กระทง..ทิพย์..

พุด

loiKrathong.gif
ลำนำแห่งกระทงสยาม ลำน้ำน่าน 
ใบตองอ่อนเจียดวางอย่างปราณีต
บรรจงกรีดกลีบดอกออกเป็นแผ่น
หยวกน้ำว้าจัดวางตามขวางแกน
บัวกลีบแน่นพับติดจิตอ่อนตาม
สุดเวิ้งน้ำเวิ้งฟ้าประดาดับ
สะท้อนจับภาพเก่าเงาสยาม
เปลวเทียนทองรองเรืองเมืองโอฬาร
เหล่าเทวาแดนวิมานประทานพร
พรุดอกไฟสว่างวาบขนาบน้ำ
แตกดอกตามลำแสงราวแผลงศร
วัฒนธรรมฟูเฟื่องเมืองอมร
ทั้งเพลงกลอนสาวหนุ่มกลุ่มเด็กมี
มาลัยร้อยกระทงลงตามแบบ
พุทธธรรมฝังแนบแถบเทียนสี
ธูปหอมหวนชวนดมชมวารี
ลอยเป็นพลีบูชาคงคาชล
อธิษฐานผ่านหน้าเทวาน้ำ
ความดีงามทั่วแหล่งทุกแห่งหน
นำศรัทธาข้าลอยไปในวังวน
ให้ดิ่งท้นซึมหายเคล้าสายธาร
เหล่ามาลีนี้เยี่ยงเคียงดวงใจ
หว่านโปรยไปไหลล่องทั้งคลองสาน
อภัยเถิดขอขมาต่อหน้าธาร
เศร้าซมซานให้ลับกับเวิ้งชล
เหลือความดีศรีศักดิ์จักคงไว้
หนุนนำใจให้สุขทุกแห่งหน
ก้มหน้าน้อมแนบอิงตลิ่งชล
ศรัทธาท้นอาบแสงแห่งจันทร์เพ็ญ
กระทงทองลอยนิ่งสิ่งงามงด
ยิ่งสวยสดแสงเงาเรามองเห็น
เด่นอยู่นานบานฉ่ำจากย่ำเย็น
จนเดือนเพ็ญสิ้นแสงแห่งนภา...


http://thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_41040.php
กี่ดอกไม้!สายชลใบตองต้องร้องไห้! พุดพัดชา
กี่ดอกไม้ใบตองต้องร้องไห้
กี่เงินใช้สายชลพร้อมเน่าเหม็น
กี่ความรักโยนทิ้งสู่ธารเย็น
กี่ทุกข์เข็ญไหว้วอนชลปนเปื้อนใจ..
กี่หัวใจไม่รับรู้โลกหมุนเปลี่ยน
กี่คนเวียนทำลายแม่น้ำใส
กี่คราแล้วธรรมชาติให้บทเรียนใจ
กี่หัวใจจะไตร่ตรองมองเห็นธรรม.....(ธรรมชาติ)
กี่ความทุกข์ทิ้งชลใช่ทางออก
กี่ช้ำชอกอยู่ที่ใจฝึกไม่ช้ำ
กี่ปากว่าตาขยิบรักธรรมชาติละมุนพร่ำ
กี่ระกำย่ำยีมิรู้คุณ..
กี่กระทงลงน้ำแล้วหายวับ
กี่เทียนดับสะท้อนสุขนาทีหมุน
กี่ทำลายแม่คงคาไม่การุณย์
กี่ปีหมุนผิดทางห่างโลกจริง..
วอนรักน้ำดินฟ้าอย่าหลงผิด
ถนอมสนิทโลกแสนงามห่วงทุกสิ่ง
ธรรมชาติวาดฝันฉันเธอรู้รักยิ่ง
มนุษย์คือสิ่งทำลายยับหรือกลับใจ..รักษ์โลกเรา!


บุหลันลอยดวง  สว่าง  กลางฟ้า กระจ่างใจ ...
ริมฝั่งฝัน ปิงวังยมน่าน ผ่านสู่เจ้าพระยา
ในราตรี...
ที่กระทงสายพรายพริ้วพริบพราวราวพร่างเพชรแพร้วพร่าง
กลางลำนำ ลำน้ำ สายธาร หวานวะวับแวม
แกมประกายวูบไหวแตะแต้มดวงใจ
ให้หนุ่มสาวเคล้าคลึงคลอ
พนอนวลเนื้อละอียด
เบียดละอ่อน  แนบนุ่มนวลนาง  นวลน้อง
เฝ้าประคองรักประคองกระทงลงคงคาบูชารำลึกถึงพระคุณ..เทวีแห่งน้ำ..
ท่ามกลางลมหนาวพร่าง กลางจันทร์เพ็ญ พรมหวานพราย

ให้ทุกดวงใจได้ฝากฝันฝากพลังรักพลังศรัทธาใจไทยทั้งชาติ
ที่เชื่อกันมาแต่โบราณนานมาว่า..
แม่น้ำลำคลองทุกสายจะไหลรวมกันไปยังนัมทามหานที..
ที่ไหลผ่านไปยังพระธาตุจุฬามณีบนสรวงสวรรค์
ดังนั้น การลอยกระทง
จึงเป็นดั่งการสักการะต่อองค์พระธาตุบนสรวงสวรรค์
และเชื่อว่าเป็นการลอยทุกข์โศกโรคภัย 
ความเคราะห์ร้ายทั้งปวงออกไปจากชีวิต
และแสดงความชื่นชมยินดีผูกพันใจต่อสายน้ำ
ในชีวิตไทยโบราณที่มีบ้านอยู่ริมฝั่งนที
และแทบทุกเรื่องราวในชีวีหนีไม่พ้นได้มาจากสายน้ำ 
ไม่ว่าอาหาร การสื่อสารเส้นทาง
และแม้กระทั่งความรัก
ที่มักมากับประเพณีเทศกาลจากลำน้ำ...

หนุ่มสาวคงเพียรเฝ้าพะนอ
ขออธิษฐานบานบนต่อแม่พระคงคา
ให้บุหลันกลางฟ้าและดวงดารา..รับรู้รักนี้
ที่หนักแน่นมั่นคงซื่อตรงคงมั่น เป็นดั่งสักขีพยานใจ..
และในดวงใจดวง..ก็พลันคิดถึงสายน้ำปิง..
ในค่ำคืนนี้...
ที่คงงามงดตระการตาตระการใจ
พาให้ใจดวงฝันฝันฝันเฝ้าอยากไปฝากฝัน
ไปชื่นชมดื่มด่ำล้ำลึกกับใครสักคนในคะนึง..
ดวงได้แต่ฝันสล้างพร่างละออพ้อเพ้อเห็น
 กระทงสายพรายพร้อยนับร้อยพันพรูพร่างกลางสายน้ำ
งามอะคร้าวพราวพลอยราวสายสร้อยสายโซ่เพชร
ร้อยดาวเรียงดวงรวงดาวมลังเมลืองเรืองรองกลางผืนน้ำ
.
ไหนจะกว๊านพะเยา ที่สายน้ำไม่ไหล 
พาให้ทุกดวงใจกังวลว่าทุกข์ตรมจะไม่ลอยพรากจากลาไปไหนพ้น
เลยหัวใส..เรื่องอะไรจะลอยกระทงลงน้ำ..
สู้จุดโคมลอยไปในนภากาศ ให้วาดหวังมิดีกว่าหรือ
และหากพร้อมใจจุดโคมลอยในเรือสักร้อยลำในกว๊านพะเยา
กับให้ทุกหมู่บ้านรายรอบพร้อมใจจุดโคมลอยปล่อยพร้อมกันไป
มีดอยบุษราคัมและดอยหนอกเป็นดั่งฉากหลัง
ในช่วงเวลาอาทิตย์ลาลับฟ้า
ดั่งฉากสวรรค์หวานเจือสีส้มแสดแสง..แดงแรงร้อนเร่า..
ให้งามเงาในน้ำดั่งกระจกสะท้อนเลื่อมพราย
ราวมากโคมนับพันทวีคูณพูนเพิ่ม
แค่นี้ก็คงงามพร่างกลางใจไทยทุกดวงแล้ว..
ดวงขอฝากลำน้ำบทเพลงสักขีแม่ปิง
อิงหวานฉ่ำร่ำรมย์ให้ระรื่นชื่นฉ่ำใจมานะราตรีนี้นะคะ
พร้อมกับบทเพลงกว๊านพะเยาค่ะ....


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song303.html
ช..กุศล ดลพี่มาพบเจ้า
ใจพี่ยังร้อนผ่าว ความรักรุมเร้าคลั่งไคล้
ญ..น้ำ คำ รักของคนเมืองใต้
จะจริงแท้แค่ไหน
สาวเชียงใหม่ครวญใคร่ถวิล
ช..ชีพสลาย ยังไม่คลายรักเจ้า
ญ..จริงดั่งใจหรือเปล่า
หวั่นเกรงเคลือบเอาที่ลิ้น
ช..รัก จริง เพียงหัวใจแดดิ้น
ไม่วายเว้นถวิล มิสิ้นความรักได้เลย
ญ..น้ำ ปิง ล้น ฝั่ง
ช..ดัง รัก พี่เปี่ยมฤดี แล้วเจ้าเอย
ญ..แล้ว คง ละ เลย ไม่เหมือนเอ่ย
ช..โอ้ทรามเชยมิเคยแหนงหน่าย
ญ..หน่อยเถิดนะ คงจะไม่เห็นหน้า
ช..ถ้าพี่เป็นเหมือนว่า
วานน้องฆ่าเสียให้ตาย
ญ..สาบาน ชจ๊ะสาบานก็ได้
หากความรักสลาย ขอตายในสายแม่ปิง
ช..  รัก กัน หวาน ชื่น
ญ..  เกรง ขม ขื่น ชื่นกลับชังช้ำอกหญิง
ช..น้อง ควร รู้ ใจ
พี่ทุกสิ่ง เช่นแม่ปิงรู้จริงใจพี่
ญ..หน่อยจะคร้าน นานกลับกลายหายชื่น
ช..พี่ไม่ไปไหนอื่น จะขอชื่นรักอย่างนี้
ญ..อุ๊ยตาย อายเขาบ้างซีพี่
พร้อมจูบฝากรักสักที
ไว้เป็นสักขีแม่ปิง...

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4125.html
โอ้ธารสวรรค์ กว๊านพะเยา
ธารรักเราครวญคร่ำ ลมโชย
พริ้วฉ่ำ ในวังน้ำวน
พร่างพรมมนต์รักมา
ดูราวสายชล ธารสวยตระการ
อยู่ในนิทรา แว่วเพลงรัก
ของปักษา ร้องอำลาคืนรัง
โน่นทิวทุ่งลิบ รวงทิพย์
เรืองรอง ราวสีทองเปลวปลั่ง
ธาราไหลหลั่ง ใสราวน้ำวัง
ขังน้ำตาแห่งดาว ห้วงน้ำลึกนัก
ห้วงรักลึกกว่าหลายเท่า
แม้นรัก ไม่จริงกับเรา
อายกว๊านพะเยา
หลายเท่าเอย
โน่นทิวทุ่งลิบ รวงทิพย์
เรืองรอง ราวสีทองเปลวปลั่ง
ธาราไหลหลั่ง ใสราวน้ำวัง
ขังน้ำตาแห่งดาว ห้วงน้ำลึกนัก
ห้วงรักลึกกว่าหลายเท่า
แม้นรัก ไม่จริงกับเรา
อายกว๊านพะเยา
หลายเท่าเอย...
........................


และในจินตนาการรัก
ที่ดวงใช้แค่ดวงใจละไมฝัน
พลันติดปีกโผผินบินไปตามลำน้ำเจ้าพระยาขึ้นสู่เชียงใหม่
เมืองล้านนา
เมืองแห่งดวงตาสวรรค์
ที่อยากฝากฝันฝากใจกับสาวงาม
สักคนที่งามแต๊ๆไปตราบชั่วนิจนิรันดร

และในฝันท่ามกลางฟ้าพร่าง..
ดวงเห็นนางใจ นางในฝันนั้น
นวลน้องงาม หนั่นแน่น นวลเนื้อนุ่ม 
กลมกลึงรัดรึงใจพิลาสพิไล
ห่มสไบสีงาช้าง..
เดินทอดย่างในผ้าซิ่นสีแดง..มุ่นมวยผมแกมเกศ
รัดเกล้าด้วยมาลัยดอกพุดพิสุทธิ์หอมงาม
ห้อยพวงพราวระย้าย้อย
ด้วยดวงดอกมะลิซ้อนอ้อนหวานเอียงอายอายเอียงเคียงข้าง
ด้วยหนุ่มน้อยรูปงาม ในชุดชาวไทรัฐฉานสง่างามพอกันริมฝั่งน้ำ 
น้ำในตาสาว
วะวาววะวับวิบระยิบพร่างพริบดั่งเพชรพราว
แข่งกับนวลแสงดาวที่พากันเฝ้าพร่างพริบ..อิจฉา
ยามเธอช้อนตาสบตา พากันส่งกระทงน้อยลงคงคา
ให้สายน้ำในธารา ในดวงตาในดวงใจ
เป็นดั่งพยานใจพยานรักชั่วกาล..
อย่าให้รักหวานกลายกลับเป็นขม
เหมือนดั่งเพลงที่กำลังลอยลมพร่างพลิ้วมาเลย
...................


บทเพลงริมฝั่งน้ำ..
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song301.html
ริมฝั่งน้ำ
ริม ฝั่ง น้ำ พร่ำเพ้อ ละเมอครวญ
เคยชื่นชวนเมื่อหวลคนึงไป จิตใจยังชื่นชู
แสงเดือนส่องยิ่งมองแล้วจิตเผลอ เธอยังอยู่
เคล้าคลอคู่ชื่นชูรู้สึกเหมือน เตือนใจจำ
เธอกับฉัน ก่อนนั้นเคยชื่นฉ่ำ
ริมฝั่งน้ำสุขล้ำฉันจำได้ อะไรจะเทียมทัน
เคยเรียกเธอ เสนอรักรำพัน
เคยคู่กันใฝ่ฝันถึงเพลงชื่นค่ำคืนเคยได้ฟัง
น้ำเต็มเปี่ยมก็เทียมรักสุดหวาน ปานไหลหลั่ง
น้ำเต็มฝั่งดุจดั่งรักที่หวัง ยังคงคอย
เคยชื่นใจ ฝากไว้หัวใจลอย
เฝ้าแต่คอยโอ้รักนั้นเลื่อนลอย
ยิ่งคอยยิ่งใจหมอง
ริมฝั่งน้ำ พร่ำเพ้อ ละเมอครวญ
เคยชื่นชวนเมื่อหวลคนึงไป จิตใจยังชื่นชู
แสงเดือนส่องยิ่งมองแล้วจิตเผลอ เธอยังอยู่
เคล้าคลอคู่ชื่นชูรู้สึกเหมือน เตือนใจจำ
เธอกับฉัน ก่อนนั้นเคยชื่นฉ่ำ
ริมฝั่งน้ำสุขล้ำฉันจำได้ อะไรจะเทียมทัน...
......................


และอีกที่..
เมืองแสนดีแสนงาม
นามเพราะเมืองประวัติศาสตร์แห่งชาติไทย
สุโขทัย...เมืองในดวงใจแดนจันทร์แดนบุหลันงาม
ที่คงฝากความอลังการยิ่งใหญ่
เพราะมีฉากเมืองเก่าของเราแต่ก่อนให้อาวรณ์อาลัย 
มีหลักศิลาจารึกหลักที่หนึ่ง ที่ตรึงใจก็ด้วยตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ 
ที่นะค่ำคืนนี้คงคลาคร่ำด่ำดื่มกันถ้วนหน้าไม่ว่าหญิงชาย...
..........

แต่ดวงกมลของดวง..
ในค่ำคืนนี้นั้น 
มีฝันอันอะคร้าวรอคลุกเคล้าใจให้ไหวงามอยู่แล้ว..
ดวงตั้งใจจะค่อยค่อยขับรถ..เข้าไปในเส้นทางงาม
เลียบลำน้ำเจ้าพระยา..สองข้างทางคือราวป่าเส้นทางสายชนบท
ลดเลี้ยวลับขนานไปกับทุ่งนา ดงตาลให้หวานในดวงใจ
และให้หวานพระจันทร์พลันพรายสีทองส่องทาทาบอาบรวงเรียว
ให้เสี้ยวใจริบหรี่ ได้พร่างพรมห่มด้วยหอมงาม
ให้บุหลันดวงหวานเศร้า ริมเจ้าพระยาคลอเคล้า
นะร้านชานเมืองชานเรือนไทยเรียบง่าย
ที่ดวงเคยเข้ามานั่งดายเดียวเดียวดาย
ใต้ดวงดาวในหมู่ร่มไม้เรือนใจพันธุ์ไทยดังไพรพฤกษ์พง
 
ที่ดวงดอกดงการะเวกหวานหอมแทบหลอมละลายใจ..
เททุ่มใจถอดใจร้องไห้ ร้องไห้....
ด้วยไหวคะนึงครวญหวนไห้ถึงใครบางคนสุดทนสุดใจ..แล้ว..
และนั่นดวงดอกไม้ในฝันเศร้าเสมอมามิราโรย..ร้าง  
มิเคยห่างใจดวงร้าว..นี้
ลั่นทมพราวทุกราวกิ่งแกล้ม..แกมจำปีจำปา..
และกล้วยไม้ป่าห้อยคาคบยามพลบค่ำ
ราวดวง..นั่งในไพรพงจริง..
ดวงชอบเด็ดลั่นทมสองสามดอกเสียบแซมผม 
มาดแม้นไร้ใครดอมดมพรมจูบ
ไล้เรียวแก้มแกมรักล้นใจ..ก็ตามทีเถอะนะ..

คืนนี้ ดวงคงนุ่งซิ่นผืนงาม 
และคงคลุมไหล่สล้างด้วยผ้าไหมทอมือสีไพลผืนเก่า
ดวงคงจะขอฟังเพลงคลอพ้อรักฝากไปกับสายชล..
บทเพลงแห่งดวงใจรัก..

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song302.html
สายชล
 
เหม่อมองดูสาย น้ำ วน
เหม่อมองสายชล ที่ไหล ริน
เหม่อมองดูนก ผก ผิน บินลับ ไป
ยาม เหงา เราถอนใจ บิน ไป ไม่กลับ มา
เปล่าเปลี่ยวจริงหนอ หัว ใจ
อยากจะรักใคร เศร้าใจทุกครา
หมดแรงกำลัง อ่อน ล้า และหลง ทาง
เจ็บ นั้น ยังเจ็บไม่จาง อ้าง ว้าง ดังสาย ชล
แม้ใจจะเจ็บ เก็บมาคิดคิด
อดีต ช่างงามล้ำล้น
มิเคยลืม ภาพเราสองคน
มิเคยลืม ยังหลอกลวงตน มิเคยลืม
ว่าเคยรักเธอ สาย ชล
หลั่งรินไหลวน มาพานพบเจอ
เหตุการณ์ผ่านไป ยัง เพ้อ พะวงทุกวัน
อก เอ๋ย ขมขื่นตื้นตัน จาก กัน หรือฝัน ไป
มิเคยลืม
ว่าเคยรักเธอ สาย ชล
หลั่งรินไหลวน มาพานพบเจอ
เหตุการณ์ผ่านไป ยัง เพ้อ พะวงทุกวัน
อก เอ๋ย ขมขื่นตื้นตัน จาก กัน หรือฝัน ไป...

ลุ่มเจ้าพระยา
 ลุ่มเจ้าพระยาเห็นสายธารา ไหลล่อง
เพียง แต่มองหัวใจให้ป่วน
น้ำไหลไป มักไม่ ไหลทวน
ชีวิตเรา ไม่มีหวน ไม่กลับทวนเหมือนกัน
เรา เกิดมา ผูกใจรัก กันดีกว่า
เพราะว่าชีวา แสน สั้น
เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิดมั่น
จง ผูกพันรักกันด้วยใจ
ขอจงเป็น เหมือนเช่น นกไพร
ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่กัน
เรา เกิดมาผูกใจรัก กันดีกว่า
เพราะว่าชีวา แสน สั้น
เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิด มั่น
จง ผูกพัน รักกันด้วยใจ
ขอจงเป็น เหมือนเช่นนกไพร
ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่ กัน...

และคงอีกคราที่น้ำตาดวงจะหยดเผาะ 
เมื่อเพลงพ้อมาถึงคำร้อง..
*ขอจงเป็นเหมือนเช่นนกไพร
ที่เหินบินคู่กันไปหัวใจ..คู่กัน.*..

และหากดาวประจำเมือง ดาวบนฟ้า คือดวงตาใครสักคน
ที่เคยกระซิบบอกดวงว่าทุกความห่วงใย
ทุกสายใจสายใยรักระหว่างเราสองนั้น 
ให้ฝันปองมองหาดาวในดวงใจ
ยามเหว่ว้าอ้างว้างร้างไร้ผู้ใด
ที่จะพริบพราวเฝ้าปลอบประโลมใจเสมอมาเสมอไป
เป็นนิรันดร์รักนี้..ที่มิมีวันได้เคียงครองคู่
และคนดี..
ไม่ว่าค่ำคืนนี้คุณจะอยู่นะที่ใดในประเทศไทยนี้..
ขอจงฝากใจกับจันทร์ฝากฝันกับดาวมาถึงดวง..นะคะ
จงพริบพราวและเฝ้าดูดวงดายเดียวริมฝั่งชล..ลำพัง
ดวงพร้อมจะหลั่งหยาดน้ำตา..
บูชาพระแม่คงคาบูชารักเรา
ที่พลีพร้อมยอมไร้ร้างห่างกันไกลสุดขอบฟ้า..
เพื่อรอวันที่
ดวงตาสวรรค์จากฟ้าเบื้องบน
มีเมตตาปรานีให้พรเราสอง

และ...คนดีในฝันในดวงใจ..
ดวง..จะพลี..เพียง..ลั่นทมดอกเดียว  
ที่จะ...
ค่อยค่อยลอยละล่อง 
อย่างเดียวดาย... ดายเดียว...
เปลี่ยวเหงา..ไปตามสายชล...กลางสายชล... ลำพัง..!
......................
				
comments powered by Disqus
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    3 พฤศจิกายน 2549 22:31 น. - comment id 623223

    ทิวธารกระทงล่อง         
    ประกายทองดูเรียงราย
    เสน่ห์พรรณรายพราย           
    ประโลมฝั่ง  ณ  ถั่งธาร
    
    
    จีบตองมารองเจียน      
    ประทีปเทียนชัชวาล
    บุปบางามตระการ       
    ประดับดาววะวาวสี
    
    
    ปี่ซอแว่วคลอขับ         
    บรรเลงสรรพดนตรี
    เคล้าคลื่นรื่นวารี        
    ประทับจิตสนิทเสียง
    
    
    เพลงเรือกังวานก้อง    
    ประกอบฆ้องเสนาะเพียง
    สังคีตกรีดสำเนียง       
    ประดุจมนต์แห่งคนธรรพ์
    
    
    อนิษฐานดั่งใจ(  ปัจจุบันกาล)
    
    คว้าไขว่เป้าหมาย       
    พลันธารกระเทือนกระทั่ง  
    ทำนบพังระทมตรม     
    ปล่อยลงไป
    
        
    ในปัจจุบันชม            
    อุทกหลั่งล้นฝั่งไกล    
    จุดหมายปลายทาง     
    ตองโทรมเป็นโฟมจม
    
    
    (  ปัจจุบันกาล)
    
    พลันธารกระเทือนกระทั่ง     
    ทำนบพังระทมตรม
    ในปัจจุบันชม                     
    อุทกหลั่งล้นฝั่งฝาย
                        
    
    ตรองโทรมเป็นโฟมขาว      
    สาดสีพราวกระจายพราย
    บุปผาก็ลากลาย                  
    เป็นพลาสติกทุกก้านแกน
    
    
    ปี่ซอที่คลอเคลื่อน               
    " สตริง" เลื่อนมาเทียบแทน
    อึกทึกทั่วทุกแดน                  
    คงขาดแคลนคนร้อยเรียง
    
    
    
    เพลงเรือต่างลาลับ                
    ลูกคู่ขับก็ขาดเคียง
    หม่นหมองโอ้จองเปรียง       
    ไม่ทันไรก็ไร้รอย
    
    
    ตำรับนพมาศล่ม                   
    กระทงจมกระทดถอย
    น้ำค้างหล่นพร่างพร้อย         
    เปลวเทียนดับไม่กลับคืน
    
    
    ( สืบสู่อนาคตกาล)
    
    ประทัดประทุเปรี้ยง             
    ตระหนกเพียงยินเสียงปืน
    ดอกไม้แห่งไฟฟืน              
    มาเผาใจให้ไขว่เขว
    
    
    โลกใหม่วิไลศรี                 
    ประเพณีจึงรวนเร
    กระทงคงหันเห                
    และห่างหายจากสายธาร
  • พุด

    3 พฤศจิกายน 2549 22:55 น. - comment id 623232

    36.gifทะเลจันทร์วันกระทงหลงทาง!36.gif
    
    ผมกำลังนอนเหนือเนินผา
    นับถอยหลังรอเวลาราตรีมาเยือน
    และ
    รอดูดาวเดือน
    ที่กำลังถูกหว่านโปรยโรยประดับฟากฟ้าสีกำมะหยี่
    ด้วยฝืมือนางฟ้าผู้ใจดี
    
    ที่กำลังรอเวลากระพริบพราวสะพรั่งพรึบ 
    ราวเวทีฝันสวรรค์หวานปานแดนสรวง
    ด้วยรวงดาวเรียงดวงราวรวงเพชรกระนั้น
    
    
    ผมปลีกวิเวกมานอนนะที่นี่
    *กระท่อมริมผาศิลามณี*
    มารอเวลา..
    ที่พระจันทร์ดวงหวานจะค่อยๆคลี่
    แย้มพรายหยาดสายหวาน
    ผลิบานเป็นจันทร์นวลดวงผ่องผุดพิสุทธิ์เพ็ญ
    ในอีกไม่กี่ราตรีกาลข้างหน้า
    
    
    ผมหนีความดายเดียวเหว่ว้า 
    ที่ไร้ใครเคียงข้างอธิษฐานจิตอธิษฐานใจ
    ได้ร่วมกันประคองกระทงลอยล่องลงในแม่พระคงคา
    ณ..ราตรีเพ็ญเด่นดวงนี้
    
    ที่ใครๆเขามีโปรแกรม
    ที่น่าจะไปยลแย้มเยือน
    เฉลิมฉลองสุดยอดแห่งความงาม
    ที่แสนยิ่งใหญ่อลังการ
    ที่กำลังจะเปลี่ยนทุกลำน้ำ
    ให้ระยิบระยับงามจับตา
    พร้อมสักการะอธิษฐานขอพรจากพระแม่คงคา
    
    
    หลายสถานที่...
    ที่มีประเพณีแสนงามนี้
    ได้สืบทอดอนุรักษ์ไว้
    ให้ลูกหลานไทยได้ตระหนัก
    ถึงวัฒนธรรมอันแสนจะน่าภาคภูมิใจ
    ในห้าเมืองหลัก ที่แสนสวยงามเป็นยิ่งนัก
    
    
    ณ....อุทยานแห่งชาติประวัติศาสตร์สุโขทัย จ. สุโขทัย
    ณ....สะพานพระราม 8 ถึงสะพานพระพุทธยอดฟ้า กรุงเทพมหานคร
    ณ....บริเวณตัวเมือง จ. เชียงใหม่
    ณ....แม่น้ำปิง จ. ตาก
    ณ....ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร จ. พระนครศรีอยุธยา
    
    
    และ
    สำหรับผม..
    กลับหนีมานอนดายเดียว เปลี่ยวเหงาเฉาทรวง ลำพัง
    เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจ
    ลอยกระทงลงสู่ท้องทะเลใจทะเลไทย ในปีนี้
    แบบแผกผิดพิเศษพิสุทธิ์บ้าง
    
    
    ผมอยากทิ้งความอ้างว้าง
    ไปกับแสงเทียนพรายพร่างนับหลายพันเล่ม
    สว่างไสวเต็มท้องทะเลฝัน ในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง
    ที่ฝรั่งทั่วโลกต่างรู้จักกันดี
    ที่เรียกว่าคืนฟูลมูนปาร์ตี้ที่พะงันงาม
    ในทุกยามเพ็ญแจ่มจรัสดวง
    
    
    ที่ผู้คนจะพากันลางานล่วงหน้า
    มารอรับหยาดน้ำผึ้งฝันพระจันทร์หวาน
    มาปันแบ่งพลังใจพลังจันทร์
    มาฝันสุขหรือมาคลุกเคล้าเศร้าดายเดียว
    เมื่อเหลียวไปไม่มีใครเคียงร่วมเตียงร่วมตักรวมรักระรื่นรส
    ให้สดชื่นแสนสุขในทุกโมงยามยามได้ชิดสนิทใกล้..
    
    
    ผม..เองคงเป็นหนึ่งในนั้น
    ที่จะมาขอแค่เห็นภาพฝัน
    กับแสงเทียนนับพันในกระทงน้อยน้อย
    ที่งามงดแสนจะหมดจดใจ
    
    ที่กำลังค่อยๆลอยล่องลงสู่ทะเลใจทะเลจริงทะเลจันทร์
    ที่คงให้ความรู้สึกล้ำลึกดื่มด่ำกับดวงใจผมไปอีกแบบ
    แนบผสานสนิทในจิตใสผมเอง
    
    
    ที่ผมมักซึ้งซาบวาบหวามฤดี
    อดไม่ได้ที่จะแสนปิติภาคภูมิใจ
    จนอยากจะหลั่งน้ำตาในทุกคราคราว
    ไปกับทุกประเพณีไทย
    
    ยามที่ดวงใจ
    ได้หลอมละลายสัมผัสพลังศรัทธารักนั้น
    ในศิลปวัฒนธรรมอันเลิศล้ำอันทรงค่า
    อันสืบสานสืบทอดต่อยอดงามกันมานับหลายร้อยปีแล้ว
    
    
    ที่ณ..วันนี้
    มาตรแม้นบางประเพณีจะมีทั้งดีร้าย
    เศร้าสุขมาคลุกเคล้า 
    ราวกับมาสอนสัจจธรรมชีวิตว่า
    ทุกสิ่งนั้นมักมีสองด้านเสมอ
    และย่อมมีปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
    ไปตามแรงเหวี่ยงแห่งโลกโลกาภิวัฒณ์
    
    
    ที่ผมเองเคยขยับปลายปากกาเขียนบทกวี
    ไว้ด้วยความรักความห่วงใยไว้
    ในยามมีงานลอยกระทงว่า......
    
    
    http://thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_41040.php
    กี่ดอกไม้!สายชลใบตองต้องร้องไห้!
    
    กี่ดอกไม้ใบตองต้องร้องไห้
    กี่เงินใช้สายชลพร้อมเน่าเหม็น
    กี่ความรักโยนทิ้งสู่ธารเย็น
    กี่ทุกข์เข็ญไหว้วอนชลปนเปื้อนใจ..
    
    กี่หัวใจไม่รับรู้โลกหมุนเปลี่ยน
    กี่คนเวียนทำลายแม่น้ำใส
    กี่คราแล้วธรรมชาติให้บทเรียนใจ
    กี่หัวใจจะไตร่ตรองมองเห็นธรรม.....(ธรรมชาติ)
    
    
    กี่ความทุกข์ทิ้งชลใช่ทางออก
    กี่ช้ำชอกอยู่ที่ใจฝึกไม่ช้ำ
    กี่ปากว่าตาขยิบรักธรรมชาติละมุนพร่ำ
    กี่ระกำย่ำยีมิรู้คุณ..
    
    กี่กระทงลงน้ำแล้วหายวับ
    กี่เทียนดับสะท้อนสุขนาทีหมุน
    กี่ทำลายแม่คงคาไม่การุณย์
    กี่ปีหมุนผิดทางห่างโลกจริง..
    
    วอนรักน้ำดินฟ้าอย่าหลงผิด
    ถนอมสนิทโลกแสนงามห่วงทุกสิ่ง
    ธรรมชาติวาดฝันฉันเธอรู้รักยิ่ง
    มนุษย์คือสิ่งทำลายยับหรือกลับใจ..รักษ์โลกเรา!
    ***********
    
    
    และได้ขอฝากข้อคิดเตือนใจด้วยรักปรารถนาดี
    จากใจถึงใจ..ทุกดวงใจ
    ในร่มรักเรือนไทยริมฝั่งชลของเราไว้..ว่า
    
    ณ..นาทีนี้นะวันนี้
    โลกเราเปลี่ยนไปแล้ว
    จงให้ความเป็นธรรมแก่ธรรมชาติ
    เรียนรู้รักรู้ธรรมจากบทเรียนธรรมชาติ
    ที่เฝ้าเพียรสอนใจเรียกร้องเรานานมาหลายคราครั้ง
    
    
    หากเราเปิดใจคิดเป็นคิดได้คงเข้าใจว่า
    ธรรมชาติอยู่ส่วนธรรมชาติมาแต่ดั้งเดิม
    
    มีเราคือมนุษย์เพิ่มเติมขึ้นมามากมายนับพันล้าน
    มาพล่าผลาญเบียดเบียนทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม
    มิรู้คุณมิรู้ค่ามิได้มาฝากร่างรักพักพิงใจแบบทะนุถนอมงามให้ยาวยืน
    ให้โลกสะล้างพร่างพราวมีน้ำฟ้าปลาดาว..อย่างเพื่อนพึ่งพาพึ่งพิง
    
    
    และแน่นอนที่..
    ทุกคน..รักประเพณีไทยลอยกระทง จุดเทียนเล่นไฟ
    ยิ่งในฐานะคนมีหัวใจดวงละมุนกรุ่นกลิ่นหอมกำจาย
    ของมวลดอกไม้สายธารหวานพระจันทร์
    
    
    ย่อมฝันอยากเห็นงามนั้น
    ตราตรึงตระการตาตระการใจไปตราบชั่วกาล
    
    และยิ่งจะหวานหอมในใจดวงรักนี้
    หากมีใครสักคนร่วมด้วยช่วยกันส่งกระทง
    ด้วยแรงรักแรงอธิษฐานจิตอธิษฐานใจว่าชาติไหนไหน
    ให้เราได้มารักกันได้ครองคู่กันนิรันดร.......
    
    
    และผมถึงมิได้เขียนบทกวีบทนี้
    เพี่อปรารถนาแอนตี้ประเพณีแสนดีแสนงามนี้ของไทยเรา
    
    ผมเพียง..อยากให้ประเพณีงามจรัสใจ
    ในคืนเพ็ญเด่นดวงยังดำรงอยู่
    ให้คู่หนุ่มสาวได้เคล้าคลึงคลอพลอดพะนอรัก
    อย่างวาบหวามท่ามกลางพรายพระจันทร์หยาดหวาน
    
    กับการได้อนุรักษ์สืบสานงามมั่นงามฝันนี้
    ไว้ให้ลูกหลานได้บานเบิกใจไปกับ
    งามพระจันทร์ สายน้ำนิรันดร์และเสียงเพลงฝันฝันฝัน
    ลอยลอยลอยกระทงทั่วคุ้งน้ำ..
    
    
    ผม....
    เพียงแค่อยากให้..ประเพณีนี้รักษาไว้เพียงบางพื้นที่
    เพื่อไม่ต้องทำลายสิ่งแวดล้อมมากไป
    และหากดีก็ต้องดูแลรักษาลำคลอง
    หากว่าเราต้องใช้..
    ก็หวังว่าคงเข้าใจหัวใจผมผู้ชายชาติไทยชาติไพร..
    ด้วยรักห่วงใยรักษ์โลกเราอยากให้เนานาน..ชั่วกาลกัปป์กัลป์นิรันดร
    
    
    เพราะในความรู้สึกรักษ์สายน้ำที่แสนงาม
    ที่อาจจะถูกทำร้ายทำลายให้เกิดตื้นเขินและเน่าเหม็นได้
    ด้วยขยะอันแสนมากมายมากมีหลังราตรีงามผันผ่านไป..
    
    
    
    
    คนดี..ครับ
    คุณคงหาว่าผมคิดมาก
    
    หากทว่า ครับผมยอมรับว่า..ใช่เลย
    เพราะผมคือคนที่รัก รักษ์ทั้งธรรมชาติ
    และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่แสนละเมียดละมุน
    แบบอยากให้ฝากหอมหวานกรุ่นผสานไปกับโลกแห่งความศิวิไลซ์
    อันควรคู่กันไปอย่างรู้ค่ารักทะนุถนอม
    
    
    ให้รู้รักษาแบบพอดิบพอดี 
    เพราะมากมีประเพณีที่ถูกเปลี่ยนแปลง
    นำมาใช้เล่นแบบแกล้งกัน
    แบบประเพณีสงกรานต์
    ที่ช่างแสนน่าเศร้าใจ
    แปรไปใช้น้ำครำน้ำไม่ดี
    มารินรดหยดใส่กันมาสาดใส่กัน
    ให้ฝันร้าย ใช่น้ำอบน้ำปรุงลอยด้วยดวงดอกไม้ไทยๆอีกต่อไป
    
    
    และคือความไม่น่าประเทืองประทับใจ
    ยามที่ชาวต่างชาติมาฝากดวงใจมาถ่ายทำ
    ถ่ายทอดยอดงามแห่งวิถีไทยเรานี้
    ที่แสนดีนักหนามาอย่างยาวนาน
    ไปทั่วโลก..
    
    
    ผมจึงแค่ได้แต่วิงวอนให้พี่น้องและหน่วยงาน
    ต้องช่วยกันรณรงค์ให้คนไทยรู้รักษาค่างามละเมียดละมุนนี้
    พยายามอย่าที่จะแปรไปเป็นเล่นเห็นแค่ความสนุกสนานเพียงนั้น
    
    
    ที่บางครั้งแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์
    พาลพาให้ผู้บริสุทธิ์ล้มตาย
    ด้วยอุบัติเหตุมากมายมากมี
    เพราะเป็นการที่เฉลิมฉลองเกินขอบเขต
    เมาแล้วขับรถ
    หรือไม่ก็รดราดแรง
    แกล้งจนเขารถพลิกคว่ำตายคา..ที่..ที่ไม่ดีเลยนะ
    
    
    
    คนดีครับ..
    ผมคิดไปคิดมาคิดมาก
    จึงค่อยๆขับรถคู่ยากมานอนคอย
    
    ดีกว่าจะคอยเสี่ยงบนท้องถนน
    เลี่ยงการจราจรติดขัดอัดกันแน่นในวันนักขัตฤกษ์
    ที่ผู้คนมักพากันแห่ออกนอกเมือง
    เพราะผมได้เตรียมวางแผนไว้นานแล้ว
    ที่จะใช้วันหยุดให้คุ้มค่า
    
    
    ผม..ขับรถช้าช้า
    ดิ่งตรงลงมาเรื่อยๆ..
    และราวกับหูจะได้ยินบทเพลง
    ล่องใต้ลอยหวานแผ่วแว่วมา
    ................
     ล่อง ใต้ ไป ตาม เสียงเพลง
    กล่อม บรรเลงเป็นเพลงเร้าใจ
    มนต์รักจากแคว้น แดนถิ่น
    แห่งกลิ่นบุหงา มาลัย
    เมืองใต้ใครเยือนเหมือนท่องวิมาน
    ล่อง ใต้ ได้ เป็น ขวัญตา
    ท่อง เที่ยวมารื่นรมย์สำราญ
    งามทั้งโขดเขา แนวไพร
    จับใจห้วยหนอง คลองธาร
    เกาะแก่งสถาน อันวิไล
    โอ้ ชุมพร ขอพรที่แสนสุดดี
    สุราษฎร์ ธานี
    เมืองคนดีจึงสุขสดใส
    
    
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song156.html
    
    หัวหินสิ้นมนต์รัก
     หัวหิน เป็นถิ่นสัญญา
    จากไป กลับมาผิดหวัง
    ฮืมความหลังยังเวียนวน
    คลื่นสวาทมันแรง มันแกล้งมาดล
    ร้อนจนใจสั่น
    เคยชื่นชู้ สู่สวรรค์
    รักกันมั่น ใจฉันยังปลื้ม
    มันซาบมันซึม มันปลื้มไม่นาน วิมานทลาย
    
    คลื่นสวาทมันแรง มันแกล้งมาดล
    ร้อนจนใจสั่น
    เคยชื่นชู้ สู่สวรรค์
    รักกันมั่น ใจฉันยังปลื้ม
    มันซาบมันซึม มันปลื้มไม่นาน วิมานทลาย
    หัวหิน เป็นถิ่นสัญญา
    ขาดเธอ กลับพลันเงียบเหงา
    ฮืมมอง แสงดาวเรียงราย
    คลื่น ยังคร่ำ ยังครวญ
    จันทร์แจ่มยังนวล เย้ายวนไม่วาย
    คอยชื่นชู้ อยู่แลหาย
    เห็นรอยทราย ใจฉันหวิวหวั่น
    เคยนั่งชมคลื่น เคยชื่นใจกัน ฉันยังไม่ลืม...
    
    ...................
    
    
    จากหัวหินคือถิ่นสำราญ
    ผ่านเมืองปราณบุรี
    ที่หาดแสนงาม
    ที่ยามนี้นักท่องเที่ยว
    และโรงแรมห้าดาว
    มาพราวปรากฎเต็มไปหมดทั้งโค้งอ่าว
    
    เข้าสู่ชุมพร...
    โอ้ ชุมพร ขอพรที่แสนสุดดี
    
    สู่สุราษฎร์ธานีเมืองคนดี
    ที่มีคำขวัญว่า
    *เมืองร้อยเกาะเงาะอร่อยหอยใหญ่ไข่แดงแหล่งธรรมะ*
    
    
    
    และ
    ขับรถลงเรือเฟอรี่ข้ามฟาก
    เพื่อมานอนนะกระท่อมศิลามณีนี้
    
    ที่เคียงผาหินงามไล่เลาะตามไปตามไหล่เขา
    ให้เหงางามเงียบสงบใจ
    ด้วยมีทะเลไกลแลละลิบ
    แสนใสสวยราวมรกตน้ำงามตรงหน้า
    
    มีผืนฟ้ากระจ่างเมฆ
    เห็นทิวทิพย์หมอกหยอกเย้าน้ำจรดฟ้างามกว่างาม
    ในทุกโมงยาม
    ทั้งในยามเช้าสายบ่ายเย็น
    
    
    ให้นอนดูดวงตะวัน
    ยามค่อยๆผันตัวเองขึ้นเหนือน้ำ
    เฝ้าดูเงาปลาบของครีบปลา
    ยามกระโดดผึงเหนือน้ำออกล่าเหยื่อ
    ให้ลำตัวใหญ่อวบงาม
    มาปรากฎสะท้อนพร่างรับแสงแดดสีเงินยวง
    
    
    และ
    ในยามย่ำสุริยาก็เฝ้าคอยดูฟ้าเล่นแสงแปรสี
    คลี่ม่านราตรี
    เปิดเวทีฝันพระจันทร์หวานมาหอมห่มพรมพร่างใจแทน
    ให้แสนคิดถึงคะนึงครวญ
    รอคุณรอใจรอร่างมารวมใจเคียงประคอง
    
    
    และราวเรื่อง
    แดนดวงจันทร์บุหลันลอยของคุณ.. .พุดพัดชา... ที่เธอรจนาฝากไว้
    http://thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_41144.php
    
    
    
    คนดี..และกับราตรีนี้ที่ผมปิดไฟมืด
    ปล่อยให้มีเพียงแสงจันทร์เสี้ยวดวงเศร้า
    สาดส่องทอทดลอดลงมายังสระน้ำเคียงกระท่อม
    .
    
    ที่ผมกำลังนอนลอยตัว
    หลับตานิ่งทิ้งใจดื่มด่ำ
    
    กับยามค่ำคืน
    ที่มีเพียงดาวสุกปลั่งประดับใจประดับฟ้า
    ให้หัวใจผมยิ่งเหงาเปลี่ยวเหว่ว้ายิ่งขึ้นทับทวี
    
    
    ผมพลิกตัวลงอย่างรวดเร็วและพาร่างร้าว
    ดำลงใต้สายน้ำสีมรกต
    ก่อนที่หยดน้ำตาจะปร่าริน
    เมื่อยิ่งคิดถึง
    ก็ยิ่งเพิ่มสายถวิลโหยหาเพียงคุณในนาทีนี้...
    
    
    ที่ผมมีเพียงธรรมชาติหินผางามเคียง
    และ
    ผมรู้ดีหากมีคุณผู้รักทะเลแมกไม้สายธาร
    และหวานดอกไม้มาร่วมเคียงฝันปันแบ่งงาม
    โลกนี้คงยิ่งวิเศษล้ำอย่างยากหาคำใดมาอธิบาย
    ในรู้สึกลึกลึกของผมนี้
    ที่ทุกนาทีมีคุณในมโนนึกเสมอ
    
    
    คนดีครับ..ผมดำอยู่ในน้ำ
    พยายามให้นานที่สุด
    
    ราวอยากหยุดรับรู้ทุกสิ่งนะโลกเบื้องบน
    ให้ดวงกมลและร่างอันแสนเหน็บหนาว
    นั้นยิ่งฉ่ำเย็น
    ให้สายน้ำซอนเซาะซุกไซ้
    เข้าไปเติมหนาวกว่าหนาว
    ให้ใจดวงร้าวได้ยอมรับความจริงเสียที
    ว่าชั่วชีวีชีวิตผมจะไม่มีคุณตราบวันตาย..
    
    
    และ
    คนดี..เมื่อ
    ผมยังตายไม่ได้นี่นา
    ฟ้ายังปรานีบอกให้หัวใจดวงดีมีพลัง
    พยายามหยัดร่างให้พร่างน้ำพราวหยาดรินสู่ปลายเท้า
    
    
    และ.....
    กลับมานอนหนาวบนเตียงไม้
    ทีมีฟูกสีขาวสะอาดปูไว้รองรับริมขอบสระ
    และ
    ผมค่อยๆจิบไวน์แดงรสกลมกล่อมอย่างช้าช้า
    ให้ซาบซ่านละมุนลิ้นละไมใจ
    ไล่หนาวในหนาวเนื้อที่ไร้เนื้อห่ม
    หนาวลมห่มลม ยิ่งหนาวสั่น
    หนาวรักห่มร้าง อ้างว้างครัน
    หนาวสวรรค์ห่มนรก อกช้ำเอย...
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song932.html
    
    หนาวเนื้อห่มเนื้อ จึงหายหนาว
    หนาวราวอกร้าว ห่มอกหาย
    หนาวรักห่มรัก อุ่นรักสบาย
    หนาวคลายเพราะห่ม ที่สมกัน
    หนาวเนื้อห่มเนื้อ จึงหายหนาว
    หนาวราวอกร้าว ห่มอกหาย
    หนาวรักห่มรัก อุ่นรักสบาย
    หนาวคลายเพราะห่ม ที่สมกัน
    โอ้ตัวเราหนาวเนื้อ ไร้เนื้อห่ม
    หนาวลมห่มลม ยิ่งหนาวสั่น
    หนาวรักห่มร้าง อ้างว้างครัน
    หนาวสวรรค์ห่มนรก อกช้ำเอย
    
    โอ้ตัวเราหนาวเนื้อ ไร้เนื้อห่ม
    หนาวลมห่มลม ยิ่งหนาวสั่น
    หนาวรักห่มร้าง อ้างว้างครัน
    หนาวสวรรค์ห่มนรก อกช้ำเอย..
    ..............
    
    
    
    แล้วหลับตาดื่มด่ำ
    กับฟากฟ้าทะเลจันทร์
    ทะเลฝันหวานๆตรงหน้า
    ที่แลลงไปเบื้องล่างละโล่งลิบ
    ในความมืดมิดของท้องทะเลและท้องฟ้าสีน้ำเงินงามเข้ม
    
    
    
    แต่
    แสนแปลกดี
    ที่ท้องฟ้ากลับเติมเต็มด้วยดวงดารา
    มีให้ดายเดียวเปลี่ยวเหงาจนเกินไป
    
    
    แหละนี่แหละหนาคือธรรมะ..
    ธรรมชาติกำลังฝากบางสิ่งทิ้งบางอย่าง
    วางไว้ให้ตรงหน้าให้ได้ขบคิดพินิจดู
    ที่เป็นความจริงเสียยิ่งกว่าจริง
    
    
    ที่เป็นสัจจะ
    ที่กำลังสอนใจผมนะบัดนี้นะนาทีนี้
    อย่างยากที่จะหาผู้ใดมาเข้าใจได้
    ให้ดวงจิตดวงใจผมได้รำลึกรู้
    และ
    รำงับดับความรู้สึกเศร้ายามสิ้นไร้คุณเคียง
    
    
    ผมนอนมองตรงไปยังเกลียวคลื่นสีทอง
    เลื่อมวะวับวาวยามกระทบแสงจันทร์นวลละออง
    ราตรีมีมนต์ขลัง เห่กล่อมให้ผมยิ่งตกอยู่ในภวังค์ฝัน.. 
    
    ผม..ติดปีกฝัน..ในค่ำคืนนี้..
    พาหัวใจโผผินบินขึ้นไปจูบจันทร์...
    จูบให้หายคิดถึง..หายซึ้งเศร้า..
    ที่จันทร์ดูราวดายเดียวมาหลายค่ำคืนนัก...
    
    จูบ..พรายตาเจ้าชู้ที่ดูราวกับล้อเล่น 
    กับมวลหมู่ดาวพริบพราวขี้อิจฉา
    ในยามที่ผู้คนบนหล้าโลก..เขามีความรัก..
    ตกอยู่ในห้วงหาวห้วงเหวแห่งภวังค์รัก..ภักดิ์พร้อมพลีใจ...
    
    ผม..ติดปีกฝัน..
    สู่ทะเลกว้างให้ฟองคลื่นโลมไล้ร่าง...
    กลางทะเลจันทร์ อันอุ่นอาบ 
    ให้หยาดหวานพรายพรมห่มร่างร้าวให้หนาวคลายให้กายอุ่น..เอิบ
    
    แล้วเฝ้าจ้อง..มองพระจันทร์หวาน 
    ยิ้มบานแฉ่งแข่งมวลหมู่ดาริกาดาระดาษอันแสนวิลาสวิไล
    แม้นดวงใจจะแสนเหน็บหนาวดายเดียวสุดทน...
    
    
    
    ผม..ค่อยๆพาตัวเองขึ้นเตียง
    ห่มร่างเศร้าหนาวรักหนาวลม
    ด้วยเสื้อยืดคอกลมสีขาว
    กับกางเกงนอนสีเทาทึม
    
    
    และ..
    แล้วโลกในฝันอันแสนงามแบบสลึมสะลือ
    ก็ลอยวนลงมาแย้มเยือนตรงหน้า
    
    กับมนตราแห่งเสียงครวญจากคลื่นฝันรัญจวน
    จากท้องทะเลที่เฝ้าเห่กล่อมคลอทราย
    เสมือนบทเพลง
    ที่ผมเคยฝากไว้ยามคิดถึงคะนึงหาคุณ..ในวันก่อนเก่า
    ........................
    
    
    หากมีวันไหนที่เธอไปไกลจากฉัน ในหัวใจไม่เคยหวั่น 
    และจะคอยเธอย้อนมา ก็ใจมันรู้คลื่นลมจะคอยพัดพา 
    คอยชัดทะเลเข้าหาหาดทรายแห่งนี้ดังเดิม 
    
    *คือผืนทรายที่โอบทะเลไว้จะวันใดมั่นคงเหมือนดังที่เป็น 
    อยู่เคียงข้างเธอไป ใจไม่ไหวเอน และยังคงชัดเจนอย่างนั้น 
    หาดทรายยังสวย รายล้อมทะเลด้วยรัก คงไว้ด้วยใจแน่นหนัก 
    ไม่หวั่นยามพายุผ่าน จะมีเพียงฉัน รักเธอตราบนานเท่านาน 
    มีรักในใจผสาน ดังทรายอยู่คู่ทะเล
    .......................
    
    
    คนดี..
    ในความงามเงาแห่งเงื้อมผา
    กับงามยามที่ดวงดาราในราตรีกำลังปลอบปลุก
    และ
    เฝ้าร้องเพลงครรลองน้ำค้างลงพร่างริน
    ประโลมไพรพฤกษ์
    และปลอบปลุกประโลมไล้ให้ดวงใจผมไร้ไหวหวั่นหวามไหว
    
    
    ผมได้กลิ่นโมก
    และ
    *ลั่นทม*
    ดอกไม้ในดวงใจรักภักดิ์นิรันดร์
    แห่งคำมั่นสัญญาของสองเรา
    
    
    ณ.ริมผาหินที่กำลังส่งกลิ่นระรินร่ำ
    พร่ำฝากหอมห่มมาถึงที่นอนนุ่มนวลนี้
    ที่ผมจะขอนิทราและหลับตาฝันดี
    
    เพียง..
    ขอฝากอ้อมกอดอันอ่อนหวานอ่อนโยน
    กับเรียวรอยจูบนี้
    ไปกับดาวประจำเมืองในราตรี
    ที่งามเงียบนี้..ถึงคุณนะยอดดวงใจ
    
    
    ระหว่างเรา..นั้น
    พบกันในฝันนิรันดร์รักนะคนดีนะดวงใจ
    และ
    จะแค่นี้แค่นั้นแค่ไหน
    ก็สำคัญที่ใจใช่ไหมเล่าเจ้ายอดดวงหฤทัยเจ้ายอดรัก..!
    
    .............
    
    
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3738.html
    
    ตลอดกาลรัก แรก
    แทรกความหวานฉ่ำล้ำ ทั้งมวล
    เหมือน ชวน ให้ใจต้องเสน่หา
    เหมือน ดั่ง สายน้ำชื่นฉ่ำเย็น
    ไหลผ่านมา
    สองอุรา พาให้ฝันใฝ่
    รัก นั่น
    ไม่มีวันเปลี่ยนผัน หัวใจ
    ให้ ใคร มีใจเพียงเพื่อเธอ
    แม้ โลก
    หยุดหมุนรักก็ยัง มั่นเสมอ
    ฟ้า มีดาว ฉัน มีเธอ
    ตลอดกาล
    ขอให้ รักเรา เคียงอยู่คู่ฟ้า
    ไม่มีวัน ร้างรา
    พลัดพรากจากไกล
    ให้ฉัน ให้เธอ รักมั่นจริงใจ
    ตลอดไป นานเท่านาน
    ตลอดกาล
    
    ขอให้ รักเรา
    เคียงอยู่คู่ฟ้า
    ไม่มีวัน ร้างรา
    พลัดพรากจากไกล
    ให้ฉัน ให้เธอ รักมั่นจริงใจ
    ตลอดไป นานเท่านาน
    ตลอดกาล...
    
    
    
     
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3670.html
    ฟากฟ้าทะเลฝัน 
    
    ก็อาจเป็นลมที่พัดมา
    จากทะเล พาให้ใจลอยเข้าฝั่ง
    จากใจดวงหนึ่งที่หลงทาง
    ไม่เห็นใคร วันนี้ได้เจอะเธอ
    บนทราย ที่ขาวละมุน
    จิตใจดวงหนึ่งได้ลอย
    เหมือนอยู่พัก
    และใจ ดวงนี้ได้รู้จัก กับคนหนึ่ง
    ที่เคยได้ฝันมาแสนนาน
    ได้เจอแล้ว ได้เจอแล้ว
    กับคนนี้ที่ใจฉันใฝ่หา
    ขอบคุณฟ้า และขอบคุณท้องทะเล
    ที่ทำให้ฉันได้เจอะเธอ
    ได้รักเธอ
    
    ไม่มีอะไรจะสวยงาม
    บนผืนทราย
    เท่าสองเราเคียงคู่กัน
    จากลมทะเลดูสายลม
    กับแสงจันทร์
    และเสียงเพลงจาก ใจ
    วันคืน ที่แสนเดียวดาย
    ลมแรงมีความสดใสด้วยความรัก
    อันดวงใจ ดวงนี้ได้รู้จัก
    กับคนหนึ่ง
    ที่เคยได้ฝันมาแสนนาน
    ได้เจอแล้ว ได้เจอแล้ว
    กับคนนี้ที่ใจฉันใฝ่หา
    ขอบคุณฟ้า และขอบคุณท้องทะเล
    ที่ทำให้ฉันได้เจอะเธอ
    ได้รักเธอ
    
    วันคืน ที่แสนเดียวดาย
    ลมแรงมีความสดใสด้วยความรัก
    อันดวงใจ ดวงนี้ได้รู้จัก
    กับคนหนึ่ง
    ที่เคยได้ฝันมาแสนนาน
    ได้เจอแล้ว ได้เจอแล้ว
    กับคนนี้ที่ใจฉันใฝ่หา
    ขอบคุณฟ้า และขอบคุณท้องทะเล
    ที่ทำให้ฉันได้เจอเธอ
    ได้เจอแล้ว ได้เจอแล้ว
    กับคนนี้ที่ใจฉันใฝ่หา
    ขอบคุณฟ้า และขอบคุณท้องทะเล
    ที่ทำให้ฉันได้เจอะเธอ
    ได้รักเธอ...
    
    
    
    
    
    
    36.gif
  • ร้อยรัก

    3 พฤศจิกายน 2549 23:17 น. - comment id 623234

    สิ่งดีดีที่สร้างสรรค์
    
    ถูกคืนวันจ้องทำลาย
    
    สายน้ำรอบข้างกาย
    
    ถูกทำลายน้ำมือคน
    
    
    ประเพณีที่ดีงาม วันนี้น้ำดูขุ่นข้น
    
    สายน้ำถูกปะปน   จนขุ่นข้นไม่เหลือดี
    
    
    ............16.gif............
  • พุด

    4 พฤศจิกายน 2549 00:00 น. - comment id 623238

    1.gif4.gif
    ด้วย..
    ซึ้งใจน้องกระต่ายและน้องร้อยรักค่ะ
    พี่พุดขอกำนัล
    ด้วยภาพรีสอร์ทในฝันสวรรค์งาม
    Hideaway_Villa_Bedroom.jpgHideaway_Villa_Bathroom.jpgPool_Villa_Exterior2_L.jpgPool_Villa_Bedroom.jpgPool_Villa_Bathroom.jpgPool_Villa_L.jpgPool_Villa4_L.jpgPool_Villa_Pool.jpg
  • ที่สุดแห่งทางช้างเผือก

    4 พฤศจิกายน 2549 00:20 น. - comment id 623239

    16.gif12.gif16.gif36.gif
    กระทง เปรียบเสมือนความทุกข์โศก ที่ควรละวาง ปลดปล่อยจากจิตใจ มิฉะนั้นเราคงเก็บสะสมความทุกข์ ความกลัวไว้มากมาย จนวันหนึ่ง เราก็จะหมดพลัง แก่ และขี้บ่น จนเป็นคนน่าเบื่อสำหรับลูกหลาน ไม่มีคนอยากเข้าใกล้ 
    หากเรารู้จัก ลอยกระทง ลอยทุกข์โศก โดยการอธิษฐาน เปล่งสัจจะวาจา ว่าขอให้ความทุกข์โศก ความขัดข้องใจทั้งหลายจงหลุดจากจิตของข้าพเจ้า ณ บัดนี้ และขอให้ข้าพเจ้าคือความเป็นไปได้ของ ความสุข ความรัก ความเมตตา การให้ทาน การทำบุญ การให้อภัย ความสำเร็จ และ ความมั่งคั่ง ขอให้เป็นชีวิตของข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้
  • เพียงพลิ้ว

    4 พฤศจิกายน 2549 08:33 น. - comment id 623259

      
    
    
    เนื้อเพลง รำวงลอยกระทง Loykatong lyrics 
    วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง 
    เราทั้งหลายชายหญิง 
    สนุกกันจริง วันลอยกระทง 
    ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง 
    ลอยกระทงกันแล้ว 
    ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง 
    
    รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง 
    บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ 
    
    วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง 
    เราทั้งหลายชายหญิง 
    สนุกกันจริง วันลอยกระทง 
    
    ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง 
    ลอยกระทงกันแล้ว 
    ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง 
    
    รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง 
    บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ
     November full moon shines,
    Loi Krathong, Loi Krathong,
    and the water's high 
    in the river and local klong, 
    
    Loi Loi Krathong, 
    Loi Loi Krathong,
    Loi Krathong is here and everybody's full of cheer, 
    
    We're together at the klong,
    We're together at the klong, 
    
    Each one with this krathong,
    As we push away we pray,
    We can see a better day 
    
    
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • แมงกุ๊ดจี่

    4 พฤศจิกายน 2549 10:57 น. - comment id 623319

    k2.jpg
    
    พี่พุดไปลอยกระทงไหน?  ค่ะ
  • ทะเลใจ

    4 พฤศจิกายน 2549 12:27 น. - comment id 623359

    เห็นภาพประกอบแล้วเอมคิดถึงสมัยเอมอยู่ประถมจังเลยค่ะ
    
    เค้าจะมีให้นักเรียนประกวดกันวาดรูป ไอ้เรากะสนุกกับเค้าด้วย
    
    แต่พอเอาเข้าจริง
    
    นั่งนิ่งอยู่ตั้งนานกว่าจะวาดรูปได้ เพราะว่าฝีมือเก่งเหลือเกิ๊น  ..
    
    แต่ว่าวาดออกมาก็ไม่ได้สวยเหมือนรูปของพี่พุดหรอกค่ะ
    
    แต่พอวาดเสร็จก็ภูมิใจ เพราะว่านานนานทีจะวาดรูปกับเค้าสักที
    
    เฮ่อ  คิดถึงช่วงนั้นจังค่ะ
    
    ...
    
    เอ่ ว่าแต่ว่า  ... ลอยกระทงปีนี้พี่พุด ไปลอยกระทงที่ไหนคะ  ...
    
    
    ลอยเผื่อเอมด้วยได้หรือเปล่าคะ  ....
    
    เพราะว่าเอมไม่อยากออกไปลอยคนเดียวหน่ะ
    
    มันดูเศร้าเศร้าไงก็ไม่รู้  
    
    
    อากาศเริ่มหนาวแล้วพี่พุดรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
    
    คิดถึงค่ะ 11.gif
  • โคลอน

    5 พฤศจิกายน 2549 09:03 น. - comment id 623515

    6.gifคิดถึงสมัยก่อนตอนเป็นเด็กพอถึงเทศกาลลอยกระทงทีไรใจจะเต้นตึ่กตั่กทุกที เพราะจะได้ทำกระทงกันอย่างสนุกสนาน สวยไม่สวยไม่รู้แต่ที่รู้ๆคือทำกระทงให้ลอยได้ไม่จมไปซะก่อน หรือไม่เอียงนี่จะรู้สึกว่าเจ๋งเป้งเลยนะ 4.gif อิอิ
  • พุด

    13 พฤศจิกายน 2549 17:13 น. - comment id 626420

    2663709640093489037oRXImr_fs.jpg
  • พุด

    13 พฤศจิกายน 2549 17:23 น. - comment id 626421

    552794892bkYMtu

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน