ฤทธิ์ชิวหา...ภาคสัจจพจน์มาลา

tiki

 โลกนี้แปลกประหลาดเหลือ
คำพูดคลุมเครือกลับขายได้
คำพูดจริงใจมักต้องตาย
โกหกล้านคำไม่เป็นไร...อภัยกัน 
คนพูดจริง..ถูกฆ่า...ถูกทำร้าย
คนพูดจริง...ต้องตาย....ร้ายกว่าฝัน
 เหมือนทมิฬ...ล่าอักษร...พัลวัน
ใส่กระทะ...คั่วกัน...สนั่นพารา 
ฉะนี้หรือ...คือมนุษย์...สุดประเสริฐ
ชมว่าเลิศ...ว่ามนุษย์...สุดชิวหา
แต่คำสัตย์...ประกาศไป...ตายทุกครา
ฝากดินฟ้า...พิจารณา...ฟังว่าความ 
ฤาโลกนี้.....พิจารณา....ดังว่าร้าย
คนช่างคล้าย.....โป้ปด....มดเท็จหลาม
ช่างพูดจา........พัลวัน........ผันทุกยาม
ช่างไร้ความ........สัตย์ซื่อ......หรือไม่มี ...?..... 
 ชมแต่หน้า....ว่าลับหลัง...นั่งมองอยู่
โผล่มาดู......ชมวอน......อักษรศรี
ก้าวตามไป......ตกหลุม......ขุมโลกีย์ 
 นรกร้าย......ตามขยี้......ที่วาจา 
 อนิจจา......มนุษย์......สุดประเสริฐ
กุศลกรรมบท......พจน์เลิศ......ไม่ค้นหา
อยู่กับ......อกุศลกรรม......พร่ำพรรณนา
อนิจจา......วาจามนุษย์......สุดแสนร้าย 
ก้าวเข้ามา......พัลวัน......สรรมาพูด
ข้อนและขูด......อ้อล้อ......ล่อความหมาย
พอได้ความ......ซึ่งอยากได้......ไล่ไปตาย
เอาไปร่าย......ล้นฆ่า......ดับคา*ตีน..!!! 
......*.ขออภัย..ไม่อาจสรรคำอื่นมาแทนได้  
. ในนามของความรัก..มนุษยชน  
ทิกิ_tiki 
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน 				
comments powered by Disqus
  • 4501 สุดหล่อเจ้าพายุ

    19 กุมภาพันธ์ 2547 01:51 น. - comment id 218149

    อืมมม เหะๆ 
    
    งี้แหละขรับ คำพูดมันเชื่อถือไม่ค่อยได้
    ต้องแสดงการกระทำให้เห็นด้วยละมั้ง 
    เหะๆ ... มั่วๆ อิอิ
    
    
  • tiki

    19 กุมภาพันธ์ 2547 02:06 น. - comment id 218151

    บางทีการกระทำกับคำพูดมันก็คนละอย่างกัน
    แต่ทุกคนย่อมมีเหตุผลในการกระทำของคนค่ะ
    ขอบคุณ คุณเมจิคเขียนมากๆ มาอ่านและเขียนเป็นกำลังใจให้ทุกตอนค่ะ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    19 กุมภาพันธ์ 2547 03:08 น. - comment id 218179

    เคยอ่านหนังสือเจอ เขาบอกว่าลิ้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพราะสามารถทำให้คนรักเราได้ และลิ้นก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีที่สุดเพราะสามารถทำร้ายตัวเราได้ค่ะ  ฉะนั้นไม่ว่าจะอย่างไรลิ้นก็คือสิ่งที่ทั้งดีและไม่ดีที่สุดค่ะ  (กลอนแต่งได้ดีค่ะ)
  • tiki

    19 กุมภาพันธ์ 2547 03:23 น. - comment id 218180

    
    ดึกดึก....น้ำค้างชื่น....ขื่นขม
    ซมซม...เย็นลม.....ผ่านผิว
    ปลิวปลิว....ใจไป....ใจปลิว
    ลิ่วลิ่ว....ใจบิน...ไปไกล....
    
    เขียนเพราะอยากเขียนก็
    ตามความรุ้สึกกับสัมผัสลมเย็น
    ดึกๆๆเงียบๆค่ะ
  • กระบี่รับใช้

    19 กุมภาพันธ์ 2547 04:12 น. - comment id 218183

    สวัสดีครับ ......ไพเราะครับ ตรง (ยิ่งกว่าไม้บรรทัดอีก)  ดีครับป๋ม
  • tiki

    19 กุมภาพันธ์ 2547 04:28 น. - comment id 218185

    :)
  • เรน..

    19 กุมภาพันธ์ 2547 08:16 น. - comment id 218201

    ..เรน..  อรุณสวัสดิ์ ..พี่ทิกิ..นะคะ..
              แบบ เรน แอบมา..
      ..แว๊ป..
  • พุด

    19 กุมภาพันธ์ 2547 10:25 น. - comment id 218224

    พุด..ชื่นชมคนที่มีเหตุผล
    และยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น
    ก่อนการ*คิดตามคำเขาว่า*ค่ะ
    ฉะนั้นโลกอักษรา นั้น อย่าได้นำทุกคำทุกความ
    มาพิพากษาใครเลยค่ะ
    คนเรา..ตราบใดที่ยังไม่ได้จับเข่าคุยกัน
    เขาย่อมคิดถูกคิดผิดได้ทั้งนั้น
    บางคำพูดนิดกลับตีความยาว..ไกลตามอคติ
    ทั้งๆที่ผู้พูดประสงค์ดี
    การเขียนงานตามจินตนาการ
    การแชทการสื่อ
    ที่สั้นบางทีก็ไม่ทำให้ใครเข้าใจเหตุผลในใจหรือชีวิตจรงความคิดจริงได้ทั้งสิ้นทั้งหมดจ๊ะ
    เคย..บอกพุดว่า
    อยากเขียนอะไรก็เขียนไง
    จะน้อยใจไปไยเล่าคนดี ที่ออกจะกล้าหาญนะ
    ด้วยยังรัก
  • ผีขี้เมา

    19 กุมภาพันธ์ 2547 11:25 น. - comment id 218240

    :)
    
  • ทิกิ_tiki

    19 กุมภาพันธ์ 2547 13:39 น. - comment id 218284

    ..เรน..  อรุณสวัสดิ์ ..พี่ทิกิ..นะคะ..
              แบบ เรน แอบมา..
      ..แว๊ป..  
     จาก : เรน..  
     รหัส - วัน เวลา : 221911 - 19 ก.พ. 47 - 08:16  
    
    
    ขอบคุณน้องเรนคนดีของพี่ๆน้องๆเพื่อนๆบ้าน
    เรือน thaipoem.com ค่ะ
    
  • เรไร

    19 กุมภาพันธ์ 2547 13:40 น. - comment id 218285

    อยากให้ฟังเพลง..เล่ห์ลมลวง ....จังเลยครับ
    
    เข้ากันกลอนดีจัง
  • ทิกิ_tiki ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน

    19 กุมภาพันธ์ 2547 13:45 น. - comment id 218288

    เคย..บอกพุดว่า
    อยากเขียนอะไรก็เขียนไง
    จะน้อยใจไปไยเล่าคนดี ที่ออกจะกล้าหาญนะ
    ด้วยยังรัก  
     จาก : พุด  
     รหัส - วัน เวลา : 221934 - 19 ก.พ. 47 - 10:25  
    
    
    พุดพัดชาเขียนอย่างไร
    พูดอย่างไรก็ถูกหมดค่ะ
    ไม่มีใครเถียงเลยค่ะ
    
    แต่เผอิญที่พุดพัดชาถามว่า**ชอบที่สุด**
    นั้น มัน คีย์โรแมนติคสีแดง..มีเนื้อหนังมังสาประกอบ คีย์
    
    ส่วนเราก็ตอบ ว่า*ชอบที่สุด* ใน
    คียสีนวล...สีกลางของ ผลงานวรรณกรรม เจ้าของผลงานวรรณกรรมอันสะเทือนใจสูง..และผู้ดำรงวรรณกรรมงามแด่เพื่อนวรรณกรรม ..วรรณศิลป์
    
    ดังนั้น คีย์กลางของเรา....มันไม่ได้ไปแตะต้องว่า...นายเป็นผู้ชาย...นายมีเนื้อหนังมังสา..นายมีเมีย..นายมีแฟน...นายมีลูก..นายมีเงิน..นายจน...นายรวย...นายอายุน้อย...นายอายุมาก...
    นาย ฯลฯ...จนกลายเป็น...เฮ้อ ..อย่าให้บรรยายต่อ 
    
    
    สรุปว่า ถาม คีย์สูง
               ตอบ คีย์กลาง....
    
    .....แล้วมันจะเจอกันไหมเล่าเพื่อน คำถามกับคำตอบนั้นน่ะ......ชาตินี้ก็เจอกันไม่ได้หรอก
    .............อยู่กันคนละมิติ น่ะ......
    
    
    
  • ทิกิ_tiki ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน

    19 กุมภาพันธ์ 2547 13:47 น. - comment id 218290

    อยากให้ฟังเพลง..เล่ห์ลมลวง ....จังเลยครับ
    
    เข้ากันกลอนดีจัง  
     จาก : รหัสสมาชิก : 5157 - เรไร  
     รหัส - วัน เวลา : 222013 - 19 ก.พ. 47 - 13:40  
    
    อ้อขอโทษค่ะ คุณเรไร
    ทิกิกำลังตอบงานพุดพอดีไม่ได้มองค่ะขออภัย
    ขอบคุณนะคะที่มาแนะนำเพลง
    
    
  • ทิกิ_tiki ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน

    19 กุมภาพันธ์ 2547 13:50 น. - comment id 218293

    :)
     
     จาก : ผีขี้เมา  
     รหัส - วัน เวลา : 221950 - 19 ก.พ. 47 - 11:25  
    
    ขอบคุณค่ะ คุณผีขี้เมา
  • ทิกิ_tiki ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน

    19 กุมภาพันธ์ 2547 13:54 น. - comment id 218296

    ข้อคิดวันนี้19 กุมภาพันธ์ 2547:
    จากสมศรี @bangkokcity.com
    
    ข้อคิดวันนี้ ::: 
    
    ไม่มีใครทำให้เราท้อใจจนถึงที่สุดได้ ถ้าเราไม่ยอม
    
    
    ขอให้มีความสุขกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ^o^
    
     
      
    
  • แก้วประเสริฐ

    19 กุมภาพันธ์ 2547 13:56 น. - comment id 218297

    อันโลกนี้มองแล้วหาใช่สิ่งประหลาด
    เพียงแต่ชาติกำเหนิดเกิดอยู่หนอ
    เป็นมนุษย์เลิศประเสริฐศรีดีพียงพอ
    ยังไม่พอขอทำเกินมนุษย์สุดแดนดิน
    
           จากมนุษย์กลับต่ำช้ากลายเป็นคน
    อลวนหมุนเวียนเลียนเยี่ยงสัตว์สิ้น
    แล้วหวนถวิลหมิ่นมนุษย์เป็นอาจินต์
    โลกถึงสิ้นความเมตตาพากันอลวน.
    
                    แก้วประเสริฐ.
    
    กานท์กวีพรรณาเร้าใจอารมณ์จริงหนอ.
    
  • ทิกิ_tiki ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน

    19 กุมภาพันธ์ 2547 14:09 น. - comment id 218307

    เมื่อจักเป็นผู้ให้
    ย่อมทำใจเมื่อเขาชมบ่มรสหวาน
    เมื่อเขาเกรี้ยวขว้างก้อนอิฐพิษประจาน
    ก็ยืนนิ่ง..ยังคงหว่าน...จารแต่ใจ......  
     จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki  
     รหัส - วัน เวลา : 221599 - 18 ก.พ. 47 - 16:01  
    
    คัดลอกมาให้อ่านค่ะ
  • พิกุลทอง

    19 กุมภาพันธ์ 2547 14:13 น. - comment id 218313

    ผมเห็นด้วยครับ คุณทิกิ
    
    โลกนี้ ชิวหา พาเศร้าจริง
  • ทิกิ_tiki ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน

    19 กุมภาพันธ์ 2547 14:24 น. - comment id 218320

    อันโลกนี้มองแล้วหาใช่สิ่งประหลาด
    เพียงแต่ชาติกำเหนิดเกิดอยู่หนอ
    เป็นมนุษย์เลิศประเสริฐศรีดีพียงพอ
    ยังไม่พอขอทำเกินมนุษย์สุดแดนดิน
    
           จากมนุษย์กลับต่ำช้ากลายเป็นคน
    อลวนหมุนเวียนเลียนเยี่ยงสัตว์สิ้น
    แล้วหวนถวิลหมิ่นมนุษย์เป็นอาจินต์
    โลกถึงสิ้นความเมตตาพากันอลวน.
    
                    แก้วประเสริฐ.
    
    กานท์กวีพรรณาเร้าใจอารมณ์จริงหนอ.
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 6104 - แก้วประเสริฐ  
     รหัส - วัน เวลา : 222025 - 19 ก.พ. 47 - 13:56 
    
    ..*พูดอย่างสัตว์จัดว่าหากอยากสมสู่
    
    วิ่งหาคู่วอนกระด้างอยู่กลางถนน
    
    พูดว่าคนก็หาคู่อยู่อลวน
    
    เพราะนั่นคน..นับโลกีย์...สีเจิดตา... 
    
    
    แต่หากหรือ...คือมนุษย์...??สุดประเสริฐ 
    
    *รักย่อมเลิศ...เยี่ยงมนุษย์...สุดชิวหา 
    
    เมื่อจารวรรณสรรค์ผ่านสาน***เมตตา***
    
    ย่อมสูงค่า......ต่อฝูงชน....อย่างล้นใจ 
    
  • ทิกิ_tiki ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน

    19 กุมภาพันธ์ 2547 14:29 น. - comment id 218323

    ผมเห็นด้วยครับ คุณทิกิ
    
    โลกนี้ ชิวหา พาเศร้าจริง  
     จาก : รหัสสมาชิก : 6110 - พิกุลทอง  
     รหัส - วัน เวลา : 222043 - 19 ก.พ. 47 - 14:13  
    
    
    ค่ะ คุณพิกุลทองเราสวนกันอีกแล้วจะได้อ่านไหมค่ะเนี่ย
    
    ชิวหาพาเศร้า
    และทำให้ทุกข์ตรมจริง....
    ในชาติหนึ่ง...ขออภัยที่อาจเอื้อมยกพระชาติพระพุทธเจ้ามาขอตอบว่า
    ท่านถึงเป็น **พระเตมีย์ใบ้** ไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อนค่ะ
    
    
    
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    19 กุมภาพันธ์ 2547 15:28 น. - comment id 218361

    ทีแรกนึกว่าจะเป็นเรื่องรามเกียรติ์ ตอนลูกน้องทศกัณณ์แลบลิ้นปิดเมือง หรือว่าจะเป็นเรื่องชิวหาพาเพลิน อะไรสักอย่าง อิอิ กลับมาเป็นเรื่อง พลิกพลิ้วชิวหาเป็นอาวุธ สังหารบุตรจ้าวลังกาให้อาสัญ ในเรื่องพระอภัยมณีไปได้ อิอิ ก็เรียนมาตั้งแต่เด็กแล้ว ว่า ลิ้น เป็นอาวุธ....ได้ อิอิ อิอิ อิอิ
  • ทิกิ _tiki ไม่ลงทะเบียน

    19 กุมภาพันธ์ 2547 15:34 น. - comment id 218364

    ทีแรกนึกว่าจะเป็นเรื่องรามเกียรติ์ ตอนลูกน้องทศกัณณ์แลบลิ้นปิดเมือง หรือว่าจะเป็นเรื่องชิวหาพาเพลิน อะไรสักอย่าง อิอิ กลับมาเป็นเรื่อง พลิกพลิ้วชิวหาเป็นอาวุธ สังหารบุตรจ้าวลังกาให้อาสัญ ในเรื่องพระอภัยมณีไปได้ อิอิ ก็เรียนมาตั้งแต่เด็กแล้ว ว่า ลิ้น เป็นอาวุธ....ได้ อิอิ อิอิ อิอิ  
     จาก : ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)  
     รหัส - วัน เวลา : 222099 - 19 ก.พ. 47 - 15:28  
    
    
    อืมม์ค่ะ
    ก็ว่าจะไม่ลงแต่อันนี้มันสัจจธรรม
    จริงๆ เลยต้องลงที่นี่คะ แต่ไปลง
    ที่หน้าบ้านอื่นอยู่แล้วค่ะ
    
    ขอบคุณคุณฤกษ์มาก อิอิ
  • yiyi@bangkokcity.com

    19 กุมภาพันธ์ 2547 15:48 น. - comment id 218372

    จะว่าไปมันก็แบบนี้หล่ะค่ะมนุษย์นี่คะ  มีดีมีชั่วห้ามไม่ให้มีก็ไม่ได้ด้วยแต่ เราช่วย ทำให้ลดลงได้โดยการปรับปรุงที่ตัวของเราก่อน
  • ทิกิ_tiki ในนามเพื่อนบ้านไทยโพเอ็มและบางกอกซิตี้

    19 กุมภาพันธ์ 2547 15:53 น. - comment id 218375

    จะว่าไปมันก็แบบนี้หล่ะค่ะมนุษย์นี่คะ  มีดีมีชั่วห้ามไม่ให้มีก็ไม่ได้ด้วยแต่ เราช่วย ทำให้ลดลงได้โดยการปรับปรุงที่ตัวของเราก่อน    
     จาก : yiyi@bangkokcity.com  
     รหัส - วัน เวลา : 222110 - 19 ก.พ. 47 - 15:48  
    
    
    เยี่ยมมากค่ะ น้องหญิงคนงาม
    ขอบคุณที่มาเยี่ยมงานที่ไทยโพเอ้มค่ะ
  • เสียงเรียกจากสายลม

    20 กุมภาพันธ์ 2547 00:12 น. - comment id 218543

    เศษแก้วบาดคม
    เศษอารมณ์บาดใจ
    
    
    
  • tiki

    20 กุมภาพันธ์ 2547 00:54 น. - comment id 218550

    เศษแก้วบาดคม
    เศษอารมณ์บาดใจ
    
    
            
     จาก : เสียงเรียกจากสายลม  
     รหัส - วัน เวลา : 222281 - 20 ก.พ. 47 - 00:12  
     
     
    
    กำลังยกไปขยายบทใหม่ค่ะ 
    งานสัจจธรรมมันก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละค่ะท่าน
    จะอ่อนหวานแบบงานกลอนรักเด็กๆย่อมไม่ได้
    ขอประทานอภัยถ้าบาดใจไปอย่าขุ่นเคืองนะคะ
    คนทำงานด้านกลอนเพื่อสังคม
    ย่อมถูกวิจารณ์และไม่ชอบใจเป็นธรรมดาค่ะ
    
    ขอบพระคุณที่มาอ่านและให้ข้อคิดนะคะ
  • ลำน้ำน่าน

    20 กุมภาพันธ์ 2547 02:05 น. - comment id 218572

    เก็บวิญญาณผ่านกระบวนทุกถ้วนท่า
    เก็บวาจาสอนสั่งดั่งลมไหว
    เก็บความคิดเลิศคนก้นดวงใจ
    เก็บเอาไว้ฝึกตนเมื่อพ้นเส้น
    
    เก็บลิ้นรัวคลั่วน้ำตามลมออก
    ไว้ย้อนยอกตวัดในใจตนเห็น
    ให้ทุกอย่างล่วงเลยเปิดเผยเป็น
    ว่างามเช่นงามลวงหรือบ่วงใด
    
    ศาสดาหลายตนปนมาเกิด
    ช่างบรรเจิดทันควันทันสมัย
    บริสุทธิ์ละกิเลศทุกเภทภัย
    สอนสั่งไซร์ด้วยชิวหาว่าสำราญ
    
    จะมีกี่ตัวตนที่พ้นหลุด
    รู้จักหยุดรู้จักเย็นเป็นแก่นสาร
    เงียบสะท้อนจริยวัตรบรรทัดทาน
    ลากวิญญาณใจตนหลุดพ้นจริง
    
    เพียงชิวหาแสนง่ายถ่ายลมออก
    วิญญาณยอกวนหลงกรงสู่สิง
    อุปทานจารอักษรกลอนคล้ายจริง
    ข้างนอกนิ่งข้างในวกสกปรกนัก
    
    เพียงอัตตาพาลมพรมปลายลิ้น
    ทั้งปวงสิ้นในจิตกายไร้รู้จัก
    เมื่อหมดลมล้มไปไร้ใครทัก
    จึงตระหนักแก่นแท้ตายแน่แล้ว
    
    อันหมื่นพันคำสอนตอนเป็นเป็น
    ตวัดเล่นหลงชิวหาข้าหัวแถว
    เมื่อเงาเมรุทอดวับจับเห็นแนว
    สำนึกแล้ว...เรามิใช่ศาสดา
    
    ตะวันสายบ่ายคล้อยย้อยลงต่ำ
    กิเลสคำจับกมลล้นหนักหนา
    เหลือเพียงร่างอมทุกข์คลุกโรคา
    ภาวนาเมตตาพุทธองค์
    
    ข้าประหวัดหวนถึงซึ่งองค์แท้
    อันแน่วแน่สถิตย์จิตงามหงส์
    มีตัวตนซ่อนงามนามธุดงค์
    ห่อนลืมหลงพ้นเพี้ยงเยี่ยงศาสดา
    
    สงบงามความนัยไม่เปิดเผย
    ไม่เปรียบเปรยถากถางทางชิวหา
    วัตรปฏิบัติเงียบล้ำฉ่ำราคา
    ทุกท่วงท่าเพี้ยงพจน์จรดใจ
    
    เถิดชิวหาข้าวอนก่อนทิ้งร่าง
    เราต่างห่างเขาต่างจิตคิดไฉน
    ด้วยทัดเทียมในมนุษย์พุทธอำไพ
    ศาสดาบูชาไซร้เพียงหนึ่งนั้น
    
    ขอตวัดชิวหาพาลมเข้า
    ให้ผ่อนเบาอัตตาพาหลังหัน
    เมื่อจิตตนพ้นโลกย์โศกรำพัน
    ค่อยกระสันเทียบธาตุศาสดา
    
    ----------------
    ลำน้ำน่านเขียนงานแนวนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต
    ถ้อยคำหยาบจ้วงอหังการณ์ พี่พยายามวางลงด้วยใจอคติ
    ราวกับบังคับจิตวิญญาณ และตัวตนแห่งบุรุษแห่งสายน้ำ
    
    เป็นความรู้สึกส่วนตัวของตัวเองนาทีนี้
    ที่ได้อ่านงานเขียนหลายๆ งานที่ผ่านมาทุกๆ ที่
    ที่ผู้เป็นศิลปินทั้งหลายมีอภิสิทธิ์
    ใช้ปลายปากกาจ้วงแทงและบั่นทอนกำลังใจ
    กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
    
    หวังมิตรจิตมิตรใจทุกดวงใจในบ้านหลังนี้
    เพียรบ่มเพาะและอยู่อย่างผู้สร้างสรรค์
    นำเสนอแต่ความงดงามด้านบวกและแนวคิด
    ให้กับทุกผู้ทุกนามที่ได้พบพาน
    มิเสียแรงที่มีพรสวรรค์ชั้นกวี
    หาใช่ด่าทอ เผาใจให้อีกฝ่ายย่อยยับ
    ตั้งตนเป็นศาสดาร่วมสมัย
    ภาวนาให้ทุกดวงใจเห็นคุณค่าของการกระทำ
    มากกว่าเพลิดเพลินกับชิวหาประพจน์
    ที่บางครั้งดี บางครั้งร้าย จนอาจจะหลงกลได้สักวัน
    
    บทกวีแนวลบบทนี้อ่านแล้วรู้สึกหดหู่ใจ
    ด้วยนั่งสมมติไปว่า ถ้ามนุษย์เรามีพฤติกรรมเยี่ยงนี้
    เราจะหาความรักอันบริสุทธิ์ได้ยาก ในทุกๆ สถานะ
    แล้วความสงบแห่งจิตเยี่ยงพุทธศาสนิกชน
    จะค้นพบได้ในภพชาติใด?
    
    
  • tiki

    20 กุมภาพันธ์ 2547 02:50 น. - comment id 218577

    ลำน้ำน่าน
    อ่านงานทุกงานเขียนงานทุกงานนั่งหันหลัง คือนั่งอยู่หน้าพระพุทธรูป ทั้งหิ้งพระ ค่ะ
    .............
    ..........ก่อนจะเขียน จะคิด ว่าที่เขานำเราไป
    ตีประจานโน่นนี่เขาเจตนาอันใด...แล้วก็นั่งคิดตามไปว่า........เออหนอ......อกุศลกรรมบถใดหนอ.......อ่อกรรมทั้งนั่น...
      .......
    ..........และเพราะความไว้วางใจภัยจึงตามมา
    
    .......จริงๆแล้ว มีบท วรรณมิตรมาลา ด้วยซ้ำไปค่ะ
    ......แต่มินำลง...เพราะเท่านี้ก็พอแล้ว..
    
            ....สำหรับลำน้ำน่านจะรู้สึกตามใครไป หรือมองว่าเราเป็นคนเลวชนิดไหน...
    
        ....เคยเขียนบอกพี่ดอกแก้วแล้วว่า...เรามันคนชนิดนี้แหละ...
    
    ..........อย่ามาสรรหาความดีเลิศประเสริฐศรีจาก
    เรา....เรามาอ่านกลอน เรามาเขียนกลอน..
    ถ้าแม้นว่า จะกลายเป็นเรามาหาคู่...
    
    .........มันก็น่าเศร้าใจ...ปากคนพลิกผันกันไป
    สนุกเหลือเกิน...การที่เราจะคอยบอกทุกคน
    ว่า ไอ้การที่เราจะไปเขียน..
    ว่าชอบงานเขียนของเธอจัง .....แล้วกลับกลายเป็นขอคอมพิวเตอร์แต่งงาน นี่ก็เอน็จอนาถใจมาก.......ใช่ไหมคะ..
    
    .......คนทีเขียนฝากงานไว้ในคอมพิวเตอร์ ทราบดีอยู่แล่วค่ะ ว่าต้องเป็นคน...
    
    .........เขาก็มีเลือดเนื้อมีหัวใจมีความรู้สึก ทุกคนเช่นกัน....
    
     .........เขาย่อมต้องการถ้อยคำชื่นชม...
    ...และเช่นกัน ลำน้ำน่านมาเขียนว่า
    ทิกิก็ไม่ว่าอะไร ลำน้ำน่านเลยค่ะ...
    
    ..........เพราะสมควรที่จะต้องถูกลำน้ำน่านว่าอยู่แล้ว ...และก็ใครจะว่าก็ว่าค่ะ........ด้วยเมื่อลง
    บทนี้ก็ถาม....ท่านผู้เป็นเจ้าของเว็บนี้ให้ท่านดูแล้วว่า......
    
    ...........เอแรงไปหน่อยนะคะลบออกเถอะ...
    
    .........ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่แรงหรอก...เอ้าก็ปล่อยไป ...จริงๆ 
    
    ........เดิมทิกิเคยเขียนด่าคนที่ทำไว้กับเราชนิดนี้ในอดีต สัก 25 ปีมาแล้ว อย่างนี้ค่ะ....
    
    ..........ลองดุว่ามันแรงไหม...
    
    
    **********นรกจะกินกบาลเจ้า...........เผาผลาญ
    .....ไฟบาปจะคืบคลาน..................ถ่มไหม้
    ..ดวงใจเจ้าจะทุรนทุราย............ดั่งบ้า.
    เหตุด้วยบาปนั่นไซร้ .............ทิ่มให้ระบม....
    
    ...โลกจะแซ่ซ้อง.......แช่งชัก
    น้ำป่าจะท่วมพลัก.......พาล่ม
    ดินจะแยกสูบร่าง.........ลงกลางตม
    ลมจะถ่มรดไล่..........ให้แหลกลาน
    
    ฯลฯ
    
    ..........ด้วยใจอ่อนโยนดีงามของลำน้ำน่าน
    ทิกิซาบซึ้งดีอยู่.......แต่ขออย่ามาวอนใกล้ๆมาก
    เดี่ยวจะถูกกล่าวร้าย......จะกลายเป็นมาหลงรักคนใจบาปคนนี้เข้าไปอีก
    .......
    .........ทิกิเขียนตอบนี่ใจสงบเย็นมาก.....
    ไม่มีกระตุกโกรธอะไร เลยสักนิดค่ะ.....เพราะอ่านออกหมด........
    
    .........ว่าคนเขียนน่ะเหมือนพระแค่ไหน....
    เป็นพระมาโปรดจนใจเย็นแค่ไหน
    ........เถอะค่ะ ปล่อยทิกิไปตามทางบาปๆๆนี้สักพักเถอะ..
    
    
    กำลังไล่งานเพื่อเยาวชนกับแม่คนอยู่...
    มันอาจโหดไปบ้าง
    ........ ขออย่าระคางขุ่นมัวหัวจะตื้อ...นะเจ้าคะ
    ดีแล้วที่มาเขียนต่อหน้า...ทิกิชอบค่ะ.......
    
    
    เพราะเป็นคนให้พูดกันดีๆ พูดกันตรงๆ
    และก็ใช้นโยบายดีกับทุกคนไม่เลือกชั้นวรรณะอยู่แล้วค่ะ  
    
          ....ความสงบอยุ่ตรงนี้ค่ะ ที่มือพิมพ์ช้าๆๆๆ
    ค่อยๆคิด..ค่อยๆตอบ...ค่อยๆเขียนค่ะ..
    
    ..........เขียนว่าซาบซึ้งในน้ำใจของลำน้ำน่านมากด้วยค่ะ...........
    
    ทิกิ..คนบาปที่โลกควรลืม
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    ........
  • ลำน้ำน่าน

    20 กุมภาพันธ์ 2547 11:02 น. - comment id 218625

    ทิกิครับ รู้สึกว่าจะไปกันใหญ่แล้วหล่ะครับ เจตนาของผมที่เขียนบทกวีนี้ เป็นการรำพึงรำพันกับความรู้สึกส่วนตัว ของตัวเองคนเดียวนะครับ  ลองกลับไปอ่านใหม่แล้วตีความให้ชัดๆ นะครับ  
    
    อารมณ์ที่จรเข้ามา อยู่เพียงบางขณะเท่านั้น หากผมประสงค์จะกล่าวร้ายหรือ คงจะไม่รอเวลามานานถึงเพียงนี้ครับ เพราะทิกิก็เขียนงานมาตั้งนานโขอยู่ 
    
    
    
    
    ความคิดและเจตคติของนักเขียนกลอนมีเสรี  และถูกตีความออกไปในหลายๆ แง่ แต่อย่างหนึ่งต้องยอมรับว่า  ผู้เขียนกับผู้อ่านอาจจะตีความหมายในกลอนไม่เหมือนกัน บางคราวอ่านแล้วอาจจะทึกทักปรุงแต่งกันต่างๆ นานาทั้งในด้านลบและด้านบวก
    
    
    เขียนต่อเถิดครับ เท่าที่ใจอยากจะเขียน เพราะจิตเสรีของใครก็เป็นของคนนั้น หากแต่เราต้องยอมรับในการแสดงความคิดเห็น ที่เวทีเวปนี้เปิดเป็นสาธารณะ  นั่นหมายถึงผู้เขียนกลอนมีสิทธิ์เสรีที่จะแสดงความคิดเห็นของตนเองใช่ใหมครับ   ไม่ได้เป็นการตัดสินว่าใครบาป ใครชั่วใครดีและใครเลว 
    
    
    จุดด่างพร้อยที่เกิดขึ้นในใจในวินาทีนี้ ลบออกเถอะครับ ความงดงามแห่งเพื่อนและมิตรภาพยังมีอีกเยอะครับ   
    
    ถ้าคิดอีกแง่ ผมดีใจยิ่งกว่าเพราะงานเขียนของตัวเองมีคนอ่านแล้วตีความไปในหลายแง่ ให้ขบคิดและเกิดการหลากหลายในความหมายที่ผู้เขียนต้องการสื่อ  นำความคิดอันหลากหลายนี้หล่ะมาประเมินและเป็นไอเดียใหม่ๆ ในการรังสรรค์งานต่อไปครับ  หาใช่ แต่คำเยินยอ แต่เพียงถ่ายเดียว ที่เห็นกันอยู่เจนตาในเกือบทุกๆ ชิ้นงาน
    
    ด้วยรักในมิ่งมิตรครับ
    
  • ท ก t k

    20 กุมภาพันธ์ 2547 11:12 น. - comment id 218627

    ลำน้ำน่านคะ
    ทิกิอ่านแล้ว เข้าใจแล้วค่ะ
    และก็ชื่นชมแต่แรกเลย แต่พอไปอ่านความ
    ท้ายบทเลย งง งง 
    ก็เลยตอบมาอย่างนี้แหละค่ะ
    เมื่อ ลำน้ำน่านมาเขียนเช่นนี้ต่ออีก
    ก็เข้าใจค่ะ และรักล้ำน้ำน่านเหมือนเดิมเสมอค่ะ
    รักในงานพิสุทธิ์ใสกระจ่างกลางหาว
    รักแบบที่ว่า ..(.เอ้า..ใครจะเอาไปด่าก็ช่างมัน..)...เวลาเครียดท้อ จะขึ้นรถไปเมืองน่านซะยังงั้นแหละ...น่ะ ใจมันจะไปหาคนใจพระริมน้ำ
    
    .......เออ...ทิกิตอบตรงใจมั้ยเนี่ย
    มิ่งมิตรวรรณกรรมไซเบอร์ คอมพิวเตอร์ของข้าฯ เอ๋ย.............
    
    
    
  tiki

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน