ทิพยสถานวิมานจิต...!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1965.html
(คู่กรรม)
.................


ขอใจเธอคนดีที่แสนรัก
พลีใจภักดิ์มอบให้นะยอดขวัญ
ทั้งหวานชื่นขื่นขมรู้แบ่งปัน
ท่ามคืนวันเรียนรู้โลกย์โศกสุขวาง
ยิ้มเมตตาหมายฝากกรุณามุทิตาจิต
รู้หยุดคิดวางอุเบกขาในทุกอย่าง
ไม่มีเขาไม่มีเราไม่มีร่าง
เพียงกระจ่างทางธรรมนำนิพพาน
และ..
เมื่อภารกิจฝากดีพลีแด่โลกยังมิสิ้น
เทพถวิลคอยเคียงข้างคอยสร้างสาน
เกี่ยวก้อยไปหลอมรวมใจเก็บดอกไม้บาน
อธิษฐานปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
สมาธิวิปัสสนาหาทางซึ่งหลุดพ้น
ดั่งอุบลบานเหนือน้ำข้ามปรารถนา
จุติจิตทิพย์นิรมิตนะยอดชีวา
สิ้นเหว่ว้าหลงทางกลางทะเลน้ำตา
หวัง...
เราสองครองเคียงประคองรัก
ที่เหนือนักเหนือมนุษย์สุดฟากฟ้า
ข้ามห้วงอนันตกาลผ่านภพกัปป์กาลเวลา
สุดทางช้างเผือกรอท่าแสนตระการ
ติดปีกจิตอิสราพาท่องในเรียวรุ้ง
ดูดาวรุ่งเพชรพรายเฉิดฉายฉาน
รัศมีมณีทองผ่องพราวอลังการ
เมฆนวลหวานราวสายไหมใยรุจี
โอบตระกองเกี่ยวก้อยลัดลอยฟ้า
ข้ามมหานทีสีทันดรพลีชีพนี้
คลี่ยิ้มหวานหว่านดาวดวงธรรมทานนะคนดี
แล้ว..
พร้อมพลีปิติเกษมภาคภูมิใจใน*ค่าคน*
......................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1965.html
คู่กรรม
ช...ดังนรกชัง ฤาสวรรค์แกล้ง
แกล้งทรมาน ให้ฉันได้เจอ
ญ...เกลียดชิงชัง สุดท้ายรักเธอ
แต่พอเผลอ พรากเธอดับสูญ
ช....เวรกรรมหรือไร แต่ปางไหนนั่น
ญสุขเพียงชั่ววัน แต่ช้ำทวีคูณ
ช...ให้ห่างไกล สุดฟ้าอาดูร
ญ...สูญสิ้นเธอ ตลอดกาล
ญ...อธิษฐานจิตใจหากเกิดชาติไหน
ช....ฐานันดรใดใด ทุกสถาน
ช-ญ....ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน
วอนสวรรค์ ได้ไหม
ช....วิญญาณฉันรอ ที่ทางช้างเผือก
เลือกเธอรักเธอ ได้ร้างลาไกล
ญ....ดั่งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย
ใต้ลำพู รอคู่กรรม
ญ....อธิษฐานจิตใจหากเกิดชาติไหน
....ใดใด ทุกสถาน
ช-ญ....ดลให้เรา ได้พบเจอเป็นคู่กัน
วอนสวรรค์ ได้ไหม
ช....วิญญาณฉันรอ ที่ทางช้างเผือก
เลือกเธอรักเธอ ได้ร้างลาไกล
ญดั่....งหิ่งห้อย เฝ้าคอยจนชีพวาย
ใต้ลำพู รอคู่กรรม...
				
comments powered by Disqus
  • พุด

    21 สิงหาคม 2549 21:13 น. - comment id 599953

    36.gif
    หิมพานต์วิมานแมนวิมานเมือง!
    
    
    
    รจนาด้วยน้ำตา
    จากแรงบันดาลใจจากภาพด้านบนค่ะ
    ลองขยายภาพแล้วนั่งพินิจนิ่งด้วยใจดวงสงบงามนะคะ
    จะพบความงามความดีความล้ำค่าที่ราวแก้วประพาฬ
    ฉายฉานรัศมีแก้วเพชรแพร้วพร่างพราย
    วะแวววับจับดวงจิตเลยค่ะ..
    ให้พบนิมิตหมาย..สุขสงบคล้ายไร้ร่างเหลือเพียงว่างเปล่าลำพัง
    
    ราวฝั่งฝันอัน..รอเราเพียร
    ค้นหาทาง
    พายพาจิตวิญญาณ
    ละทิ้ง
    วิมานเมืองเปลืองเปล่า
    ไปสู่แดนดินแห่งหิมพานต์วิมานนี้ที่เป็นนิรันดร์ว่างค่ะ
    ************
    
    
    
    ราตรีนี้
    สายฝนยังคงโปรยสายฝันสายเศร้า
    สายสดชื่นอีกเช่นเคย..
    
    
    หัวใจผม..คนเฉยเฉย..ดวงงามเงียบ
    ยังคงเงียบงาม ไปตามธรรมชาติ..
    กับโลกภายนอกและกับโลกภายใน..บ้านภายใน
    ที่ไม่ว่า..
    จะร้อนจะหนาวจะเศร้าจะสุข
    ที่จะพากันมาคลุกเคล้า
    โหมประดังมา สักเท่าไร
    หัวใจผม ก็แค่ยังคง วางเฉยวางนิ่ง
    
     
    
    
    ผม..เพียงเพียรจะดำรงร่างอย่างดีงาม
    คิดดี พูดดี ทำดี อย่างมนุษย์คนหนึ่ง
    เพื่อทำหน้าที่อย่างมิบกพร่อง
    และเติมเต็มพลังแห่งจิตเกษมภายใน
    ให้งามกระจ่างใสสว่างราวแก้ววิเศษ
    
    
    คืนนี้...
    ผมอ่านเรื่องที่คุณพุดพัดชาเพียรหามาฝาก
    *หิมพานต์*และตามเธอเข้าไปดูภาพในเวบนี้
    หัวใจดวงดีดวงเฉยพลันก็เกิดปิติ
    
    
    ผมปิติใจ..
    ปิติจนน้ำตาผมไหลละหลั่งรินไปกับดินและฟ้า
    ไปกับหยาดฝนพรำในคืนอันงามเงียบเยียบเย็นอย่างเช่นราตรีนี้
    
    
    ปิติในทุกเรื่องราวเกี่ยวกับความงาม
    ความละมุนละเมียดละเอียดละออในความเป็นไทย
    ในวัฒนธรรมประเพณี 
    ในรสวรรณคดี
    ในเรื่องราวหนหลังแห่งอดีตกาล
    ในงามเงาแห่งพระบรมธิสมภาร
    
    
    และ
    ในทุกเรื่องราวทุกสิ่งละอันพันละน้อย
    ที่เกี่ยวพัน
    ทุกความฝันทุกความดี
    ทุกทุกสิ่ง
    ที่บรรพบุรุษเราแต่เก่าก่อนกาลได้พลีได้ฝากไว้
    
    ด้วยความกล้าหาญเสียสละ
    สู้รักษาบ้านเมืองผืนดินไว้ให้เราลูกหลาน
    ได้สืบสานความเป็นไทยในทุกอณูเลือดเนื้อ
    ให้เรายังได้มีปฐพีไทยไว้หยัดยืน
    สืบสานความภาคภูมิความเป็นไทย
    ด้วยความปลื้มใจด้วยความเคารพนบนอบรู้คุณ
    
    
    ที่นะบัดนี้คนทั่วโลก... โลกวัตถุนิยม..ที่ระทมทับทุกข์
    ต่างพากันประหลาดใจ
    หันมาเอาเยี่ยงอย่าง
    ในน้ำจิตน้ำใจ 
    ในงานศิลปะไทย ในประเพณี 
    ที่นับวันจะหายากยิ่ง
    
    
    และ
    สำหรับสิ่งสำคัญ..
    *ความเป็นคน คนไทย*
    ผู้หญิงไทยที่ดวงใจยังงดงาม
    มากความละมุนใจละไมฝันละเมียดในกิริยา
    ที่บางครั้งเราหาได้ตระหนักค่าไม่
    ต่างพากันไปรับยวงยางมิอายไร้วัฒนธรรม
    ที่มิจำต้องสงวนเนื้อสงวนตัว
    มาไว้ในเรือนใจเรือนกาย
    ด้วยความกระหายใคร่เสพ
    ความเจริญความทันสมัยศิวิไลซ์แบบผิดผิด
    
    
    หากความทันสมัยนั้น
    เป็นความหยาบ ความกระด้าง 
    ความไม่งามนวลความฉาบฉวย 
    ล้วนแล้วแต่เป็นสุขลวง ให้ทุกข์ใหญ่หลวงตามมา
    เป็นบ่อลวง ให้หล่นลึกในผนึกตมแห่งความว่ายวน*คนคำบ้าวัตถุ*
    ความหรู ความรวย อวดดีอวดได้เพียงเปลือกนอก
    
    
    ที่พอกฉาบไว้ทุกนาที
    ทุกคลื่นถี่โฆษณา
    ทุกลีลาคนเมืองเรืองรุ่งริ่งร้อยรัดพันธนาการ
    งามเงินผ่อน..ว่อนไปทั้งเมืองไทย
    ไปถึงท้องทุ่งนาป่าเขา
    ให้เงินเงาเงี้อมครอบงำ..
    จนใจดำมืดใจมองไม่เห็นอะไรๆ
    ในงามจริงสิ่งสัจจธรรม ธรรม ธรรมชาติ 
    ที่เฝ้าเคียงประคองให้มองมา
    
    
    นอกจากใจทุรนทุรายเหว่ว้าใกล้บ้า ใกล้บอ
    ขอแค่ทะยานอยาก..คว้าไขว่เพียงสิ่งภายนอกนอกใจนอกกาย
    คล้าย...เดินตามๆกันไป ไม่หยุดนิ่งทบทวน
    
    
    และ
    แท้ที่จริงแล้วไซร้ ...
    ความรวยหรือเงินมิอาจขนขึ้นไปบนสวรรค์ได้
    นอกจากงามจิตวิญญาณ งามตระการดั่งแก้วมณี 
    ไร้สี ไร้เศร้า ไร้เหงาไร้ทุกข์ 
    ปลดปล่อยทุกสิ่ง
    หยุดคิด วางนิ่งว่างเปล่า
    ให้จิตเกษมงามเงาเพียงนั้น
    เป็นดั่งพลังประกายฉายแสง..นำทาง..
    
    
    ทุกๆคนในวันนี้
    ราวเพียรวิ่งหนี
    ลบเลือนความขาวงามกระจ่างใสแห่งจิตภายในอันเป็นของเดิม
    ตั้งเริ่มแรกเกิด ราวทารก ราวผ้าขาวบริสุทธิ์ใส
    ที่ขาวงามกระจ่างยิ่งกว่า
    ก่อนที่จะหาสิ่งใดมาหุ้มคลุม
    
    
    คือกระพี้ที่แสนงามเลิศแสนงามดี 
    ที่เป็นเนื้อจิตเนื้อชีวิตวิถีจิตวิญญาณไทย
    ที่เราได้มาจากเลือดเนื้อบรรพบุรุษอันแสนยิ่งใหญ่
    ที่มีใจรักศรัทธา ปสาทะในพระพุทธศาสนา
    หล่อหลอมมาจากวิถีธรรมวิถีทองวิถีแห่งท้องทุ่งนาชนบท
    อันแสนงดงาม 
    
    
    ให้เราใช้ชีวิตติดดินเรียบง่าย 
    ราวได้ย้อนคืนสู่อดีต สมัยสุโขทัย 
    ในยามก่อนเก่า 
    นาข้าว เขียวชะอุ่ม..... 
    พลิ้วรวงเรียว ล้อลมทายทัก แสงอาทิตย์สีทอง ในยามเช้า 
    ให้น้ำค้างพราว เกาะก้านกอ กิ่งใบ หายวับไปกับ แสงแรก 
    ของอรุณรุ่ง อุ่นรวงเรียว 
    
    
    
    
    ตื่นเช้ามาฟังเสียงธรรมชาติสะอาดหอม
    กับบทบรรเลงเพลงแห่งกอไผ่ใบกล้วยไหวซัดส่าย
    เพลงใบไม้
    เพลงลมพัดตึงเคล้าคลึงยอดตาล
    เพลงหอมหวานแห่งลอมฟางท้องทุ่ง
    เพลงทุ่งนาระบัดรวงกับปวงดวงดอกไม้ป่าพรั่ง
    ทั่วทั้งป่าเขาลำเนาไพร 
    เพลงสายธารระรินไหลร่ำ 
    เฝ้าพร่ำกระซิบฝากดนตรีแห่งพฤกษ์ไพร
    ให้ทุกหอมห้วงหัวใจลืมดนตรีเมือง
    
    
    
    ภาพ พระสงฆ์ เดินเรียงมา แสนประเทืองประทับใจ
    เป็นทิวแถว ท่ามดงตาล 
    ยิ่งพาให้ใจเรานี้อิ่มเอิบงามล้ำ 
    ไปกับความสงบงาม
    ที่ได้ทำบุญตักบาตร 
    และไหว้วาดอธิษฐานให้เกิดสิ่งดีมีมงคล..แก่ดวงชีวีนี้ 
    ที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา....
    พาใจให้ยิ่งสว่างไสว ร่มเย็น เป็นสุข..เป็นยิ่งนัก
    
    
    
    ให้เรามีใจดวงใสดวงไม่ทะยานอยาก
    หากรู้รักความงามเงียบเรียบง่ายใช้ชีวิตในวิถีสมถะ
    รู้เพียงพอพอเพียง
    ใช้วิธีแลกเปลี่ยนด้วยน้ำใจ 
    มิใช่น้ำเงินเป็นใหญ่จนบดบังให้เกิดอัตตา
    หลงว่าข้า..สามารถซื้อโลกไว้ได้ทั้งใบ
    
    
    ไม่หยุดคิด ว่าโลกนี้หนอ 
    คือการแบ่งปันคือขวัญเอื้อโอบ
    คือการมาใช้ชีวิตแค่ช่วงสั้นมิยาวยืน
    มิอาจฝืนชะตา ไม่ว่าจะรวยล้นฟ้าหรือยาจก
    สักวันไม่ว่าเยาว์ว่าเฒ่า ไม่ว่าร่างสาวร่างแก่
    พญามัจจุราชก็มีความเที่ยงแท้เที่ยงธรรม..
    มาพรากทุกชีวีชีวิตนิจนิรันดร์เป็นสิ่งจีรัง อนิจจังอนัตตา
    มิทันได้วิ่งหนีสุดหล้าหาที่หลบทัน
    
    
    ฉะนั้น และฉะนี้ นะคนดีนะดวงใจของผม
    ทำไมต้องรวยไม่หยุดยั้ง
    ไว้ซื้อ ทั้งทุกสรรพสิ่ง 
    ยึดมั่นไว้เพียงตัวตน ของตน 
    ทนรอให้ใกล้ผืนดินกลบหน้า
    ถึงกว่าจะสำนึกได้ฉะนั้นละหรือ
    
    
    คนดี..ดวงใจ
    อย่าเบื่อผม เลยนะ 
    ที่ราวกับมานั่งบ่นว่าให้ฟัง
    เพราะผมนั้นยังประทับใจ
    กับทุกวิถีไทยทำ ไทยธรรม ไทยทองทั่วผองแผ่นดินไทย
    
    
    ที่เรายังมีน้ำใจมีวัฒนธรรมอันดีงามมาช้านาน
    เรามีการไหว้การอ่อนน้อมต่อผู้อาวุโสมิโอหังมิรู้ที่ต่ำที่สูง
    เรามีอ่อนโยนน่ารักรู้จักถ่อมตนต่อทุกสรรพสิ่ง
    เรามีความนิ่ง ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อกรุณา
    เรามีการไปวัดทำบุญทุกวันพระ
    เรามีการถวายดวงดอกไม้ถวายมาลัยพระ
    
    
    เรามีดอกบัวเป็นพุทธบูชากราบไหว้
    รู้วางไว้ให้สอนดวงใจสงบสบาย
    คล้ายที่พึ่งทางใจที่แสนสวยใสงาม
    
    
    เป็นนวลใจ
    ที่หล่อหลอมมาจาก..
    เนื้อดินไทยเนื้อใจชาวพุทธพิสุทธิธรรมพิสุทธิ์ทอง
    ความงดงามอันหวานหอม
    น่าประเทืองประทับใจ
    จนให้ทั่วโลกยอมรับ
    หันกลับมาฝึกจิตสมาธิภาวนามาเอาเยี่ยงอย่าง
    
    
    เพราะต่างก็พากันเหน็ดหนื่อยเมื่อยล้า
    กับโลกหล้าที่พาหมุนเร็วจนตามไม่ทันเทคโนโลยี่
    เกิดกระแสความหยาบไร้ 
    คล้ายชีวิตเหมือนหุ่นยนต์เข้าไปทุกวันทุกวัน
    
    
    หาความนิ่งสนิท
    ความสงบใจไม่มี 
    มีก็แต่ความเครียดเฉียดโรคจิตใกล้บ้า
    ด้วยความที่ไม่หยุด ไม่คิดทบทวน 
    ไม่มองย้อนหวนไปถึงจิตภายใน
    
    
    มองออกไปคว้าไขว่งามเพียงภายนอก
    ที่หลอกหลอนลวงหุ้มใจจนเคยชินไปวันๆ
    จนใช้*ใจเป็นนายจิตเดิม*
    ที่เคยผ่องใสให้มองไม่เห็นด้วยกิเลสแห่งความเคยชิน
    ที่วิ่งนำมาจับพอกไว้
    ให้หางามจิตมิพบเจอ 
    
    
    จนกว่าจะวัน..
    ที่วิญญาณฝันจะพลันโผผินบินออกจากร่าง
    ก็ยังมิวางลง มิว่างขาว
    หากเหินเคล้าไปจุติที่มืดหม่นสลัวพอกัน
    และนั่นก็คือคำว่าสายเกินการณ์เกินแก้ 
    ..
    
    ผม..
    เพียงอยากให้ทุกดวงใจ
    หันมาแลมาพิจารณา..
    *ความจริงแท้แห่งจิตเดิม*
    ก่อนที่เราจะมาเพิ่มกิเลสกามลามวัตถุทับ
    
    
    ให้ระลึกรู้ให้ตระหนักให้หยุด ให้เพียรใช้สติ สมาธิ มีปัญญา 
    มาค่อยๆแกะเปลือกนอกออกไปทีละนิดละนิด
    ที่มาหลอกให้เรารับไว้ด้วยความเคยชินมายาวนาน
    มาบดบังจิตงามกระจ่างพลังจิตเกษม..ไว้ให้ทันท่วงที
    
    
    ก่อนวันแห่งแสงตะวันชีวีจะอำลา 
    พาเราไปเยือนดินแดนแห่งความมืดมน 
    อนธกาลนานนับอสงไขยชาติ
    
    
    ผม...
    เอง..ก็แค่คนเหมือนทุกดวงใจนะครับ
    ที่ชีวิตมีวันผิดพลาดเศร้าหมอง 
    แต่ทุกนาทีใจทุกอุทัยโลกหมุน 
    
    
    ไม่เคยเลยที่ผมจะลืมความจริง
    ผมอาจจะมีเนื้อใจดวงละมุน
    แต่เชื่อเถอะ ..
    นอกจากใจ
    ที่ผมแค่มักจะไหวรับกับคนดี..ความดี
    ที่วูบวับผ่านมาสอนสั่งให้รำงับทัน
    
    
    
    จิตผมยังแจ่มใสพอที่จะรับความเกษมสานต์
    พลังงามแห่งปัญญา และรู้มันเท่าทันความคิด
    รู้ผิดรู้ถูก รู้ดีรู้ชั่ว มิมีคนและสิ่งใดมาทำให้หมองมัวได้นาน
    จิตผมดั่งดอกไม้แก้ว ดอกไม้เพชรแตกพร่างอยู่นะภายใน
    ที่ยากยิ่งที่ใครจะหยั่งถึง 
    
    
    ที่ซึ่งไม่มีคำว่าเสียใจกับคำคนคำใครนาน
    ที่ผ่านมากระทบเพียงก็แค่ภายนอก
    
     
    
    
    จิตภายในที่ผมเพียรสร้างกุศลรองรับให้
    ผมคิดว่าผมมาไม่ผิดทาง
    ให้ผมได้พบแสงสว่างสุกใสจากพระเมตตา
    พระบารมีอันแผ่ไพศาลมานับพันปี 
    จากพระบรมศาสดา 
    
    
    ที่ผมเชื่อมั่นศรัทธาปสาทะแก่กล้า
    และหวังจะเป็นเทียนทองส่องนำทางใจ
    ไปจนกว่าจะถึงวันที่ผมจะหลับตาด้วยพลังแห่งจิตแจ่มใส
    มิกลัวความตาย อย่างผู้ถึงพร้อม
    รู้เพียรฝึกสอนใจให้รู้จักคำว่าตายก่อนตาย
    ฝึกเอาไว้มาอย่างช้านาน
    
    
    และ
    ในนาทีสุดท้ายนั้น.....
    หากถึงวันอำลาแสงสุริยาจริง
    ผมขอแย้มยิ้ม อำลาโลก...
    ด้วยพลังแห่งแสงสุริยาใจ
    ที่จะสว่างไสวพร่างพราย
    มิได้อาลัยโศกสุขและผู้ใด 
    ขอหลับตาลาไกล  ไปตราบชั่วนิจนิรันดร
    ด้วยพลังจิตพร้อม แห่งปิติเกษม!...
    
    ***********
    
    
    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=100
    แต่ปางก่อน....   รณชัย-อัจฉพรรณี : : Key Eb  
    ช...รอ คอย เธอมา แสน นาน
    ทรมาน วิญญาณ หนักหนา
    ระ ทม อยู่ใน อุ รา
    แก้วกานดา ฉันปองเธอผู้ เดียว
    ญ....เธอเอย แม้เราห่างกันแสนไกล
    ชาย ใด ดวงใจฉันไม่แลเหลียว
    รัก เธอ แน่ใจจริงเชียว
    รัก เธอ รักเดียว นิรันดร์
    ช...แม้ มี อุปสรรค ขวาก หนาม
    ญ...ขอ ตาม มิยอมพลัดพรากจากกัน
    ช...จะชาติไหน ไหน ไม่ยอมห่างไกล กัน
    ญ...ดวงจิตผูกพัน รักมั่นมีไว้เพียงเธอ
    ช-ญ...คง เป็น รอยบุญมาหนุน นำ
    รอย กรรม รอยเกวียนหมุนเปลี่ยนเสมอ
    ให้ เรา ได้มา เจอะ เจอ
    ฉันและเธอพบกันร่วมสุขสมดังรอคอย
    
    ช...แม้ มี อุปสรรค ขวาก หนาม
    ญ...ขอ ตาม มิยอมพลัดพรากจากกัน
    ช...จะชาติไหน ไหน ไม่ยอมห่างไกล กัน
    ญ...ดวงจิตผูกพัน รักมั่นมีไว้เพียงเธอ
    ช-ญ ..คง เป็น รอยบุญมา หนุน นำ
    รอย กรรม รอยเกวียนหมุนเปลี่ยนเสมอ
    ให้ เรา ได้มา เจอะ เจอ
    ฉันและเธอพบกันร่วมสุขสมดังรอคอย...
    
    
    36.gif
  • ต้นกล้า

    21 สิงหาคม 2549 21:29 น. - comment id 599957

    มาชื่นชมครับ36.gif
  • ,

    22 สิงหาคม 2549 02:29 น. - comment id 600000

    36.gif
  • เพียงพลิ้ว

    22 สิงหาคม 2549 08:00 น. - comment id 600019

    ทางช้างเผือก คือที่แห่งนั้นของโกโบริกับอังศุมาลิน คือที่แห่งนั้นใช่ไหมคะพี่พุด
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • แทนคุณแทนไท

    22 สิงหาคม 2549 09:23 น. - comment id 600048

    ทิพยสถานวิมานจิต
    
    เพียงคิด จะไปถึงซึ่งหวังหรือ
    
    แดนนั้น สวรรค์วาด ปรารถนาคือ
    
    ...
    อะไร
    ....
    
    
    หวัดดีครับพี่พุดไพร หัวใจคงมีแต่ความสุข และสงบเช่นที่เป็นนะครับ...
    
    ไม่รู้เมื่อไหร่ครับ ที่ผมจะเห็นทิพยสถารวิมานจิตในหัวใจตัวเอง36.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    22 สิงหาคม 2549 10:49 น. - comment id 600118

    36.gif16.gif36.gif
    
            ฤาสวรรค์กลั่นแกล้งแฝงสู่จิต
    เกิดนิมิตจิตสู่ทิพยสถาน
    ว่าท่องเที่ยวเลี้ยวลดในวิมาน
    ช่างพราวตระการอนันต์รสจรดใจ.
    
                 16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แมงกุ๊ดจี่

    22 สิงหาคม 2549 11:08 น. - comment id 600131

    36.gif
    
    ขอให้มีความสุขมาก ๆ  นะคะพี่พุด...
  • เพชรพรรณราย

    22 สิงหาคม 2549 12:09 น. - comment id 600156

    แค่อ่านก็มีความสุขแล้วคร้าบ
    
    30.gif30.gif30.gif30.gif30.gif30.gif
  • ดอกบัว

    22 สิงหาคม 2549 13:24 น. - comment id 600195

    ทิพย์สถานเหนือลำธารคือน้ำใส
    ร่องลอยไปใฝ่จิตสู่ทรวงสวรรค์
    ธารน้ำเย็นหลั่งไหลใจเห็นธรรม
    สุขเลิศล้ำจิตใจก็ร่มเย็น
    
    สวัสดีค่ะ พี่พุด  คำของพี่ทุกคำหล่อเลี้ยง
    ให้บัวได้อยู่อย่างสงบค่ะ
    
    
    16.gif16.gif36.gif
  • -`๏’-♥♥-`๏’- นางฟ้า ...แสนซน-`๏’-♥♥-`๏’-

    22 สิงหาคม 2549 16:44 น. - comment id 600309

    นึกถึง ความรัก โกโบริ ....
    
    
            แวะมาชื่นชมผลงานงาม ๆ เจ้าค่ะ
    
    
    
       
    
    
    
  • สุญญะกาศ ขาดล็อคอิน

    23 สิงหาคม 2549 01:36 น. - comment id 600471

    36.gif
    
    รื่นรมย์ใจในความสงบร่มเย็นขอรับ
  • Ora

    23 สิงหาคม 2549 02:50 น. - comment id 600480

    จะไม่แปลกใจนะคะถ้าบอกว่าเขียนเป็นอาชีพ เขียนได้เยอะจริง ๆ ค่ะ
    
    36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน