ฤ า ล ม รั ก จั ก ห ว น ..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song828.html
ลมหวน  

ลมหวน ชวนให้คิด
ถึงความหลัง
พะวังจิต คิดขื่นขม ระทมใจ
ตัวใครเป็น คนผิดอยากถามนัก
รักไย ใจจึงกลับ
ดังลมหวน
ใกล้เรา กล่าวถ้อย
ในที่รัก
เจ็บนัก พอถึงอื่น ก็คืนคำ
มาทำชิด สนิทไม่ ใครจะเชื่อ
เบื่อแล้วไยจัก มารับกลับคืน
ตัวใครเป็น
คนผิดอยากถามนัก
รักไย ใจจึงกลับ
ดังลมหวน
ใกล้เรา กล่าวถ้อย
ในที่รัก
เจ็บนัก พอถึงอื่น ก็คืนคำ
มาทำชิด สนิทไม่ ใครจะเชื่อ
เบื่อแล้วไยจัก มารับกลับคืน...
.....................


ฟังลมหวนชวนให้คิดรอยพิษสวาท
หนาวบาดจิตบาดใจในท่ามฝัน
ไร้รอยรักรอยอาลัยมาไกลกัน
เหลือเพียงขวัญเดียวดายยังหมายรอ
กี่ราตรีทิวาวันอันชื่นหวาน
กี่กัปป์กาลผ่านภพมาให้พ้อ
กี่เหว่ว้าหลงทางกลางทะเลโศกโลกให้รอ
กี่ลมหายใจละหนอระหว่างเราจึงหลอมใจ
ยอดรัก..ไย..ไม่รู้จักเฝ้าถนอม
ให้หลงตรอมหลงตรมหลงหวั่นไหว
หลงละเมอไขว่คว้าเพียงเงาใจ
นานแค่ไหนฤาตราบกาลจักรานแรม
รอ..ลมหวน พัดโบกระบัดกลับ
มารอรับเจ้าจอมใจหอมริมแก้ม
มากระซิบวอนริมหูกับเดือนแย้ม
หยาดน้ำผึ้งแกล้มเสน่หาอิจฉารักนิรันดร์แห่งสองเรา...!
......................


นอนนิ่งนิ่งแก้มเคลียกิ่งการะเวกไหว
หอมบาดใจดวงเศร้าคราวเย็นย่ำ
เห็นนกไพรโบยบินไปร้าวระกำ
โมกรินร่ำหยาดน้ำตาพร่าพร่างริน..
ใจดวงเศร้าลึกลึกฝึกให้ใส
หากทำไมเหว่ว้ามิรู้สิ้น
ดายเดียวล้ำย้ำหนาวใจชั่วชีวิน
แสนถวิลถึงคนดีที่แสนรัก..
เมื่อรักใครไยจำพรากจากไกลแสน
ราวเดือนแขวนบนฟ้าเหว่ว้านัก
หลงเพียงเงาเขาลอยคอยทายทัก
ให้หลงภักดิ์หลงฝันวันสิ้นลม..
ใจดวงน้อยดวงนิดริบริบหรี่
หนาวใจนี้แสนเหน็บหนาวร้าวขื่นขม
ยิ้มทั้งน้ำตาวอนฟ้าดินสิ้นอินทร์พรหม
ลูกมีลมหายใจทำไมนะ!


ผู้หญิงในชุดรัดรูปสั้นสีขาวขลิบดำราวนักเทนนิส
ปล่อยผมสยายยาวอย่างเป็นธรรมชาติ
พันผูกด้วยดวงจำปีกับปอยผมให้พร่างกลิ่นเคลียแก้ม
แกมหอมหวานเศร้า
ราวรอใครมาดอมดมพรมจูบละเมียดอย่างแสนรัก
เธอนั่งนิ่งพิงพนักเก้าอี้สูงสีแดง
ตรงหน้ามีโถแก้วใส่เล็บมือนางหลากสีสะพรั่ง
ใกล้กันยังมีดอกชวนชมแดงอมชมพูอวดดอกงาม
ในชามแก้วขอบสูงสีน้ำเงินเข้ม...
ตัดฉับรับกับดอกแดงเด่น


เธอนั่งตรงโต๊ะเขียนหนังสือสไตล์โบราณ 
มองออกไปจากกระจกรายรอบบ้าน 
จะเห็นเขียวไพลของนานาพรรณแมกไม้ธรรมชาติ
ลื่นไหลเข้ามาทายทักสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด.. 
ยามเหนื่อยล้าจากงานเขียน  


ต้นโมก ดอกหอมกระจิ้ดริด 
ที่ขณะนี้กำลังบานพราวหวานขาวนวลไปทั้งต้น 
ที่สูงแผ่ก้านกิ่ง เหนือโต๊ะที่ใช้เขียนหนังสือ  
เพื่อว่าให้งานฝันทุกบรรทัดอวลไปด้วย 
หอมงามละมุน ลองอ่านไปดมไปนะ...

บางทีจะได้กลิ่นหอมฟุ้งลอยล่องมาปลอบประโลมใจ
ให้เลิกดายเดียว เหงาเศร้า..ไปด้วยกันทุกอณูแห่งใจรัก 
ที่เธอยินดีรินรดให้ด้วยจริงใจและ
ด้วยรักมากมีมากมายต่อทุกดวงใจ 
ให้ใสงามสดชื่นแสนสุข....
ทุกอารมณ์รู้สึกสุขเศร้าเคล้าไหว...ในงามงาน..  
จากแนวตา ที่เขียนนี้จะมีซุ้มการะเวก และบ่อปลา .. 
ในยามเย็นจะมีกลิ่นการะเวกส่งกลิ่นแกล้มมาประชัน 
ให้งานเขียนงานฝันบรรเจิดใจเป็นยิ่งนักแล้ว... 
 เวลาเขียนงาน
เธอชอบมีดอกไม้สดหอมๆเคียงข้าง  
ในโถลายครามบาง
ที่จะเต็มไปด้วยกุหลาบกุหลาบและกุหลาบ 


และจะจุดเทียนหอมงามตามมุมต่างๆวางไว้ในยามค่ำ 
และ
บางค่ำคืนจะจุดตะเกียงโบราณ เขียนหนังสือ 
หรือไม่ก็เขียนกับแสงเทียนให้วับวับแวม.. 
ให้งานหวามไหวด้วยใจดวงนี้ที่สุขล้ำ..เกินรำพัน  
นี่คือชีวิตจริง..ของนักอยากจะเขียน.. 
ที่พากเพียร เขียนเรื่องรักโรแมนติก คนนี้  
ที่เกิดมากับใจดวงนี้ที่มิได้เสแสร้งแกล้งทำ  
เป็นผู้หญิงช่างฝัน อ่อนไหว  


จนใครๆบอกว่าสมแล้ว
ที่ใช้นามปากการาวลมพัดระบัดไหว
หรือหัวใจราวทะเลที่มิเคยหลับไหล 
ผันแปรเอาแน่ไม่ได้ในบางครั้งครา  
ยามอ่อนล้าใจเจอพายุร้ายพัดผันผ่านมา.

เธอ...
รักเก้าอี้แดง..ที่ได้นั่งสรรสร้างงานรจนา
มานานปีและมีที่มาแสนงามนัก
ที่สักวันเธอจะเล่าให้ฟัง
ถึงเบื้องหลังเก้าอี้แดงในห้องขาวตัวนี้
ที่ราว...
คู่จิตคู่ใจคู่คู่กายนักร่ายรจนางานรักโรแมนติก
ให้มีชีวิตชีวา


เขียนมาเล่า..กันฟังแค่อยากฝากฝัง 
ฝากฝันฝากกายใจ ให้รักและเข้าใจนักอยากจะเขียน
เพียรสร้างฝันถึงสวรรค์วิมานดิน
ว่ามีชีวิตติดดินและงามง่ายเพียงใด 
ในโลกสับสนเร่าร้อนนี้ ที่ตามไม่ทัน   
และเขียนเพื่อบอกว่า  เธอแสนโชคดีนัก 
ที่มีบ้านไว้ซุกกายใจ  ในยามเหว่ว้าดายเดียว
ให้ดวงใจคลายหนาวเหน็บ


เธอ..กำลัง*
ฟังเพลง..*ลมหวน*
กับจันทร์ค่อนดวง
ด้วยห่วงหาอาวรณ์ใครบางคนล้นใจ
หากสิ่งที่เธอทำได้คือแค่นั่งนิ่งๆทิ้งทอดตาใจเงียบงัน
กับทุกทุกฝัน 
ก็แค่ฝันฝันฝัน ก็แค่นั้น
ก็เท่านี้ก็เพียงนี้ก็เพียงนั้น..ก็พลันสลายลา.....


โลกละออล้อหมายมาทายทัก
ไม่นานนักเลยลาน่าใจหาย
เขาหรือเราเราหรือเขาคือเปล่าดาย
ชีพวางไว้คล้ายวางว่างกลางธารธรรม
ตราบลมหายใจไหวหวั่นยังมิสิ้น
ฝากถวิลฝากภักดีพลีรินร่ำ
พร่างน้ำใจใสงามลบระกำ
ลืมชอกช้ำลืมอดีตกรีดดวงใจ
ยิ้มให้กันในวันนี้เถิดที่รัก
ไม่นานนักชีพขวัญสิ้นไสว
ปลิดปลิวลงฝังร่างกลางพงไพร
เลิกหนาวใจหนาวรักเคยภักดี
ให้น้ำใจหอมน้ำคำย้ำรอยรัก
โลกประจักษ์จิตภายในใครคนนี้
หวังเพียงหวังทำแต่งามสร้างความดี
เพื่อพร้อมพลีเคียงข้างสว่างใจ..
ในดวงใจของฉันแสนเกษมปิติสุข
ว่างจากทุกข์ทิ้งจากเศร้าร้าวหวั่นไหว
ไม่มีแล้วแก้ววิเศษนำทางใจ
เหลือเพียงใจใสด้วยธรรมย้ำทางงาม..
				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    26 สิงหาคม 2549 08:04 น. - comment id 601391

    20.gif
    
    ลมรำเพยรักชื่นไม่คืนหวน
    ร้องคร่ำครวญร่ำไรไร้ความหมาย
    หอกดอกโศกโลกเหงาเศร้าเดียวดาย
    คนแพ้พ่ายทำใจ..ได้แค่เงา
    
    หาทางลัดตัดใจให้สนิท
    อยากเลิกคิดรำพึงคิดถึงเขา
    ลืมเสียเถิดคนไกลไม่รักเรา
    อย่ามัวเศร้าอาวรณ์ให้อ่อนแอ
    
    ตัดใจยากลำบากยากจะหัก
    ยังคงรักห่วงใยใจแยแส
    เขาไม่รักไม่หลงยังคงแคร์
    ไร้ข้อแม้เหตุผลต้องทนอาย
    
    อยากลบรอยอาลัยให้หมดสิ้น
    น้ำตารินล้างใจก็ไม่หาย
    อดีตรักปักอุราน่าเสียดาย
    รักเหมือนสายลมหวานพัดผ่านเลย
    
    ใจเอยใจเหนื่อยนักกับรักนี้
    ยากเต็มทีจะลืมคำเคยพร่ำเอ่ย
    รู้ทั้งรู้ต่อไปไม่เหมือนเคย
    ใจไม่เฉย...ทรมานกับการลา
    
    ดูอาการหัวใจในวันนี้
    ปิดบัญชีไม่ลงคงผวา
    เจ็บไม่จำดายเดียวเกินเยียวยา
    ยังโหยหาเพราะใจลืมไม่ลง
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • ..สีน้ำฟ้า..

    26 สิงหาคม 2549 13:31 น. - comment id 601450

    สวัสดีค่ะ พี่พุด
    
    สบายดีหรือเปล่าคะ
    
    
    16.gif
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    26 สิงหาคม 2549 16:34 น. - comment id 601485

    พออ่านชื่อกลอนก็นึกถึงเพลงลมหวน เปิดเข้าไป เจอจริง ๆ อิอิ
  • ดอกบัว

    27 สิงหาคม 2549 10:46 น. - comment id 601626

    สวัสดีค่ะพี่พุด16.gif36.gif
    บัวมาฟังเพลงลมหวนค่ะ
    บัวคิดถึงพี่พุดเสมอค่ะ
    โอมเพี้ยง...เปามนต์ให้พี่พุดพ้นภัยค่ะ
     46.gif36.gif16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน