ช่อดอกไม้ใช่น้ำตา!

พุด


แสงอาทิตย์ยามสนธยา อาบร่างเธอที่เดินทอดน่องช้าช้า
ไปตามทางสายโศก สายโลก เฉกเช่นทุกวัน
ดวงอาทิตย์แดงแปร๊ดดวงโต  แหวกหวานผ่านม่านเมฆหว่านสีแสงสวย
 ไล้เรียวแก้มวงหน้าดั่งทองทาดั่งทาทองมลังเมลือง..
ร่างนั้น หยุดนิ่ง..ริมลำประโดง ดื่มด่ำกับดงหญ้า
และดงดอกโสนเหลืองละออที่กำลังล้อลมพราวไสว
นกกา ต่างพากันโผผินบินกลับรัง...รังใจรังใครก็รังมัน..
ลำแสงอันอ่อนอุ่นอาบละมุนจับดวงใจ..
เงียบสงบงาม..ก่อจรัสกระจ่างสว่างใส
ให้แสงไพรแสงธรรมชาติ แสงทองส่องพบธรรมะ ธรรมชาติ  ธรรมดาๆ

นี่คือโลกหล้า..ที่อยู่ภายใต้เงื้อมเงาดวงสุริยา
มีพสุธา อวลอากาศ ที่ให้หวานหวังให้พลังชีวิตหยัดยืน
ฝืนสู้ทายท้า มิว่ากี่ครั้งกี่คราที่ล้มลุกคลุกคลาน 
มีหวานมีเศร้าคลุกเคล้าสับสนปนเปมิยาวยืน..
ต้องตื่นมาเผชิญยอมรับความจริง 
สิ่งผันแปรมิแน่มินอนทุกชีวาทุกชีวีหนีไม่พ้นวง..วน..กรรม....

หัวใจดวงฝัน  ของเธอ..มิได้ร้องไห้มิได้ครวญคร่ำ 
หากกำลังแว่วเสียงเพลงบรรเลง
บทเพลงแห่งศรัทธารักศรัทธาฝันนิรันดร 
เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเป็นจอมใจปวงชนชาวไทย..มายาวยืน
บทเพลงพระราชนิพนธ์..ชะตาชีวิต..
ที่สถิตงามสอนใจในทุกยาม
ยามดวงใจไหวอ่อนล้าท้อแท้..อยากหยุดยอมแพ้ยอมพ่าย
ให้รู้เรียกใจ..ทำใจยอมรับในวกวน
ในเนื้อกมลมนุษย์มนามากมีมากมาย 
ที่มาร้ายมาดีมากมีรสชาติ......

บทเพลง...http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6193
ชะตาชีวิต เพลงพระราชนิพนธ์
นกน้อยคล้อยบินมาเดียวดาย
คิดคิดมิวายกังวลให้หม่นฤทัยหมอง
ขาดมวลมิตรไร้คนสนิทคู่เคียงครอง
หลงไหลหมายปองคนปรานี
ขาดเรือนแหล่งพักพำนักนอน
ขาดญาติบิดรและน้องพี่
บาปกรรมคงมี จำทนระทม
ท้องฟ้าสายัณห์ตะวันเลือน
แสงลับนับวันจะเตือนให้ใจต้องขื่นขม
หากเย็นลงฟ้าคงยิ่งมืดยิ่งตรอมตรม
ชีวิตระทมเพราะรอมา
จวบจันทร์แจ่มฟ้านภาผ่อง
เฝ้ามองให้เดือนชุบวิญญา
สักวันบุญมา ชะตาคงดี
นกน้อยคล้อยบินมาเดียวดาย
คิดคิดมิวายกังวลให้หม่นฤทัยหมอง
ขาดมวลมิตรไร้คนสนิทคู่เคียงครอง
หลงไหลหมายปองคนปรานี
ขาดเรือนแหล่งพักพำนักนอน
ขาดญาติบิดรและน้องพี่
บาปกรรมคงมี จำทนระทม
ท้องฟ้าสายัณห์ตะวันเลือน
แสงลับนับวันจะเตือนให้ใจต้องขื่นขม
หากเย็นลงฟ้าคงยิ่งมืดยิ่งตรอมตรม
ชีวิตระทมเพราะรอมา
จวบจันทร์แจ่มฟ้านภาผ่อง
เฝ้ามองให้เดือนชุบวิญญา
สักวันบุญมา ชะตาคงดี....

บทเพลงนี้ที่เธอเลือกฝึกฝนให้คนดียอดดวงใจเป่าขลุ่ยคลอ..
ให้ทั้งหอห้องประชุมเงียบงัน....
 ในพลังอันเปลี่ยวเหงา เศร้าดายเดียวเดียวดาย
สอดสะท้านสะเทือนเสมือนบทเพลงสอนใจ
ให้ยอมรับสัจจธรรม.....ดั่งคำสอน..สักวันบุญมาชะตาคงดี..
ที่ตรึงใจเกี่ยวใจให้หยาดน้ำใสใสในเงาตาของคณะกรรมการหลั่งริน 
วันที่ดวงใจถวิลหวังจะไปไกลให้ถึงดวงดาวอีกฟากฝั่งฝัน อเมริกาเมืองแห่งฝัน
ให้ได้รับทุนอันต้องฝ่าฟันอย่างลำบากยากเย็น...
พร้อมกับเสียงปรบมืออันกึกก้อง..
ให้น้ำตาในคลองใจใครคนหนึ่งซึ้งซึ่งอยู่เบื้องหลังพลังเพียร..
ละหลั่งรินอย่างภาคภูมิ....ด้วยสมองสองมือเททอดถอดใจจากดวงใจรักนี้
ที่สามารถสร้างโลกให้งามดั่งฝันดั่งใจ
ขอแค่มี เพียงหัวใจ...ดวงแกร่ง..ดวงกล้า ท้าทาย..ดั่งดวงใจสิงห์ไม่ทิ้งชาติเชื้อทรนง....
..............

กลับมาจากคะนึง จากพลังฝันจากบทเพลง..แห่งศรัทธารักนิรันดร์..
โน่น..ต้นไม้ตายซาก แผ่ก้านราวประการังสีดำสยายกิ่ง
เป็นซากงาม ซากธรรมชาติ ที่ดั่งเป็นอีกฉากชีวิตสอนใจให้บทเรียน..
ที่ชีวี มิอาจ ยึดมั่นถือมั่น 
ต้นไม้นานาพรรณก็ประดุจดั่งมวลมนุษย์มากมายมากมี..
ที่ดำรงร่าง ดำรงใจต่างกัน ต่างจิตต่างใจ....

ต้นไม้ไพรต้นไม้ในป่าพง เรียนรู้คุณค่าที่จะโอบเอื้อดำรงพึ่งพาพึ่งพิง
รอพระพิรุณหลั่งรินจากฟากฟ้าโปรดพันธุ์ไม้นานา..สัตว์ป่า ห้วยหนองคลองบึง
ให้สดชื่น  ให้พฤกษ์ไพรมีไม้งามผลิใบอ่อนใสกล้า รักษาสมดุลย์ไพร ไม่เลือกที่รักใดที่ชังชอบ
เพียงประกอบกันด้วยน้ำฟ้ามารินรด..
และไม้เมือง..ประเทืองประทังฝันหวังหวานไปวันวัน 
รอวสันต์วัตถุพร่างพรม
ห่มอวดเปลือกนอกมิลอกใจถึงเนื้อในกระพี้ ใจ
ที่มากมีมักตัดสินดีเลวกันที่ดวงตาเห็นง่าย กับวัตถุที่หางามได้ภายนอก 
มิหวังลอกหวังลาไปค้นหางามเงียบใดในดวงใจในจิตวิญญาณ 
เพราะต้องผจญเวรผจญกรรมกับคำค่าน้ำเงินใช้แลกเปลี่ยน
ซื้อความพึงใจสุขใจตามๆกันไปในโลกเทคโนโลยี่นี้
ที่มีนวัตกรรมมากมีให้คลิ๊กลัดนิ้วมือเดียวก็ถึง..มิต้องสร้างซึ้งแสนนาน....
***********

กลับมาฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์แห่งศรัทธาฝันไกล
ไปกับมวลหมู่แมกไม้สายน้ำฟ้าดีกว่านะคะทุกดวงใจ..
เพลงสายฝน..
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6197
สายฝน เพลงพระราชนิพนธ์ : : Key C 
เมื่อลมฝน บนฟ้ามาลิ่ว
ต้นไม้พลิ้ว ลู่กิ่งใบ
เหมือนจะเอน รากคลอนถอนไป
แต่เหล่าไม้ ยิ่งกลับงาม
พระพรหมท่าน บันดาลให้ฝนหลั่ง
เพื่อประทัง ชีวิตมิทราม
น้ำทิพย์สาด
เป็นสาย พรายพลิ้วทิวงาม
ทั่วเขตคาม ชื่นธารา
สาดเป็นสาย
พรายพลิ้วทิวทุ่ง
แดดทอรุ้ง อร่ามตา
รุ้งเลื่อมลาย พร่างพรายนภา
ยาม เมื่อฝนมาแต่ไกล
พระพรหมช่วย อำนวยให้ชื่นฉ่ำ
เพื่อจะนำ ดับความร้อนใจ
น้ำฝนหลั่ง ลงมาจากฟ้าแดนไกล
พืชพันธุ์ไม้ ชื่นยืนยง.......
...........

นานนาที ที่เธอคนดีหยุดยืนนิ่งทิ้งดวงใจดื่มด่ำกับพลังธรรมชาติ
เปิดใจ ให้ไหลรินสู่ดวงจิตดวงใจวิญญาณไพร..
ที่ใครละหนอยากหยั่งถึงกระพี้
รู้ใจไปเสียสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างทุกความคิดทุกตัดสินใจ
นอกจากใจ..มองใจ..ใจเห็นใจ..ใจรู้ใจ..ใจตัดใจ..
ใจดับไฟ..ใจนำใจ..ใจกระจ่างใจ
และใจก็จะหยุดไหวครวญ นิ่งเงียบงาม วาง ว่าง..
*******

เธอละสายตา..ทอดน่องเนิบช้า..
มีรอยยิ้มอิ่มแก้มอุ่น
นั่นดงดอกรัก..น่าแปลกนักที่ยังชูช่อหอมงามขึ้นในราวป่า
ผลิดอกออกช่อแตกเป็นกองาม 
คนผ่านไปมาทุกยาม แต่จะมีใครบ้างแค่สักคน
จะมองเห็นค่างามลึกล้ำ
งามง่ายสัจจธรรมจากดวงดอกรักนี้
ที่ก่อเกิดได้ทุกที่ งามละออได้ทุกดิน!..
.........

เธอ.ผู้รู้ค่ารัก..ผู้รู้ค่างาม มิรู้สิ้นมิรู้จบ 
ต้องสยบขอแยกกอกก...ขุดหน่อมาเพาะชำฟูมฟัก
หวังให้ดงดอกรักมาบานพราวเคล้าคลึงคลอล้อริมรั้วบ้าน..
ล้อมรั้วรักระย้าย้อยห้อยงามทุกยามเย้ยหล้า..
ให้หวานกอต่อตระการ..คืนหวานเอื้อโลกฝันต่อดวงใจจากสายใยธรรมชาติ!..
........และ

เธอ.วาดหวัง.ตั้งใจจะร้อยมาลัยดวงดอกรักให้พิลาสพิไล ถวายเบื้องหน้าพระพุทธ
ขอให้ดวงใจผ่องผุดดั่งดวงทอง..
รู้มองโลกอย่างผู้รู้ตน อย่างว่าง อย่างพ้นพิลาปพิไรรำพัน
ขอหยุดฝันไม่จริง...หยุดนิ่งยอมรับชะตากรรม 
หยุดรักอันทุกข์โศกวิโยคครวญ
หยุดหวนไห้อาวรณ์ อ้อนอาลัย 
ไม่เหว่ว้า ไม่คะนึงหาคะนึงครวญถึงคู่มิควรมิใช่..!..

จะกราบขอพรพระ ขอตั้งสัจจะอธิษฐาน..จิต 
ให้รู้คิด รู้ค่ารัก .....
หากแม้นสนิทเนาในใจผู้ใด
ให้เรียนรู้ใจ
รู้ที่จะรักเป็นเห็นงาม...
ให้งาม ให้ตามเติมต่อรัก
เลิกภักดิ์เพียงสลัวราง อ้างว้างสุดทางใจ
ให้สว่างใสให้สรรสร้าง
จรรโลงใจ เผื่อแผ่กระแสธารใจจรรโลงโลกงาม...
เพราะน้ำใจเป็นสิ่งสำคัญ ให้หอมมหันต์
มากมีค่า....สอนการให้การได้ทั้งผู้ให้และผู้รับ
น้อยหรือมากมิสำคัญหากการให้นั้นเป็นคุณมิใช่โทษ..!..
..........

ค้นใจตัวให้พบ..
เมื่อเราประสบกับคุณค่าทางใจน้ำใจที่ได้รับ ให้งามระยับอิ่มปิติ
มีความสุขเพิ่มเติมต่อให้ คิดดี มีน้ำชุ่มปริ่มริมใจ..เรา..
จงถ่ายเทหยาดหยดรดรินไปสู่ดวงใจอื่นๆมากมายมากมี
ที่ยังแห้งแล้งหวังรอขอเพียงสักหยดหยาดหนึ่งนั้น..เพียงต่อฝันต่อพลังใจ
รู้ไหมน้ำจากใจเจ้า...คือการเอื้อฝัน  การฝึกเสียสละ..แบ่งปัน โอบเอื้อ
ระลึกรู้ ระลึกคุณ แม้นกับธรรมชาติ ..ผู้มีพระคุณต่อเรามายาวนาน..
ดอกไม้..สายธาร สายลม มวลอากาศ....!..

ที่เราได้ใช้หายใจได้สร้างงามดวงใจใครจะรู้นี้
มิเสียทีที่เกิดมา..หยัดยืนบนผืนหล้า 
ดั่งคู่มือมนุษย์สอนละมุนให้หยุดเข่นฆ่า ทำร้ายให้รู้คำขอบคุณ
ดินน้ำลมไฟ และเนื้อหัวใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง..
........และ....!..

หัวใจดวงหวาน  หมุนถอยหลัง 
วันที่หัวใจดวงละมุนสอนหอมกรุ่นให้ก่อเกิดกลางใจ
ก่อรูปธรรมนำน้อมด้วยการกระทำ...
ในวันนึง....
ที่เธอ..นั่งรถเมล์และเห็นภาพเหว่ว้า..ในสายตา..
เด็กชายตัวน้อยน้อย
ที่เฝ้าคุยจ๋อยจ๋อยบนตักแม่..
ผู้ดูพริบพลัน...ก็หวั่นไหวด้วยเวทนา..รู้ทันทีว่าแสนยากไร้
เด็กน้อยเฝ้าอ้อนขอสัญญา
ถึงของกินของเล่นที่อยากกินอยากได้แม้นเพียงนิดน้อย....!..

หัวใจเธอ..
ดวงอ้อยสร้อย ขี้สงสาร รานร้าวใจไหวอ่อน กับฉากตอนชีวิตบทนี้ 
ที่คิดว่ายังคงมากมีมากมายในสังคมเรา
และ..
ก่อนก้าวผ่านละครโลกโศกสลดรันทดใจ..นาทีนั้นเธอพลันติดสินใจ
 พับเงิน..จากหัวใจละเมียดละไมอ่อนโยน
จากใจสู่ใจสู่อุ้งมือเด็กชายน้อยๆ ด้วยหยาดน้ำใสคลอดวงตา..
สายตาเหว่ว้างันเงียบสองแม่ลูก พลันตกใจและไหวมองในมือ..อย่างไม่เชื่อสายตา
ดวงตาเธอ..จดจำภาพนั้น นานมา...และตามมาตราใจจนถึงบัดนี้ 
ไม่นับหัวใจปิติที่อิ่มฉ่ำพร่ำเย็น
อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน......!..

พร้อมคุณค่าการให้
เธอได้รับด้วยตัวเองแล้ว ที่น้ำเนื้อในใจเธอกลับปริ่มล้ำล้นด้วย
ความพิสุทธิ์ใส 
พร้อมสัญญากับดวงใจนะนาทีนั้น..
เธอจักฉวยโอกาสกระทำ
ในทุกเวลาที่ดวงชีวีอันแสนสั้นยังมีลมหายใจ 
ไม่ว่าการให้นั้น จะให้ด้วยสิ่งใด
เป็นดั่งดวงดอกธรรม..
น้อมนำใจให้รู้การละวาง การเสียสละ..
การช่วยโลกลดโศกราน
ในดวงใจเพื่อนมนุษย์..และ......!..

สำหรับเธอ..
ยินดีรับโซ่กรรม กระหน่ำซ้ำซัด 
จะสาหัสสากรรจ์ปานใด จะไม่ปริปากบ่น
ขอเป็นใบ้ชดใช้กรรมเก่า
 มิลงฑัณท์ลงโทษใคร นอกจากกรรมจากใจเราเองที่
หมุนวนวงเปิดรับความละมุนวุ่นวายวกวนของหัวใจคน
ที่เดียวดายสับสนอ้อนอ่อนแอยอมแพ้พ่ายใจไปรับรู้รับฟัง
และไม่ว่าชาติปางไหน 
ขออย่าตามติดหัวใจและจิตวิญญาณไปผลาญพล่าต่อกันอีกเลย......!..

เธอขออโหสิกรรม..และจะน้อมนำใจเป็นพุทธบูชา..
ภาวนาสร้างสมาธิมีปัญญาพาให้หลุดพ้นบ่วงกรรม
ในชาตินี้เพียงชาติเดียว...
เธอ..แย้มยิ้มกับโลกและความร้างไร้ในหัวใจผู้หลงผิด
พามืดบอดมาต่อยอดกรรมเวร
เธอ..ดีใจ..ที่ผู้หลงผิดคิดกลับใจแก้ไข
และหวังว่าดวงใจคงมิคาบแค่คัมภีร์แต่ชีวีได้เที่ยวสร้างกรรม
ประหัตประหารคนดีดี .
ขอ...อย่าให้เจ็บนี้วนซ้ำตกระกำแก่ผู้ใดอีกเลย......!..

และขอกระซิบฝากย้ำ..
ใครคิด ใครทำ ใครเข้าใจผิดถูกเช่นไร 
มิอาจ..ไม่ตัดสินชะตา...เท่างามดวงใจใครจะรู้นี้
ที่ขอเพียรเพียงขอ....
พบพรอันอ่อนโยนจากดวงใจจากเนื้อใจ
กระจ่างใสสร้างขึ้นเพื่อพลีพร้อมน้อมรับได้ทุกสภาพ...!.
*************

ช่อดอกไม้หรือน้ำตาเธอเลือกมอบ
เธอเลือกตอบแทนน้ำใจเจ็บสาสม
ค่าน้ำใจใช่หวังใดในอารมณ์
ถูกเหยียบจมจิตวิญญาณไร้หวานใด..
ไฟดวงฝันริบหรี่พลีสิ้นแล้ว
หวังดวงแก้วกลางใจสว่างไสว
ยอมดับดิ้นไฟสิ้นเชื้อวิญญาณใจ
รินน้ำใจดับแล้งแห่งใจเธอ..

น้ำในธารน้ำในธรรมในธรรมชาติ
หลงหวังวาดหลงฝันตั้งใจเก้อ
ให้คนดีลืมลบปมกลางใจเธอ
ยอมเสนอยอมสนองครองเจ็บนาน..
รินน้ำใจสู่ใจหวังเรียนรู้
รินลงสู่ดวงใจไยเผาผลาญ
เธอไม่ชึ้งค่าน้ำใจย่ำใจราน
ประหัตประหารใช่ดอกไม้สายธารเย็น..
เราเกิดมาพึ่งพากันฉันท์เพื่อนมนุษย์
รักบริสุทธิ์ให้น้ำใจดับแล้งเข็ญ
ใจให้ใจใช่โหดร้ายอย่างเลือดเย็น
รักให้เป็นรู้คุณบุญส่งมา..
หวังช่อดอกไม้แทนน้ำตามาปลอบขวัญ
ลืมโศกศัลย์ลบรอยใจไหวเหว่ว้า
ดอกไม้รักรู้ผลิบานกับกาลเวลา
หวังดวงตาพาดวงใจไปพบพรอันอ่อนโยน..
				
comments powered by Disqus
  • พุด

    5 พฤศจิกายน 2546 14:09 น. - comment id 178785

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3349
    
      เต็มใจให้   
    ศุ บุญเลี้ยง : : Key D  
    ฉัน รู้ ควร รัก เธอ
    อย่าง ไร
    เพราะ รู้ ความ จริง เป็น เช่น ไร
    ฉัน รัก รัก เธอ
    เพราะ ใจ อยาก ให้
    ใช่ รัก เพียง เพื่อ ครอบ ครอง
    ไม่ เคย ร้อง ขอ รัก ตอบ
    ไม่ เคย เรียก ร้อง สิ่งใด
    เพียง เธอ รับ รู้
    มี ฉัน คอย ห่วงใย
    สิ่ง นั้น มัน มาก มาย เกินพอ
    ขอ เพียง ได้ คิด ถึง
    แค่ นี้ ก็ สุข ใจ
    แม้ เธอ อยู่ ไกล แสน ไกล
    แม้ ใคร อยู่ ข้าง เธอ
    ฉัน รู้ ควร รัก เธอ อย่างไร
    จึง ยอม เข้า ใจ ทุก อย่าง
    ไม่ ช้ำ ไม่ เสีย ใจ
    ไม่ เคย บาด หมาง
    ทุก อย่าง เต็ม ใจ ให้ เธอ
    
    ขอ เพียง ได้ คิด ถึง
    แค่ นี้ ก็ สุข ใจ
    แม้ เธอ อยู่ ไกล แสน ไกล
    แม้ ใคร อยู่ ข้าง เธอ
    ฉัน รู้ ควร รัก เธอ อย่าง ไร
    จึง ยอม เข้า ใจ ทุก อย่าง
    ไม่ ช้ำ ไม่ เสีย ใจ
    ไม่ เคย บาด หมาง
    ทุก อย่าง เต็ม ใจ ให้ เธอ
    ไม่ ช้ำ ไม่ เสีย ใจ
    ไม่ เคย บาด หมาง
    ทุก อย่าง เต็ม ใจ ให้ เธอ... 
    
  • พุด

    5 พฤศจิกายน 2546 14:31 น. - comment id 178786

    คุณพฤกษ์คะ
    พุดซึ้งใจจนน้ำตาซึมกับความประรถนาดีที่มากับกุหลาบงาม
    ทุกข้อความชวนให้เลิกดายเดียวเลยค่ะ..
    
    และอยากจะบอกว่าคือพลังใจอย่างมหาศาล..
    ในยามที่พุดชักท้อไม่อยากรจนางานเขียนอีก..
    
    พุดขอบคุณ..สำหรับกุหลาบดอกงามนี้ที่มาบานรินรดใจราวรู้เวลา
    รู้ดวงใจพุดพัดชา ..
    และแทนคำขอบคุณ
    พุดขอมอบเรื่องนี้ให้แทนทุกความรู้สึกในนาทีนี้
    ที่มอบช่อกุหลาบแสนงามมากน้ำใจให้นำมาซึ่งสีสันแห่งรักในดวงใจพุดค่ะ
    ที่พุดจะได้ทำงานที่รักต่อไป
    เข้าไปอ่านนะคะ และ
    จนกว่าพุดจะบทเขียนบทกวีบทใหม่จากดวงใจถึงคุณสักบทด้วยความซาบซึ้งในกำลังใจที่มอบให้
    รักและรัก
    พุด..
    และอีกนามปากกาสาวบ้านนา
    ด้วยระลึกถึงด้วยซาบซึ้ง
  • rain..

    5 พฤศจิกายน 2546 19:29 น. - comment id 178877

    ...ของเรน..ไม่มีกุหลาบสีเหลืองมาให้...
       ..แค่ขอกระซิบใกล้ๆ...ว่า เรน..คิดถึง...
           ..บทกวี..และอารมณ์..ที่ตราตรึง....
       ..แอบเก็บบทกวี..ซึ้งๆ..คือหนึ่ง.. ที่ต้องการ...
    
            ..ทุกตัวอักษร..ของเรน...
         ..แทน..ความรู้สึก... รักและรัก...
               ...คิดถึง..นะคะ...
  • ชัยชนะ

    5 พฤศจิกายน 2546 23:08 น. - comment id 178950

    ถ้าผมเกิดวันนี้เป็นใบ้บ้างวันนี้ พุดจะว่าอย่างไรครับ 
    นาน ๆ พบกันที่ขึนเป็นใบ้คงโดนพุดสวดยับแน่ 
    ห่างหายผลงานไปหลายวันนะครับ กลับมาอีกครั้งกับขบวนรถไฟที่ยาวเหยียด 
    คงจะเป็นสายผ่านสะพานวิปโยค ต้องบอกว่าพุดเขียนหลายประเด็น ในตอนเดียวกัน 
    เลยจับจุดจะวิจารณ์ไม่ค่อยถูกซักเท่าไหร่  
    
    เพลงชะตาชีวิต ผมชอบมากครับ
    
    ประทับใจมากครับ ในความมีมิตรจิต มีน้ำใจที่ใสงามมอบให้ผู้ที่ด้อยโอกาส
    
    การเสียสละชีวิตทั้งชีวิต เพื่อบางสิ่งต้องดูให้ดีด้วยว่าคุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่าครับ
    
    ผมว่าชื่อดอกไม้กับน้ำตา น่าจะอยู่ใกล้เคียงกัน เหมือนมือซ้ายและมือขวา
    สำคัญที่ว่าตัวเราจะยื่นมือข้างไหนออกไปครับ
    ทุกคนล้วนปรารถนาช่อดอกไม้
    แต่ผู้ให้ปรารถนาอะไร?
    
  • พุด

    5 พฤศจิกายน 2546 23:32 น. - comment id 178951

    ชัยชนะ..
    พุดรอคอมเมนท์จากชัยชนะ และก็ไม่ผิดหวังค่ะ
    จริงๆพุดไม่ต้องการช่อดอกไม้และก็ไม่มีน้ำตา
    พุดก็รจนาให้งานได้อารมณ์แค่นั้น
    พุดหัวใจนิ่งนานแล้วและเป็นจะงามใจไปนิรันดร์ค่ะ
    บอกได้เลยว่าไม่มีหันหลังรับทั้งช่อดอกไม้และเสียน้ำตากับอะไรไร้สาระอีกแล้ว..
    พุด ไม่ค่อยมีเวลาอ่านงานใครและ ต้องขอโทษที่ไม่ได้เข้าไปคอมเมนท์นะคะ 
    พุด..ขอบคุณ
  • หมึกมรกต

    6 พฤศจิกายน 2546 02:10 น. - comment id 178973

    สวัสดีครับ 
    หายไปนานเลยนะครับ 
    กลับมาผลงานยังตระกาลตาเช่นเดิม
  • ผู้หญิงไร้เงา

    6 พฤศจิกายน 2546 06:34 น. - comment id 178990

    สวัสดีค่ะคุณพี่พุดพัดชา
    มาชื่นชมผลงานนะค่ะ  และหวังว่าพี่จะสบายดี  ช่วงนี้อากาศค่อยข้างจะหนาว  รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ  รักและห่วงใยเสมอค่ะ
  • rain..

    6 พฤศจิกายน 2546 07:21 น. - comment id 179001

    ..เรนขออนุญาต..เก็บบทกวี..บทนี้..นะคะ..
      ...ให้ความรู้สึก..  อบอุ่นจัง....
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    6 พฤศจิกายน 2546 13:33 น. - comment id 179045

    บทกวีของพุดพัดชาไม่เคยผิดหวังเลย
    ชื่นชมจริงๆ
  • ***กฤษณะ***

    6 พฤศจิกายน 2546 22:14 น. - comment id 179188

    ^J^    ...................
    
    อะไรที่ควร...รจนา....พุดพัดชา....ได้พูดแล้ว
    หากเปรียบกับมะพร้าวขูด....กฤษณะจะคั้นอย่างไร..
    ก็คงไม่ได้กระทิเพิ่ม.....เอาเป็นว่า....เข้าใจ(จริงๆ).........
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน