แดนดวงจันทร์บุหลันลอย..

พุด



บุหลันลอยดวง  สว่าง  กลางฟ้า กระจ่างใจ ...
ริมฝั่งฝัน ปิงวังยมน่าน ผ่านสู่เจ้าพระยา
ในราตรี...
ที่กระทงสายพรายพริ้วพริบพราวราวพร่างเพชรแพร้วพร่าง
กลางลำนำ ลำน้ำ สายธาร หวานวะวับแวม
แกมประกายวูบไหวแตะแต้มดวงใจ
ให้หนุ่มสาวเคล้าคลึงคลอ
พนอนวลเนื้อละอียด
เบียดละอ่อน  แนบนุ่มนวลนาง  นวลน้อง
เฝ้าประคองรักประคองกระทงลงคงคาบูชารำลึกถึงพระคุณ..เทวีแห่งน้ำ..
ท่ามกลางลมหนาวพร่าง กลางจันทร์เพ็ญ พรมหวานพราย

ให้ทุกดวงใจได้ฝากฝันฝากพลังรักพลังศรัทธาใจไทยทั้งชาติ
ที่เชื่อกันมาแต่โบราณนานมาว่า..
แม่น้ำลำคลองทุกสายจะไหลรวมกันไปยังนัมทามหานที..
ที่ไหลผ่านไปยังพระธาตุจุฬามณีบนสรวงสวรรค์
ดังนั้น การลอยกระทง
จึงเป็นดั่งการสักการะต่อองค์พระธาตุบนสรวงสวรรค์
และเชื่อว่าเป็นการลอยทุกข์โศกโรคภัย 
ความเคราะห์ร้ายทั้งปวงออกไปจากชีวิต
และแสดงความชื่นชมยินดีผูกพันใจต่อสายน้ำ
ในชีวิตไทยโบราณที่มีบ้านอยู่ริมฝั่งนที
และแทบทุกเรื่องราวในชีวีหนีไม่พ้นได้มาจากสายน้ำ 
ไม่ว่าอาหาร การสื่อสารเส้นทาง
และแม้กระทั่งความรัก
ที่มักมากับประเพณีเทศกาลจากลำน้ำ...

หนุ่มสาวคงเพียรเฝ้าพะนอ
ขออธิษฐานบานบนต่อแม่พระคงคา
ให้บุหลันกลางฟ้าและดวงดารา..รับรู้รักนี้
ที่หนักแน่นมั่นคงซื่อตรงคงมั่น เป็นดั่งสักขีพยานใจ..
และในดวงใจดวง..ก็พลันคิดถึงสายน้ำปิง..
ในค่ำคืนนี้...
ที่คงงามงดตระการตาตระการใจ
พาให้ใจดวงฝันฝันฝันเฝ้าอยากไปฝากฝัน
ไปชื่นชมดื่มด่ำล้ำลึกกับใครสักคนในคะนึง..
ดวงได้แต่ฝันสล้างพร่างละออพ้อเพ้อเห็น
 กระทงสายพรายพร้อยนับร้อยพันพรูพร่างกลางสายน้ำ
งามอะคร้าวพราวพลอยราวสายสร้อยสายโซ่เพชร
ร้อยดาวเรียงดวงรวงดาวมลังเมลืองเรืองรองกลางผืนน้ำ
......
.
ไหนจะกว๊านพะเยา ที่สายน้ำไม่ไหล 
พาให้ทุกดวงใจกังวลว่าทุกข์ตรมจะไม่ลอยพรากจากลาไปไหนพ้น
เลยหัวใส..เรื่องอะไรจะลอยกระทงลงน้ำ..
สู้จุดโคมลอยไปในนภากาศ ให้วาดหวังมิดีกว่าหรือ
และหากพร้อมใจจุดโคมลอยในเรือสักร้อยลำในกว๊านพะเยา
กับให้ทุกหมู่บ้านรายรอบพร้อมใจจุดโคมลอยปล่อยพร้อมกันไป
มีดอยบุษราคัมและดอยหนอกเป็นดั่งฉากหลัง
ในช่วงเวลาอาทิตย์ลาลับฟ้า
ดั่งฉากสวรรค์หวานเจือสีส้มแสดแสง..แดงแรงร้อนเร่า..
ให้งามเงาในน้ำดั่งกระจกสะท้อนเลื่อมพราย
ราวมากโคมนับพันทวีคูณพูนเพิ่ม
แค่นี้ก็คงงามพร่างกลางใจไทยทุกดวงแล้ว..
ดวงขอฝากลำน้ำบทเพลงสักขีแม่ปิง
อิงหวานฉ่ำร่ำรมย์ให้ระรื่นชื่นฉ่ำใจมานะราตรีนี้นะคะ
พร้อมกับบทเพลงกว๊านพะเยาค่ะ....

............
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=303
ช..กุศล ดลพี่มาพบเจ้า
ใจพี่ยังร้อนผ่าว ความรักรุมเร้าคลั่งไคล้
ญ..น้ำ คำ รักของคนเมืองใต้
จะจริงแท้แค่ไหน
สาวเชียงใหม่ครวญใคร่ถวิล
ช..ชีพสลาย ยังไม่คลายรักเจ้า
ญ..จริงดั่งใจหรือเปล่า
หวั่นเกรงเคลือบเอาที่ลิ้น
ช..รัก จริง เพียงหัวใจแดดิ้น
ไม่วายเว้นถวิล มิสิ้นความรักได้เลย
ญ..น้ำ ปิง ล้น ฝั่ง
ช..ดัง รัก พี่เปี่ยมฤดี แล้วเจ้าเอย
ญ..แล้ว คง ละ เลย ไม่เหมือนเอ่ย
ช..โอ้ทรามเชยมิเคยแหนงหน่าย
ญ..หน่อยเถิดนะ คงจะไม่เห็นหน้า
ช..ถ้าพี่เป็นเหมือนว่า
วานน้องฆ่าเสียให้ตาย
ญ..สาบาน ชจ๊ะสาบานก็ได้
หากความรักสลาย ขอตายในสายแม่ปิง
ช..  รัก กัน หวาน ชื่น
ญ..  เกรง ขม ขื่น ชื่นกลับชังช้ำอกหญิง
ช..น้อง ควร รู้ ใจ
พี่ทุกสิ่ง เช่นแม่ปิงรู้จริงใจพี่
ญ..หน่อยจะคร้าน นานกลับกลายหายชื่น
ช..พี่ไม่ไปไหนอื่น จะขอชื่นรักอย่างนี้
ญ..อุ๊ยตาย อายเขาบ้างซีพี่
พร้อมจูบฝากรักสักที
ไว้เป็นสักขีแม่ปิง...
**********

http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4125
โอ้ธารสวรรค์ กว๊านพะเยา
ธารรักเราครวญคร่ำ ลมโชย
พริ้วฉ่ำ ในวังน้ำวน
พร่างพรมมนต์รักมา
ดูราวสายชล ธารสวยตระการ
อยู่ในนิทรา แว่วเพลงรัก
ของปักษา ร้องอำลาคืนรัง
โน่นทิวทุ่งลิบ รวงทิพย์
เรืองรอง ราวสีทองเปลวปลั่ง
ธาราไหลหลั่ง ใสราวน้ำวัง
ขังน้ำตาแห่งดาว ห้วงน้ำลึกนัก
ห้วงรักลึกกว่าหลายเท่า
แม้นรัก ไม่จริงกับเรา
อายกว๊านพะเยา
หลายเท่าเอย
โน่นทิวทุ่งลิบ รวงทิพย์
เรืองรอง ราวสีทองเปลวปลั่ง
ธาราไหลหลั่ง ใสราวน้ำวัง
ขังน้ำตาแห่งดาว ห้วงน้ำลึกนัก
ห้วงรักลึกกว่าหลายเท่า
แม้นรัก ไม่จริงกับเรา
อายกว๊านพะเยา
หลายเท่าเอย...
*********

และในจินตนาการรัก
ที่ดวงใช้แค่ดวงใจละไมฝัน
พลันติดปีกโผผินบินไปตามลำน้ำเจ้าพระยาขึ้นสู่เชียงใหม่
เมืองล้านนา
เมืองแห่งดวงตาสวรรค์
ที่อยากฝากฝันฝากใจกับสาวงาม
สักคนที่งามแต๊ๆไปตราบชั่วนิจนิรันดร
.
และในฝันท่ามกลางฟ้าพร่าง..
ดวงเห็นนางใจ นางในฝันนั้น
นวลน้องงาม หนั่นแน่น นวลเนื้อนุ่ม กลมกลึงรัดรึงใจพิลาสพิไล
ห่มสไบสีงาช้าง..เดินทอดย่างในผ้าซิ่นสีแดง..มุ่นมวยผมแกมเกศ
รัดเกล้าด้วยมาลัยดอกพุดพิสุทธิ์หอมงาม
ห้อยพวงพราวระย้าย้อย
ด้วยดวงดอกมะลิซ้อนอ้อนหวานเอียงอายอายเอียงเคียงข้าง
ด้วยหนุ่มน้อยรูปงาม ในชุดชาวไทรัฐฉานสง่างามพอกัน
ริมฝั่งน้ำ น้ำในตาสาววะวาววะวับวิบระยิบพร่างพริบดั่งเพชรพราว
แข่งกับนวลแสงดาวที่พากันเฝ้าพร่างพริบ..อิจฉา
ยามเธอช้อนตาสบตา พากันส่งกระทงน้อยลงคงคา
ให้สายน้ำในธารา ในดวงตาในดวงใจ
เป็นดั่งพยานใจพยานรักชั่วกาล..
อย่าให้รักหวานกลายกลับเป็นขม
เหมือนดั่งเพลงที่กำลังลอยลมพร่างพลิ้วมาเลย

บทเพลงริมฝั่งน้ำ..
.http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=301
ริมฝั่งน้ำ
ริม ฝั่ง น้ำ พร่ำเพ้อ ละเมอครวญ
เคยชื่นชวนเมื่อหวลคนึงไป จิตใจยังชื่นชู
แสงเดือนส่องยิ่งมองแล้วจิตเผลอ เธอยังอยู่
เคล้าคลอคู่ชื่นชูรู้สึกเหมือน เตือนใจจำ
เธอกับฉัน ก่อนนั้นเคยชื่นฉ่ำ
ริมฝั่งน้ำสุขล้ำฉันจำได้ อะไรจะเทียมทัน
เคยเรียกเธอ เสนอรักรำพัน
เคยคู่กันใฝ่ฝันถึงเพลงชื่นค่ำคืนเคยได้ฟัง
น้ำเต็มเปี่ยมก็เทียมรักสุดหวาน ปานไหลหลั่ง
น้ำเต็มฝั่งดุจดั่งรักที่หวัง ยังคงคอย
เคยชื่นใจ ฝากไว้หัวใจลอย
เฝ้าแต่คอยโอ้รักนั้นเลื่อนลอย
ยิ่งคอยยิ่งใจหมอง
ริมฝั่งน้ำ พร่ำเพ้อ ละเมอครวญ
เคยชื่นชวนเมื่อหวลคนึงไป จิตใจยังชื่นชู
แสงเดือนส่องยิ่งมองแล้วจิตเผลอ เธอยังอยู่
เคล้าคลอคู่ชื่นชูรู้สึกเหมือน เตือนใจจำ
เธอกับฉัน ก่อนนั้นเคยชื่นฉ่ำ
ริมฝั่งน้ำสุขล้ำฉันจำได้ อะไรจะเทียมทัน...

และอีกที่..
เมืองแสนดีแสนงามนามเพราะเมืองประวัติศาสตร์แห่งชาติไทย
สุโขทัย...เมืองในดวงใจแดนจันทร์แดนบุหลันงาม
 ที่คงฝากความอลังการยิ่งใหญ่
เพราะมีฉากเมืองเก่าของเราแต่ก่อนให้อาวรณ์อาลัย 
มีหลักศิลาจารึกหลักที่หนึ่ง ที่ตรึงใจก็ด้วยตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ 
ที่นะค่ำคืนนี้คงคลาคร่ำด่ำดื่มกันถ้วนหน้าไม่ว่าหญิงชาย...
..........

แต่ดวงกมลของดวง..
ในค่ำคืนนี้นั้น 
มีฝันอันอะคร้าวรอคลุกเคล้าใจให้ไหวงามอยู่แล้ว..
ดวงตั้งใจจะค่อยค่อยขับรถ..เข้าไปในเส้นทางงาม
เลียบลำน้ำเจ้าพระยา..สองข้างทางคือราวป่าเส้นทางสายชนบท
ลดเลี้ยวลับขนานไปกับทุ่งนา ดงตาลให้หวานในดวงใจ
และให้หวานพระจันทร์พลันพรายสีทองส่องทาทาบอาบรวงเรียว
ให้เสี้ยวใจริบหรี่ ได้พร่างพรมห่มด้วยหอมงาม
ให้บุหลันดวงหวานเศร้า ริมเจ้าพระยาคลอเคล้า
นะร้านชานเมืองชานเรือนไทยเรียบง่าย
ที่ดวงเคยเข้ามานั่งดายเดียวเดียวดาย
ใต้ดวงดาวในหมู่ร่มไม้เรือนใจพันธุ์ไทยดังไพรพฤกษ์พง
 
ที่ดวงดอกดงการะเวกหวานหอมแทบหลอมละลายใจ..
เททุ่มใจถอดใจร้องไห้ ร้องไห้....
ด้วยไหวคะนึงครวญหวนไห้ถึงใครบางคนสุดทนสุดใจ..แล้ว..
และนั่นดวงดอกไม้ในฝันเศร้าเสมอมามิราโรย..ร้าง  
มิเคยห่างใจดวงร้าว..นี้
ลั่นทมพราวทุกราวกิ่งแกล้ม..แกมจำปีจำปา..
และกล้วยไม้ป่าห้อยคาคบยามพลบค่ำ
ราวดวง..นั่งในไพรพงจริง..
ดวงชอบเด็ดลั่นทมสองสามดอกเสียบแซมผม 
มาดแม้นไร้ใครดอมดมพรมจูบ
ไล้เรียวแก้มแกมรักล้นใจ..ก็ตามทีเถอะนะ..

คืนนี้ ดวงคงนุ่งซิ่นผืนงาม 
และคงคลุมไหล่สล้างด้วยผ้าไหมทอมือสีไพลผืนเก่า
ดวงคงจะขอฟังเพลงคลอพ้อรักฝากไปกับสายชล..
บทเพลงแห่งดวงใจรัก..

http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=302
สายชล
 เหม่อมองดูสาย น้ำ วน
เหม่อมองสายชล ที่ไหล ริน
เหม่อมองดูนก ผก ผิน บินลับ ไป
ยาม เหงา เราถอนใจ บิน ไป ไม่กลับ มา
เปล่าเปลี่ยวจริงหนอ หัว ใจ
อยากจะรักใคร เศร้าใจทุกครา
หมดแรงกำลัง อ่อน ล้า และหลง ทาง
เจ็บ นั้น ยังเจ็บไม่จาง อ้าง ว้าง ดังสาย ชล
แม้ใจจะเจ็บ เก็บมาคิดคิด
อดีต ช่างงามล้ำล้น
มิเคยลืม ภาพเราสองคน
มิเคยลืม ยังหลอกลวงตน มิเคยลืม
ว่าเคยรักเธอ สาย ชล
หลั่งรินไหลวน มาพานพบเจอ
เหตุการณ์ผ่านไป ยัง เพ้อ พะวงทุกวัน
อก เอ๋ย ขมขื่นตื้นตัน จาก กัน หรือฝัน ไป
มิเคยลืม
ว่าเคยรักเธอ สาย ชล
หลั่งรินไหลวน มาพานพบเจอ
เหตุการณ์ผ่านไป ยัง เพ้อ พะวงทุกวัน
อก เอ๋ย ขมขื่นตื้นตัน จาก กัน หรือฝัน ไป...
**********

http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=25
ลุ่มเจ้าพระยา
 ลุ่มเจ้าพระยาเห็นสายธารา ไหลล่อง
เพียง แต่มองหัวใจให้ป่วน
น้ำไหลไป มักไม่ ไหลทวน
ชีวิตเรา ไม่มีหวน ไม่กลับทวนเหมือนกัน
เรา เกิดมา ผูกใจรัก กันดีกว่า
เพราะว่าชีวา แสน สั้น
เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิดมั่น
จง ผูกพันรักกันด้วยใจ
ขอจงเป็น เหมือนเช่น นกไพร
ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่กัน
เรา เกิดมาผูกใจรัก กันดีกว่า
เพราะว่าชีวา แสน สั้น
เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิด มั่น
จง ผูกพัน รักกันด้วยใจ
ขอจงเป็น เหมือนเช่นนกไพร
ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่ กัน...
********

และคงอีกคราที่น้ำตาดวงจะหยดเผาะ เมื่อเพลงพ้อมาถึงคำร้อง..
ขอจงเป็นเหมือนเช่นนกไพรที่เหินบินคู่กันไปหัวใจ..คู่กัน...
******

และหากดาวประจำเมือง ดาวบนฟ้า คือดวงตาใครสักคน
ที่เคยกระซิบบอกดวงว่าทุกความห่วงใย
ทุกสายใจสายใยรักระหว่างเราสองนั้น 
ให้ฝันปองมองหาดาวในดวงใจ
ยามเหว่ว้าอ้างว้างร้างไร้ผู้ใด
ที่จะพริบพราวเฝ้าปลอบประโลมใจเสมอมาเสมอไป
เป็นนิรันดร์รักนี้..ที่มิมีวันได้เคียงครองคู่
และคนดี..
ไม่ว่าค่ำคืนนี้คุณจะอยู่นะที่ใดในประเทศไทยนี้..
ขอจงฝากใจกับจันทร์ฝากฝันกับดาวมาถึงดวง..นะคะ
จงพริบพราวและเฝ้าดูดวงดายเดียวริมฝั่งชล..ลำพัง
ดวงพร้อมจะหลั่งหยาดน้ำตา..
บูชาพระแม่คงคาบูชารักเรา
ที่พลีพร้อมยอมไร้ร้างห่างกันไกลสุดขอบฟ้า..
เพื่อรอวันที่ดวงตาสวรรค์จากฟ้าเบื้องบนมีเมตตาปรานีให้พรเราสอง

และ...คนดีในฝันในดวงใจ..
ดวง..จะพลี..เพียง..ลั่นทมดอกเดียว  
ที่จะ...
ค่อยค่อยลอยละล่อง 
อย่างเดียวดาย... ดายเดียว...
เปลี่ยวเหงา..ไปตามสายชล...กลางสายชล... ลำพัง..				
comments powered by Disqus
  • พุด

    8 พฤศจิกายน 2546 15:08 น. - comment id 179503

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=333
     ลอยลำพร่ำรัก   
    ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์-พิทยา บุญรัตนพันธ์ : : Key Eb  
    ช..โอ้ แจ่มจันทร์ขวัญใจพี่ น้องดูนั่นให้ดี
    ดวงใจ เห็นเงาอะไร ไหมในธารา
    ญ..คล้ายคล้าย เงา ฝูง ปลา แน่ะจริงจริงพี่ขา
    ว่ายมาเป็นแถวไป
    ช..ใช่แต่เพียงหมู่ปลา โอขวัญตาน้องดูเป็นไร
    น้องดูให้แน่ดวงใจ ไม่ใกล้ไม่ไกล นาวา
    ญ..เพียงเงากิ่งไทร ไม่แลเห็นอะไรไหนมี
    ช..โน่นยังไงคนดี ที่พี่ชี้ไงกานดา
    ญ..ไหนเล่าน่ะ น้องดูจนทั่ว
    ทำให้ใจ น้องกลัวขึ้นมา
    ช..แน่ะอยู่ข้างนาวา แก้วตาน้องใจดี
    ญ..ตายอะไร น่ะลอยมาใกล้
    น้องหวั่นใจ เดี๋ยวเป็นกุมภีร์
    ช..เถิบเข้ามาคนดี กอดพี่ซิขวัญใจ
    ญ..กลัวนัก น้องกลัว
     ช..น้องกลัวจงได้ หลับตา
    น้องกลัวแล้วอย่า อึ้งไป 
    ญ..อุ๊ยว้าย หลงตายใจ
    แหม คน อะไร ไว้ใจมิได้เลย
    ช..หอมกันหน่อย ทำใจน้อยน้องเอย
    ญ..มินึก อาย ธารา อายแก่หมู่ปลาบ้างเลย
    ช..หอมนิด เดียว เจ้า เอย
    ชื่นเชยน้องหน่อยเป็นไร
    ญ..เบื่อเต็มทน ขืนซนร่ำไป
    เดี๋ยวหยิกให้ลายทั่วตัวน่ะ
    ช..นิดเดียวน่า ญไม่ ชโธ่ขัดใจ
    ญ..เหมือน ใจ คิดแกล้ง หรือแสร้งทำลาย
    ช..สาบานยังได้ ญ กลัวรักไม่จริงดังใจ
    ลวงให้หลงวจี
    ช..รักน้องไม่คลายขอตายแทบตัก นงคราญ
    สาบานไม่ต่อ วารี
    ญ..รัก ช..รัก ญ..จริง ช..จริง
    ญ..ใจ ช..ใจ ญ..นี่ ช..นี่
    ชญ..รัก เราไม่มีรู้คลายแหนงหน่ายเลย... 
    
  • tiki

    8 พฤศจิกายน 2546 18:11 น. - comment id 179572

    ให้สุขสันต์วันลอยกระทง
    สิ่งใดประสงค์จงได้ดังหวัง
    ให้หมดเคราะห์หมดโศกซึ่งประดัง
    ตั้งความหวังวันใหม่ปีใหม่เทอญ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    8 พฤศจิกายน 2546 20:40 น. - comment id 179639

    ขอให้เที่ยวงานลอยกระทงให้สนุกนะค่ะ
  • อัลมิตรา

    8 พฤศจิกายน 2546 21:21 น. - comment id 179666

    สัญญาได้ไหมคนดี
    ว่าต่อแต่นี้จะไม่ร้องไห้
    รักษาเถอะนะหัวใจ
    โอบกอดกันไว้ละมัยละมุน
    สัญญานะจ๊ะคนดี
    เราน้องพี่จักเกื้อหนุน
    ลงรักปักใจหมายเป็นทุน
    เพื่อสร้างคุณแก่กานท์กวี
    สักวันหนึ่ง เมื่อถีงวันนั้น
    สิ่งที่เคยวาดฝันบรรจงคลี่
    งดงามตามจินตฤดี
    ขอให้สองเรานี้ อย่าลืมกัน ..
  • idaho

    8 พฤศจิกายน 2546 22:25 น. - comment id 179700

    ภาพสวย คำงาม
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    8 พฤศจิกายน 2546 23:43 น. - comment id 179740

    เต็มอิ่มดีจัง
  • ***กฤษณะ***

    8 พฤศจิกายน 2546 23:45 น. - comment id 179742

    ^J^    .................
    
    ภาพงาม คำสวย.....ฯ
    
  • พุด

    9 พฤศจิกายน 2546 10:46 น. - comment id 179801

    
    
    คนเขียนฝัน    
    พุดพัดชา  
    
    เขียนกลอนเศร้าใช่เศร้าใจไปทุกครั้ง
    เขียนกลอนหวังใช่หวังได้ไปทุกสิ่ง
    เขียนกลอนช้ำใช่ช้ำใจในโลกจริง
    เขียนทุกสิ่งขอแค่ดีเท่าที่ทำ..
    
    เขียนเรื่องรักใช่รักใครไปเสียหมด
    เขียนงามงดให้งามใจไม่ได้ช้ำ
    เขียนห่วงหาใช่วิ่งหามาระกำ
    เขียนจากจำใจจากจบพบแต่ดี..
    
    เขียนดอกไม้ใช่ว่าต้องปลูกเสียทุกต้น
    เขียนรักคนใช่อ้อนใครจากใจนี้
    เขียนฝากฝันฝากงามจันทร์มอบสิ่งดี
    เขียนชีวีฝากชีวาใช่ด่าใคร..
    
    เขียนสวรรค์เขียนนรกยังไม่เคยตกเลยสักครั้ง
    เขียนความหวังให้กำลังใจไม่หวั่นไหว
    เขียนความดีความงามโอบเอื้อใจ
    เขียนเขียนไปไยใจร้าวเศร้าคำคน! 
    
    
    
    ขวัญหลงทางอ้างว้างกลางป่าฝัน
    กับหวานจันทร์ยามราตรีที่ทอแสง
    บนถนนสายฝันวันนี้แทบสิ้นแรง
    ใจคนแล้งแกล้งกระหน่ำซ้ำสะใจ..
    
    แต่ไหนไหนก็ไหนไหนในโลกไซเบอร์นี้
    มีคนดีมีคนพาลอย่ารานไหว
    มีคนรักเท่าผืนหนังชังเท่าผืนเสื่อตำนานใจ
    สร้างสายใยใจแสนฝันมอบวันงาม
    
    และขอบใจคนใจร้ายให้รู้โลก
    หยิบยื่นโศกให้ใจงามยามหมิ่นหยาม
    เรียนรู้ให้ใช้อภัยใจเมตตาก่อเกิดงาม
    คือความงามความดีที่ใครนี้ยากขะโมยไปจากใจเรา..
    
    บางครั้งครากับคำคนที่เวียนวนพาให้หลงทางอ้างว้างใจสุดทนจนอยากเลิกเขียนเสียที..แต่ดวงใจนี้ยังรักหลายหลายดวงใจที่มอบพลังใจด้วยเข้าใจเสมอมาถึงค่างานที่เพียรพยายาม..
    
    
    พุด..ซึ้งใจและขอบคุณในน้ำใจทุกท่านที่เมตตาตลอดมาเสมอมา..ที่รักห่วงใยดวงใจพุดพัดชา
    อยากบอกว่า..
    พุดเพียรเค้นจิตวิญญาณริบหรี่
    เพื่อรจนางานที่รักที่ยังกองเป็นกระตั๊กที่แอบซ่อนซึ้งงามในดวงใจใครจะรู้นี้..ที่ยังมากมีมากมายนัก
    มาตรแม้นพายุสายฝนลมแรงเพียรถาเข้ามาพัดแกล้งกระหน่ำซ้ำซัดสักเพียงใด
    ..
    พุด..ก็พยายามแต่ราวกับมองเห็นวันอิ่มฝันนั้นจักใกล้เข้ามาทุกขณะ..ตามชะตา..พระพรหมแกล้ง..
    พุด..อ่อนแรงหัวใจบางเบาร้างไร้..
    และกระซิบถึงคนดีที่มีน้ำใจ
    เมล์มาปลอบประโลมใจเสมอมาที่พุดรักหนักรักหนานะดวงใจ..มิเสียแรง..
    ว่าระหว่างเราไม่ต้องพูดอะไรกันมาก
    ..
    และ
    ฝากคำขอบคุณซึ้งใจถึง
    
    ทิ๊กกี้..ที่รักมาก
    อิม..รักหวังดีและปรารถนาให้สมหวัง
    กฤษณะ..แปลกดีที่อบอุ่นใจมากกับงานงามและความเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายที่พุดรู้สึกอย่างนั้นในใจตลอดมา..
    ฤกษ์..รักความดีมีน้ำใจและรวยอารมณ์ขันที่มาแบ่งปันให้คนหัวใจดวงร้าวได้สดชื่นบ้าง
    น้องน้อยผู้หญิงไร้เงา..ในร่มรักเรือนไทยน้องคือหนึ่งเดียวที่มีเวลามากน้ำใจงาม
    อย่าพรากจากไปให้ทุกดวงใจโหยไห้นะคะ
    ไอซี่
    พี่พุด..รักและคิดถึงคนดีทุกคราคู่กันกับใครคนหนึ่งในดวงใจพี่พุดค่ะ..
    สุดท้าย..คุณพฤกษ์มิตรใหม่..
    ขอบคุณกับเมล์ที่ทำให้หัวใจได้สดใสมีพลังค่ะขอบคุณ..สองเมล์หลังนะคะ
    
  • พุด

    9 พฤศจิกายน 2546 10:56 น. - comment id 179802

    และพิเศษแด่ชัยชนะ 
    ลูกผู้ชายหัวใจเกินร้อย
    หนึ่งในดวงใจพุดพัดชา
    ค่ำคืนนี้จะรจนา
    ว่าด้วยเรื่องเบื้องหลังบุหลันลอยลา..
    ลั่นทมเหว่ว้าดายเดียวหลงทางใจ..
    
    ราวกระทงหลงทางมากมีมายมาย
    ที่มากองก่ายเกินให้คนเก็บ
    หลังงานเลี้ยงเลิกรา
    พากระทงบรรทุกรักหนัก
    จมท้องธารเต็มลำคลองท้องละหานห้วยบึงใจ
    
    แล้วใครเล่าใคร..
    จะเหนื่อยใจ..จะรับรู้ความสูญเสีย
    พุดไปวัดก่อนนะ..
  • ชัยชนะ

    9 พฤศจิกายน 2546 15:38 น. - comment id 179885

    ไปตามดวง ตามจินตนาการแห่งความฝัน อันวิจิตรการตาของดวง ไปทัศนาทิวทัศน์
    ทัศนียภาพตามสถานที่ต่าง ๆ มากมาย ดูหนุ่มสาวพร่ำพลอด ออดอ้อนรักกัน
    เพื่อเป็นสักขีแม่ปิง แวะดูโคมลอย และความสวยงามของกว๊านพะเยา
    จานั้นเจ้าพาขึ้นเหนือ ไปดูสาวล้านนาที่ต้องชะตากับชาวไทยใหญ่รัฐฉาน
    ช่างเป็นแดนวิมานฝันริมฝั่งแม่น้ำที่ซาบซึ้งตรึงใจ คล้ายประสบพบเห็นจริง
    แวะขากลับ มาจอดพักดูต้นตำหรับนางนพมาศประวัติศาตร์การลอยกระทงของไทย
    
    ยังไม่จุใจของดวง ดวงใจ ดวงคนดีที่นำฝันอันสวยสดงดงามมาขายเพื่อให้
    ผู้ที่มาเห็นมาหาได้เบิกบานใจ แต่ทำไมเล่า ฝันของเธอ ถึงได้เหงา ๆ เศร้า ๆ
    
    ดวงชอบเด็ดลั่นทมสองสามดอกเสียบแซมผม 
    มาดแม้นไร้ใครดอมดมพรมจูบ
    ไล้เรียวแก้มแกมรักล้นใจ..ก็ตามทีเถอะนะ..
    
    ในลุ่มเจ้าพระยาคืนนั้น ดวงหนึ่งน้องนางเดียวที่นุ่งผ้าถุงผืนงาม มาคลอเพลงสายชล
    อย่างอ้างว้าง โดดเดี่ยวเดียวดาย...
    
    
    ต้องขอบคุณมากสำรับถ้อยคำที่พิเศษที่พุดส่งมาให้ เมื่อคืนผมก็ไปลอยกระทง 
    มีคนมาร่วมงานเกือบ ๒๐๐ คน แต่ผมก็ลอยคนเดียว ก็ไม่เห็นว่าจะเศร้าอะไรนี่ครับ ถ้าเราฝันถึงสิ่งที่เป็นสุข ก็ขอต่อว่าพุดพัดชาสักหน่อย
    ที่ฝันลำเอียง ขายฝันให้หนุ่มสาวอื่นมีความสุข แต่ไปขายฝันให้ดวงเธอทุกข์อยู่คนเดียว
    
    
  • พุด..ใจรอนรอน

    11 พฤศจิกายน 2546 10:03 น. - comment id 180433

    นักฝันวันทำใจ .    
    พุดพัดชา  
    เป็นนักฝันวันจริงไม่วิ่งหนี
    ร้าวฤดีเพียงใดไม่ไหวหวั่น
    มีสมองสองมือสร้างคืนวัน
    เห่กล่อมขวัญให้วันสวยด้วยหัวใจ..
    
    ด้วยสองมือน้อยน้อยคอยสร้างโลก
    ลบรอยโศกการอยเศร้าเคยร้าวไหว
    ฝันฝากงามยามมองเห็นละมุนละไม
    สายลมไหวไกวเปลเมฆเสกสุขใจ..
    
    ในแมกไม้สายธารหวานดอกไม้
    ในพลิ้วพรายฟองคลื่นทะเลใส
    ในเรียวรุ้งคุ้งโค้งฟ้าพางามใจ
    ในอุ่นไอรวงเรียวรอเคียวคม...
    
    ลอยเรือรักถักทอทอดสอดสายฝัน
    สวนสวรรค์อักษราภาษาสม
    ฝันตระการหวานจับใจลบตรอมตรม
    เลิกระทมลบท้อแท้ฝากแผลใจ...
    
    จินตนาการหวานเพียงใดไกลเกินฝัน
    วันต่อวันฝันฝากใจไม่หวั่นไหว
    ใครจะรักจะชังชอบหรือขอบใจ(หรือโดนใจ)
    ไม่เป็นไรทำใจนิ่งทิ้งอัตตา..
    
    และ..
    โลกยังคงหมุนเวียนเปลี่ยนผันวันซ้ำซาก
    รักและพรากจากแล้วเจ็บเก็บห่วงหา
    มีชีวิตคิดแต่ดีมีแต่ให้ฝึกปัญญา
    ลบเหว่ว้าพาพรางห่างทางธรรม...
    
    ทั้งที่รู้กู่ไม่กลับรับรักเขียน
    จึงวนเวียนว่ายวนจนใจหนำ
    เขียนกลอนเศร้าเว้าวอนราวระกำ
    ใช่ชอกช้ำจริงแท้แพ้ทางกลอน...
    
    เป็นเส้นทางสายทุกข์สุขใจสอน
    พร่ำออดอ้อนสอนเศร้าราวตัวหนอน
    ขยึกขยือยึดถื่อมั่นขวัญร้าวรอน
    เป้นบทกลอนวอนว่าอย่าหลงทาง..
    
    เพียงให้พบจบทางออกไม่ยอกย้อน
    ดั่งคำสอนผ่อนร้าวรานผ่านไร้ร่าง
    ไม่มีทุกข์สุขไม่มีที่ปล่อยวาง
    ใจว่างว่างห่างโศกโลกในใจรับรู้รอประตูใจ
    เปิดสู่ห้วงนิพพานแม้นานเนาไม่พบเจอ..เพราะเราเผลอไปก็คนคน.. 
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน