ไท..ทรนง..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song716.html
บ้านของเรา 
บ้าน คือวิมานของเรา
เราซื้อเราเช่า
เราปลูกของเรา ตาม ใจ
ย่อมเป็นสถานทิพย์วิมานพอหาได้
เป็นที่เกิด ที่ ตาย
ที่เราสร้างเอาไว้คอยท่า
บ้าน คือวิมานของ คน
ถึงแม้ยากจน
ก็ต้องดิ้นรน
อย่าจนปัญญา
หาบ้านสักหลัง
ที่พอประทังชีวา
เพื่อสนิทในนิทรา
ให้ตื่นมามองโลกชื่นใจ
บ้าน ฉัน มีเพลงฝันให้ฟัง
มีเสียงระฆัง
จากกังสดาลพริ้งไป
มีสวนไม้ดอก
ผลิบานก้านกอช่อใบ
มีความรัก มีน้ำใจ
มีให้อภัย มีกรุณา
บ้าน คือวิมานของเรา
ยามพบความเศร้า
รีบกลับบ้านเรา
จะเปรมปรีดา
เพราะบ้านมีรัก
น้ำใจอภัยกรุณา
คอยเราอยู่ทุกเวลา
ในชายคาเขตบ้านของเรา
บ้าน ฉัน มีเพลงฝันให้ฟัง
มีเสียงระฆัง
จากกังสดาลพริ้งไป
มีสวนไม้ดอก
ผลิบานก้านกอช่อใบ
มีความรัก มีน้ำใจ
มีให้อภัย มีกรุณา
บ้าน คือวิมานของเรา
ยามพบความเศร้า
รีบกลับบ้านเรา
จะเปรมปรีดา
เพราะบ้านมีรัก
น้ำใจอภัยกรุณา
คอยเราอยู่ทุกเวลา
ในชายคาเขตบ้านของเรา... 
 ...............


ราตรีนี้ฟ้ายังไร้แสงแห่งจันทร์เพ็ญ
ฟังบทเพลงบ้านของเรา
ด้วย..ความรู้สึกดื่มด่ำล้ำลึก
หอมการะเวกแผ่วผ่าน
บานกระจกกว้าง..ลอดไล้มา..โลมใจ
ให้แสนชื่นใสงาม
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
พร้อมกับ...
ปลายสายระบายบ่นรำพึงรำพัน
ถึงฝันร้ายแห่งโลกมายา
*โลกของงาน*
ที่..
พานพบว่ามีเพียงพากันแย่งชิง..ทำร้าย
หมายเหยียบบ่าเหยียบไหล่ 
ก้าวขึ้นไปสู่ความมีอำนาจวาสนาบารมี
หาก..
ไร้สิ้นความเมตตา แบ่งปัน โอบเอื้อ
เพื่อผดุงยุติธรรม ให้แผ่นดินนี้
ได้รับประโยชน์โภชน์ผลสูงสุด
ให้..
สงบร่มเย็นเป็นสุข 
กับความสมานฉันท์สามัคคี
ใช่...!
แค่ชิงดีชิงเด่น แบ่งพรรคแบ่งพวก
จนชาติย่อยยับอัปราชัย
ก็..
หาได้ตระหนักไม่...


ใจดวงนวล จึงหนาวเหน็บเหน็บหนาว
เศร้าราน
ไปกับผู้เป็นที่รักแลกับโลกย์กิเลสนี้
ที่คงทำหน้าที่ได้เพียงให้หยาดน้ำค้างคำ
ระร่ำรินธารน้ำใจใสเย็น 
ปลอบปลุกประโลมให้ลุกขึ้นสู้ความอธรรม 
น้อมนำความถูกต้อง
ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน
อย่างคนที่มีดวงกมลเหนือโลกเหนือโศกสุข
เหนือ..ทุกข์แห่งความอยากได้ใคร่มี
อย่าง..
มนุษย์ผู้ที่มีปัญญาถึงพร้อม
ผู้รู้สึกตัว รู้ทันเท่า..
เฝ้าพัฒนาเพาะบ่มห่มหอมด้วยสายแสงธรรมแสงทอง
ให้จิตวิญญาณผ่องพรรณรายฉายรัศมีบุญ
ดั่งบัวบานเหนือน้ำ..พ้นน้ำ..
 ตระการชูช่อ
พ้นหมองมัวมลทินใด มลทินใจ..


ในเดียวดาย 
กับสายธารแห่งการต่อสู้ของมวลมนุษยชาติอันแสนเชี่ยวกราก
หลากหลาย ร้ายแรงขึ้นทุกวี่วัน 
ให้..
ผู้คนบริสุทธิ์พากันขวัญหาย
คล้ายความโหดร้ายทำลายคือเรื่องปกติธรรมดา
จนน่าเหว่ว้าเศร้าใจ..แสนโศกสะเทือน....
ดวง..ได้เพียงสวดมนต์อธิษฐานจิต
ภาวนา..
ให้ทุกชีวิตในผืนดินไทยและผู้เป็นที่รัก
ได้พบกับความสะอาดสว่างสงบ 
สยบความแล้งไร้เร่าร้อน
ไปทุกหย่อมหญ้า ในยามนี้...


ที่..แท้เล้ว
คือ..
แผ่นดินแม่...
แผ่นดินอุดม..ที่ให้อิสรา
ให้..
หัวใจได้พบพระพุทธศาสนา
ได้เกิดมา...
ในร่มฉัตรเพชรพระบุญญา
แห่งองค์พระพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย
ให้สองขาเราได้หยัดยืนอย่างทรนง
ให้เรายังคงเงยหน้ามองฟ้าดินได้อย่างเต็มตา
ให้ในน้ำยังมีปลา ในนายังมีข้าว
ให้..
ยังมีสาวหนุ่มผู้ยังคงรู้คุณค่า
รู้..รักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย
ที่หลอมละลายใจให้เรารู้สำนึกแสนรัก
ในวิถีทองวิถีทุ่งวิถีธรรม


เพียงเพื่อ..
มาบ่มร่ำน้อมนำให้เราแสนภาคภูมิปิติ
ว่า..
ลูกหลานเหลนโหลนไทยนี้..
ใช่ทาสใคร...!!!!
..........................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song510.html
แผ่นดินของเรา 
แผ่นดิน ของเรา
ย่อมเป็น ของเรา ชาติไทย
ใกล้ไกล
ย่อมเป็น ของเรา ชาติไทย
เลือดไทยไหลโลม ลงดิน
ใครหมิ่น ศักดิ์ศรี คนไทย
ย่อมมีวัน สักวัน ให้ไทย
ล้างใจ อัปรีย์
แผ่นดิน ของเรา
ย่อมเป็น ของเรา อยู่ดี
ที่ใด ย่อมเป็นของไทย อยู่ดี
หากเชือดเฉือนไป คราใด
ย่อมแสน หวั่นไหว ชีวี
ปฐพี แหลมทอง ช่วยกัน
คุ้มครองป้องกัน
แผ่นดิน ของเรา
ย่อมเป็น ของเรา อยู่ดี
ที่ใด ย่อมเป็นของไทย อยู่ดี
หากเชือดเฉือนไป คราใด
ย่อมแสน หวั่นไหว ชีวี
ปฐพี แหลมทอง ช่วยกัน
คุ้มครองป้องกัน
สัก วันต้องคืนกลับมา
มั่นใจ เถิดหนา
ขอพลี ชีวารักษาชาติไทย
ชาติไทยคู่ฟ้า
เลือดทา แผ่นดิน... 
......................
 

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song314.html
บ้านเรา 
บ้าน เรา แสน สุขใจ
แม้จะอยู่ ที่ไหน
ไม่สุขใจ เหมือนบ้านเรา
คำ ว่าไท ซึ้งใจ เพราะใช่ ทาสเขา
ด้วยพระบารมีล้นเกล้า
คุ้มเรา ร่มเย็น สุขสันต์
รุ่ง ทิพย์ ฟ้า ขลิบทอง
พริ้วแดดส่อง สดใส
งามจับใจ มิใช่ฝัน
ปวง สตรี สมเป็นศรีชาติ เฉิดฉัน
ดอก ไม้ชาติไทยยึดมั่น
หอมทุกวัน ระบือ ไกล
บุญ นำพา กลับมาถึงถิ่น
ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร
หัว ใจฉัน ใครรับฝาก เอาไว้
จาก กัน แสน ไกล ยังเก็บไว้ หรือเปล่า
เมฆ จ๋า ฉัน ว้า เหว่ ใจ
ขอวานหน่อยได้ไหม
ลอยล่องไป ยังบ้านเขา
จง หยุดพัก แล้วครวญรับฝาก กับสาว
ว่าฉันคืนมาบ้านเก่า
ขอยึดเอา ไว้เป็น เรือน ตาย... 
				
comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    19 มีนาคม 2550 23:18 น. - comment id 673287

    ข่าวในแต่ละวันที่ออกมาในช่วงนี้
    ไม่เห็นมีสักข่าวที่ชวนปรีดาเลยค่ะ
    มีแต่เรื่องเลือด กับ ตาย ..
    
    ทุกครั้งที่อ่านข่าว ก็รู้สึกสลดตาม
    และได้แต่ไม่เข้าใจว่า ผู้ที่ก่อให้เกิดข่าว ไม่มีหัวใจหรือไร
  • พุด

    19 มีนาคม 2550 23:59 น. - comment id 673298

    คุณอิมที่รัก
    
    เคยมีคนปรารถนาดีค่ะ
    เมล์ภาพสยดสยองขวัญมาให้
    เป็นภาพโหดร้ายทารุณ
    ของการฆ่ากันระหว่างไทย ไทย
    
    ที่ทำให้หัวใจพุดพัดชาระทมสะเทือนค่ะ
    เลย..สั่งห้ามว่า
    ทีหลังอย่าได้หวังดีให้หัวใจดวงดีดี
    ดวงนี้ต้องมารับข่าวสาร
    บริโภคขยะใจขยะใดๆ
    ที่ใจไม่ต้องการเลยค่ะ
    
    หากอยากทราบข่าวสารสาระ
    ก็แค่อ่านหัวข้อข่าวจับประเด็น
    น่าสนใจในทิศทางบ้านเมือง
    ว่าจักเป็นเช่นไร
    
    และ
    พุดพัดชา กำลังรวบรวมสติปัญญา
    หวังรจนางานสักเรื่อง
    เกี่ยวกับไฟใต้ค่ะ
    ที่หวังอยากให้นางเอกเป็นนักรบ
    พร้อมพลีชีพ
    เพื่อ..
    *แผ่นดินแม่*นี้
    ที่เรียกว่า...
    แผ่นดินไท
    แผ่นดินทองแผ่นดินธรรมค่ะ36.gif
  • พุด

    20 มีนาคม 2550 00:06 น. - comment id 673299

    10.gif16.gif29.gif
    จากเสี้ยวนึงในเรื่องรักรจนา
    ภูมิใจนำเสนอ..
    ด้วยจิตวิญญาณ
    แห่งความกตเวทิตาต่อแผ่นดินนี้
    แผ่นดินที่
    ได้ให้ชีวีชีวิตเราได้หยัดยืนอย่างทรนงค่ะ
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem76049.html
    
    แผ่นดินของเรา!
    
    .....................
    ..............................
    ........................................
    ตลับเพชร..หนาวเยือกในดวงใจ...เป็นยิ่งนัก
    
    พร้อมดวงดอกลั่นทมที่ปลิดปลิวลิ่วลอยควะคว้าง
    โปรยปรายลงมาในท่ามกลางสายลมหนาว
    ที่ฝากความหอมเศร้า
    
    ราวให้รำลึกว่า...
    
    ทุกสรรพชีวิตและสรรพสิ่งบนผืนโลกนี้ 
    ไม่ว่า...จะยิ่งใหญ่ ยากดีมีจนแค่ไหน...
    
    ในที่สุดทุกคนทุกดวงใจทุกร่าง...ก็จำต้องชดใช้วิบากกรรม
    ต่างก็ต้องฝากฝังคืนร่างไร้...ไว้กับผืนพสุธา..
    
    
    
    หากจะเหลือ
    ก็คงเพียงเรื่องราวตำนานแห่งความเป็นจริง
    ของ..วีรบุรุษคนกล้าแห่งแผ่นดินไทยที่แสนยิ่งใหญ่...ก่อนจะลาลับดับพลี
    
    ที่ได้เพียรสร้างคุณงามความดีไว้ให้ผู้คนรุ่นหลังได้กล่าวขวัญ
    รำพันรำพึงด้วยความศรัทธาชื่นชมโสมนัส
    และ..
    แสนภาคภูมิ...ปิติใจ พอที่จะนำไปเป็นแบบอย่าง 
    
    
    
    ก่อนที่...
    จะทิ้งร่าง..แลจิตวิญญาณดวงงาม
    พรากลาตามไป...อย่างมิอาจหลีกลี้หนีพ้น.....!!!!!!
    
    
    ******************
    
    
    รจนาพลีเทิดพระเกียรติ
    ถวายแด่สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท
    และ
    แด่ทุกดวงวิญญาญบรรพชนผู้หาญกล้า
    และ
    อีกหนึ่งวีรบุรุษนักรจนา ในดวงใจพุดพัดชา
     คุณปองพล อดิเรกสาร
    ท่านผู้ที่ฝากผลงานอันแสนงามจิตวิญญาณยิ่งใหญ่
    แห่งประวัติศาสตร์ชาติไทยไว้ให้อนุชนและลูกหลาน
    ได้ภาคภูมิปิติใจในแผ่นดินของเราค่ะ
    
    ...........
    
  • พุด

    20 มีนาคม 2550 00:11 น. - comment id 673300

    16.gif%10
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song510.html
    (แผ่นดินของเรา)
    .................
    
    
    ตลับเพชร.....
    ตัดสินใจมาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ..
    
    และ...
    ที่นี่..ที่..วัดสลักหรือวัดมหาธาตุ
    ในยามตะวันชิงพลบ...
    
    
    
    เธอคนดี
    กำลังนั่งทอดตาเหว่ว้า
    ใต้ลีลาวดีใบเขียวไพลดอกพราวใกล้ๆลานโล่งกว้าง
    และ..
    นัยน์เรียวตาอันแสนอ้างว้าง...
    ราวเพิ่งผ่านพ้นเรื่องรานโศกสะเทือนใจมา..มิช้านาน
    ราวกับมีหยาดเพชรละออคลอซึมค้าง
    ดั่งหยาดน้ำค้างใสพร่างรอร่วงพรู
    
    
    
    เธอ....
    ตัดสินใจ มาที่นี่ มาตามหารอย..*วีรบุรุษในดวงใจ*
    และ..คงเป็นของคนไทยทั้งชาติ..หากมิพลาดอ่าน
    
    
    
    หนังสือนวนิยายแสนดีอิงประวัติศาสตร์
    ชื่อว่า*รัตนโกสินทร์ กำเนิดกรุงเทพ
    โดยคุณปองพล  อดิเรกสาร 
    ให้จบลง.........
    
    
    
    และ...
    นาทีนี้เธอ..
    อยากแนะนำให้ทุกดวงใจ
    * กระวีกระวาด**นักอยากจะเขียน*ในร่มรัก
    ได้ซื้อหามาอ่านผ่านตา
     เพราะจะมีคุณค่าทางด้านจิตวิญาณบ้านภายใน
    
    
    
    
    ให้เราทุกดวงใจ
    ได้รำลึกรู้ถึงความยิ่งใหญ่
    ในความเสียสละของบรรพบุรุษไทย...บรรพชนของเรา
    ผู้พลีเลือดทุกหยดรินรดลงหลั่งชะโลมหล้า
    เพื่อปกบ้านป้องเมืองไว้ให้เราลูกหลานไทย
    
    
    ได้มีแผ่นดินไท มิใช่ทาส ..
    ได้หยัดยืนอย่างองอาจภาคภูมิในแผ่นดินทองของเรา
    
    ให้รู้กตเวทิคุณและภูมิใจในสายเลือดนักรบไทย ผู้ทรนงและหาญกล้า
     สอนให้เรารู้ซึ้ง...ถึงค่าคำว่ากตัญญูรู้คุณต่อผืนแผ่นดิน
    
    
    และ...
    รู้จักจดจำมิสร้างประวัติศาสตร์ชาติให้ชอกช้ำย้ำรอยเดิม
    
    ให้รู้จำคำว่าสงครามนั้น..
    หากตราบใดที่กระโจนลงมาในสนามภูมิรบกัน
    ก็จะมีทั้งวันพ่ายแพ้แลชนะ
    
    ใครพลาดท่าก็จะตกเป็นฝ่ายย่อยยับอัปราชัย..!!
    
    ให้เกิดความโศกเศร้าสะเทือนใจ..ที่สุดแสนเทวษถวิล..!!!
    อย่างในยามที่เราสิ้นกรุงศรีอยุธยา ..!
    
    
    ในคืนที่ฟ้าไทในกรุงศรีอยุธยาแดงโชติช่วงฉายฉาน
    ปานประหนึ่งอาบท่วมไปด้วยเลือด เลือด..และเลือด..!!!!!
    
    มีเพียงม่านควันไฟลุกโพลงโหมไหม้
    ทำลายบ้านเรือนวัดวาอาราม
    ที่แสนมลังเมลืองอลังการปานทิพยวิมานสวรรค์สรวงมาเยือนหล้า...อย่างย่อยยับ..!!!!!
    เหลือ...เพียงทรากปรักหักพังในชั่วพริบตา.....!!!!
    
    
    ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง
    อันโหยหวน เสียงอาวุธ กระทบกัน ทั้ง  หอก ดาบ ปีนคาบศิลา
    
    และ..
    ที่ตามมา...คือ...กลิ่นคาวเลือด...และซากศพนับหมื่นพัน
    ทั้งไทยพม่าที่ฟาดฟันกันอย่างไร้ปรานี..ปล่อยให้ชีวีหลุดลอยปลิดปลิว
    ตายไปในสมรภูมิรบ..ราวใบไม้ร่วง
    ถมซ้อนทับกัน..จนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร..!!!!! 
    
    
    ไหนจะเสียงร้องระงม...ตามหากันจ้าละหวั่น
    เพื่อให้หนีภยันตรายอันหมายถึงชีวิตให้พ้นผองภัย
    
    ทั้งเด็กผู้หญิงที่จักถูกเข่นฆ่าอย่างไร้ความปรานี 
    อย่างที่มิสามารถจะปกป้องตนเองได้
    
    ความโหดร้ายเหี้ยมเกรียม  ทารุณในสนามรบ .!
    ไฟที่กำลังคุโพลง..!สว่างจ้า  ราวกลางวัน
    
     หากทว่าในดวงใจไททุกดวงราววัน*แห่งอาทิตย์อับแสง..!!! *
    แฝงด้วยความโศกาอาดูรพูนเทวษ 
    
    จนน้ำตาก็ไร้ค่ามิพอที่จะหลั่งรินสังเวย..ทั่วทั้งปฐพี!!!!
    
    
    มีเพียงใจดวงหนาวร้าวระกำช้ำลึกอย่างยากที่จะเยียวยา..!!!!
    
    ราวกับสิ้นทั้งโลกหล้า 
    ฟ้า แล ดิน..สิ้นอินทร์พรหม ยมพญา
    พลอยพากันวิปโยคโศกสะเทือน...โหยไห้..ร่ำหา..ครางครวญ
    อวลกลบกลืนไปทั้งผืนฟ้า........อยุธยาธานี 
    
    ที่ ณ..บัดนี้..ร้างไร้...
    คล้ายเหลือเพียงจิตวิญญาณ
    
    ที่ลอยล่อง อย่าง...เจ็บช้ำ เจ็บแปลบ แสบแสน ในโศกนาฎกรรมนี้
    
    ที่มิอาจพลี จิตร่างรักษาเมืองไว้ให้ลูกหลานได้.....!!!!!
    ....................
    ..............................
    
    
    
    ตลับเพชร ....
    ราวได้ยินเสียงบทรำพันอันอาดูรสูญสิ้นแล้ว..... จากนิราศนรินทร์
    
    ที่รำพึงถวิลถึงอดีตอันแสนงามตราตรึง..
    ในคะนึงใน ลอยแว่วแผ่วโหยเศร้า...เคล้าสายหนาวลมหลังฝนมาณ..นาทีนี้
    .............
    
    
    
    ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง เผยแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า แจกแจงจ้าเจิดจันทร์ เพียงพิพรรณผ่องด้าว ขุนหาญห้าวแหนบาท สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน สายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า ราญราบหน้าเภริน เข็ญข่าวยินยอบตัว ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว ทุกไทน้าวมาลย์น้อม ขอออกออมมาอ่อน ผ่อนแผ่นดินให้ผาย ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว เลี้ยงทแกล้วให้กล้า พระยศไท้เทิดฟ้า เฟื่องฟุ้งทศธรรม ท่านแฮ
    
    
    
    
    อยุธยายศล่มแล้ว                           ลอยสวรรค์ ลงฤา
    สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร                  เจิดหล้า 
    บุญเพรงพระหากสรรค์                   ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ 
    บังอบายเบิกฟ้า                               ฝึกฟื้นใจเมือง
    
    เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น                     พันแสง 
    รินรสพระธรรมแสดง                       ค่ำเช้า 
    เจดีย์ระดะแซง                                เสียดยอด 
    ยลยิ่งแสงแก้วเก้า                            แก่นหล้าหลากสวรรค์ 
    
    โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้น                    ไพหาร 
    ธรรมาสน์ศาลาลาน                          พระแผ้ว 
    หอไตรระฆังขาน                              ภายค่ำ 
    ไขประทีปโคมแก้ว                            ก่ำฟ้าเฟือนจันทร์ 
    
    เสร็จสารพระยศซ้อง                         สรรเสริญ 
    ไป่แจ่มใจจำเริญ                              ร่ำอ้าง 
    ตราตรอมตระโมจเหิน                       หวนสวาท 
    อกวะหวิวหวั่นร้าง                              รีบร้อนการณรงค์ 
    
    แถลงปางบำราศห้อง                          โหยครวญ 
    เสนาะเสน่ห์กำศรวล                          สั่งแก้ว 
    โอบองค์ผอูนอวล                                ออกโอษฐ์ อรเอย 
    ยามหนึ่งฤาแคล้วแคล้ว                      คลาดคล้ายขวบปี 
    
    รอยบุญเราร่วมพร้อง                          พบกัน 
    บาปแบ่งสองทำทัน                              เท่าสร้าง 
    เพรงพรากสัตว์จำฝัน                          พลัดคู่ เขาฤา 
    บุญร่วมบาปจำร้าง                               นุชร้างเรียมไกล 
    
    จำใจจากแม่เปลื้อง                             ปลิดอก อรเอย 
    เยียวว่าแดเดียวยก                            แยกได้ 
    สองซีกแล่งทรวงตก                             แตกภาค ออกแม่ 
    ภาคพี่ไปหนึ่งไว้                                   แนบเนื้อนวลถนอม 
    
    โอ้ศรีเสาวลักษณ์ล้ำ                             แลโลม โลกเอย 
    แม้ว่ามีกิ่งโพยม                                  ยื่นหล้า
    แขวนขวัญนุชชูโฉม                            แบกเมฆ ไว้แม่ 
    กีดบ่มีกิ่งฟ้า                                         ฝากน้องนางเดียว 
    
    โฉมควรจักฝากฟ้า                               ฤาดิน ดีฤา 
    เกรงเทพไท้ธรณินทร์                           ลอบกล้ำ 
    ฝากลมเลื่อนโฉมบิน                             บนเล่า นะแม่ 
    ลมจะชายชักช้ำ                                     ชอกเนื้อเรียมสงวน 
     
    ฝากอุมาสมรแม่แล้                               ลักษมี เล่านา 
    ทรามสวยมภูวจักรี                                เกลือกใกล้  
    เรียมคิดจบจนตรี โลกล่วง                     แล้วแม่ 
    โฉมฝากใจแม่ได้                                 ยิ่งด้วยใครครอง 
    
    บรรจถรณ์หมอนม่านมุ้ง                       เตียงสมร 
    เตียงช่วยเตือนนุชนอน                       แท่นน้อง 
    ฉุกโฉมแม่จักจร                                  จากม่าน มาแฮ 
    ม่านอย่าเบิกบังห้อง                              หับให้คอยหน 
    
    สงสารเป็นห่วงให้                                 แหนขวัญ แม่ฮา 
    ขวัญแม่สมบูรณ์จันทร์                           แจ่มหน้า 
    เกศีนีนิลพรร                                       โณภาส 
     งามเงื่อนหางยูงฟ้า                               ฝากเจ้าจงดี 
    
    เรียมจากจักเนิ่นน้อง                           จงเนา นะแม่ 
    ศรีสวัสดิ์เทอญเยาว์                              อย่าอ้อน
    อำนาจสัตย์สองเรา                                คืนร่วม กันแม่ 
    การณรงค์ราชการร้อน                          เร่งแล้วเรียมลา
                             ....................................
    
  • หอมดอกลำดวน

    20 มีนาคม 2550 05:31 น. - comment id 673332

    น้อมคารวะ
      สมควร เป็น พุด   สาวบ้านนา  ผู้เก่งกล้า  แสดงสื่อจิตวิญญาณ ได้เยี่ยมยอด  โขกหัวคารวะ พันครั้ง รับผู้น้อยเป็นลูกศิษย์ด้วยเถิด
    29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif
  • japon

    20 มีนาคม 2550 07:53 น. - comment id 673334

    บ้านของใคร ของใครก็ รักเรือนขวัญ
    ที่สร้างสรร วิญญาน อิศระ
    อีกประชา ธิปไตย ไม่ลดละ
    อย่าปะทะ ผิดถูก ด้วยกำลัง....ฯ
    29.gif36.gif16.gif
    วันนี้มีใจคิดถึงบ้านเมืองเพียงเท่านี้
  • กุหลาบขาว

    20 มีนาคม 2550 08:33 น. - comment id 673350

    แวะมาชื่นชมผลงานค่ะ..29.gif36.gif
  • บุญนำ

    20 มีนาคม 2550 10:10 น. - comment id 673414

    เห็นเห็นด้วยอย่างยิ่งนะคร๊าบ
    สู้ลำบากลำบนกว่าจะได้
    แต่กลับโดนพวกวิ่งเก่งแซงหน้าไป
    แถมกลับได้ความชอกช้ำระกำมา7.gif
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    20 มีนาคม 2550 16:30 น. - comment id 673694

    แวะมาชื่นชมผลงานค่ะ11.gif36.gif
  • ก่องกิก

    21 มีนาคม 2550 17:47 น. - comment id 674309

    มช้าหน่อยนะครับช่วงนี้กำลังยุ่งงาน
    ผลงานออกมาดีครับ
    36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน