัด แต่จะวางไว้หลังคำร้องเรียกให้ครบพยางค์ เช่น พ่ออา แม่อา พี่อา หรือเป็นคำออกเสียงพูด ในเชิง รำพึง แสดงความวิตกกังวล
    เป็นไฉนจึงด่วนทิ้ง .......................... น้องไป พี่อา
    
    ๑๗. เอย ใช้เมื่ออยู่หลังคำร้องเรียก เหมือนคำว่า เอ๋ย หรือวางไว้ให้คำครบตามบังคับ
    จำปาจำเปรียบเนื้อ .......................... นางสวรรค์ กุเอย
    
    ๑๘. เฮย ใช้ในลักษณะที่ต้องการเน้น ให้มีความเห็นคล้อยตามข้อความที่กล่าวมาข้างหน้า 
    สร้อยคำนี้มาจากคำเขมรว่า เหย แปลว่า แล้ว ดังนั้นเมื่อใช้ในคำสร้อย จึงน่าจะมีความหมายว่า เป็นเช่นนั้นแล้ว ได้เช่นกัน
    ขึ้นดั่งชัยพฤกษ์พร้อม ....................... มุรธา ภิเษกเฮย
    
    
  • พุด

    15 ธันวาคม 2546 15:07 น. - comment id 191422

    สมองซีกไหนไม่ทราบค่ะที่เกี่ยวกับโคลง
    จะไม่รับเลยค่ะ
    ได้แต่มาตามอ่านและชื่นชมศรัทธา
    ในความงามของกวีที่พุดคิดว่าใครเขียนโคลงได้
    นั้น..เก่งชะมัด.ค่ะ
    คือแค่เปิดดูยังไม่ทันอ่าน
    ก็คิดว่าอลังการเก่งแล้วงามแล้ว
    แปลกดีนะคะ
    ด้วยยกย่องชื่นชมเสมอมาค่ะ
  • ตามฝัน

    15 ธันวาคม 2546 15:36 น. - comment id 191428

    สวัสดีค่ะคุณอาวฤก ขอบคุณมากนะคะสำหรับการรวบรวมคำสร้อยและวิธีการใช้ของสร้อยเหล่านี้ในโคลง เป็นประโยชน์ให้ผู้ผ่านไปมาและผู้ที่ตั้งใจศึกษาเป็นอย่างมากค่ะ
    
    ขอบพระคุณจากใจอีกครั้งหนึ่งค่ะ :)
  • วฤก

    15 ธันวาคม 2546 16:07 น. - comment id 191434

    พุด
    
    ความถนัดของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
    อย่างให้ผมไปเขียนฉันท์ กลอน กาพย์ 
    ก็คงต้องร้องจ้ากกก เพราะว่ายากเกินไป
    
    แต่.... มีผู้ให้กำลังใจไว้ว่า 
    ไม่มีอะไรยากเกินความตั้งใจของคนที่จะใฝ่คว้าหรอกครับ
    
    ตามฝัน
    
    ผู้รวบรวมสร้อยโคลงทั้ง ๑๘ และวิธีการใช้ที่ยกมานั้น ไม่ใช่วฤกหรอกครับ
    วฤกเขียนแต่โคลง สร้อยคำ สร้อยโคลง
    ผู้รวบรวมที่แท้คือ  อังคาร เขียนไว้ในพันทิบ เมื่อประมาณ ๕ ปีที่แล้ว
    
    สร้อยโคลง และตัวอย่างการใช้ชุดนี้ นักโคลงพันทิบ 
    โพสท์ทบทวนกันเป็นระยะ ๆ เลยอยากรวบรวมไว้ที่นี่ด้วย
  • เวทย์(ลืมlogin)

    15 ธันวาคม 2546 19:05 น. - comment id 191504

    โคลงสี่สุภาพ
    
    .....เลบงแบบมีแต่เบื้อง..................บรรพกาล
    เสริมส่งศิลป์สืบสาน.......................สื่อไว้
    คือโคลงซึ่งคราวขาน......................ขับกล่อมเสนาะเฮย
    ควรค่าตราเตือนให้.........................แจ่มห้วงหทัยชน
    
    .....บทนิพนธ์อันแน่แท้...................ของไทย
    เป็นเยี่ยงแยบยลไป........................อย่างนี้
    เจ็ดเอกสี่โทไข..............................ครบแห่ง
    หมายเช่นโคลงแบบชี้.....................ช่วยให้เห็นผัง
    
    .....รังสรรค์อันพร่างแพร้ว................แววกวี
    คือย่อความตามคดี.........................เด่นถ้อย
    คุณลักษณ์แห่งโคลงมี.....................มาเนิ่นนานแฮ
    ฤาแค่ไพเราะร้อย............................แก่นไร้เลือนสาร
    
    .....ลาญความลามเรื่องร้าย...............กลายจำ- นงเฮย
    เหลิงเล่นกลบทนำ...........................หน่ายเนื้อ
    โคลงเคลงฟั่นเฝือคำ........................คือเปล่า 
    เริงร่ายกลายรกเรื้อ...........................เล่ห์นี้ดีหรือ
    
    .....เชลงลักษณ์จักสื่อให้...................เห็นงาม
    เรียงร่ำรสคำความ.............................คู่คล้อง
    ปรุงเสียงแต่งศัพท์ตาม......................พึงแต่ง
    ครบเครื่องคือพจน์พ้อง.....................พร่างแก้วกลเฉลย
    
    .....เผยภาพผุดผ่านถ้อย.....................โคลงแถลง
    เผยเรื่องโลกทัศน์แสดง.....................สู่ด้าว
    เผยธรรมที่นำแสง..............................เย็นสว่าง
    เผยแก่นแทนเปลือกน้าว....................นิ่งเคลิ้มคะนึงฝัน
    
    
    งานไม่ดีนัก มาอาศัยบารมีหมอหนุ่ยด้วยคน  แหะๆ
    เวทย์นั้นตรงข้ามกับหมอหนุ่ย ตรงที่เวทย์ไม่สันทัดโคลง
    
    
  • จังงัง พรรคลิงรักลิง

    15 ธันวาคม 2546 23:37 น. - comment id 191617

    อาหมอ .. ลูกลิงมาแลคเชอร์ ค่ะ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    16 ธันวาคม 2546 19:20 น. - comment id 191795

    ผู้หญิงไร้เงามาชื่นชมผลงานค่ะ แต่ตัวเองไม่มีความสามารถในด้านโคลงเลยขอชื่นชมอย่างเดียวนะค่ะ
  • ผีเสื้อปีกบางฯ

    16 ธันวาคม 2546 20:14 น. - comment id 191825

    มาฟังบรรยายค่ะ 
    โคลงเป็นคำประพันธ์ที่ยากมากๆสำหรับจาวตาล
    กว่าจะคิด  แล้วเขียนออกมาได้  ใช้เวลานานมากๆ....ช่วยพิจารณาด้วยนะคะ 
    
    
    .......มารำพันพร่ำเพ้อ..........อีกคน  นะพี่
    อยากใคร่ยินและยล.............สักครั้ง
    โคลงหวานแว่วดังดล..........จิตร่ำ
    เสียงพี่เรียกเรายั้ง.............กลับบ้านลานกวี
    .......คราจรจากห่างบ้าน......เคยเนา
    ดวงจิตมิบรรเทา...............ทุกข์ร้อน
    คิดถึงเมื่อคราเรา...............วอนว่า   กลอนนา
    เคยพร่ำคำออดอ้อน...........ห่อนเว้นลืมเลือน
    
  • ไข่มุกราณี

    26 มกราคม 2553 21:14 น. - comment id 275628

    ขอบคุณความรู้ค่ะ โคลงก็ไพเราะมาก อ่านแล้วขำกลิ้งเลย 
     19.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน