แด่..ดวงหทัยทอง..ผู้ครองฝัน..!

พุด


ฟ้าวันนี้ไยเป็นสีโศก 
ราวโลกทั้งโลก
ถูกจิตรกรชื่อธรรมชาติสาดสีแกล้งกระนั้น
ฝนเพิ่งหยุดตก 
หากยังมีหยดน้ำหยาดตึ๋ง ๆจากชายคากระท่อม
ดูงามดั่งดวงแก้วกุดั่นพรรณราย
ฤดี..ปล่อยให้ละอองฝนกระทบร่างรานจนหนาวเยือก
ดวงดอกไม้ไทยรายรอบเรือนส่งกลิ่นอวลตรลบมากับลมหลังฝน
ที่พัดพรายให้หนาวเนื้อ หนาวใจเป็นยิ่งนัก


ฟ้าหลังฝนอึมครึมทึมเทาไปทั่ว 
จนพาให้ใจดูหมองหม่นสลัวตามบรรยากาศฟ้าฝน
ฤดี...เดินออกไปยืนรับลมเย็นที่กำลังพัดระรินๆ
แกมกลิ่นมวลสุคนธาไทยรายรอบ
หอม...จำปี จำปา กระดังงา 
ที่พากันแย้มตูมจากต้นสะพรั่ง
รอเวลาเบ่งบานหวานละออพ้อราตรี  
ให้แสนซึ้งเศร้ายิ่งหนาวนวลใจ..

เธอ..คนดีเอื้อมมือเด็ด 
ลีลาวดีมาเสียบแก้มแซมผมให้หอมห่มบ่มกลิ่นบุหงารำไพ
แกมด้วยการเวกละไมอีกสองสามดอกดวง 
ที่รอร่วงพ้อพื้นพราว
ที่สาวเจ้าตั้งใจจะนำไปวางเคียงหมอนให้นอนหลับฝันดี


และ..กับราตรีนี้..
ที่สิ้นไร้เดือนประดับฟ้า 
ดวงดาริกาก็พลอยหลบหน้าหนีหาย
ไปกับมวลหมอกเมฆหม่น..
เธอ..คืนเรือนกลับเข้าสู่ห้องหับ
ก่อนจะตลบมุ้งสีขาว 
ที่เป็นลายลูกไม้ระย้าระยับ
ดูงดงามราวกับห้องเจ้าสาวก็มิปาน
ด้วย..
มีเตียงโบราณสี่เสาที่ดูแสนงามขลัง 
ราวกับตกอยู่ในภวังค์ฝันว่าอยู่ในวันย้อนยุค
เธอ...ทอดร่างบนฟูกหนานุ่มนวล 
พร้อมกับหลับตาราวลืมโลกเหว่ว้า 
ภาวนาสมาธิ..หยุดฤดีไหวครวญหวนไห้
หาก..ไยเล่าหัวใจดวงดินดวงดี
จึงพลีเพียงคิดถึงใครคนหนึ่งอย่างแสนลึกซึ้งเสน่หา
ด้วยศรัทธาบูชาภักดี..


ใครคนที่กระซิบกล่าวคำลา
เพื่อบอกกับเธอว่า
*หากลมหายใจยังไม่สิ้น
เขาจะคืนเรือนกลับมาให้รับขวัญ*
ในวันที่เขา..
หวังและฝันว่า..
เธอจะปิติภาคภูมิกับภารกิจหน้าที่
ของลูกผู้ชายชาติทหารคนดีคนนี้
ที่เขาจักยอมสละสิ้นจนเลือดหยดสุดท้าย
เพื่อ..
พลีหมายรักษา*แผ่นดินแม่*เอาไว้
ให้ลูกหลานเหลนโหลนไทยภายหน้า
ได้ยืนหยัดอย่างอิสราทรนง
ให้สมค่าคำว่าไท...ไท...ไปตราบกาล...!


และ...
กับรานโศกในฤดีดวงที่แสนห่วงใย
ณ..เบื้องหน้าองค์พระปฏิมา
ที่เธอเข้าไปถวายมาลัยมะลิพวงบูชา
ท่ามน้ำตาเทียนทองทอ
ขอวอนกราบไหว้หมายอธิษฐานจิต
ที่เธอราวกับนิมิตเห็นล่วงหน้า
เพียงหยดเลือดสาดกระเซ็น...แดงฉาน..!
จากปลายกระบอกปืน
ที่หยิบยื่นความตายให้ชายผู้เป็นที่รักดั่งดวงใจแห่งเธอ
อย่าง...ไร้สิ้น ซึ่ง..ความ..ปรานี...!!
.........................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6194.html
อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์*แสงเทียน*
จุดเทียนบวงสรวง ปวงเทพเจ้า
สวดมนต์ค่ำเช้า ถึงคราวระทมทน
โอ้ชีวิตหนอ ล้วนรอความตายทุกคน
หลีกไปไม่พ้น ทุกข์ทนอาทรร้อนใจ
ต่างคนเกิดแล้ว ตายไป
ชดใช้เวรกรรมจากจร
นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง เสี่ยงบุญกรรม
ทุกคนเคยทำกรรมไว้ก่อน
เชิญปวงเทวดา ข้าไหว้วอน
ขอพรคุ้มไปชีวิตหน้า
ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
หนีปวงโรคาที่เบียดเบียน
แสงแววชีวาเปรียบแสงเทียน
เปรียบเทียนสิ้นแสง ยามแรงลมเป่า
ชีพดับอับเฉา เหมือนเงาไร้ดวงเทียน
จุดเทียนถวาย หมายบนบูชาร้องเรียน
โรคภัยเบียดเบียน แสงเทียนทานลมพัดโบย
โรครุมเร่าร้อน แรงโรย
หวนโหยอาวรณ์อ่อนใจ
ทำบุญทำทานกันไว้เถิด เกิดเป็นคน
ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่
เคยทำบุญทำคุณ ปางก่อนใด
ขอบุญคุ้มไปชีวิตหน้า
ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
แสงเทียนบูชาจะดับพลัน
แสงเทียนบูชาดับลับไป... 
 

				
comments powered by Disqus
  • 5 มิถุนายน 2550 23:34 น. - comment id 705980

    y1p-pl-XrjxRsQict0xXSe2IY-C4UVV-iVjs9A6q 
    
    แวะมาอ่านคำเพราะๆ และดนตรีจับใจค่ะพี่พุด
    พร้อมเอาดอกไม้มาฝากด้วยค่ะ
    
    11.gif
  • อินสวน

    6 มิถุนายน 2550 11:42 น. - comment id 706140

    วันนี้อ่านกลอนแล้วเศร้าครับ....เพลงก็ทำให้เกิดทั้งกำลังใจและปลง....ครับ
  • อัลมิตรา

    6 มิถุนายน 2550 12:04 น. - comment id 706151

    เมื่อคืนนี้ ฟ้าคำรามโครมครามเสียงดังมาก ๆ 
    แสงของสายฟ้าก็แปล๊บแลบมาถึงในห้องนอน
    
    หลับไปแล้วนะนั่น นึกว่ามีคนมาแอบถ่ายรูป .. ฮา
    
    เช้านี้ ตามรายทาง เห็นต้นไม้บางต้นลู่ล้ม
    อากาศสดชื่นนะคะ .. ถึงแม้ว่าจะหลับไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่
    แต่ก็ปลอดโปร่งโล่งใจ ค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน