When You Say Nothing At All

อัลมิตรา

ไม่ต้องกล่าวคำพูดใด แค่มองตาก็รู้ใจกัน

๏ ความแน่ชัดอัศจรรย์พลันปรากฏ
เกินกำหนดคาดหวังทั้งมุ่งหมาย
เธอสื่อความตามวลีอธิบาย
อันกล้ำกรายสู่จิตยังติดตรึง
แม้นสิ้นคำพร่ำเผยเปรยผองพจน์
ถึงไร้บทกานท์กวีที่ซาบซึ้ง
ส่งผลให้ความจริงสิ่งคำนึง
นำเนื่องถึงผลดีมีขึ้นมา
ทุกสิ่งสรรพ์ฉันทำบำเพ็ญอยู่
เธอย่อมรู้เข้าใจในทีท่า
แม้ปราศคำเปรียบเปรยเผยวาจา
หวังอยู่ว่าเธอนั้นพลันเข้าใจ
ดังความจริงสิ่งนั้นที่ฉันรู้
ความเป็นอยู่มีค่ากว่าสิ่งไหน
ถึงเธอนั้นไม่เปรยเผยความนัย
ฉันรู้ได้เสมอมากว่าถ้อยคำ 
 
อันรอยยิ้มพริ้มพราย ย่อมหมายว่า
เธอปรารถนามีฉันนั้นเช้าค่ำ
ในแววตาเสมือนมวลถ้วนถ้อยคำ-
อันพลอดพร่ำย้ำวจีที่สัจจ์จริง
คือเคียงกันนิรันดร์กาลมิพาลพราก
ยังคงมากห่วงใยในสรรพสิ่ง
อ้อมกอดอุ่นละมุนมานพานแอบอิง
ยามพึ่งพิงยังตรึงซึ้งอุรา 
ยามฉันพลาดประมาทไปหวังใจนัก
โอ้ที่รัก ..เธอยังนั่งตรงหน้า
แล้วช่วยเหลือเจือจุนหนุนนำพา
ทุกครั้งคราปราถนาดีมีห่วงใย 
มิต้องเผยเปรยวจีที่เพ้อพร่ำ
ยังตอกย้ำความดีที่ยิ่งใหญ่
ฉันย่อมรู้อยู่เสมอ.. เธอห่วงใย 
ย้ำหัวใจเสมอมาว่ามั่นคง  
 
ทุกวันคืนอื่นใดในกาลก่อน
สิ่งลวงหลอนสารพันอันพิศวง
ทั้งเสียงศัพท์ลับเลศเจตจำนงค์
อันมุ่งตรงหลากเหตุเภทภัยมี
จากต่างตนคนมากผู้หลากหลาย
บ้างมุ่งร้ายคุกคามตามทุกที่
ทั้งลึกล้ำกล้ำกลายหมายย่ำยี
ยังคงมีเธอนั้นกอดฉันไว้ 
คำปลอบขวัญอันเพราะเสนาะนั้น
ถ้อยรำพันบทกวีที่สดใส
ล้วนมากมีเสมอมาพาสุขใจ
ตราบเภทภัยสารพันอันตรธาน
คือนิยามสัมพันธ์อันพร้อมพรั่ง
เติมผองพลังแห่งใจให้สอดผสาน
ร้อยใจเธอรวมฉันนิรันดร์กาล
โดยไร้การเผยพจน์บทวรรณกรรม  
 
อันรอยยิ้มพริ้มพรายย่อมหมายว่า
เธอปรารถนามีฉันนั้นเช้าค่ำ
ในแววตาเสมือนมวลถ้วนถ้อยคำ-
อันพลอดพร่ำย้ำวจีที่สัจจ์จริง
คือเคียงกันนิรันดร์กาลมิพาลพราก
ยังคงมากห่วงใยในสรรพสิ่ง
อ้อมกอดอุ่นละมุนมานพานแอบอิง
ยามพึ่งพิงยังตรึงซึ้งอุรา 
ยามฉันพลาดประมาทไปหวังใจนัก
โอ้ที่รัก .. เธอยังนั่งตรงหน้า
แล้วช่วยเหลือเจือจุนหนุนนำพา
ทุกครั้งคราปราถนาดีมีห่วงใย 
มิต้องเผยเปรยวจีที่เพ้อพร่ำ
ยังตอกย้ำความดีที่ยิ่งใหญ่
ฉันย่อมรู้อยู่เสมอ.. เธอห่วงใย
ย้ำหัวใจเสมอมาว่ามั่นคง ๚ะ๛
				
comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    20 ธันวาคม 2551 22:56 น. - comment id 926464

    When You Say Nothing At All
                 
    
    It's amazing how you can speak right to my heart
      Without saying a word, you   can light up the dark
      Try as I may I could never explain
    What I hear when   you don't say a thing
    [Chorus:]
      The smile on your face let's me know   that you need me
      There's a truth in your eyes saying you'll never leave   me
      The touch of your hand says you'll catch me if ever I fall
      You say it   best when you say nothing at all
    [Verse 2:]
      All day long I can hear   people talking out loud
      But when you hold me near, you drown out the   crowd
      Try as they may they can never define
      What's being said between your   heart and mine
    [Chorus twice] 
    
    
    When You Say Nothing at all นี้จากภาพยนตร์เรื่อง Notting Hill ซึ่งนำแสดงโดย Julia Robert ดาราหญิงค่าตัวแพงที่สุดของ Hollywood เพลงนี้ขับร้องโดย Ronan Keating และ อีก Version ของ Alison Krauss นักร้อง Country หญิง 
    
    เนื้อเพลงเช่นเดียวกับเพลงรักทั่วๆ ไป ที่รำพันถึงคนรักด้วยถ้อยคำหวานซึ้ง เนื้อร้องมีเพียง 2 ท่อนสั้นๆ กล่าวถึงคนรักในทำนองว่า ไม่ต้องกล่าวคำพูดใด แค่มองตาก็รู้ใจกัน ด้วยประโยคว่า You say it best... when you say nothing at all. (เธอบอกได้ชัดเจนที่สุด ทั้งๆที่เธอไมได้กล่าวถ้อยคำใดๆเลย) ประโยคข้างต้นนี้ขยายความด้วยสร้อยเพลง 
    The smile on your face lets me know that you need me. There's a truth in your eyes saying you'll never leave me.
    The touch of your hand says you'll catch me if ever I fall. (รอยยิ้มของเธอสื่อให้ฉันรู้ว่าเธอต้องการฉัน ความจริงที่ฉายในดวงตาเธอ บอกว่าเธอจะไม่มีวันทอดทิ้งฉัน และสัมผัสจากมือเธอบอกว่า เธอจะคอยฉุดรั้งฉันไว้มิให้ล้มได้) 
    
          มีประโยคหนึ่งที่ใช้คำเปรียบเทียบได้น่ารักว่า Old Mr. Webster could never define what's been said between your heart and mine. (ต่อให้เป็นคุณ Webster ผู้รอบรู้ ก็ไม่สามารถจะแปลความหมายในภาษาใจของเราได้เลย) คำว่า Old ในที่นี้หมายถึงผู้มากด้วยประสบการณ์ (having much experience) และ Mr. Webster หมายถึง Webster Dictionary โดยเปรียบว่า Webster Dictionary เป็นคนที่รอบรู้
    
          ศัพท์และสำนวนที่ใช้
    Talk out loud = Talk aloud, Talk loudly (พูดคุยเสียงดัง)
    โปรดสังเกตว่าต่างกับสำนวน Talk something out = Resolve a problem by discussion 
    (พูดคุยเพื่อคลี่คลายปัญหา) และสำนวน Talk somebody out of doing something = Persuade someone not to do something (พูดหว่านล้อม ไม่ให้กระทำบางสิ่ง)
    Ex. The unions and the management are talking things out between them.(สหภาพ และฝ่ายบริหารกำลังพูดคุย เพื่อคลี่คลายปัญหาขัดแย้งระหว่างกัน)
    The policeman is talking the robber out of killing the hostage.(ตำรวจกำลังพูดหว่านล้อมโจรปล้นไม่ให้ฆ่าตัวประกัน)
    Drown out = prevent a sound from being heard by making a loud noise. (ทำเสียงดังเพื่อกลบเสียงอื่น)
    Ex. All day long I can hear people talking out loud but when you hold me near, you drown out the crowd.(ตลอดทั้งวัน ฉันได้ยินคนพูดคุยเสียงดัง แต่ยามเมื่อเธอกอดฉัน เสียงจากใจของเธอ กลบเสียงเหล่านั้นได้จนหมดสิ้น)
    
    
    ที่มา .. http://www.snr.ac.th/wita/Music/when_you_say2.htm
  • น้ำแข็งเปล่า

    20 ธันวาคม 2551 22:57 น. - comment id 926465

    เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ชื่นชอบค่ะ
    
    กลอนน่ารักดีนะคะ
    
    36.gif36.gif11.gif42.gif41.gif41.gif
  • รัมณีย์

    21 ธันวาคม 2551 08:09 น. - comment id 926531

    11.gif6.gif11.gif
  • แก้วประภัสสร

    21 ธันวาคม 2551 11:03 น. - comment id 926589

    วันก่อนคุณอัลมิตราดุมากๆ อิอิ
    วันนี้ค่อยยังชั่วหน่อย 
    เพลงเพราะค่ะ ชอบฟัง กลอนก็ไพเราะ
    เมื่อไหร่จะรวมพี่น้องบ้านกลอนพบกันคะ 
    36.gif11.gif
  • ฤกษ์(ไม่ไล๊อกอิน)

    21 ธันวาคม 2551 12:47 น. - comment id 926630

    ก็หาคนใบ้เลยจิจะไม่หนวกหู
    
    ว่าแต่ว่า เพราะกินใจอ่านแล้วซึมไปเลยเพราะอดสบตาอีกแล้ว
  • แจ้นเอง

    21 ธันวาคม 2551 15:04 น. - comment id 926671

    36.gif
    
    ทั้งภาษาใจและภาษาตาจะสื่อถึงความรู้สึกได้ดีกว่าคำพูดเสมอ
    
    ชอบมากค่ะ บทกลอนคุณอัล ละเมียดละไมดีจัง
    
    41.gif41.gif41.gif
  • ปะการังสีฟ้า

    21 ธันวาคม 2551 16:21 น. - comment id 926719

    วันที่เราท้อขอแค่มีเธอคอยเคียงข้างและให้กำลังใจก็เพียงพอ  11.gif
  • อัลมิตรา

    21 ธันวาคม 2551 21:35 น. - comment id 926814

    เมื่อย้อนไปหลายปี (ค.ศ.1999) ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่คาดว่าหลายคนคงเคยผ่านตา
     "รักบานฉ่ำ ที่น๊อตติ้งฮิลล์" ชื่อภาษาไทยที่อัลมิตราคิดว่า..ช่างเป็นชื่อจี้เส้นชะมัด
    จูเลีย โรเบิร์ตส์ กับ ฮิวจ์ แกรนด์ รับบทแสดงนำ (พระเอกไม่หล่อ แต่นางเอกสวย)
    
    เรื่องย่อ (ไม่ได้ย่อเอง แต่คัดมาจากตามเวป)
    ชีวิตของ  วิลเลี่ยม แธคเกอร์ หนุ่มขี้อายเจ้าของร้านหนังสือเล็กๆย่านน็อตติ้งฮิลล์
    คงจะดำเนินไปอย่างเงียบเหงาเช่นเคย ถ้าวันนี้ไม่ปรากฏร่างของสาวสวยคนหนึ่งก้าวเข้ามาในร้าน และชีวิตของเขา...
    เธอคือซุปเปอร์สตาร์สาวแห่งโลกมายา แอนนา สก็อต ผู้มีวีถีชีวิตแตกต่างกับเขาราวฟ้ากับดิน
    มันจะไปได้หรือ ที่ความรักที่ก่อเกิดขึ้นนี้จะเป็นจริงหรือเป็นเพียงความฝันที่ตื่นมาก็จะมลาย 
    
    เออนะ .. ใครที่พลาด เมื่อคราวก่อนไม่ได้ดู ก็ให้รีบหาดูซะ ที่ร้านแมงป่องน่าจะยังมี (ไม่ได้ค่าโฆษณาซะนิด)
    ทีนี้ เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สุดยอดหลายเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่พวกเราคุ้นหู .. She  
    
    ชีเธอชอบธรรมะเลยมาบวชชี โกนหัวเสร็จแล้วก็เข้ากุฏี นุ่งขาวห่มขาวจึงเป็นแม่ชี 
    ชีเธอไม่มีผมเลยไม่ต้องหวี ถ้ามีเส้นผมก็ไม่ใช่ชี นี่ไม่มีผม จึงเป็นแม่ชี เธอมีเหตุผลที่ทำอย่างนี้ 
    (*) ชีเธอบวชเป็นชีด้วยความช้ำรัก เธอไม่เคยรู้ฉันเศร้าใจนัก ที่ต้องอกหักเพราะหลงรักชี 
    ชีเธอจะให้ฉันทำยังไงดี ถ้าได้ควงแขนเป็นแฟนแม่ชี จะตกนรกสักกี่พันปี 
    ชีอยากจะใกล้ชิดเธอมากกว่านี้ เข้าไปบอกรักเธอคงวิ่งหนี จับเธอสึกฉันคงเลวสิ้นดี! 
    ฉันเฝ้าคอยแต่ลุ้นทำบุญให้ชี อยากให้เธอเห็นฉันเป็นเด็กดี ทำตัวเหมาะสมกับเธอกว่านี้ บวชเป็นตาเถรเพื่อเธอแม่ชีชี้ 
    
    โธ่ถัง .. ไม่คิดจะล้อเพลง She แต่ก็อดไม่ได้ .. ใครที่ชื่นชอบเพลง She มากกว่าคงไม่ว่าอะไรเนอะ
    
    แต่เหตุผลที่อัลมิตราไม่ได้เลือกเพลง She 
    ทว่าเลือก When You Say Nothing At All .. เนื่องจากชอบในนัยความหมายกว่า ไม่เกี่ยวกับ ชี บวชชีอะไรนั่นหรอก
    ว่าแต่ว่า นอกจากชอบเพลงแล้ว ยังชอบประโยคเด็ดของภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย 
    
    WILLIAM:   'I live in Notting hill You live in Beverly hills Everyone in the world knows who you are'
    ANNA:    'I'm also just a girl,standing in front of a boy,asking him to love her'
    วิลเลียม-   ผมอยู่น็อตติง ฮิลล์ คุณอยู่เบเวอร์รี่ ฮิลล์ คนทั้งโลกรู้จักคุณ
    แอนนา-  ฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ยืนอยู่ต่อหน้าผู้ชายคนหนึ่ง อ้อนวอนให้เขารักเธอ
    
     มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
  • อัลมิตรา

    21 ธันวาคม 2551 21:42 น. - comment id 926824

    คุณน้ำแข็งเปล่า .. เป็นเพลงที่อัลมิตราชอบเหมือนกันค่ะ ฟังแล้วอบอุ่นดี
    คล้อยนึกตามไปด้วยซ้ำว่า มีคนรู้สึกและร้องเพลงนี้ให้ฟัง .. ฮา
    
    คุณรัมณีย์ .. อารมณ์ดีเตรียมพร้อมกับเทศกาลคริสมาสต์และสวัสดีปีใหม่ค่ะ
    
    คุณแก้วประภัสสร .. ไม่มีอะไรแน่นอนในความเป็นอัลมิตราค่ะ เหมือนน้ำขึ้นน้ำลง
    เพลงนี้นึกเขียนนานแล้ว แต่ก็เพิ่งเริ่มต้นเขียนเมื่อวานนี้เองค่ะ  ชอบในความรู้สึกของเพลง
    นึกตามกับบรรยากาศไปด้วย เป็นความสุขที่ยังไงดีน๊า .. เขียนเพื่อให้สุข ประมาณนั้นมั๊งคะ
    
    คุณฤกษ์ .. ทำไมอดสบตาเหรอ กุ้งยิง หรือ กุ้งต่อย อ่ะ
    
    คุณแจ้น .. เป็นความจริงนะ ที่บางอย่างสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด
    พวกที่พูดเก่ง ๆ พูดจ้อจนจ๋อหลับ อาจจะทำไม่ได้อย่างที่พูด
    ส่วนพวกที่พูดไม่เก่ง กลับถ่ายทอดถึงความจริงใจในลักษณะอื่นได้ดีกว่า ค่ะ
    
    คุณปะการัง .. ใช่แล้ว คุณชอบบทนี้ไหมคะ
    
    ยามฉันพลาดประมาทไปหวังใจนัก
    โอ้ที่รัก ..เธอยังนั่งตรงหน้า
    แล้วช่วยเหลือเจือจุนหนุนนำพา
    ทุกครั้งคราปราถนาดีมีห่วงใย
  • เฌอมาลย์

    22 ธันวาคม 2551 10:23 น. - comment id 927062

    เพลงโปรดเลยนะคะเนี่ย
    
    แต่ทุกวันนี้ยังไม่เจอคนที่ใช่เลย57.gif
  • krajokngao

    22 ธันวาคม 2551 12:46 น. - comment id 927158

    ชอบเพลงนี้มากเหมือนกันค่ะ
    เมื่อก่อนเคยให้แฟนร้องเพลงนี้ให้ฟังด้วยค่ะ
    อาจจะไม่เพราะเหมือนต้นฉบับแต่ก็
    เพราะที่สุดเลยค่ะ 11.gif11.gif11.gif
    แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเพลง
    somebody's me ซะแล้ว
    10.gif10.gif
  • kirati

    22 ธันวาคม 2551 16:04 น. - comment id 927257

    หวัดดีคับ...คุณ"อัลมิตรา"
    
    มีใครคนหนึ่ง เขาชวนให้ผมฟังเพลงนี้...ตอนแรกนึกไม่ออก...แต่พอได้ยินก็พอจำได้...แล้วก็ฟังเพลงนี้ทุกวัน...(ฟังในรถ) จนร้องตามได้...
    
    คุณเรียบเรียงเป็นบทกลอนได้ดีมากคับ...
    ได้รู้ว่า มีเวอร์ชั่น ผู้หญิงร้องด้วย ได้ความรู้ภาษา เพิ่มเติม อีกด้วย..
    
    รู้สึกดีจริงๆ1.gif
  • วนกวี

    22 ธันวาคม 2551 20:54 น. - comment id 927452

    เพลงโปรดของกระผมทีเดียวเลยล่ะขอรับ
    ที่กระผมฟังเป็นของ alison crauss
    เพราะมากเลยครับความหมายก็ดี
    
    ตรง You say it best... when you say nothing at all. เนี่ยผมกะจะเอามาพูดเองแต่คุณอัลมิตราก็พูดไปเสียแล้วด้วย น่าเสียด้าย~น่าเสียดาย
  • กิ่งโศก

    22 ธันวาคม 2551 21:15 น. - comment id 927460

    อืม คุณอัลฯ ถอดเพลงมาเป็นกลอน เยี่ยมเลยครับ..แม้ว่าจะไม่เคยฟังเพลงนี้..ยามค่ำๆ เงียบแบบนี้ ได้อารมณ์ดีนะครับ
  • อัลมิตรา

    22 ธันวาคม 2551 21:27 น. - comment id 927470

    คุณเฌอมาลย์ .. :) บางทีใครสักคนเดินผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วก็จากไป
    บางทีมีรอยอาลัยคงเหลือให้ระลึกถึง บางทีก็ไม่เหลือสิ่งใดให้ควรจดจำ
    อะไรต่อมิอะไร ขึ้นอยู่กับชะตากรรมจริง ๆ 
    อัลมิตราก็ได้แต่หวังว่า ในที่สุดคุณก็จะได้พบคนคนนั้นเสียทีค่ะ
    
    คุณ krajokngao .. เพลงนี้ไพเราะจริง ๆ ยิ่งถ้าคุณได้ฟังสุภาพสตรีคนหนึ่งร้อง
    อัลมิตรามี mv ของเธอด้วย แต่ที่เอาลงมานี่เป็นเสียงของผู้ชาย โรแมนติคไปอีกแบบนะ
    
    คุณ kirati  ..  ใช่แล้ว Alison Krauss - สุภาพสตรีคนที่ตะกี้อัลมิตรากล่าวถึง เสียงใสมาก
    ในความคิดแรก ก็อยากจะเอาเสียงของเธอลงในกลอนชุดนี้นะ ประมาณว่าแทนนัยกลอนด้วย
    แต่คิดอีกที เอาเสียงนุ่มของหนุ่มดีกว่า ให้เป็นเวอร์ชั่นที่ผู้ชายคนหนึ่งร้องให้ฟัง
    โธ่ .. แค่เคลิ้มไปกับเพลงนิดหน่อยน่า .. ฮา
    
    คุณวนกวี .. ตะก่อนเธอตัวไม่ใหญ่ (ยังไงดี แปลว่าไม่ผอมละกัน) 
    ตอนนี้รูปร่างเธอเปลี่ยนไปมาก แต่พลังเสียงของเธอยังคงแจ่มแจ๋วอยู่
    เอาน่า .. มองตากันให้ซึ้ง ๆ ถึงบางคำอัลมิตราฉกมากล่าวเสียก่อน แต่เธอของคุณคงเข้าใจน่า
  • อัลมิตรา

    22 ธันวาคม 2551 21:29 น. - comment id 927474

    คุณกิ่งโศก .. :) หลับตาแล้วฟังเพลงนะคะ
    ให้นึกว่ามีใครสักคนนั่งอยู่ใกล้ ๆ คน
    สัมผัสใจกันด้วยหัวใจ ปราศจากสำเนียงใด ๆ
    แล้วคุณจะชอบเพลงนี้ค่ะ :)

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน