โลกที่ปรากฏ ณ เบื้องหน้าท่าน...เป็นเช่นไร?

หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก

โลกที่อยู่เบื้องหน้าข้าพเจ้า
๑).
ดูเหมือนว่า
ท่านกับข้าพเจ้ามีความเหมือน
สัมผัสทุกสิ่งอย่างอย่างรางเลือน
ไร้เพื่อนไร้ใครไร้มิตร
ภายในกรอบแคบแคบเราแอบตน
ต่างคนโบกปูนก่ออิฐ
ล้อมบ้านกั้นทางขวางทิศ
เก็บตัวอยู่มิดชิดชีวิตเรา
ดูเหมือนว่า
ดวงตาอ้างว้างเราว่างเปล่า
เสียงผิวปากเรียกนกให้ผกเงา
ส่อชัดความเศร้าของเงาตา
ท่านกับข้าพเจ้าปิดบ้านตน
ปล่อยถนนม้วนฝุ่นจนมุ่นฝ้า
กลิ่นแล้งเรื้อรังยังค้างคา
กระจกหนาหน้าต่างปิดตาย
๒).
ความฝันเราเลือนรางและจางเจือ
หายใจเพื่อบางอย่างอย่าร้างหาย
เราฟังเสียงสะเก็ดของเม็ดทราย
แตกทำลายเนื้อเม็ดเป็นเกล็ดน้อย
มุมห้องข้าพเจ้านั่งเก้าอี้
ควันบุหรี่นั้นลอยอยู่อ้อยสร้อย
ฝาผนังเปล่าว่างร้างรอย
รูปเด็กเกี่ยวก้อยปลดทิ้ง
ทุกทุกลมหายใจภายในบ้าน
วันเคลื่อนเดือนคลานอย่างอ้อยอิ่ง
จนเหมือนโลกที่ตามความเป็นจริง
นั้นหยุดนิ่งสงบและจบลง
ภาพใครต่อใครได้เลือนราง
เค้าหน้าต่างต่างเริ่มเลอะหลง
ความสามารถจดจำเกินเจาะจง
และคงสูญหายอีกไม่นาน
กับหนังสือกรอบเข้มเล่มเก่า
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่เราอ่าน
คลุมเครือยิ่งนักว่าดักดาน
หรือแตกฉานเปรื่องปราดฉลาดล้ำ
ข้าพเจ้าทอดถอนลมหายใจ
หลายปีผ่านไปที่ไห้ร่ำ
กับการนับแต่ละเม็ดประคำ
เวียนวนบ่นพร่ำนับนานปี
๓).
ความฝันเราเจือจางและรางเลือน
คล้ายเหมือนเราหลับอยู่กับที่
มิพลิกฟื้นตื่นตาแม้นาที
มิรับรู้การไหลรี่ของเวลา
ข้าพเจ้าทั้งเหงาทั้งเศร้าโศก
อยู่ในโลกแปลกแยกอย่างแปลกหน้า
ลมหอบทรายสาดซัดเหนือหลังคา
ก็ดวงตาเบิกกว้างมิวางใจ
ทั้งทั้งที่ท่านเหงาท่านเศร้าโศก
ยังแยกตัวจากโลกมาห่มไห้
แล้วดวงตาชำรุดก็จุดไฟ
เผาไหม้ทุกสิ่งสรรพเกินดับทัน
มีเพียงความมุ่งมาดอาฆาตแค้น
สุมแน่นในอกสะทกสั่น
ขณะท่านทำลายล้างแหละช่างมัน
ขณะนั้นดิ่งดำเกินสำนึก
เปลวไฟดวงใจท่านไหม้มอด
วายวอดเกินกู้ความรู้สึก
ขณะข้าพเจ้าป่วยไข้หายใจลึก
ภาพศึกในบ้านของท่านชัด!
๔).
เสียงโทรศัพท์กี่ปีแล้ว?
คล้ายแว่วเสียงกรีดอยู่หลัดหลัด
หลังคาเรียบลาดทรายสาดซัด
ข้าพเจ้าพลัดภวังค์ใดทั้งปวง
พบว่า
น้ำตาไร้เหตุผลยังหล่นร่วง
และในความเงียบเหงาอันเปล่ากลวง
กลับเสียงหน่วงหนักรัวในหัวใจ
พบว่า
หยาดน้ำตาทุกหน่วยล้วนป่วยไข้
โลกที่สร้างส่วนตัวล้อมรั้วไว้
ลอยเลื่อนเคลื่อนไหวอยู่ดายเดียว
เสียงทรายแตกเม็ดเป็นเกล็ดเล็ก
ริมเหล็กดัดซีดและบิดเบี้ยว
ฝุ่นฝ้านอกหน้าต่างทางเทียว
ถูกเคี่ยวโดยแดดที่แผดร้อน
เสียงตะโกนของท่านยังเอ็ดอึง
คำซึ่งเกลียดชังก็ถั่งก้อน
หลังคาพุโผงไหม้ด้วยไฟฟอน
กำลังกร่อนเป็นผงร่วงลงมา
ท่านเปิดประตูผาง!!ออกข้างนอก
ตะคอกตะโกนก่นดั่งคนบ้า
โลกจ้องท่านเคียดขึ้งท่านขมึงตา
การทายท้า    อาฆาต    ความมาดร้าย!!
๕).
ภาพฝันข้าพเจ้าสิ้นเค้าโครง
ไฟทุกข์ลุกโพลงโชนฉาย
การแตกเศษสะเก็ดของเม็ดทราย
ทำลายความเชื่อมั่นในทันที
หนังสือเก่าขอบกระเม็ดประคำ
ตอบคำถามมวลมิถ้วนถี่
น้ำตาความป่วยไข้หลายหลายปี
โลกที่เงียบเหงาที่ร้าวราน
ข้าพเจ้าสิ้นสุดความอดทน
ภาพโลกหม่นหมองมัวภาพตัวบ้าน
เงานกผกรูปมาวูบลาน
แหละท่านเรียกข้าพเจ้าเปิดประตู!!
๖).
ดั่งว่า
โลกที่อยู่เบื้องหน้าจ้องตาอยู่
สัมผัสความชิงชังที่พรั่งพรู
อณูความเครียดความเกลียดชัง
โลกที่อยู่เบื้องหน้าข้าพเจ้า
ตวาดเสียงเร้ากระเส่าคลั่ง
ข้าพเจ้าจ้องนิ่งอย่างจริงจัง
แล้วสั่งตนลงทำสงคราม!!
//นี่คือโลกที่ปี่กฏ ณ  เบื้องหน้าข้าพเจ้า!				
comments powered by Disqus
  • บุรุษแห่งกาฬ

    20 กรกฎาคม 2546 21:55 น. - comment id 155525

    โดนใจเข้าเต็มเต็ม  เพราะนะ  แวะมาผูกมิตรด้วย
  • พุด

    20 กรกฎาคม 2546 23:04 น. - comment id 155554

    ชอบมากค่ะ
  • รักจากพี่พุดค่ะ

    20 กรกฎาคม 2546 23:09 น. - comment id 155556

    พี่พุดสะดุดหัวใจเลยตามไปเยี่ยมร้านบ้านหมี่เป็ดมาแล้วค่ะ..บ้านเราคงไม่ไกลกันแค่ภูเขาคอหงษ์กั้นละม๊ง.นะคะ
  • มารแมงมุม

    21 กรกฎาคม 2546 00:32 น. - comment id 155575

    มาอ่านค่ะ
  • หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก

    22 กรกฎาคม 2546 17:03 น. - comment id 155951

    
    
    หวัดดีครับทุกท่าน
    
    
    ขอบคุณครับที่อ่าน  555
    
    
    พี่พุด..หวังว่าเราคงได้สนทนากันสักครั้งครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน