จากแผ่นฟ้า.. จรดแผ่นพื้น

ศรีสมภพ

 จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 
ราชพิธีไถหว่านโบราณเริ่ม
ปลายกรุงศรีฯ มีให้เห็น เป็นประเดิม
พืชมงคล  ฝนแรกเจิม เริ่มแรกนา
พระโคคู่  รู้ลากไถถากร่อง
เทพีสอง หาบทองเงิน เทินเมล็ดกล้า
โปรยข้าวพันธุ์ หว่านประเดิมเริ่มเพลา
พระยาแรกนา นำพิธีศรีมงคล
มวลพืชพันธุ์ธัญญาเติบกล้าใหญ่
แตกกิ่งใบให้ดอกออกผลิตผล
เป็นปัจจัย ให้คงอยู่เลี้ยงผู้คน
ควรค่าล้น คนรู้ค่าแห่งกล้าพันธุ์
เก็บเมล็ดข้าว ! เข้าพิธี ที่สนามหลวง
เป็นขวัญดวงให้ข่วงนาจากฟ้านั้น
เป็นเชื้อนำ.. ทำนาหยั่งกล้าพันธุ์
เป็นพลังมั่น.. ขันแข็งแห่งจิตใจ
ดินคอยฟ้า นาข้าวเฝ้ารอฝน
โปรดบันดลฝนพรำนำน้ำให้
หล่อเลี้ยงพืช เผ่าพันธุ์อันอำไพ
เพื่อเติบใหญ่ให้ผลิตผล..เลี้ยงคนกิน !
จากแผ่นฟ้าจรดแผ่นพื้น.. สุดชื่นฉ่ำ
ฝนพร่างพรำนำโชคดีทุกที่ถิ่น
แรกนาขวัญมงคลเริ่มเจิมผืนดิน
ทั่วธรณินถวิลหวัง.. ดังคำทาย				
comments powered by Disqus
  • พุด

    9 พฤษภาคม 2555 15:27 น. - comment id 1232609

    ban-mae-klang-luang_011.jpg
    งานยอดเยี่ยมของคุณศรีสมภพ
    พาใจให้ประหวัดถึง...
    
    วิมานข้าวเปลือก (Rice Field Palace) 
    ลำน้ำน่าน 
    งามเดือนทองศุกร์สกาวเช้าวันพระ
    อายตนะหนาวเหมันต์อันอ่อนไหว
    ผกายดาวประจำเมืองรองเรืองไป
    ลอยครรไลละเมอเสียงโกกิลา
    
    งามฤดูรอยเกวียนอย่าเปลี่ยนแปร
    สวยกระแสสายนทีปรารถนา
    ข่าวคนไกลฝากลมเหนือเจือล่องมา
    สะอื้นกล่อมนนตราข้าวนาปี
    
    อุษาโยคย่ำรุ่งเพลตะโพน
    ทยอยโยนยั่งยืนอยู่ฤดูวิถี
    อณูหนาวมนตร์รวงทองรองรุจี
    เสรีอารยธรรมธัญมณฑล
    
    รวงราวเลื่อมรงทองผองยวงเมฆ
    ฤาปัจเจกสวรรค์แสร้งเวหาสหน
    เลื่อนวิมานเทวดาจาตุรนต์
    ระนาบทุ่งตำบลทิพย์ตระการ
    
    รวงเครียวรวงโอบรวงห่วงอาทร
    ใบเครียวใบบรรจถรณ์โอนอ่อนหวาน
    ระวางคูนพวงระหงทรงบาดาล
    ปานป่านผ้าทิพย์ไหมฝ้ายสยายใย
    
    จ้าวปิ่นแก้ว...ข้าวนาสวนสบเดือนสาม
    อุโฆษนามรวงพันธุ์บรรพสมัย
    สลายรวงอำลาลานนาไป
    โพสพไซร้เหน็บหนาวโศกเศร้าตาม
    
    ดอกมะลิรวงขจรหอมอ้อนทุ่ง
    มาเจิมยุ้งทิพย์แผ่นดินถิ่นสยาม
    ทุ่งกุลาหย่าร้องไห้ท่วมนาทาม
    อุทกข้ามสุวรรณภูมิธาตุธาตรี
    
    เนรมิตความเป็นไทอสงไขยฤดู
    เกิดดับอยู่เอกราชชาติศักดิ์ศรี
    อิ่มพระคุณเมล็ดข้าวอิ่มความดี
    อิ่มเมตตาบารมีเจ้าแผ่นดิน
    
    งามข้าวกล้าสายวสันต์วันวัยเยาว์
    ตื่นจากเขลาขุนชีวิตตราบโผผิน
    หุงข้าวใหม่หวานน้ำข้าวดื่มกิน
    ลิ้มทรัพย์สินภูมิปัญญาบรรพชน
    
    ฤดีครวญฤดูคราวหนาวเหมันต์
    เหลืองอำพันรวงข้าวสุกทุกแห่งหน
    แต่งทิวทับวิมานทองผองคนจน
    อวลระคนสุนทรียภาพตราบกาลกัลป์
    
    เพรงบุญคุณ..ข้าวแดงแกงร้อนรอด
    ไม่วายวอดขายนาน้อยอาถรรพ์
    กลิ่นข้าวเก่าค้างปีไม่มีวัน
    กลายสายพันธุ์เนรคุณดวงชีวา
    
    สิ้นเดือนทองสะท้อนแอกคืนแปดค่ำ
    หนาวลำนำวิมานข้าวหนาวหนักหนา
    หนาวลมใจรินรินร้าวทาสชาวนา
    ให้อับค่ามนุษย์ไหนไม่ซาบซึ้ง
    
    -----------------------------------------------
    วันนี้วันว่าง ข้าพเจ้านอนดูเฆมที่เคลื่อนคล้อยมาจากสารทิศ
    โอบอุ้มเมฆฝนหนักอึ้ง เพื่อมาโปรยลงในแผ่นดินสุวรรณภูมิ
    
    ข้าพเจ้าหยิบหนังสือเล่มงามนาม ข้าวของพ่อ 
    หนังสืองามที่รจนาเพื่อเทอดทูนพระเจ้าหัวอยู่  
    พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก
    พลีพระปณิธานเพื่อพัฒนาการกสิกรรม 
    อันเป็นภูมิปัญญาทองของสยาม และกล่าวถึงพระคุณของ ข้าว 
    แห่งสยาม ข้าพเจ้าน้ำตาไหลเมื่ออ่านจบ
    
    สายวสันต์สั่งลาฟ้าแล้ว เหลือเพียงฝนไล่ท้องข้าวที่ปราดมาบางขณะ
    ทำให้จิตประหวัดไปถึงทุ่งข้าวแห่งความฝัน ที่ไปฝากฝันฝากดวงใจไว้
    เมื่อยามต้นวสันต์  ที่ขณะนี้นั้นกำลังจะสุกเหลืองระยับไปทั้งทุ่ง
    วัวควายจะได้ลิงโลดใจ ที่ท้องทุ่งกลับมาเป็นของพวกเขาอีกครั้ง
    หลังจากที่อุดอู้อยู่ในคอก กินหญ้าเกี่ยว มานานหลายเดือน
    
    
    ลมหนาวเริ่มโรยตัวลงอาบท้องทุ่งที่ราบสูงแล้ว
    จิตวิญญาณชาวนาอย่างข้าพเจ้าก็บรรเจิด ด้วยสีสันแห่งฤดูกาล
    ทำให้ความสุขสงบ เรียบง่ายเกิดขึ้นในดวงใจอยู่เสมอๆ 
    
    ท้องทุ่งรวงทองสีเหลืองระยับจักกลับมาเยือนแผ่นดินถิ่นนี้
    ริ้วลมหนาวนำหมอกมาโรยไว้เหนือท้องทุ่ง
    วิมานข้าวเปลือกในจินตนาการก็กลับคืนสู่หมู่บ้าน
    มะม่วงพุ่มหนาจะแตกช่อสีขาวหม่นขึ้นคลุมต้น
    อารยธรรมอันดีงามแห่งแผ่นดินจะกลับมาหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณผู้คน
    ไม่มีความสุขไหนจะงดงามไปกว่านี้อีกแล้ว
    
    *พ่อบอกว่า เป็นคนไทยไม่ควรลืมพระคุณข้าว 
    และอย่าให้เหมือนกับคำเปรียบเปรยคนโบราณที่ว่า 
    ไม่รู้คุณข้าวแดงแกงร้อน  ข้าพเจ้าอ่านแล้วก็ได้แต่นิ่งอึ้ง*
    
    -----------------------------------------
    ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์
    แด่รวงข้าวทุกๆ รวง
     
     
    
    
    
    1.gif16.gif36.gif
  • โคลอน

    9 พฤษภาคม 2555 22:22 น. - comment id 1232681

    29.gif29.gif29.gif29.gif
  • พจนา/หนังสือ

    10 พฤษภาคม 2555 06:43 น. - comment id 1232693

    เป็นพิธีที่สร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวไร่-ชาวนา
    อรุณสวัสดิ์ครับ   59.gif36.gif46.gif
  • cicada

    10 พฤษภาคม 2555 08:10 น. - comment id 1232702

    36.gif36.gif36.gif46.gif
    
    แซมค่ะ
  • ศรีสมภพ

    11 พฤษภาคม 2555 00:46 น. - comment id 1232800

    พุด พัดชา.. 
    เห็นฟ้ามาจรดพื้น
    น้อมนำจิตฉ่ำชื่น
    จากจุดยืน ..จึงยื่นชี้
    
    อยู่ภูดูเบื้องล่าง
    เห็นทุกอย่าง ต่างวิถี
    ล้วนโลกโศกโลกีย์
    ชี้ทางธรรมนำเห็นทาง..
    
    ขอบคุณ.. ที่หนุนทางธรรม
    
    29.gif36.gif24.gif
  • อนงค์นาง

    11 พฤษภาคม 2555 05:20 น. - comment id 1232807

    บทกลอนของท่านศรีสมภพยังคงงดงามเช่นเคยนะคะ 
    
    ที่บ้านก็ยังทำนาค่ะ แต่ต้องขออภัยที่รุ่นดิฉันไม่เคยทำเลย เพราะอพยพไปอยู่ที่ชลบุรี กับกทม ตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังรักษามรดกไว้อยู่ค่ะ 
    สักวันคงได้กลับไปทำนาทำสวน เป็นวิถีชีวิตที่ปรารถนา แต่ไม่อาจทำได้ตอนนี้ แล้วแต่หัวหน้าครอบครัวค่ะ ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ต้องช่วยกันพายไปทิศทางเดียวกัน ไม่มีฉันหรือเธอ
    
    36.gif36.gif36.gif29.gif41.gif41.gif
  • ศรีสมภพ

    11 พฤษภาคม 2555 12:07 น. - comment id 1232904

    วิถีเก่า.. เราชาวไทย
    กุศโลบายบรรพ์บุราณ
    สืบต่อก่อผสาน
    เหง้าตำนานของบ้านเมือง
    
    ไม่ชอบ !..อย่าทำลาย
    รักษาไว้ให้ต่อเนื่อง
    ชาติที่รุ่งจรุงเรือง
    เพราะประเทืองเรื่องบุราณ
    
    ขอบคุณผู้มาเยือนทุกๆท่าน..ครับกระผม
    
    29.gif36.gif16.gif24.gif
  • ผู้หญิงไร้เงา

    11 พฤษภาคม 2555 13:37 น. - comment id 1232917

    11.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน