นวลไพร...

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song198.html
(ปรารถนา)


ราตรีนี้...
ฟ้ากำลังครึ้ม..ครึ้ม
ดวง..
รอให้สายฝนพร่าง..พรมพรำลงมา
เพราะ...
ว่า...อยากสร้างบรรยากาศบนเรือนจำปี
ให้มีทั้งกลิ่นฝนแกล้มฝัน..ไฟฝัน
ที่..ดวงกำลังอยากจะเสกสรรรจนา
ริน..เทบางราวเรื่อง
ที่กำลังตั้งท่ามาหลายวันแล้ว..


ดวง..
จุดเทียนหอมหอมหวานหวาน
มาวางไว้ในตะเกียงแก้ว..กันลม 
ที่..
กำลังพรมพัดละอองฝนเย็นฉ่ำ
มาจากที่ไหนสักแห่งแสนไกล
ไหว..
ผ่านพรายเข้ามาทายทัก
ให้หนาวเนื้อ ไร้เนื้อห่มเสียเป็นนักเป็นหนา...


ฟ้า..ไร้ดาว
และ..
จันทร์ครึ่งดวง..
ที่..เคยทอแสงสกาวครึ่งเดียว
ก็..
ลาลอยหายลับ....... 
เสมอเสมือนมาสอนสัจจธรรมแห่งความรัก
ให้..
ทุกดวงใจในพื้นปฐพีที่หลงฝันหลงคอยคนดี
ได้เรียนรู้ทำใจ 
ว่า..ไม่ว่าจันทร์ฤาว่าใจ ก็มีวันผ่านมาผ่านไป
เดี๋ยวมืด...เดี๋ยวสว่าง...
เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ คลุกเคล้ากัน


ค่ำคืนนี้
ดวง..คิดถึงคำว่า
*อ้อมกอดแห่งรัก**สีสันแห่งรัก*
ที่กำลังมาทายทัก
ตรงริมใจดวงอย่างทะนุถนอมแผ่วเบา


จึงช่วงที่พักรอ รจนา..*เรื่องมหามิ่งมงคล*
ที่..
ยังเพียรหาที่เริ่มต้น..เติมฝันให้จนจบมิได้
ก็จึ่ง จัก...
ขอพลีฝากเรื่องข้างล่างนี้
*สีสันแห่งรัก*
ให้..
อ่านเอาสุขนิรันดร์
 ฝันคว้างฝันเคลิ้มนอนนิทราฝันดีนะคะทุกดวงใจ
ในเรือนไทยร่มรักแห่งผองเรา...
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...

.......................

สีสันแห่งรัก...พุดพัดชา
เธอ....เป็นสีสันแห่งรัก...
ที่..
ฟ้าเบื้องบนประทานมาให้..
มาประดับหล้า มาเคียงใจ
มาพร่างพรมให้โลกสดใสงามงด หมดจด..
เป็นความว่าง ความงาม ความเป็นกลาง
ที่มีทั้งหวานทั้งสุขโศกให้โลกนี้มีความพอดิบพอดี
มิใช่..สีสันจัดจ้า เร่าร้อนรุนแรง
หากแฝงไว้ด้วยความละเมียดละไม 

และ..
หากเป็นสีแล้วไซร้..
เธอ..เป็นดั่งสีเขียวของเรียวใบไม้ 
สีธรรมชาติ สีเอิร์ทโทนประมาณนั้น ประมาณนี้
ประมาณที่..บางทีบางครั้งก็ยังเป็นดั่งแสงงามแห่งเรียวรุ้ง
โอบท้องนาป่าเขาเงาละหานได้
เธอ..
ทำให้ทุกดวงใจอบอุ่นเป็นสุข หากอยู่ใกล้
เธอ..ให้ความรู้สึกดี..ความเอื้ออาทร 
ความอ่อนหวาน ความห่วงใย และเหนือสิ่งอื่นใด
การให้นั้น..ให้อย่างมีสติ 
ให้โดยไม่มีเงื่อนไข 
ไม่หวังผลตอบแทน..
เฉกเดียวกับธรรมชาติ..ผสมผสานรักกับผู้คนบนหล้าโลก..
มิรู้สิ้นรู้โศกรู้เพียงถวิลหวานถวิลหวัง..

เธอ.......เป็นสีสันแห่งรัก....
ก้าวมาทายทักให้ยิ่งหลงรักวสันต์ลีลา 
วันไหนฝนพร่างคืนไหนฝนพรำ  ฟ้าร่ำโศก โลกอ้างว้าง..
หรือ
ยามเดินดายเดียวในป่าไพรลำพัง..
เธอ..คนดีจะติดปีกฝันมาซุกซบให้เอนอิงพิงไหล่  
ในอ้อมอกในอ้อมใจ
ให้ไออุ่นกันและกัน..
ให้พลังฝัน..พลังใจ 
ไม่มีช่องว่างใดใด..ไม่มีคำว่ากาลเวลา..
เธอ..เป็นสีสันแห่งรัก..
ให้พักใจในยามดายเดียว 
เหลียวไป...
ไม่พบเจอใครเสมอเหมือนเทียมเท่าจิตวิญญาณ
ที่แปลกแยกแผกคิดแผกใจ
เธอ..พร้อมพลี เคลีอคลอเคียงข้างลบอ้างว้าง
ลืมช่องว่างใจ ให้แนบชิดสนิทใน 
ดั่ง...
หลอมละลายใจและร่าง
ให้มลายกลายเป็นเรา และเรา...

ในโลกอันเร่าร้อนรุนแรงแล้งน้ำใจ
ใน..
ความวุ่นวายสับสนขันแข่งแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
ในการค้นหาทางใจของคนมายมายไม่พบเจอ 
ในห้วงหาวห้วงเหวแห่งความไม่มีใคร..
ที่มนุษย์ส่วนใหญ่ยังตะเกียกตะกายดิ้นรนไขว่คว้า
อยากแค่
มีใครสักคนมาคลายเหงา..ไม่สิ้นร้างไร้รักอีกต่อไป..

เธอ..เป็นดั่งสีสันแห่งภูเขา เงาไม้
 สายธาร หวานหยาดจากพรายพระจันทร์
ดั่งดวงดอกไม้... ดั่งดงดอกหญ้า..ดั่งท้องทุ่งนา ..
ดั่งราตรีที่งามด้วยแสงดาวระยิบระยับ...
ดั่งเรียวรุ้งจับท้องฟ้างามยามหลังฝน..
ดั่งสายฝนพรมพรำชื่นฉ่ำใจ 
ดังท้องฟ้าใสกระจ่างเมฆงามลอยเลื่อน..
ดั่งดวงเดือนประดับฟ้า
และ..
ดั่งมนตราประดับหล้าโลกประดับใจ..ไปชั่วกาล..

เธอ..เป็นสีสัน
ให้ชีวีมีดวงตาที่สาม 
มองเห็นหนทางลบหมองหม่นใจ
ในบทเรียนโลกโศกสุขที่รุกราน 
รุกเร้าดวงจิต ตามติดมาแต่ปางก่อน
ที่มาลวงหลอนหลอกใจ..ในบางคราให้ทุกข์คลาย 
ให้โลกไหวหวั่นพลันลับลา
ให้..
รู้เหลียวกลับมามองความงามภายใน 
ให้ดวงใจสอดประสาน
เป็นดั่งเสมือนหนึ่งมิตรชิดใกล้กับธรรมชาติ 
ให้รู้การปล่อยวาง
ให้ใจเป็นกลางๆให้รู้จักความว่าง ความพอดีๆ 
อย่างผู้มีธรรมชาติเป็นครู..
ให้รู้..
เตือนรู้ตนไม่หลงทางยึดติดอีกต่อไป..

เธอ..เป็นสีสันแห่งดวงใจ 
ให้เพียรเพาะบ่มห่มรัก ห่มเนื้อใจด้วยร่มธรรม
เป็นดั่งร่มกั้นฉากป้องคุ้มผองภัย
ให้..
ดวงใจใสกระจ่าง
ราวหยาดน้ำฝน น้ำค้างกลางห้วงหาว
ดั่งดวงดาวพริบพราวสุกสกาวประดับฟ้า
ประดับใจส่องนำทาง
ให้เลิกไหวครวญ ให้เลิกหมองหม่น..
เธอ..
เป็นสีสันแห่งดวงใจ
ให้ใคร่ครวญคิด...ให้น้ำใจแบ่งปัน
ในทุกวันเวลากับผู้ที่ยากกว่าผู้ที่ด้อยกว่า
เพื่อฝึกการสละออก
ปลดแอกของความยึดมั่นถือมั่น มากมาย
หัดให้มองผู้ยากไร้ดั่งมิตรควรอุปภัมภ์..

เธอ..
ดั่งสะพานดาว 
ทอดยาวให้ทุกย่างก้าว
ของผู้คนมากทนทุกข์ยาก ในโลกนี้
ได้มีโอกาสเดินไปคว้าไขว่
เก็บดาวมาประดับใจประดับภาคภูมิ..
เธอ..
เป็นสีสันแห่งรัก
ที่สอนให้รู้ค่าของการพลัดพรากจากลา 
สอนให้ยอมรับสัจจะแห่งชีวิตนี้ที่อย่าประมาท
ที่มิ
อาจหมายมาดให้ยาวยืนได้ดั่งใจ..และ
ฉลาดในการวาดหวังรัก วาดหวังใจ 
สร้างไฟฝัน
ให้ไสวสว่างนำสู่เส้นทางใจ 
เส้นทางสายฝัน เส้นทางสายงาม
อย่าง..
ผู้เข้าใจโลก..
อยู่เหนือโลกเหนือโศกสุขอย่างเงียบงาม..

เธอ..เป็นสีสันแห่งรัก 
มาจากดินดี..ดินเดียวกัน..
มาหว่านเพาะดวงดอกฝันดวงดอกรัก
ด้วยเนื้อใจใสพร่างพิเศษพิสุทธิ์งาม
เพียรสร้างโลกภายใน ให้ทุกยามมีแต่ความเงียบง่าย
ให้ใช้ดวงตาที่สามที่ฟ้าเบื้องบนประทานให้ 
เฝ้า..
เตือนตน ค้นหางามแห่งความว่างความพอดี 
มีชีวิตอย่างสมถะ หากทว่าอิ่มใจ อิ่มสุข
มิ..
หวังตามหลงตามใครๆ
หลงไปในโลกวัตถุมากมี มากมาย
ที่ดูคล้ายจะนำมาซึ่งความเหน็ดเหนื่อยเป็นยิ่งนัก..
ให้รู้จัก..หยุดอยาก......และพอ..

เธอ.
.เป็นสีสันแห่งรัก
ให้...โลกแล้งราโรย..โหยหาจิตวิญญาณไพร ได้เติมเต็ม
ให้อ่อนไหวอ่อนหวานให้เงียบงาม 
ให้สงบสุข 
ให้ทุกผู้ได้พบเรียนรู้ค่ารัก
ให้
โลกจักหมุนไปอย่างไม่รู้จบรู้สิ้น
ด้วยพลังแห่งใจแห่งรักนี้ 
ที่เกิดมาเพียรสร้างสรร
มิใช่การทำลายล้างประหัตประหารกัน..

เธอ..
เป็นสีสันแห่งรัก
ที่...ไม่ยอมแพ้พ่าย 
มาดหมายจะเสียสละชีพน้อยนี้
ให้มากมีค่า จนกว่าจะถึงวันตะวันลามาเยือนดวงชีวิต 
ให้ใบไม้ปลิดปลิวโปรยพรให้นอนนิทราฝันดี 
ยาม...
ร่างนี้ได้ผ่อนพักละวาง..
กลับคืนร่างสู่พื้นพสุธา..เป็นนิรันดร์รัก เป็นหนึ่งเดียว..
เธอ...จะยังคงเป็นสีสัน ให้โลกฝันไกล 
ไม่ว่า...
เธอจะเหยียบย่างไป  ณ.ที่ใด
เธอ..
ก็คงไปส่องสว่างกระจ่างใจในทุกผู้คน
ด้วยใจดวงเดิมดวงดีดวงงามดวงนี้
ที่ไม่สิ้นไร้รัก ตราบที่โลกยังหมุนไปและหมุนไป
มีตะวันกระจ่างใสในยามกลางวัน
มีราตรีฝันให้จันทร์งามกระจ่างดวง
เธอ...จะยังเป็นสีสัน..
อยู่ในฝันในใจในเรือนไทยริมบึงบัวพร่าง
ในพื้นพสุธานี้..ที่งามเป็นยิ่งนัก..

เพื่อจะใช้ดวงใจน้ำจิตน้ำใจรักที่สวรรค์ประทานมา..
มอบรัก  มอบหวาน มอบงาม  มอบพลังใจ
ให้หวามไหว ให้เลิกหม่นหมองครองใจ ไปชั่วกาล
หาก...
หัวใจและร่างยังไม่สิ้นศรัทธารักนั้นจักยังคงดำรงอยู่..
และ...


เธอ...คือ...สีสันสีสันและสีสัน
สุด..แต่ใจใครจะเลือกใคร
มาเป็นสีสันใดแห่งชีวิตนะที่แห่งนี้..
มาเคียงขวัญเคียงร่างประดับโลกไร้ร้าง 
ประดับโลกฝันหรือโลกจริง
ให้...
พิสุทธิ์สวยใส กระจ่างใจ
นำทางใจไปชั่วนิจนิรันดร์...นะคนดีนะดวงใจ 
.....................

ฉัน..คงมิใช่สีสันแห่งสายลม
ที่พรายพรมพัดพร่างเพียงชั่วครู่ชั่วคราว..
ฉัน..
มิใช่สีสันและนางใจนางไพร
ที่จะทำให้เธอถูกใจ สมบูรณ์แบบไปเสียทุกสิ่ง..
ฉัน..
คงมิใช่ถวิลหวังให้ใครฝากฝังใจ 
หาก....แม้นหัวใจนั้นยังมีสีสัน
พร่างพรายสดใสสดสวยมากมายรอท่า
ให้ค้นหามาประดับใจประดับร่าง
ให้....
พรายพร่างชื่นฉ่ำใจมีชีวิตชีวาเสียยิ่งกว่า....

สำหรับ...ฉัน..
เป็นได้แค่เพียงสีสันเดียว....
เขียวไพลเขียวพร่างกลางใจ  ในโลกฝัน 
ให้ค้นพบสงบงามแห่งโลกภายใน 
ในทุกยามที่สิ้นไร้ใครสิ้นไร้รัก
ตามฉันมาสิทุกดวงใจ..
มาเคียงไพรเคียงใจไปกับฉันสู่ฝันนิรันดร....
....................................


พระเอกขี่ม้าขาวพร้อมจากจร!  ....พุด 
ฟ้ามืด..แต่พรายพราวด้วยดาวพราย
ลมดายเดียวพัดเปลี่ยวเหงา
เดินทอดน่องแหงนมองจันทร์คอยตามเรา
เหมือนเป็นเงา..พริบพราวเฝ้าปลอบใจ..
เอนร่างนอนนับดาวกลางทุ่งหญ้า
หอมละออดอกไม้ป่าจนหวามไหว
พฤกษ์ไพร..ที่ข้ารักเคยพักใจ
ยามนี้ไกลอยู่ไหนหนา..ฟ้าตอบที..
ฟ้ากว้างเมินหนีหน้าคนว้าเหว่
อย่าหลงเล่ห์คำลวงให้คิดหนี
ฟ้ารู้เห็น..ยอดดวงใจ..ไม่ไยดี
เสียเวลาที่เพ้อฝันให้หวั่นใจ...
บอกกับฟ้า..อย่าตอกย้ำให้ซ้ำเจ็บ
ใจหนาวเหน็บพอแล้วกับหวามไหว
แค่สร้างพระเอกในฝันไว้ปลอบใจ
รู้บ้างไหม?เขียนด้วยใจจบด้วยเศร้า..ให้พระเอกขี่ม้าขาว..พร้อมจากจร! 
 
 
..............


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song198.html
ปรารถนา ...ทูล ทองใจ 
หากแม้นเลือกเกิด เองได้ 
คนทุกคนเลือกเกิดอย่างไร
ตามใจเขา ปรารถนา 
แต่ตัวฉัน นั้นขอตั้ง สัจจะวาจา
ถึงชาตินี้ ชาติหน้า ปรารถนาเกิดมาใกล้คุณ
หากร้อนผิวกาย ใจระทม
ตัวฉันยอมเลือกเกิดเป็นลม
เฝ้าลูบชมเนื้ออ่อน ละมุน
หากหนาวนัก ขอเอารัก วางไว้เป็นทุน
ขอเกิดมา เป็นผ้าอุ่น
เกิดเป็นหมอนหนุน สำหรับนาง
อยากเกิดมาเป็น สีแดง
แต้มแต่งสองริมฝีปากคุณ
อยากเกิดเป็นแป้งหอมกรุ่น
ลูบไล้เนื้ออุ่น สองปราง
อยากเกิดเป็นสร้อยห้อยคอไว้
อยากเป็นดอกไม้ที่ทัดหู
อยากอยู่ร่วมหอ ไม่ห่าง
จะขอเป็นแหวนสวมก้อย 
เป็นกำไรสวมใส่มือน้อย 
เกิดเป็นรอยรับบาทของนาง
อยากแนบเนื้อ ขอเป็นเสื้อสวมใส่สรรพางค์
ขอเกิดเป็นหมอนข้าง
เพื่อนางนวลน้อง ได้กอดนอน... 
 
  
				
comments powered by Disqus
  • แทนคุณแทนไท

    7 มิถุนายน 2549 19:33 น. - comment id 582505

    36.gif36.gif
  • อัสสุ

    7 มิถุนายน 2549 20:42 น. - comment id 582525

    อยากเจออยู่เหมือนกันครับ
    
    11.gif11.gif
  • ม้าก้านกล้วย

    7 มิถุนายน 2549 21:03 น. - comment id 582533

    แม้พระเอกขี่ม้าขาว จากไปแล้ว
    แต่ ม้าก้านกล้วย ยังพาดฝาบ้าน อยู่ที่เดิม46.gif
  • ม้าก้านกล้วย

    7 มิถุนายน 2549 21:04 น. - comment id 582534

    ลืมลอกไปว่า คิดถึง พุด
  • พุด

    7 มิถุนายน 2549 21:32 น. - comment id 582545

    1.gif
    ราตรีนี้ 
    เคียงข้างพุดมีดวงดอกพุดซ้อน
    หวานอรชรอยู่สามสี่ดอกค่ะ
    พร้อม
    เล็บมือนางสามสีสามสวย
    นวลชมพูและแดงค่ะ
    พุด
    ปีนไปเก็บพุดซ้อน
    ที่ช่อนงามเสียสูงเชียวค่ะ
    จนเจ้านุ่นสุนัขเพื่อนบ้าน
    คิดว่าพุดเป็นขโมย มันเห่าใหญ่เลยค่ะ
    ดีไม่ตกใจ
    ตกลงมาให้กระดูกนิ้วเท้าร้าว
    ให้เข้าเฝือกอ่อนอีกรอบค่ะ10.gif
    
    และ..
    วันนี้เล็งพวงพราว*ดวงดอกข่า*
    ของเพื่อนบ้านชาวสวน
    หลังบ้านไว้ค่ะ
    ตั้งใจจะขอมาสักพวง
    มาวางให้ระยวงระย้าย้อยอิอิ
    คงหอมงามมากเลย36.gif
    
    วันนี้เมฆครึ้มฟ้าคราง
    เลยอ้างว้างใจค่ะ
    ไม่ได้ออกกำลังกายด้วย
    แล้ว..
    ไปนั่งเรือนกาแฟ..ที่แสนงาม
    นั่งดูพญาสัตตบรรณที่มี
    กล้วยไม้หลากสีสันกำลังแข่งกันอวดสวยค่ะ
    
    พุด..
    เลยเดินกลับบ้านมาอย่างเหงาๆ
    แล้วก็..
    มานั่งที่เรือนจำปี
    เอนอิงพิงหมอนขวาน
    ทัดดอกจำปี บานแฉ่งแข่งกันให้หอมพุดค่ะ
    
    แล้ว..
    ก็เศร้านิ๊ดๆเพราะอากาศ
    กับแสงเทียนช่างโรแมนติกเป็นใจค่ะ
    จึงหนาวใจ...
    ด้วยประการละฉะนี้แหละค่ะ
    36.gif
    
    มากระซิบกล่าวคำซึ้งใจถึง
    
    แทน..นะคะ
    
    คิดถึงนะ พี่พุดคิดถึงนะ36.gif
    
    แล้ว..
    คนนี้
    น้องอัสสุ 
    
    พี่พุดรจนา
    เทวดาเดินดิน 
    เพราะบันดาลใจจากงานน้อง
    *อารมณ์ย่าง19ค่ะ*
    และ
    ภาวนาให้สักวันให้น้องพบ
    นางใจ ไพรเทพีในฝันนะน้องรัก
    36.gif
    
    และ
    
    สำหรับคนนี้ ....
    อนาคตซีไรท์..ม้า...ก้านกล้วย
    เพื่อนพุดมานานแสน
    พุดคิดว่าแม่น้ำมูลกลืนไปแล้วค่ะอิอิ
    เกือบตกเก้าอี้เลย ที่มาโผล่
    
    อย่าบอกนะคะว่ายังไม่ได้พิมพ์งาน
    พอกันกับพุดเลยค่ะ
    
    ม้า..กลับมานะ 
    เรือนไทยร่มรัก คอยม้านะคะ36.gif
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    8 มิถุนายน 2549 03:23 น. - comment id 582596

    36.gif36.gif36.gif36.gif
  • เพียงพลิ้ว

    8 มิถุนายน 2549 07:32 น. - comment id 582617

    และ..
    หากเป็นสีแล้วไซร้..
    เธอ..เป็นดั่งสีเขียวของเรียวใบไม้ 
    สีธรรมชาติ สีเอิร์ทโทนประมาณนั้น ประมาณนี้
    
    พี่พุดเป็นสีแห่งธรรมชาติ แห้งดวงใจ แห่งรัก
    กานต์จะเป็นสีชมพูค่ะ อิอิ
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    8 มิถุนายน 2549 09:08 น. - comment id 582632

    36.gif16.gif36.gif
       นวลนางกลางไพรใครหรือเล่า
    คำบอกกล่าวนามนี้มีสีสรรค์
    พุดพัดชาดอกไม้ป่าอันลือลั่น
    คนกล่าวขวัญทั่วแคว้นแดนพงไพร.
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ดอกบัว

    8 มิถุนายน 2549 17:10 น. - comment id 582751

    36.gif36.gif36.gif36.gif16.gif16.gif16.gif16.gif
    บัวเข้ามาอ่านงานพี่พุดค่ะ36.gif
  • ม้าลาย

    8 มิถุนายน 2549 21:55 น. - comment id 582776

    อืม อ่านเนื้อเพลงมาถึง จะขอเป็นแหวนสวมก้อย ฯ  เลยต้องกลับไปอ่านใหม่หมด อิๆ
    
    หวัดดีคับ 46.gif
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    9 มิถุนายน 2549 15:58 น. - comment id 582874

    สีสันแห่งรักมีหลาย ๆ สีคงจะดีไม่น้อย
    อย่าง สีดำแดง อย่างผมนี่ อยู่ในเฉดสีที่สนใจ ด้วยรีเปล่าล่ะครับ อิอิ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน