บางความเย้ยหยัน

nava


อย่าหมิ่นฉันด้วยสายตา
แม้นว่าไม่สงสารฉัน
ฉันคือวิญญาณ-สามัญ
มีเพียงความฝันแล้ง-ลม
ย่ำเดินบนทางร้าง-เศร้า
หัวใจโง่เขลาทับถม
เป็นเยี่ยงเศษซากอาจม
หยัดข่มความท้อภายใน
ในสายตาท่าน-รูปรอยฉัน
ดั่งซากปรักร้างอันมอดไหม้
สิ้นไร้แม้ค่าอันใด
มิควรให้การจดจำ
ฉันล้วนเข้าใจถ่องแท้
คือความผันแปรใช่ตอกย้ำ
มิอาจโทษใดที่กระทำ
ก้มหน้าบอบช้ำเดียวดาย
หากแม้นท่านหมิ่นแคลนฉัน
ก็ล้วนความผูกพันอันแหลกสลาย
ในภาวะความแร้นแค้นทุรนทุราย
ฉันยังหายใจอย่างคว้างลอย
.................
เคยงดงามรูปรอยความใฝ่ฝัน
เพียรปลุกปั้นสรรค์สร้างอย่างเงียบหงอย
ทีละถ้อยร้อยวลีที่ทยอย
เติมช่วงชั้นอันละน้อยค่อยงอกงาม
สุดท้ายฉันพ่ายแพ้
ต่อความจริงแท้คนเย้ยหยาม
ไร้สาระไร้ปัญญาว่าเสื่อทราม
แม้ข้าวสารกรอกหม้อ-ชามยังไม่มี
.................
				
comments powered by Disqus
  • tiki

    2 กุมภาพันธ์ 2547 05:21 น. - comment id 210796

    ใครหนอว่า นาวา เช่นนั่น
    ใครหนอ เย้ยหยันเหยียดหยาม
    แต่ที่เห็นใครคนนี้คอยแลตาม
    แล้วฝากความไว้บนกลอนดีย้อนคำ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    3 กุมภาพันธ์ 2547 01:45 น. - comment id 211175

    อย่าหมิ่นฉันด้วยสายตา
    หรือวาจาเลยคนดี
    เพราะฉันแค่แค่นี้
    แค่นักกวีที่ธรรมดา
    
    *-*กลอนไพเราะมากเลยคะ จบได้ดีมากเลย แต่งเก่งจัง ชื่นชมในผลงานนะค่ะ*-*
  • รวี

    26 กุมภาพันธ์ 2547 20:17 น. - comment id 222084

    อาจมีบางสายตาเฝ้าเย้ยหยัน
    อีกถ้อยคำสารพันเขาทับถม
    ทำบอบช้ำทั้งกายใจให้จ่อมจม
    ทุรนทนกับคืนวันอันแพ้พ่าย
    
    ยังคือ  คนที่เฝ้าศรัทธา
    ต่อก้าวย่างของเวลาไม่เลือนหาย
    ยังเป็นทุกสิ่งที่มีค่ามากมาย
    ต่อหัวใจ....หนึ่งดวง
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน