รามราชท้ายน้ำ

กุหลาบน้ำตา


      รามราชท้ายน้ำ  เป็นเรื่องเล่าของปู่ย่าตายาย  เท็จจริงอย่างไร
กุหลาบน้ำตา ไม่สามารถรู้ได้  ว่ากันว่า  เป็นเรื่องราวการเดินทาง
ของเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ( พระเจ้าศรีธรรมโศกราช ) โดยเสด็จ
ทางชลมารค ณ คลองเลียบเมือง  และเมื่อมาถึง บ้านท้ายน้ำ  ได้เกิด
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น  โปรดติดตามต่อไป ในกาพย์ห่อโคลง นะครับ

       กุหลาบน้ำตา ลองนำคำเล่าขาน มาแปลงเป็นกานท์กลอน

        ศรีธรรมโศกกษัตริย์           รามราช
เสด็จเยือนถิ่นทรงประพาส           เรือหลวง
จากเลียบเมืองถึงบ้านกาศ            ท้ายน้ำ
ถือฤกษ์เก้าเดินดวง                      ดารดาษราชรัตน์  เรือนา
        ถือฤกษ์นพรัตน์                  จอมกษัตริย์ยุรยาตร
จากเลียบเมืองบ้านกาศ               ถิ่นท้ายน้ำย่ำฟ้าสาง
        พร้อมพลทหารรักษ์              ประดับศักดิ์อัษฎางค์
ราชรัตน์นามเรือกลาง                  ถือมงคลประโคมครัน
        เรือล่อง ณ ทางถิ่น                ปักษีบินระกาขัน
พร้อมสรรพราชภัณฑ์                   รพีภัทรกระจัดเรียง
        ผ่านไทรและโพธิ์พฤกษ์       ย่ำยามดึกสงัดเสียง
หมู่ภมรอ่อนสำเนียง                    ยุรยาตร ณ กลางชล
        พระพายส่ายโหยหวน          ดูเรรวนแลสับสน
มองทั่วทุกตัวคน                          ยิ่งเคลือบแคลงสำแดงเดช

         พระพายโหยโรยเรื้อ             เรือหลวง
จันทราทรเด่นดวง                          ดื่นดาษ
ยามราตรีกาลลวง                            ลึกลับ
ดั่งเทพสำแดงประกาศ                    กู่ก้องร้องชัย
        สายชลไหลวนกลับ                  ดั่งเปรียบกับกึ่งอาเพศ
ฤกษ์ลดหมดสังเกต                         เสมือนเหตุจะร้ายแรง
        ฝนบ้าเมฆาคลั่ง                       ทุ้งกระทั่งสิ้นคลังแสง
เดชฤทธิ์ผิดสำแดง                           ระเดียดาษจะฟาดฟัน
        เรือหลวงโคลงแคลนคลอน       ท้ายเรือร่อนระส่ายสัน
ธงริ้งปลิวอนันต์                                ดูอนาถเกินคาดคิด
        กิ่งพฤกษ์ผนึกหัก                     บรรจงปักบนเรือติด
การณ์ร้ายกลายเป็นพิษ                    สุดจะพร่ำหรือคร่ำครวญ
        เหรามานอนขวาง                    ณ ชลกลางดูผันผวน
ชนม์ชีพเหมือนติดตรวน                  สุดจะตรึกรำลึกลา
        อ้าโอษฐ์เหมือนโกรธจัด          หางสะบัดขัดช่วงขา
ร่อนกายฝ่ายธารา                           สายชลร่ายเป็นกลายเกลียว
        พลทหารพาลเข้ายุทธ             แขนขาหลุดดูน่าเสียว
เลือดทรุดสุดจะเยียว                       ถ้าเข้ายั้งต้องพลั้งตาย
        เลือดสาดชาดแดงสด              สุดสลดทรุดสลาย
เลือดหลากธาราราย                         ทั้งชลสายเลือดกายกอง

        เหราขวางทางชล                 ชลาราศ
อาเพศกลายร้ายกาจ                   กึ่งสลอน
พลทหารพาลถึงฆาต                    คราคร่ำ
ทุกข์หลากยากจะย้อน                  ยลเบื้องเมืองหลวง  นครนอ
          เหรามุดยุดเรือ                       จนหางเสือขาดสยอง
พลทหารพาลลงกอง                         เกลือกกลิ้งกลับลงทับกัน
          จอมกษัตริย์สุดขัดจิต             รำลึกคิดผิดสิ่งสรรพ์ 
พลฆาตอนาถครัน                             สุดจะครวญหวนถึงดวง
           ถอดทรงบรรจงกราบ              ศิโรราบพิธีหลวง
ร่ายเวชเดชกลลวง                            ฤาจะเลื่อนหรือเคลื่อนกาย
           โอมศรีรุจิเรจ                         ฤทธิ์อาเพศวินาศสลาย
จอมเหราเพรียกพากาย                      หาย ณกลางชลธี
           ฤทธิ์เวชจอมกษัตริย์               เหราบัดบ่ายร่างหนี
เหตุร้ายกลับกลายดี                           ด้วยฤทธีเจ้านคร
           ฟ้าสางสร่างทั่วหล้า                  พื้นนภาประภัสสร
ด้วยเดชฤทธิรอน                               รามราชจอมณรงค์
           รามราช ณ ท้ายน้ำ                   มุ่งจะนำจุดประสงค์
เมืองนครสิธำรงค์                               ฉลองราชประกาศไกล
           นิยายแต่เบื้องบรรพ์                 มาเสกสรรค์พิศมัย
ลูกหลานจึ่งเข้าใจ                              บรรจงน้อมประนอมคุณ				
comments powered by Disqus
  • อัสสุ

    21 กุมภาพันธ์ 2550 22:00 น. - comment id 660658

    เล่าเรื่องยาวเหมือนนิยายเลยนะครับ
    
    ชอบครับ11.gif
  • Salukphin

    21 กุมภาพันธ์ 2550 22:39 น. - comment id 660689

    9.gif16.gif36.gif36.gifเก่งมากค่ะ  ไพเราะด้วย   นางฟ้าชมจากใจนะคะ  ตัวเองไม่ค่อยมีเวลาแต่งแบบพี่ๆเลย   คงต้องใช้เวลาสักกะหน่อยแล้วล่ะค่ะ
  • แดนไกล ไลบีเรีย

    21 กุมภาพันธ์ 2550 23:14 น. - comment id 660711

    เอิ๊กๆๆ
    
    ซู้ดยอดดดดดดดด
    
    พี่กุหลาบแต่งได้ไงหว่าครับ
    
    นับถือเจรงๆๆ
  • กุหลาบน้ำตา

    22 กุมภาพันธ์ 2550 17:44 น. - comment id 661288

    29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif
    
     สวัสดีครับ  อัสสุ
    
          เปรียบเป็นนิยายเรื่องหนึ่งล่ะครับ
    
    ที่เยาวชนชาวนครศรีธรรมราชจดจารึก
    
    ไว้ในความรู้สึก  ในรูปแบบต่างๆ
    
    ขอบคุณนะครับ  สำหรับคำติชม
    
    57.gif57.gif57.gif57.gif57.gif
  • กุหลาบน้ำตา

    22 กุมภาพันธ์ 2550 17:47 น. - comment id 661292

    29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif
    
    สวัสดีครับ SALUKPHIN
    
    สวัสดีครับ แดนไกล ไลบีเรีย
    
         ขอบคุณมากครับ สำหรับคำติชม
    
    การพัฒนาแห่งกานท์กลอน ยังต้องดำเนินต่อ
    
    ไปแน่ๆครับ
    
    57.gif57.gif57.gif57.gif57.gif
  • น้ำนมราชสีห์

    23 กุมภาพันธ์ 2550 11:39 น. - comment id 661746

    สวัสดีครับ กุหลาบน้ำตา
    อ่านแล้วก็รู้สึกสนุนสนานไปกับนิทานรามราชท้ายน้ำอยู่ไม่น้อย เพราะกุหลาบน้ำตาสามารถบรรยายให้เห็นภาพตามได้ และนิทานก็มีรส เป็นลักษณะรสของความตื่นเต้น หวาดเสียว และรสที่แปลกแต่ดีก็คือ รสแห่งความกล้าหาญที่ดูจะมีความสงบแทรกอยู่ จึงทำให้รู้สึกแปลก ๆ แต่กระทบใจ ดังนั้นจินตนาการของน้ำนมราชสีห์จึงพลุ่งตามกาพย์กลอนไป
    แต่เสียดาย ประสบการณ์ของน้ำนมราชสีห์นั้นยังไม่มากนัก จึงไม่ค่อยเข้าใจภาพบางภาพ เนื่องจากศัพท์บางคำ อาทิ ท้ายเรือร่อนระส่ายสัน ธงริ้งปลิวอนันต์ หรือ เลือดทรุด เป็นต้น ซึ่งบริบทพอจะทำให้นึกภาพออกบ้าง แต่อ่านแล้วมันสะดุด จึงอาจต้องขอคำแนะนำจากผู้ประพันธ์เอง 
    อ้อ..น้ำนม ฯ ชอบลักษณะคำประพันธ์ที่ใช้นะ แต่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับอาจารย์หลาย ๆ ท่านที่บรรจุคำประพันธ์ชนิดนี้ ไว้เป็นกาพย์ห่อโคลง น้ำนมจะชอบเรียกว่ากาพย์เห่ มากกว่า 
    ที่ขอบเพราะว่ามันเป็นองก์ดี เปิดด้วยโคลงแล้วตามด้วยกาพย์เป็นการดำเนินเรื่อง อีกทั้งใช้ลีลาการบรรยาย ก็เหมาะสมกับลักษณะเรื่องประเภทนิทานและลักษณะเนื้อหาที่เป็นการแสดงอภินิหารและความตื่นเต้น ซึงน้ำนมชอบตอนที่ร่ายมนตืมาก สมองมันวาดภาพรามราชซะเท่ แถมสุขุม สมาร์ท จนอยากเป็นรามราชมั่ง แต่ใจก็นึกเสียดายน่าจะมีซาวด์เอฟเฟคซักนิด ...นิดเดียว เพื่อสร้างความเท่ให้รามราชอีกสักหน่อย จะยิ่งองอาจ ดูเก่งกล้ามากกว่าเดิมอีก
       น้ำนมราชสีห์ .... ไม่รู้จักลักษณะโคลงที่นำมาใช้ เพราะที่รู้จักอยู่ก็มีไม่กี่ชนิด เลยสนใจอยากถามว่า โคลงที่ใช้เรียกว่าโคลงอะไร
      โดยรวมเรื่องนี้ น้ำนมราชสีสีห์คิดว่า ดีนะ น้ำนมราชสีห์ชอบ แต่ก็มีจุดติดขัดบ้าง เช่น..พื้นนภา ... น้ำนมราชสีห์ว่า มันไม่ผิดนะ แต่ถ้าใช้ท้องนภา มันน่าจะเห็นภาพที่โอ่โถงกว่า....
    การจบนี่ชอบมาก บ่งบอกถึงความเป็นไทยจริง ๆ เรื่องรู้คุณบรรพบุรุษเนี่ย
    
    สุดท้ายนี้อยากบอกว่ามีอะไรอีกเยอะแยะที่อยากถาม อยากคุย แต่ไม่มีเวลาแล้ว...ยังไงก็ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้าละกันนะครับ ถ้าความคิดของน้ำนมราชสีห์ทำให้คุณขุ่นข้องหมองหมาง
    
    ด้วยความชื่นชม
    
    น้ำนมราชสีห์
  • ผู้หญิงไร้เงา

    23 กุมภาพันธ์ 2550 14:05 น. - comment id 661831

    ขอบคุณเรื่องดี ๆ ที่แต่งมาเล่าสู่กันฟัง
    
    เรื่องนี้ผู้หญิงไร้เงาไม่เคยอ่านมาก่อน ไม่เคยได้รับรู้ข้อมูลมาด้วย
    
    แต่ขอชื่นชมในผลงานคุณนะค่ะ
    
    แต่งเก่งจัง
  • กุหลาบน้ำตา

    23 กุมภาพันธ์ 2550 16:52 น. - comment id 661899

    41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif
    
    สวัสดีครับ  น้ำนมราชสีห์
    
         จากการที่คุณได้พินิจงานประพันธ์ของ
    
    ข้าพเจ้า  ทำให้ข้าพเจ้ารำลึกถึงองค์ประกอบที่
    
    สำคัญของงานชิ้นนี้เลยนะครับ  คุณสามารถ
    
    เจาะลึกเข้าถึงจุดประสงค์อันถ่องแท้ของ
    
    กุหลาบน้ำตา  ซึ่งข้าพเจ้าขอชื่นชมในความ
    
    สามารถของคุณ   และสำหรับข้อปัญหาคาใจ
    
    หลายเรื่องที่คุณได้ถามข้าพเจ้ามา
    
    ข้าพเจ้าจะทำการแจ้งจัดวิสัชชนา ไว้ดังนี้
    
        "ท้ายเรือร่อนระส่ายสัน" เป็นอากัปกิริยา
    
    ของตัวเรือที่ถูกกระหน่ำด้วยอาเพศแห่ง
    
    ธรรมชาติ
    
        "ธงริ้งปลิวอนันต์" เป็นอากัปกิริยาของ
    
    ธงริ้วที่ปัก ณ หัวและท้ายของเรือ ที่ถูกลม
    
    กระโชกพัดอย่างแรง
    
          "เลือดทรุดสุดจะเยียว" มีความหมายสอง
    
    แง่นะครับ นั่นคือ สิ่งแรกคือ การสัมผัสเพื่อ
    
    เสียง  แต่ถ้าพิจารณาเนื้อความให้ถี่ถ้วน
    
    จะทราบว่า เลือดหลั่งไม่มีหยุดไงครับ
    
         การเรียกชื่อลักษณะแห่งคำประพันธ์
    
    ประเภทนี้  ไม่มีข้อจำกัดครับ  เมื่อได้เข้าไป
    
    ศึกษางานเขียนของผู้รู้ เช่น นักประพันธ์
    
    ชื่อดัง ร.ท.(อาจารย์ เริงชัย  ทองหล่อ)
    
    และก็ได้เอาแบบที่ท่านอาจารย์เขียนนิยาม
    
    ของบทประพันธ์ประภทนี้ไว้ว่า กาพย์ห่อโคลง
    
    แต่ถ้าสมัย ท่านอาจารย์ ชิต บุรทัต ท่านได้
    
    เรียกบทประพันธ์ประเภทนี้ว่า กาพย์เห่
    
    ดังนั้น ในปัจจุบันจึงเรียกชื่อของบทประพันธ์
    
    ประเภทนี้ได้ทั้งสองอย่าง นั่นคือ กาพย์เห่ก็ได้
    
    กาพย์ห่อโคลงก็ได้
    
         เรื่องของ SOUND EFFECT ข้าพเจ้าไม่
    
    สันทัดจริงๆ  เรื่องนี้ต้องรบกวน น้ำนมชี้แนะ
    
         โคลงที่ใช้ในรามราชท้ายน้ำ  เป็นลักษณะ
    
    ที่คล้ายโคลงสี่สุภาพ แต่ถ้าไร้การบังคับ
    
    เอก โท จะเรียกว่า โคลงกากคติ นะครับ
    
       "พื้นนภา" ที่ข้าพเจ้าใช้ก็ได้นึกไปถึง
    
    บทประพันธ์ของท่านอาจารย์บุคคลหนึ่งที่ใช้
    
    ว่า "พื้นฟ้าและท้องน้ำ"  แต่เมื่อ น้ำนมให้
    
    แนวคิดแบบนี้มา ก็ทำให้ข้าพเจ้าคิดว่า
    
    เป็นสิ่งที่ดี  การเลือกสรรคำมาเปรียบใน
    
    บริบทของรสแห่งบทประพันธ์เป็นสิ่งที่เรียกว่า
    
    หลายหลากมากด้วยความคิดของนักประพันธ์
    
    และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นที่สุดคือ ความ
    
    สุนทรียภาพแห่งกลอนกานท์ เหมือนที่คุณ
    
    กล่าวนั้นแหละครับ
    
        และสิ่งที่ข้าพเจ้าอยากจะเน้นกับคุณ นั่น
    
    ก็คือ  ผู้เป็นนักประพันธ์ ไม่มีสิทธิ์หรอกครับ
    
    ที่จะไปขุ่นข้องหมองใจ ต่อผู้ติชม จะมีแต่ก็ 
    
    ความยินดีเสียอีก ที่บทประพันธ์ของเขา
    
    เข้าไปเร้าวิญญา แล้วสื่อสารภาษาออกมาเป็น
    
    บทความดีๆ เพื่อการปรับปรุงต่อไป
    
         สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้า กุหลาบน้ำตา ขอขอบ
    
    พระคุณ  น้ำนมราชสีห์ เป็นอันมากนะครับ
    
    ข้าพเจ้าอยากให้ คุณ เข้าไปชมงานทุกๆชิ้น
    
    ของ กุหลาบน้ำตา  และถ้าคุณอยากจะคุยก็
    
    ในเมลสิครับ หรือ 0897864620 ตลอดเวลา
    
    นะครับ
    
    57.gif57.gif57.gif57.gif57.gif
  • กุหลาบน้ำตา

    23 กุมภาพันธ์ 2550 16:57 น. - comment id 661902

    46.gif46.gif46.gif46.gif46.gif
    
    สวัสดีครับ ผู้หญิงไร้เงา
    
       ขอขอบคุณสำหรับคำติชมนะครับ
    
    เรื่องเล่ายังมีอีกมากมายครับ  คราวหน้าเจอ
    
    กัน ในรูปแบบใหม่นะครับ
    
    64.gif64.gif64.gif64.gif64.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน