น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า โบราณกล่าว
เป็นคำเล่า เปรียบเทียบไป ในโวหาร
เปรียบเหมือนเรา มีเพื่อนไว้ ให้เจือจาน
ยามทุกข็นั้น คอยพึ่งพา อาศัยกัน
ครั้นมีเรื่อง เพื่อนมีใจ ให้หายเศร้า
คอยพาเรา ลดความทุกข์ พบสุขสรรค์
น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า เขาว่ากัน
สิ่งสำคัญ คือน้ำใจ และไมตรี
14 ตุลาคม 2551 11:37 น. - comment id 904433
1จริงของคุณค่ะ น้ำทำไมพึ่งเรือ ทำไมเรือไม่พึ่งน้ำ อะ ครายยตอบได้ ช่วยตอบกันทีค่ะ เดี๋ยวแบมก็จะพลอยงงไปด้วยนะคะ ไปทานข้าวกันก่อนดีมั้ยจ๊ะ แล้วค่อยมาคิดกันต่อค่ะ

14 ตุลาคม 2551 11:20 น. - comment id 904444
เข้าใจครับสรรพสิ่งอิงกันเกิด จึงบรรเจิดอยู่ได้ในโลกสวย มีสิ่งหนึ่งอีกหนึ่งสิ่งจึงอำนวย มีต้นกล้วยย่อมมีกล้วยนั้นตามมา แต่สงสัยก็ตรงที่ "น้ำพึ่งเรือ" ไม่สงสัยที่เสือนั้นพึ่งป่า เรือพึ่งน้ำพึ่งได้เห็นกับตา แต่น้ำพึ่งนาวามันน่างง

14 ตุลาคม 2551 13:42 น. - comment id 904460
ป่าพึ่งเสือ เมื่อนั้น มันไม่แปลก น้ำพึ่งเรือ เหลือจำแนก คิดแผกผัน (ก็)คนพายเรือ หวังเรือตน พ้นทางตัน น้ำก็พลัน ไหลสะดวก นะพวกนะ

14 ตุลาคม 2551 14:13 น. - comment id 904463
วาสุกรีชี้ปัญหาได้น่าสน ว่าเพราะคนพายนาวาหาแห่งหน ไปไม่ได้จำต้องขุดทางของตน ให้เรือพ้นไปได้ในทางเดิน เมื่อขุดทางให้เรือถิ่นเหนือใต้ น้ำเลยได้อาศัยไม่เคอะเขิน น้ำจึงได้อาศัยทางเรือเดิน เท่เหลือเกินวาสุกรีว่ามา ไม่ขุดทางให้เรือไปเหนือใต้ น้ำก็ไม่อาจไหลแล่นถลา น้ำก็นิ่งอยู่กับที่ดังบ่อปลา โอ้..ท่านวาสุรีนี่ยอดจัง ขอคุณกับแนวทาง...เลยจับมาขยาย

14 ตุลาคม 2551 15:40 น. - comment id 904472
03 คุณ "วาสุกรี" ขอบคุณมากค่ะ ที่มาช่วยให้กระจ่าง ไม่เช่นนั้น แบมก็คงหาเหตุผลต่อไปเหมือนคุณ กิตติเวทย์ นะคะ อิ แต่แบมว่ามันต้องมีเหตุผล อย่างอื่นอีกนะคะ เอ..หรือว่า เขาเขียนเพื่อให้สำนวนมันคล้องจองกันเฉยๆเนอะ

14 ตุลาคม 2551 17:03 น. - comment id 904507
แวะมาอ่านกลอนคะ สาระดีจัง..

14 ตุลาคม 2551 17:15 น. - comment id 904511
เหตุผลในเรื่องเดียวกัน แต่คนละเวลา บางทีก็ไม่สามารถอธิบายได้

14 ตุลาคม 2551 18:19 น. - comment id 904518
ไปออกกำลังกาย ตระกร้อวง.. ได้เหงื่อดีจัง

14 ตุลาคม 2551 19:40 น. - comment id 904533
6คุณ "พิมญดา" หัวข้อมีสาระก็เพราะเหตุเกิดจาก คุณกิตติตเวทย์ สงสัยคำว่า "น้ำพึ่งเรือ"นะค่ะ แบมไม่เห็นใครตอบสักที เลยตอบเอง อิอิ แต่ถึงบางอ้อที่คุณวาสุกรีมาบอกนี่แหละค่ะ ถอดสมการได้แล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

14 ตุลาคม 2551 21:39 น. - comment id 904560
8.....ว๊าวววว.. ตะกร้อวง กีฬาโปรดคะ สมัยสาวๆ เอ๊ย สมัยเด็กๆเล่นบ่อยคะ ทั้งเตี่ย ทั้งน้าเขย พี่ชายอีก 4-5คน มีฉางน้อยเป็นหญิงคนเดียว โดนแกล้งประจำ อิอิ

14 ตุลาคม 2551 21:42 น. - comment id 904561
..... พี่แบม แก้วฯ เจ้าคะ ขออนุญาตแอบตั้งวงเล่นตะกร้อได้ไหมคะ ตะกร้อพลาสติกของฉางน้อยมีคะ ยังอยู่ในห้อง 5555

14 ตุลาคม 2551 23:02 น. - comment id 904579
เมื่อต่างพึ่งพาอาศัยกัน สิ่งสำคัญ ก็คือ น้ำใจและไมตรี อย่างคุณแบมว่าแหละครับ มิตรภาพจึงจะยืนนาน

15 ตุลาคม 2551 10:23 น. - comment id 904633
ที่สำคัญก็คือเราอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้..

15 ตุลาคม 2551 11:42 น. - comment id 904651
ไม่มีรัฐบาลก็ไม่มีพันธมิตร....เหอ..เหอ แต่พันธมิตรไม่ต้องการรัฐบาล.... """"อุ๊บ"""

15 ตุลาคม 2551 13:15 น. - comment id 904666
สวัสดีทุกท่านค่ะ ช่วงนี้งานเยอะคะ อาจตอบช้าคงไม่ว่ากันเน้อ แล้วแบมจะรีบตอบกลับค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

15 ตุลาคม 2551 13:45 น. - comment id 904675
7คุณ "วาสุกรี" ขอบคุณค่ะที่แวะมาแสดงความคิดเห็นด้วยกันค่ะ ไว้คราวหน้ามาช่วยกันคิดใหม่นะคะ

15 ตุลาคม 2551 13:46 น. - comment id 904676
น่ารักจังคุณแบมมาแจมต่อ ร่วมกันก่อสัมพันธ์หมั่นสืบสาน แม้ไม่ว่างรอบตัวมีแต่งาน ยังแบ่งปันเวลามาพูดคุย

15 ตุลาคม 2551 14:17 น. - comment id 904678
8คุณ "กิตติเวทย์" ออกกำลังกาย ดีค่ะ ตอนเด็กๆ ชอบแกล้งพี่ชายเป็นประจำค่ะ เดาะไม่ได้ จับลูกวิ่งเหมือนรักบี้เลยค่ะ อิอิ
ขอบคุณจ้า ที่แวะมาพูดคุยกันค่ะ

15 ตุลาคม 2551 14:20 น. - comment id 904679
11"ฉางน้อย" เล่นเป็นเหรอจ๊ะตะกร้อวงนะ ยากนะพี่แบมว่า อยากเห้นหน้าฉางน้อยจังเลย ส่งรูปให้พี่แบมดูหน่อยสิคะ แลกกัน นะๆๆๆๆ น้องสาวผู้น่ารัก

15 ตุลาคม 2551 14:23 น. - comment id 904680
12คุณ "ฝนทอง" จิตที่มีเมตา อภัย ไมตรี คือจิตที่ประเสริฐค่ะท่านพี่ แบมคิดเองนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

15 ตุลาคม 2551 14:25 น. - comment id 904681
13คุณ"มณีจันทร์" ใช่ค่ะ เราอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้จริงๆค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

6 พฤศจิกายน 2555 20:32 น. - comment id 1250456

1 มกราคม 2556 13:58 น. - comment id 1253149
ดีจ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
