สายฝนสายฝันนิรันดร์รัก

พุด


url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=129
(หยาดฝน หยดน้ำตา)
....................
ฟ้าเศร้า..งามด้วยเงาเมฆเทา 
ทอทอดหมองครองระทมทุกทิศทาง
ผู้หญิง..ในชุดขาวยาวกรอมเท้า 
สวมหมวกลายลูกไม้
ปล่อยผมยาวสยายรุ่ยร่าย
ให้สายลมพัดพาปลิวไปเบื้องหลัง
ราวไม่ใยดี ราวกับโลกนี้มีเธอเพียงลำพัง..ลำพัง
ในยามฟ้าโพล้เพล้เหว่ว้า..สนธยาเงียบงาม
เธอ..
ยืนทอดร่าง 
อย่างอ้างว้างดายเดียว เดียวดาย.........
ใต้ต้นหางนกยูง
ที่กำลังอวดดอกแดงสะพรั่งพรึบไปทั้งต้น
กับลมพัดใบไม้ไหวกระจาย
คล้ายพัดพาใจเธอกระเจิง..
งามดวง..ดอกไม้..ธรรมชาติ
ข้างทางสายเก่า สายเคยคุ้น
ที่กำลังหมุนละมุนวันคืนแสนหวาน
ที่ตระการตาตระการใจ
ด้วยดวงดอกไม้ฟายฟ้อน
ที่เคยออดอ้อนละเมอเพ้อรำพัน
ฝากฝันฝากใจฝากสายใยรัก
มากับสายวสันต์งาม
ราววันนี้
ลมพัดหวลอวลย้อน
ให้คืนฝันวันแสนดีแสนหวาน 
นานนับปี..คืนกลับมา
ดูราวกับว่าเหมือนเดิม..
แต่
ไม่เหมือนเดิม!
เพราะ
เพิ่มจำนวนนับมากขึ้น..
และคงมากขึ้นทุกปีทุกทีนะทุกดวงใจนะยอดดวงใจ
ฤดูกาล..ก็เหมือนฤดีคน 
ที่หมุนวนหมุนเวียน
เปลี่ยนผันแปรฝันแปรหวังแปรหวาน
เป็นรานร้าว
อาจจะ
มีร้อนหนาวเคล้าคลุก
สุขเศร้าเหงาเปลี่ยว..ตามกรรมตามกาล
เปลี่ยนก็เพียงฉากตอน...
สุดแล้วแต่ใครจะนำมาสอนใจ..
ไขว่คว้าคว้าไขว่มาใส่ร่างใส่ใจใส่จิตวิญญาณ
ให้งามพร้อมพลี..
ที่จะเลือกรัก..หักใจ..ตัดใจ..หรือ..ยอมรอ..รอและรอ..
มีเพียงบางใครบางคน
ไม่แปรใจไม่แปรพรากจากลา..ไม่..ไม่..
เพราะว่ามีใจดวงหนักแน่นมั่นคงซื่อตรงในรักดั่งภูผา
ที่รับรู้รับรักรับรสระหว่างกันและกัน..
ระหว่างคนสองคน..
มิปนมีแปลกมิเปลี่ยนไป
ตามคำตัดสินของใจของใครของคน..
ที่
คือใจเขาก็ใจเขามิใช่ใจเรา..มิใช่ใจรัก..ภักดิ์พลี
และ
มี
หวัง..ฝัน
ฝัน..หวัง
สำหรับเรา..นะคนดี..นะดวงใจ
ว่า
ยังคงมี
ใจเดิมพันใจ
ใจเข้าใจในมหัศจรรย์รัก
ใจรู้จักวางใจ
ใจเชื่อใจ
ใจมั่นใจ
ใจรู้ใจ
ใจให้ใจ
ใจเติมใจ
ใจ..จึงได้ใจ
และใจก็จะหลอมละลายกลายเป็นใจดวงเดียวกัน
เป็นขวัญพร่างกระจ่างใจ
ผูกพันกันไปเป็นพิสวาทมิคลาดคลาทุกชาติภพ
รอบรรจบเกาะเกี่ยว
เป็นพลังจิตพลังใจพลังวิญญาณดวงใสดวงงาม
ตราบชั่วกาลชั่วกัปป์กัลป์ชั่วนิจนิรันดร....
มาสร้างงามหอมด้วยดวงดอกความดี
ดอกธรรม นี้ที่รู้พลีดำรงร่างอย่างคนเหนือโลก
รู้ลบโศกลบเศร้า อุทิศร่างร้าวใจไร้
ให้ร่มธรรมเป็นร่มใจ
นำทางใจให้สวยใสสะอาดสว่างสงบ
รอพบเพียรสร้างกุศล
รอวาสนา  รอ..รอ..และจะรอ..จนกว่า
สักวัน..ต้องมีสักวัน..
ที่พระเบื้องบนจะเห็นใจคนดี
นะคนดี..
อย่าท้อใจหากใครผิดหวังในรัก..
จง
รู้จักสร้างพลัง
ด้วยดวงดอกความดี ความดี และความดี
พลี...พลีและพลี..
สู่ทางวางแอกใจ..ไม่ท้อใจไม่ทุกข์ทน..
ไม่..สับสน..หากรักให้เป็น
ให้เย็นให้ใจ..
ให้น้ำใจหยาดสายใสสู่กัน
ดั่งหยาดฝนพรำ..พรม...
............
ฝนเทลงมาแล้ว
เธอ..แหงนเงยหน้ารอหยาดทิพย์โปรยหล้า
จากฟ้าสู่ผืนดิน มิรู้สิ้นรู้จบ
แม้นใจไร้..ร่างร้าว..จะหนาวแสนหนาว
ราวรอ..นกปีกหัก
กลับมาซุกซบสู่อ้อมอกอ้อมตักอ้อมใจ
สู่รังรักอันอบอุ่น..รอ..รอ..และ
จะรอทุกอุทัยโลกหมุน..
นับนานผ่านปี..ปี..และ..
จะสักกี่ปี..กี่ภพ
ก็จะไม่จบสิ้นรักนับ
จากวันนี้นาทีนี้
จนตราบถึงวันสิ้นลม..
...........................


อ้อนใจ! 
ขอเขียนกลอนอ้อนใจใครคนหนึ่ง
คนฝากซึ้งตรึงใจในวสันต์
คำคิดถึงซึ้งรุนแรงแข่งแสงจันทร์
นำทางฝันส่องสว่างกลางนวลใจ..
มองแมกไม้กับเงาจันทร์ขวัญฝากพ้อ
และอ้อนขออย่าแรมไกลใจหวั่นไหว
ในโลกฝันฉันมีเธอเพ้อเพ้อไป
เป็นเงาใจรจนาฝันวันแสนดี..
สายวสันต์พาฝันเก้อเพ้อกลอนหวาน
แม้นร้าวรานหวานดวงใจใครคนนี้
ฝากคิดถึงซึ้งเศร้าถึงคนดี
ในฤดูมีฤดีมีรักรอ..
เด็ดดอกไม้หอมหอมกล่อมหลับฝัน
ขอฝากจันทร์ฝากใจใครละหนอ
วางเคียงหมอนราวนอนใกล้หอมละออ
สวดมนต์ขอรอชาติหน้ามาคู่เคียง! 
.............


แถมอีกเรื่องแสนสุดรักค่ะ
*********
พ้นพันธนา!    
พุดพัดชา  
พ้นพันธนา.
หัวใจของฉัน ผู้หญิงคนนี้ 
ที่คิดว่าน้อมรับธรรมชาติมาแต่อ้อนแต่ออก 
บอกใครถ้วนถี่ก็มิได้หมดใจ 
นอกจากพยายามรจนาออกมาได้บ้าง 
เป็นบางส่วนเสี้ยวของชีวิต...  
ตอนเป็นอาจารย์ มักจะยกตัวอย่างธรรมชาติงาม
มาน้อมนำใจให้ลูกศิษย์ สาวชาวกรุง 
ผู้มิเคยได้สัมผัสของจริงได้รู้ว่า ฟ้างาม นั้นน่าตะลึงหลงเพียงใด 
มันเปลี่ยนสีไปราวเวทีธรรมชาติ 
ที่เล่นแสงสี แสงสวยโดยไร้มือผู้ใดบังคับควบคุม 
ทุกสิ่งที่ฉันได้ซึมซับ กลับรื่นรินไหลให้กับดวงใจอ่อนเยาว์ 
ให้อ่อนโยนที่ละนิดทีละน้อย อ้อยสร้อย รวมเป็นกอบกำ 
จนยึดครองสี่ห้องหัวใจของฉันไปหมดสิ้น...
จนถึงวันนี้ นาทีนี้..  
ฉันเคยมียามเช้าที่แสนดี มียามเย็นที่แสนงาม 
มีพระจันทร์ให้ฝันในยามค่ำ 
มีพระอาทิตย์เริงระบำ ตั้งแต่เช้าจนตกเย็น
เป็นราวเพื่อนใจในทุกโมงยาม 
มีหาดทรายกว้าง มีน้ำทะเลสวย 
มีดวงดาวสุกใส สว่างระยิบระยับ 
ใกล้จนแทบเอื้อมมือคว้าไขว่ได้ นับดาวแทบไม่ทัน 
เป็นคืนฝันวันงดงามแจ่มกระจ่างใจ 
จนเขียนออกมามิได้หมดสิ้น..  
เมื่อย่างสู่วัยสาว วัยร้าวไหว กับคนและความรักเพรียกหา 
สองตาจะมืดบอดสนิท ลืมคิดลืมมอง ธรรมชาติ 
เฝ้าโศกตรม รำพึงรำพันฝันหาบ้าๆบอๆ กับพิษรัก 
ที่หลงลมคว้าไขว่ ให้ใจมีพันธนา 
แทบเป็นบ้าเป็นหลังไม่เป็นอันกินอันนอน..
และในยามนั้น ใช่จะมีไทยโพเอมให้ฝากฝันฝากรักระทม 
ถ่ายเท ใจอย่างในยามนี้เสียที่ไหนกัน 
ที่มากมีคนหัวอกเดียวกัน มากมายมากมีมาปลอบประโลมใจ..  
วิธีหนีทุกข์ ยามอกหัก ยามนั้นคือ...
ได้พักใจนั่งรถไฟซมซานกลับบ้าน 
เสียงรถไฟชึ่กชั่ก ๆๆ กับเส้นทาง สายงามทอดยาว 
จะช่วยลดร้าวระบมใจลง และค่อยๆลืมหมองหม่น
ไปจนตลอดทาง..ยาวไกล......... 
เคยนั่งอ้างว้าง บนเรือโดยสารยามเย็นกลางทะล 
และยามอาทิตย์ใกล้จะลาลับฟ้า
เป็นภาพ ที่สวยจนพรรณาไม่ออกบอกไม่ถูกเอาเลยที่เดียว 
ได้แต่นิ่งงันฝันคว้างลอยเลื่อนราวมีวิมานตรงหน้า 
และทุกคราครั้งเมื่อถึงบ้าน..ฉันจะกระโจนลงทะล 
ให้หายว้าเหว่ เปล่าเปลี่ยวใจ   ไปลอยคอกลางทะเล
มีพระอาทิตย์เป็นเพื่อน มีดาวเดือนเห่กล่อม..
บางทีดำลงไปนิ่งนานให้น้ำเค็มขมของทะเลสอนใจ 
ยามที่รักแบบโงหัวไม่ขึ้น
เพื่อรอคำถามว่าจะเลือกโผล่ขึ้นมาหาหวานมันส์ให้กับชีวิต
หรือว่าจะโง่งมงายให้ขมปี๋กัดกินใจและร่าง.....ต่อไป.... 
และบางทียามที่ไม่มีน้ำทะเลช่วยเห่กล่อม 
จะมีแต่น้ำตาเป็นสายเดียวกับน้ำจากฝักบัวพรูพร่าง 
ยามตรอมตรม..ฉันจะพุ่งดิ่งตรงไปใต้ฝักบัวปล่อย
ให้สายน้ำพรูพร่างหยาดรด.. เปียกโชกแล้วนั่งค้างนิ่ง 
รอให้สายน้ำใสรุนแรงละลายหยาดน้ำตาไปกับสายน้ำราว.. 
ประโลมร่างไร้ใจให้คืนกลับ......ด้วยใสเย็น..  
เคยร้องไห้ กลางสายฝนเดียวดาย 
กับยามไกลบ้าน เคยข้ามเคเบิลคาร์
พาร่างบอบช้ำและใจมืดหม่น เดียวดาย 
ไปนั่งดูไฟพริบพราวจากเรือในโค้งอ่าวสิงคโปร์ที่เกาะเซนโตซ่า.....  
เคยและเคยมาทุกรูปแบบ 
ที่ระบมกับพิษรักที่หนักยิ่งกว่าพิษไข้เสียเป็นไหนๆ.. 
แต่มาวันนี้..ใจดวงนี้ ถึงที่สุดแล้ว 
แม้จะมีน้ำตา แต่คงแค่ไหลออกมาระบาย
ใช่จะยอมรับไม่ได้ กับความผันแปรมิแน่มินอน
ของเกมรักซ่อนเงื่อน..ซ่อนใจ..
รู้ระกำ รู้ทำใจ ปล่อยวาง รู้ว่าง รู้ปลดปล่อยจิตให้อิสระ 
ไร้พันธนาด้วยโซ่ตรวนแห่งกรรม 
ไม่ว่าจากใคร จากใจต่อใจ จากเขา จากเราเอง.. 
ไม่มีอะไรแน่นอน..เท่ากับความว่างความพอดี 
ความรู้ทัน....รู้เท่าทุกสิ่ง..ที่เป็นธรรมดาๆโลก 
ที่มนุษย์มากมีต้องเวียนว่าย หนีไม่พ้นเพรงกรรม
ที่เคยร่วมสร้างกันมาแต่ภพก่อน ปางก่อน.. 
เวลาผ่านไป ไม่ช้านาน ทุกร่างรัก 
ที่แย่งชิง ริษยา เสน่หา มืดบอด หวงแหน
ก็จำต้อง โรยรา ร่วงหล่น ปนเปื้อน คืนกลับสู่ผืนดิน..ทุกตัวตน...
ยามสนธยาแห่งชีวิตมาเยือน.. 
....................
 

http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=129
หยาดน้ำฝน หยดน้ำตา   
ดาวใจ ไพจิตร : : Key Gm  
หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์
หลั่งความขื่นขมที่ถมอยู่ใน ใจตน
หยาดย้อยจากปรางสวรรค์เบื้องบน
สู่กลางแก้มดินในฐานถิ่นคน
นั้นคือหยาดฝน ฉ่ำใจ
สาดสายพร่างพรายพรมผืนไร่นา แนวเนิน
ป่าดอนโขดเขินคลองขลุงทุ่งหนอง นองไป
หล่อเลี้ยงพืชพันธ์ มีผลดอกใบ
โลกเคยหลับไหล พลันฝืนตื่นใจ
สวยงามสดใส จริงเอย
ทอแสงทองอาทิตย์ทาบทา
พลันน้ำตานางฟ้าระเหย
เป็นละอองไอน้ำอย่างเคย
ถูกลมรำเพย พัดเลยลอยวน
หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์
ฝากมากับลมเป็นฝนพร่างพรม ใจคน
แต่น้ำจากตาตอนช้ำกมล
ที่เราหลั่งลอย ระเหยกี่หน
ถึงกลายเป็นฝน ฉ่ำใจ
ทอแสงทองอาทิตย์ทาบทา
พลันน้ำตานางฟ้าระเหย
เป็นละอองไอน้ำอย่างเคย
ถูกลมรำเพย พัดเลยลอยวน
หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์
ฝากมากับลมเป็นฝนพร่างพรม ใจคน
แต่น้ำจากตาตอนช้ำกมล
ที่เราหลั่งลอย ระเหยกี่หน
ถึงกลายเป็นฝน ฉ่ำใจ... 
				
comments powered by Disqus
  • ชูรส

    9 พฤษภาคม 2547 23:51 น. - comment id 264706

    ยังไพเราะเหมือนเดิมเพิ่มสีสรร
    กวีวรรณ..พุดพัดชา..ภาษาหวาน
    ยังเป็นหนึ่งโดดเด่นเช่นวันวาน
    โลกกล่าวขานถ้อยพจน์อันงดงาม
  • เบนนี่

    9 พฤษภาคม 2547 23:51 น. - comment id 264709

    มาทักทาย เป็นกำลังใจให้ค่ะ
    
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111                    1111111111                    11111111111111111
    111111111111111                           111111                           111111111111111
    11111111111111                                11                                11111111111111
    1111111111111                                                                       1111111111111
    1111111111111                                                                       1111111111111 
    11111111111111                                                                    11111111111111 
    111111111111111                                                                 111111111111111 
    11111111111111111                                                          11111111111111111
    111111111111111111                                                       111111111111111111
    11111111111111111111                                                11111111111111111111 
    11111111111111111111111                                      11111111111111111111111
    11111111111111111111111111                            11111111111111111111111111 
    11111111111111111111111111111                  11111111111111111111111111111 
    11111111111111111111111111111111        11111111111111111111111111111111  
    1111111111111111111111111111111111  111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    
  • พุดพัดชา

    10 พฤษภาคม 2547 00:34 น. - comment id 264790

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=129
      ครวญ   
    ซิกเซ็นซ์ : : Key Ab  
    เมื่ออยู่ริม ฝั่ง ชล ฉันยล ทุกยาม เย็น
    พักในร่มเงา ไม้เอน
    ฉัน มอง เห็นนก บินกลับรัง 
    ตะวันใกล้จะ ลับ แล้ว
    เห็นเรือแจว อยู่ ริม ฝั่ง
    เฝ้าแต่ครวญ แต่ครวญครวญหา น้ำตา หลั่ง
    จึงร้องสั่ง อา ลัย 
    เฝ้าแต่ครวญ สั่งคำ แม้เรือ ลอยลำ ไป
    พบคนที่เคยซึ้งใจ ขอเรือ นำเธอมาให้ที 
    ตะวันใกล้จม แผ่นน้ำ 
    สายชลงาม ดังกำ มะหยี่
    โอ้ว่าดาว ว่าดาวดวงนี้ แสงพลันริบหรี่
    คงริบหรี่ เช่น เรา
    
    เฝ้าแต่ครวญ สั่งคำ แม้เรือ ลอยลำไป
    พบคนที่เคยซึ้งใจ ขอเรือ นำเธอมาให้ ที 
    ตะวันใกล้จมแผ่นน้ำ สายชลงาม ดังกำมะหยี่
    โอ้ว่าดาว ว่าดาวดวงนี้ แสงพลันริบหรี่
    คงริบหรี่ เช่น เรา... 
    
  • พุดพัดชา

    10 พฤษภาคม 2547 01:12 น. - comment id 264839

    จากใจจริงแล้ว
    พุด..ยังเชื่อมั่นถึงพลังรักอันแสนงาม
    นามความดีมีคุณธรรม
    ที่จะสืบสานสันติโลกนะคะ
    หากเรายังต้องดำรงร่าง
    เป็นปุถุชนคนเดินดิน
    เราทุกคนจักหวัง
    มีคนดีที่รักเป็นพลังอันงามงด
    หมดจดใจ
    เพื่อต่อเติมใจต่อเติมพลังจิตวิญญาณ
    ให้เพียรสร้าง
    งาม..นิยามความดี ที่ใสพิสุทธิ์
    บริสุทธิเหนือกิเลส..ทั้งปวงของมวลมนุย์ผุ้ชอบพิพากษาผุ้อื่น..โดยมิรู้ความจริงเลยมาสักเสี้ยวเดียวของเราค่ะ
    จึง
    เป็นผุ้คิดว่า
    รักคือความดีการให้..แด่เพื่อนมนุษย์
    อย่างผู้ที่ดำรงธรรมในใจ
    และหากยึดถืออะไรก็แค่พลังใจให้ฝ่าฟัน
    มิใช่ยึดมั่นมิคลายค่ะ
    ด้วยรักจากใจ
  • อัณณพ

    10 พฤษภาคม 2547 01:12 น. - comment id 264841

    แต่งได้ไพเราะ และเย็นเยียบมากค่ะ
    
    แวะมาชื่นชมผลงาน
    
    เยี่ยมมากเลยค่ะ
    
    หวังว่าจะได้อ่านงานดีๆอีกนะค่ะ
    
    goodnight ค่ะ
  • toneliu

    10 พฤษภาคม 2547 04:01 น. - comment id 264874

    อยากรัก...อยากอ้อนใจด้วยนะ
    
    แต่วสันต์ดูท่าไม่น่าถวิล
    
    ไม่นานคนล้นทุกข์ร่ำน้ำตาริน
    
    รัฐดีดดิ้นดีดคนออกพ้นงาน....
    
    ^_^....ปลายวสันต์ คงมีข่าวร้าย คนหลวงไม่น้อยจะถูกบีบให้ออกงานไม่น้อยเลย  ยิ่งคนเล็ก ๆรายได้น้อย หนี้แยะ..  .จะทำยังไง  ถูกทิ้งกลางคันน่ะ ซึ่งไม่ใช่วิสัยคนไทยเลย แต่เกิดแล้วในยุคสมัยนี้ 
    
    ตอนนี้ คนบ่าเหลืองเล็กใหญ่เครียดไปหมดทั้งระบบ แล้ว ระแวดระแวงหักหลัง เอาดี ทับถมกัน เพื่อให้ตนคงอยู่..ระบบอุปถัมภ์ สำแดงตนวาดความชั่วร้ายในทันที...
    
    คนคิด คนทำเรื่องนี้ ถูกตราไว้ในหนังหมาแน่นอน เพราะไม่มีหลักมั่นชัดเจแน่นอนเป็นธรรม 
    
    การจัดระเบียบระบบที่ล้มเหลวอีกบทของคนใช้อำนาจ(ไม่อยากเอ่ยชื่อ) ที่อำพรางแฝงเร้น  ภายนอกสวยงาม ...ภายในสิ...????
    
    สงสาร เห็นใจ เข้าใจชะตากรรม แต่ถึงเวลาถอดหน้ากากของนักบุญแล้วนี่....
    
    วันนี้ เอาวสันต์เศร้ามาด้วย ขออภัยคุณพุดด้วยนะครับ..........
    สงสารคนไม่มีพื้นที่ยืนอยู่ในบ้านเมืองนี้อย่างมั่นใจแล้วอีกกลุ่มหนึ่งจริง ๆ จะบีบเขาให้เป็นผู้ร้ายกันหรือไร.... 
    
    จริง ๆแล้ว ผมชอบวสันตฤดูมากนะครับ ยิ่งเพลงอะไรนะ  วสันต์นี้พี่ถวิลถึงปิ่นสมร...สวยงามมาก  เหมือนเพลง ครวญ  เมื่อไปทะเลทุกเวลา......คนชอบมองอะไร ๆในทะเลครับ มันมีอะไร ๆให้เราคิด  ให้เรามั่นใจชีวิตน่ะ...^___^ 
    
  • toneliu

    10 พฤษภาคม 2547 04:03 น. - comment id 264875

    อยากรัก...อยากอ้อนใจด้วยนะ
    
    แต่วสันต์ดูท่าไม่น่าถวิล
    
    ไม่นานคนล้นทุกข์ร่ำน้ำตาริน
    
    รัฐดีดดิ้นดีดคนออกพ้นงาน....
    
    ^_^....ปลายวสันต์ คงมีข่าวร้าย คนหลวงไม่น้อยจะถูกบีบให้ออกงานไม่น้อยเลย  ยิ่งคนเล็ก ๆรายได้น้อย หนี้แยะ..  .จะทำยังไง  ถูกทิ้งกลางคันน่ะ ซึ่งไม่ใช่วิสัยคนไทยเลย แต่เกิดแล้วในยุคสมัยนี้ 
    
    ตอนนี้ คนบ่าเหลืองเล็กใหญ่เครียดไปหมดทั้งระบบ แล้ว ระแวดระแวงหักหลัง เอาดี ทับถมกัน เพื่อให้ตนคงอยู่..ระบบอุปถัมภ์ สำแดงตนวาดความชั่วร้ายในทันที...
    
    คนคิด คนทำเรื่องนี้ ถูกตราไว้ในหนังหมาแน่นอน เพราะไม่มีหลักมั่นชัดเจแน่นอนเป็นธรรม 
    
    การจัดระเบียบระบบที่ล้มเหลวอีกบทของคนใช้อำนาจ(ไม่อยากเอ่ยชื่อ) ที่อำพรางแฝงเร้น  ภายนอกสวยงาม ...ภายในสิ...????
    
    สงสาร เห็นใจ เข้าใจชะตากรรม แต่ถึงเวลาถอดหน้ากากของนักบุญแล้วนี่....
    
    วันนี้ เอาวสันต์เศร้ามาด้วย ขออภัยคุณพุดด้วยนะครับ..........
    สงสารคนไม่มีพื้นที่ยืนอยู่ในบ้านเมืองนี้อย่างมั่นใจแล้วอีกกลุ่มหนึ่งจริง ๆ จะบีบเขาให้เป็นผู้ร้ายกันหรือไร.... 
    
    จริง ๆแล้ว ผมชอบวสันตฤดูมากนะครับ ยิ่งเพลงอะไรนะ  วสันต์นี้พี่ถวิลถึงปิ่นสมร...สวยงามมาก  เหมือนเพลง ครวญ  เมื่อไปทะเลทุกเวลา......คนชอบมองอะไร ๆในทะเลครับ มันมีอะไร ๆให้เราคิด  ให้เรามั่นใจชีวิตน่ะ...^___^ 
    
  • magic

    10 พฤษภาคม 2547 06:50 น. - comment id 264893

    ยังมีงานเพราะ ๆ มาให้อ่านนะคะ
    เป็นงานที่สื่อความรู้สึกได้ดีค่ะ
  • พุด

    10 พฤษภาคม 2547 08:40 น. - comment id 264913

    มาแสดงความซาบซึ้งใจ
    ในยามอุษาฟ้าสว่างกระจ่างใจ
    ราวสวรรค์เป็นใจ
    ยามสายวสันต์ซาค่ะ
    รับอรุณเบิกฟ้า
    พุดไปเด็ดเข้มขาว
    แก้วที่พร่างพราว
    พุดที่งามจริงมิซ่อนใจ
    มาคลึงหอมเคล้าใจ
    เคียงคลอจอคอมนะนาทีนี้นะคะ
    ทุกดวงใจ
    ให้เราหอมงามใจไปด้วยกัน
    ให้พลังใจกันและกัน
    ด้วยน้ำจิตน้ำใจสวยใสเย็นฉ่ำ
    ดั่งหยาดฝนพรำพรมรินค่ะ
    ...........
    ชูรสคะ..
    พุดซึ้งใจค่ะ
    สำหรับพุดดีใจ
    ที่มีคนเข้าใจงานรักแสนงาม
    งานงามที่พุดพยายามบอกใบ้
    แบบบวกธรรมดาคนธรรมชาติใจ
    ธรรมดาโลกให้ใช้ใจดวงดีดวงงาม
    ให้ความรักแด่ทุกผู้เพื่อนมนุนย์
    มิอุตริสั่งสอนใคร
    หากไม่แน่ใจว่าเรารู้ใจรู้จักเขาดีพอค่ะ
    งานพุด..
    จึงเพียงขอ
    แค่นำเสนอ..
    ว่าพลังรักจักถักทอจิตวิญญาณ
    ร่วมผสานพลังใจดำรงร่างใจทำความดี
    หากมาตรแม้นเรานี้ยังไม่ได้ครองกัน
    ขอเพียงมีใจดวงใสดวงสวยดวงให้
    ดวงคล้ายรู้ทันรุ้เท่ารู้รักในเบื้องลึก
    ให้ตกผลึกเป้นดั่งดวงดอกเพชรกระจ่าง
    แตกพร่างนำทางใจ
    ไปสู่ความว่างความงาม
    เหนือโลกเหนือคำคน
    เหนือใจใคร
    ที่ยังมีใจเร่าร้อนริษยาคอยค่อนว่า
    หาทางเติมร้อน..ใจ
    เราต้องดับด้วยใจดวงดีดวงาม
    และให้น้ำใจเมตตา
    ผู้ที่ไม่เข้าใจ
    ไม่รู้ใจรู้จักจิตวิญาณภายในเราดีพอนะคะ
    .......
    เบนนี่คะ
    ตื่นเต้นกับงามที่น้องมาแสดงน้ำใจค่ะ
    สวยมากทำได้ไงคะ
    ขอเคียงข้างประโลมใจน้องเช่นกัน
    หนทางสู่ดวงดาวนั้น..มีหลายทางค่ะคนดี
    อย่ายอมแพ้..
    เสมือนบทเพลง
    ที่ไปฝากไว้ให้นะคะ
    ด้วยรักห่วงใยค่ะ
    ...........
    อัณณพคะ
    ขอบคุณนะคะ
    ที่ใช้คำได้งามใจ
    ราวสายฝนพร่างเย็น
    รินใส่ดวงใจแสนงาม
    ของพี่พุดแล้วค่ะในเช้านี้
    ขอบคุณนะคนดีนะดวงใจ
    ............
    สำหรับ
     toneliu  ค่ะ
    พุดชอบอ่านคอมเมนท์ยาวๆ
    แบบมาเล่าเรื่องราว
    แบ่งฝันปันสุขเศร้าแบบนี้มากค่ะ
    และ
    แสนเข้าใจค่ะ
    เพราะเมื่อวานเพิ่งได้ยินได้ฟังมา
    และห่วงใยมากค่ะ
    เพราะ..ว่าฝันและกำลังใจจะหายหมด
    ไม่รู้ว่าอนาคตจะต้องถึงวันนั้น..เมื่อไร
    อึดอัดใจทั้งฝ่ายประเมินและ
    ผู้ถูกระบบเล่นงาน..ราวระบบบีบ
    ถีบหัวส่งค่ะ
    ก็ยาวนะคะ หากให้แสดงความคิดเห็น
    ก็พุดถึงเตรียมใจรับสมถะเงียบงามชีวีแล้วค่ะ
    เมื่อวาน
    ยังบอกใครบางคนที่เกาะ
    ให้เตรียมสร้างกระท่อม
    ไว้รอแล้วค่ะ
    และขอเผื่อใครอีกคนที่กมลละไมพอกัน
    ที่อยากมีกระท่อมสวนเคียง
    สายน้ำสงบลบลืมโลกร้อน
    ไว้ไปขุดบึงบัวผ่อนพักระบาย
    รักรจนาค่ะ
    ท่ามกลางแสงตะเกียงอันริบหรี่ค่ะ
    เค้าคนนั้นบอกว่า..
    มีที่ดินแล้วในหุบไพรค่ะงามมาก
    และยินดีจริงๆ
    ที่จะสานฝันสร้างฝันให้พุดพัดชา
    น่าดีใจมั้ยละคะ
    พร้อมกับคนที่พุดพัดชาแสนรักด้วยค่ะ
    และนี่คือน้ำใจ
    คนในโลกจริงที่รักพุดพัดชา
    ได้สัมผัสชีวิตและรู้ใจรู้จักเราจริงค่ะ
    ในชีวิตพุด..ซึ่งมีแต่คนมากน้ำใจเมตตา
    ให้รักล้นฟ้าล้นใจด้วยรู้ใจรู้จริงค่ะ
    และ
    จะชวนว่าไปด้วยกันมั้ยละคะ
     toneliu  
    
    
    .............
    ขอบคุณทุกท่านนะคะอีกครา
    อิ่มเอมใจมากค่ะ
    มิเสียแรงลาพรากไปหลายวัน
    แม้นไฟฝันจะริบหรี่ๆหาที่ไปไม่พบเจอค่ะ
    
    ด้วยรักล้นใจ
  • พี่พุด

    10 พฤษภาคม 2547 08:46 น. - comment id 264916

    น้องเมจิค..
    มหัศจรรย์ฝันมาปันใจแบ่งน้ำใจรัก
    ถักถ้อยให้หอมงาม..สะท้อน
    ทั้งแด่ตนและแด่ผุ้หญิงกมลละมัย
    ที่ชื่อพุดพัดชาคนนี้ค่ะ
    ด้วยซึ้งสุดใจนะคะ
    และขอให้น้องคนดีรักษาใจ
    ดวงดีดวงงามไว้ตราบนานเนานิรันดร์นะคะ
    
    .............
  • รัก

    10 พฤษภาคม 2547 08:51 น. - comment id 264918

    พุด ดีใจมากๆเลยที่เข้ามาแล้วได้เห็นภาษางามๆ ของพุดอีก คิดถึงพุดเสมอนะ
    
  • พุดพัดชา

    10 พฤษภาคม 2547 09:16 น. - comment id 264922

    ท่ามกลางแสงตะเกียงอันริบหรี่! พุดพัดชา 
    
    จุดตะเกียงเขียนกลอนเศร้าแกล้มวสันต์
    ไร้เงาจันทร์ฝันค้างใจถึงใครหนอ
    คนเคยรักเคยร่วมฝันเคล้าเคียงคลอ
    หลงพะนอพ้อเพ้อใจไยไม่มา...
    
    วิบวับวาวแสงตะเกียงริบริบหรี่
    ฝากฤดีรักงามเงียบยังห่วงหา
    ให้คืนหลังฝังกายใจไพรพนา
    ฝากกระซิบว่ามีกระท่อมน้อยคอยรักเรา..
    
    วิมานฝันในหุบไพรมีบึงน้อย
    ให้เราลอยล่องไปคงไม่เหงา
    นอนนับดาวพราวพร่างฟ้าคืนสุขเรา
    อิจฉาเราจันทร์หลิ่วตาว่าไม่มอง..
    
    ดอกราตรีกอเศร้าย้ำใจโศก
    นี่หรือโลกคนช่างฝันวันครองหมอง
    เสียงสายฝนหล่นกราวท่วงทำนอง
    เรียวตาหมองอยากร้องไห้ใกล้อกเธอ..แล้วคนดี!
    
  • พันดาว

    10 พฤษภาคม 2547 10:44 น. - comment id 264951

    คิดถึงจัง... ไม่เห็นกลอนพุดมาหลายวัน
    กลอนยังคงความอบอุ่น สงบ .... สวยงาม 
    -----------
    กลอนสวยงาม           ในความรู้สึก
    พาลำรึกถึงเงาคน      แต่หนหลัง
    คนที่เคยออดอ้วน      สัญญาใต้เงาจันทร์
    เคยพรอดพร่ำรำพัน ในวันจันทร์เต็มดวง
  • ณ...รัก

    10 พฤษภาคม 2547 11:20 น. - comment id 264963

    มาอ่านอีกรอบนะพุด  รู้สึกสงบดี ชอบที่สุดตอน
    
    รู้ระกำ รู้ทำใจ ปล่อยวาง รู้ว่าง รู้ปลดปล่อยจิตให้อิสระ ไร้พันธนาด้วยโซ่ตรวนแห่งกรรม 
    ไม่ว่าจากใคร จากใจต่อใจ จากเขา จากเราเอง.. ไม่มีอะไรแน่นอน..เท่ากับความว่างความพอดี 
    ความรู้ทัน....รู้เท่าทุกสิ่ง..ที่เป็นธรรมดาๆโลก 
    ที่มนุษย์มากมีต้องเวียนว่าย หนีไม่พ้นเพรงกรรมที่เคยร่วมสร้างกันมาแต่ภพก่อน ปางก่อน.. 
    
    เวลาผ่านไป ไม่ช้านาน ทุกร่างรัก 
    ที่แย่งชิง ริษยา เสน่หา มืดบอด หวงแหน
    ก็จำต้อง โรยรา ร่วงหล่น ปนเปื้อน คืนกลับสู่ผืนดิน..ทุกตัวตน...
    ยามสนธยาแห่งชีวิตมาเยือน.. 
    
    
    ไม่มีอะไรจะสุขสงบเท่าใจตัวเอง และก็ไม่มีรสอะไรหวานเท่ารสธรรม....จริงๆนะจ๊ะ..อิอิ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    10 พฤษภาคม 2547 18:00 น. - comment id 265207

    ขอเขียนกลอนอ้อนใจใครคนหนึ่ง
    คนที่ซึ้งห่วงหามาเสมอ
    ขอให้เธอคนดีได้พบเจอ
    กับกลอนฉันเสมอที่แต่งให้ไป
    
    *-*กลอนแต่งได้ดีค่ะ  ความหมายในส่วนเนื้อหาก็ดีค่ะ  รักและคิดถึงเสมอนะค่ะ*-*
  • http://www.thaipoem.com/web/memberhome.php?id=7555

    10 พฤษภาคม 2547 18:30 น. - comment id 265238

    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111                    1111111111                    11111111111111111
    111111111111111                           111111                           111111111111111
    11111111111111                                11                                11111111111111
    1111111111111                                                                       1111111111111
    1111111111111                                                                       1111111111111 
    11111111111111                                                                    11111111111111 
    111111111111111                                                                 111111111111111 
    11111111111111111                                                          11111111111111111
    111111111111111111                                                       111111111111111111
    11111111111111111111                                                11111111111111111111 
    11111111111111111111111                                      11111111111111111111111
    11111111111111111111111111                            11111111111111111111111111 
    11111111111111111111111111111                  11111111111111111111111111111 
    11111111111111111111111111111111        11111111111111111111111111111111  
    1111111111111111111111111111111111  111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
    
    แวะมาทักทายครับ...เขียนได้ดีเช่นเดิมนะครับ  โชคดีครับ
  • ***กฤษณะ***

    10 พฤษภาคม 2547 18:41 น. - comment id 265249

    ^J^     .............
    
      ทำไมหนอ...พุดจึงหวานซึ้งปนเศร้า ในทุกครา...ฯ   ติดตามผลงานตลอดครับ...
    
    
    
  • ชัยชนะ

    10 พฤษภาคม 2547 19:08 น. - comment id 265269

    มาออดอ้อนแทนใจแทนใครกันหนอ
    
    สงสัยมาไม่ทันขบวนรถไฟ ฟังแค่ชื่อเรื่อง ก็คาดเดาว่าไม่พ้น เรื่องเศร้า
    
    มาอ่านทั้งสองเรื่องยิ่งเศร้าทวีคูณ(โดยเฉพาะเรื่องหลัง)
    
    ก็เอกลักษณ์ของพุด ชัยชนะก็รู้ดีว่าถนัดใครถนัดมัน
    
    ก็ขอให้มั่นใจว่ามาเยี่ยมมาหาพุดเช่นเดิม แต่อาจมาช้าบ้าง 
    หรือเขียนสั้น ๆ บ้าง
    คงไม่ว่ากันนะครับ
    
  • ราชิกา

    10 พฤษภาคม 2547 19:29 น. - comment id 265285

    ประทับใจในทุกครา..ที่ได้มาอ่านบทกวี..ของคุณพุด...ซึ้งปนเศร้า...หวานในอารมณ์โศก...ได้ทุกรสชาด..ในงานเชิงกวี....
    
    คิดถึงนะคะ..คุณพุด..หายไปนาน..สบายดีมั้ยคะ..
    
  • หมากเขียบ

    12 กรกฎาคม 2547 11:10 น. - comment id 283191

    พุดนี้คือใครใยน่าเศร้านัก
    ฉันประจักษ์ในบทกลอนอรอนง
    เข้าเยี่ยมมาอ่าน..นาจะได้ยล
    หวังว่าคงได้ชม...ผลงานคุณ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน