ชื่นชีวัน..เจ้าขวัญดวง...!

พุด

product_image.php?imageid=121474
สวัสดีปีใหม่พุทธศักราช๒๕๕o
จาก..
ดวงใจพุดไพร..สาวบ้านนา
ถึง...
ทุกดวงใจ..
ในร่มรักเรือนไทยเรือนทอง
แห่งมิ่งมิตรน้องพี่..ผองเราค่ะ
.......................
ด้วยมิอาจอยู่ใกล้กันวันปีใหม่
จึง..ส่งใจ มามอบให้เป็นของขวัญ
พร้อม..
ขอบคุณปีเก่าให้*เราได้พบกัน(ได้รักกัน)
สำหรับ*ขวัญ*ปีไหนไหน..ไม่ลืมคุณ...ค่ะ

image.php?productid=16232
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1938.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4258.html
บทเพลงหนึ่งมิตรชิดใกล้...กับ..ณ.วันนี้ 


สายลมหนาวกำลังรำเพยณ..ภายนอกหน้าต่างรถ
ที่ผมกำลังขับอย่างนุ่มนวลด้วยความเร็วพอประมาณ
สู่เส้นทาง
นครชัยศรี เมืองส้มโอหวาน...
หากทว่านาทีนี้
ผมกำลังมีใครบางคนที่หวานกว่าหวานนั่งเคียงข้าง
ให้ผมกุมมือเธออย่างทะนุถนอม...
แม่จอมขวัญ...จอมใจ...ยอดดวงหฤทัยแห่งผม...


ผม..กำลังร้องเพลงนี้พลีให้แด่เธอและฟ้าดิน
เป็นพยานรับรู้รับฟัง
ถึง...
หัวใจอันหลั่งล้นท้นท่วมทวี
ด้วยความสุขของผมเองในรอบหลายสิบปี....


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1938.html
หนึ่งมิตรชิดใกล้ 
ชื่นชีวัน เมื่อฉันและเธอ
ชิดใกล้
แต่ไฉน เธอห่างฉันไป ทุกที
ช่างไม่มี น้ำใจ ใยดี
ต่อไมตรี สัมพันธ์
เริ่มแต่วัน ที่เราคบกัน
คล้ายเพื่อน
แต่ดูเหมือน มีสิ่งเร้าใจ
ไหวหวั่น
ปล่อยให้รุม สุมทรวง นานวัน
เปลี่ยนเป็นฉัน รักเธอ
ไม่ เคย เผย ความ ในใจ
หากวันใด เผยใจ กลัวเก้อ
เฝ้าคอย แต่หลง ละเมอ
ยามเมื่อเธอ ห่างไกล
อยากให้เธอ ได้มองเห็นใจ
ฉันหน่อย
แต่เพียงน้อย คือหนึ่งมิตรเคย
ชิดใกล้
จะคู่ควร เสมอเธอ เพียงใด
สุดแต่ใจ ของเธอ
ไม่ เคย เผย ความ ในใจ
หากวันใด เผยใจ กลัวเก้อ
เฝ้าคอย แต่หลง ละเมอ
ยามเมื่อเธอ ห่างไป
อยากให้เธอ ได้มองเห็นใจ
ฉันหน่อย
แต่เพียงน้อย คือหนึ่งมิตรเคย
ชิดใกล้
จะคู่ควร เสมอเธอ เพียงใด
สุดแต่ใจ ของเธอ... 
 


เธอ...ทัดดอกลั่นทมริมไรผม
ที่กำลังหอมอวลทุกอณูเสน่หา
ให้ผมอยากเพ้อผวาเข้าไปโอบกอดรัดร้อย..
ไล้รอยจูบอย่างแผ่วเบา
ไปตาม...
ปากคอคิ้วคาง...แห่งนางอันเป็นที่รักนะรัก..
แสนรัก..เอยแสนรักในกมล


เดือนเสี้ยวกำลังทอเศร้าบนราวฟ้า
เธอ..ชี้ชวนให้ผมแหงนเงยขึ้นเชยชม
และบอกว่า..
ดูราวเรือสีทองลอยล่อง
ท่องไปในท่ามกลางเรียวเมฆเสกสายแสนหวาน
ปานหยาดน้ำผึ้ง...
สู่ว่ายเวิ้งแดนอนันตกาลแห่งความว่างเปล่า
หาก...ทว่าแสนเงียบงาม


หัวใจผมเต้นตูมตาม..
ราวหนุ่มน้อยแรกรัก แรกนัด
ใน..
ท่ามคืนเงียบสงัดแห่งเส้นทางทองสายชนบท
ที่..
ดูราวกับว่า....
ทอดรับ...ความภักดีจากใจดวงซื่อตรงคงมั่นดั่งศิลานี้..
อย่าง....ไม่มีวันรู้จบ....ไม่ว่ากี่ภพพลี.....!!!!!
...................


ดวงดอกรักบานเต็มลานใจแห่งเราสอง
หวังเคียงครองคู่ขวัญสวรรค์สมัย
ดั่งหนึ่งมิตรชิดใกล้หลอมรวมใจ
สู่ทิพย์ไสวทางช้างเผือก...รอ..ภิรมย์...


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4258.html
ณ.วันนี้ 
ญ ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน
ดังใจ โอ้เอยเฝ้าคอยเธอนั้น
นานแสนนาน ฮืม
จึงมาเจอกัน
คล้ายบางสิ่งผูกพัน
ร้อยใจเราร่วมกัน
ช ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน
ดวงใจ โอ้เอย มีเพียงเธอนั้น
นับวัน ฮืมจนแรกเจอกัน
ใจฉันเพียงต้องการ แต่เธอตลอดมา
ช ฝากคำสัญญา ฝากวาจา
รักเธอไม่เสื่อมคลาย
ญ หมื่นพันสัญญา
ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
ช รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
ญ คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
พร้อม นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป
ช ฝากคำสัญญา ฝากวาจา
รักเธอไม่เสื่อมคลาย
ญ หมื่นพันสัญญา
ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
ช รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
ญ คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
พร้อม นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป
นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป... 
 

product_image.php?imageid=121483				
comments powered by Disqus
  • พุด

    26 ธันวาคม 2549 13:05 น. - comment id 640024

    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif16.gif36.gifแม่ดวงดอกพุดไพรกระซิบฝากคำรำพันวันปีใหม่!36.gif
    
    
    พรุ่งนี้แล้วสินะ
    เป็นวันส่งท้ายปีเก่าและเริ่มต้นปีใหม่
    ปีที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะเศร้าโศก
    และโลกทั้งโลกก็รับรู้เห็นใจ
    
    
    พุด..
    จึงมาฝากคำถึงทุกดวงใจ
    ทุกคนดีที่แสนรัก
    ด้วยความซาบซึ้งใจ 
    ในน้ำใจเพื่อนพ้องน้องพี่
    
    ที่เราได้มาอาศัยพักพิง
    มาร่วมระบายรักถักถ้อยร้อยสร้อยอักษรา
    เพื่อกำนัลแก่กันและกัน
    
    เพื่อเชื่อมสายสัมพันธ์สายใจสายใยฝัน
    ได้ปันแบ่งทั้งทุกข์สุขมายาวนาน
    ณ..ร่มรักเรือนไทยแห่งนี้
    ที่แสนเงียบงามสงบสุข
    และ
    แสนร่มเย็นในทุกทิวาราตรี
    
    
    
    ทำให้เราได้มี
    *คืนฝันวันแสนดีราตรีที่แสนสุข*
    ทั้งสนุกสนานรานโศก
    ทั้งได้กระเซ้าเย้าแหย่
    และ
    ได้หันหน้ามาปรองดองสามัคคีดีกัน
    *อย่างคนรักบทกวี*ที่มีนวลเนื้อใจไหวหวามพอกัน*
    
    ที่บางครั้งบางที
    ด้วยใจดวงนวลดวงฝัน
    อาจจะละมุนมากไปหน่อย
    อาจจะหมุนมากระทบกระทั่งกันบ้าง
    
    หาก
    มันคือธรรมดาธรรมชาติชีวิต
    
    ที่สำคัญ..
    คือทุกสิ่งแค่ผ่านมาและผ่านไป
    เพื่อสอนบทเรียนใจ
    ให้เราได้รักเข้าใจเมตตาปรานีกัน
    อย่างคนที่อยู่ในโลกฝันถนนสายดอกไม้อันแสนงาม
    
    
    
    พุดพัดชา...
    จึงตั้งใจมาฝากคำรำพันรำพึง
    มากระซิบคำซึ้งซึ้งสั้นสั้น
    ว่า...
    *ขอบคุณ ขอบคุณ นะทุกดวงใจ*
    
    คำที่มากค่า
    มากความหมาย
    จากดวงใจ
    ที่แสนรักอย่างบริสุทธิ์ใจต่อทุกคนนะคะ
    
    
    
    และ..
    ก่อนอื่น
    ขอรำลึกและขอบคุณ
    *สุภาพบุรุษลูกผู้ชายหัวใจเกินล้าน*
    
    ที่พุดพัดชา..
    ขอหยาดหวาน
    ขอยอมพลีค่าคำว่าแสนศรัทธาคารวะมามอบให้นะคะ
    
    ที่พุดพัดชา
    และ
    หวังทุกดวงใจณ..เรือนไทยในร่มรักแห่งนี้
    จะไม่มีวันลืม
    และ
    จะอยู่ในความทรงจำตลอดไปตราบชั่วกาล
    เขาคนนั้น
    ที่แสนยิ่งใหญ่
    ในใจดวงน้อยๆของพวกเราทุกคน
    คือ
    เจ้าของสถานที่แห่งนี้.
    
    
    
    คุณ*ปีกฟ้า*ผู้ยิ่งใหญ่
    
    
    ที่ได้โอบกอดดวงดาราเล็กน้อย
    ให้ส่องประกายแวววาววะวิบวับ
    ระยับยิบประดับบนท้องนภา
    ด้วย
    น้ำใจแสนงามมากมีค่า
    นิยาม*การให้*ไร้ร้องขอค่ะ
    
    ที่ทำให้เราทุกคน
    ได้มาเพาะหว่าน
    ดวงดอกไม้นานาพรรณนานมา
    ดวงดอกไม้แห่งรักแห่งฝัน
    และ
    พลันพา
    ได้แย้มกลีบตระการชูช่อไสวประดับใจ  ประดับไทย
    ให้พรายพราว
    
    
    
    สำหรับ
    พุดพัดชา..
    รำลึก
    ในน้ำใจ
    และ
    ซาบซึ้งมากนะคะ..*คุณปีกฟ้า*
    และ
    ไม่ว่าเวลานี้..
    คุณจะอยู่ณ..ที่ใดในโลกนี้
    
    เราทุกดวงใจ
    ขอมอบของขวัญที่แสนงามแสนรัก
    ทุกบทร้อยกรองกานท์ที่เพียรประพันธ์
    ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกเรื่องราว 
    
    อันแสนงามอะคร้าว
    มาวางพลีกำนัลแทนดวงใจ
    ที่ตระหนักถึงคุณงามความดีของคุณแล้วค่ะนะนาทีนี้
    
    
    ขอพลังแห่งคุณงามความดี
    และ
    งามธรรมแห่งยอดพระรัตนตรัย
    
    รวมทั้งเทพไททุกถิ่นที่
    จงอวยชัยให้พร
    *ธรรมสวัสดี* แด่คุณนะคะ
    
    ให้อบอุ่น หากอยู่เมืองหนาว
    ให้ฉ่ำเย็นราวสายธารธรรมปิติเกษม
    
    หากอยู่เมืองร้อน
    ให้หัวใจได้สดชื่นสวยงาม
    สะอาดสว่างสงบพบความรักนิรันดร์นะคะ
    
    
    ...........
    บทความข้างล่างพุดพัดชา
    ได้นำมาฝากรวมกันไว้ในวันนี้ค่ะ
    
    
    ปีกฟ้าติดปีกฝัน.. พุดพัดชา 
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4689
    ปีกฟ้าติดปีกฝัน(ขวัญ) 
    
    ปีกฟ้าติดปีกฝันทุกดวงใจสู่ไพรกว้าง
    โลกอ้างว้าง กลับหวานไหว ในใจขวัญ
    นกอิสสระ มากมาย ได้รักกัน(ได้ผูกพัน)
    เวทีฝัน เวทีไทย ใจทุกดวง..
    
    เมฆนวลพราว ดาวเดือนสวย ช่วยกล่อมเห่
    เลิกร่อนเร่ แรมร้าง ทางสับสน
    หยิบดาวดวง บนหาวห้วง ประดับตน
    รินกมล หยาดน้ำค้าง ลงกลางใจ...
    
    รักทุกคนนะคนดีเวทีนี้
    รักมากมีรักมากมายอย่าหวั่นไหว
    โลกใบเล็กมาทายทักพักพิงใจ
    ถึงตัวไกล ใจใกล้กัน.ทุกวันคืน.....
    
    ซ่อนสุขเศร้าวางไว้ใกล้ใกล้หมอน
    ถึงยามนอน คิดถึงเธอ เพ้อหลับฝัน
    น้ำตาซึม ซึ้งซาบใจ กันและกัน
    มีโลกฝัน วันแสนดี ที่ฝากใจ.......
    
    อยากแอบอ้อน อ่อนหวาน จากใจเศร้า
    ทุกค่ำเช้า มีโลกน้อย ให้หวามไหว
    มีทุกคน มีคนดี(ที่แสนรัก) ซุกใกล้ใจ
    มีน้ำใจ มีแบ่งปัน ให้ฝัน ให้คว้าไขว่ .(หยิบดาวใจดาวดวงร่วงสู่มือ )
    
    
    
    
    แด่คนดี..ปีกฟ้า..
    ผู้อยู่เบื้องหลังเวทีฝันเวทีฟ้าเวทีให้คว้าไขว่
    ได้มาอาศัยร่มรักเรือนใจ..
    เอื้อมมือฝันใฝ่ไปสู่ดวงดาวแห่งรัก
    ถักทอถ้อยผ่านสร้อยโซ่รักอักษรา
    
    เปิดเวทีรจนางานงามมากมี
    ในงามดวงใจทุกผู้
    ในร่มรักเรือนไทยแห่งนี้
    ที่แสนมีกมลละมัยเป็นนักหนา..
    
    ได้พากันสร้างงามฝันงามใจงามจริง
    ได้มาพักพิงหาอ้อมรักตักอุ่นโอบอ้อม
    หอม..ม...ม..หอมดวงใจไปด้วยกัน
    
    ให้มีฝันพันผูกพบพาพึ่งพิง
    เอนอิงไหล่รักกันฉันท์น้องพี่
    บนถนนสายดอกไม้สายฝันสายหวังนี้
    อย่างมีพลังรักพลังใจ
    
    
    
    พุดพัดชา
    ขอย้อนกล่าวคำขอบคุณแทนทุกดวงใจ
    ในวันเกิดที่ผ่านมาและเนื่องในวันดิถีปีใหม่วันนี้นะคะ
    
    และ
    เราทุกคนขอรวมใจกัน
    สวดมนต์ภาวนาให้พระเบื้องบน
    จงปกป้องคุ้มครองคนดีตราบชั่วกาล
    
    ให้พบแต่ความสุขสดชื่นสมหวัง
    หวานหวังตามดวงใจ
    ที่แสนสวยใสแสนงามมากมีเมตตาน้ำใจ
    ต่อสายใจสายใยรัก
    
    ให้เคียงข้างเคียงคู่ใจกันไป
    มีร่มรักเรือนไทย
    ที่เปรียบประดุจดัง
    ร่มใจร่มเย็นเป็นสุขไปตราบนานแสนนานนะคะ
    
    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4689
    
    ร้อยบุปผา 
    สุนารี ราชสีมา : : Key F#m 
    
    ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
    ร้อยสำนัก ประชันแข่งใจ
    มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
    ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
    แย้มบานในดวง ใจ
    ชู่ ช่อ ธรรม สง่า งาม ในนาม ศิลปิน
    
    มาสร้าง งาน ศิลป์ ชุบชีวิน มนุษย์ชาติ
    สะอาดสดสวย ด้วยบทเพลง แห่งสวรรค์
    ให้มาลัย ฝากรัก มอบใจภักดิ์ ร่วมกัน
    จุดไฟ ความฝัน พร่างพลัน ประกาย เพลิง
    
    มาเถิด พี่น้อง ร่วม ร้อง เพลงเพื่อ
    กลั่นจาก เลือด เนื้อ หยาดเหงื่อ เร่าร้อน
    เราจะเร่ง แนวรบ ไม่สยบ อ้อนวอน
    เริงระบำ รำฟ้อน ร้อยกรอง กวี กานต์
    
    มาร่วม ใจรัก พร้อม พรักพลีชีวาตม์
    ผงาด อาจ หาญ สร้างตำนานตระการฟ้า
    แต่งเติม โลกศิลป์ ให้ผ่องพิณ โสภา
    ด้วยวิญ ญานท้า ทรนงเทิดคง ธรรม
    
    ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
    ร้อยสำนักประชันแข่งใจ
    มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
    ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
    แย้มบานในดวง ใจ
    ชู่ ช่อ ธรรม สง่างาม ในนาม ศิลปิน 
    ***********
    
    
    และ
    สำหรับดวงใจน้องพี่..
    
    นาทีนี้
    พุดพัดชา
    ขอฝากบทกลอนซึ้งๆจากใจดวงรักล้นใจ
    แทนของขวัญปีใหม่นะคะ
    แทนค่าคำมากมาย
    ที่คงรำพึงรำพันไม่หมดดอกค่ะ
    และ
    ในทุกบทกวี
    ในนาม..*สาวบ้านนาและพุดพัดชา*
    คือของขวัญแล้วละค่ะ
    
    ที่ยินดีปิติภาคภูมิพลีมอบให้
    ด้วยดวงใจด้วยจิตวิญญาณภายใน
    ด้วยรักจริงใจ
    มาแสนนานค่ะ....นะคะ
    ............
    
    
    ด้วยมิอาจอยู่ใกล้กันวันปีใหม่
    จึงส่งใจมามอบให้เป็นของขวัญ
    พร้อมขอบคุณปีเก่าให้เราได้รักกัน(ได้พบกัน)
    สำหรับฉันปีไหนไหนไม่ลืมคุณ..ค่ะ
    ............
    
    
    และ
    อยากกระซิบฝาก
    บทเพลงมากมาย
    ที่พุดพัดชาเพียรฝากไว้
    ในทุกงานรักรจนา
    
    ให้ทุกดวงใจ
    ได้ตระหนักถึงความล้ำค่า
    ในเชิงประพันธ์เพลงที่มีเนื้อหาแสนงาม
    
    ที่ฝากสอนใจ
    ให้เราได้ซึ้งค่าคำภาษาไทย
    
    ที่น่าพึงจารจดจำ 
    และ
    ได้นำมาฝากความรักซาบซึ้ง
    ถึงใครสักคน
    ที่เราแสนคิดถึง
    และแสนรักค่ะ
    
    เพื่อเป็นแบบฉบับที่งดงามค่ะ..
    
    
    http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=824
    
    หนี้รัก... ปุ้ม อรวรรณ เย็นพูนสุข 
    
     หากจะรักแล้ว
    รักใครก็จงรักเถิด
    ความรักบรรเจิด
    พริ้งเพริศหนักหนา
    ชีวิตคนเรา มันสั้นเหลือคณา
    อย่ารอช้า ปล่อยเวลาให้ผ่านไป
    หากมีหนี้แล้ว
    ขอให้เป็นหนี้รักเถิด
    ดอกเบี้ยที่เกิด
    คือพลังรักพิไล
    รักเธอเสมอ รักเธอจากดวงใจ
    ยอดพิสมัย หลอมอยู่ในกายเธอ
    หากวันใด ที่แสงทองของชีวิตผ่าน
    โลกตระการ จะมืดครึ้มหมองเหม่อ
    วาระนั้น จะได้อดีต
    ไฟรักปรนเปรอ
    หล่อเลี้ยงบำเรอ
    ต่อชีวิตให้ชื่นบาน
    หากเป็นหนี้แล้ว
    ขอให้เป็นหนี้รักเถิด
    หนี้รักบรรเจิด
    พริ้งเพริศ แสนหวาน
    รักกันเสมอ แม้เวลาพ้นผ่าน
    สองเราสราญ
    เพราะหนี้รักสลักใจ
    
    หากวันใด
    ที่แสงทองของชีวิตผ่าน
    โลกตระการ จะมืดครึ้มหมองเหม่อ
    วาระนั้น จะได้อดีต
    ไฟรักปรนเปรอ
    หล่อเลี้ยงบำเรอ
    ต่อชีวิตให้ชื่นบาน
    หากเป็นหนี้แล้ว
    ขอให้เป็นหนี้รักเถิด
    หนี้รักบรรเจิด
    พริ้งเพริศ แสนหวาน
    รักกันเสมอ แม้เวลาพ้นผ่าน
    สองเราสราญ
    เพราะหนี้รักสลักใจ...
    ............
    
    
    
    http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=14
    
    คนเดียวในดวงใจ ....ศรีไศล สุชาติวุฒิ 
    
    เธอ มาจากไหน เธอจะเป็นใคร
    ฉันไม่เคยคิด รู้ แต่บัดนี้ เธอมาสถิตย์
    มาอยู่ใกล้ชิด ในดวงใจฉัน
    เธอมาจากไหน จากดินผืนใด
    หรือจากสวรรค์ ฉันก็จะรัก
    รักเธอเท่ากัน ไม่เคยจะหวั่นแม้คำนินทา
    คนเดียวเท่านั้น ในชีวิต
    คนเดียวสนิท แนบ อุรา
    คนเดียวที่ฉัน บูชา 
    ยอดปรารถนา คนเดียวในโลก
    เธอ มาจากไหน เธอจะเป็นใคร
    ฉันถือเป็นโชค แม้รักเธอแล้ว
    ฉันต้องเศร้าโศก เป็นคนโชคร้าย
    ในโลกก็ยอม
    
    คนเดียวเท่านั้น ในชีวิต
    คนเดียวสนิท แนบอุรา
    คนเดียวที่ฉัน บูชา 
    ยอดปรารถนา คนเดียวในโลก
    เธอมาจากไหน เธอจะเป็นใคร
    ฉันถือเป็นโชค แม้รักเธอแล้ว
    ฉันต้องเศร้าโศก เป็นคนโชคร้าย
    ในโลกก็ยอม...
    
    .........
    
    
    
    
    และ
    เพื่อให้คุ้มแสนคุ้ม
    ในวันปีใหม่นี้
    
    พุดพัดชา
    ขอแถมงาน
    ที่รจนาในยามสายัณห์ตะวันตกดิน
    ที่พุดพัดชาถวิลรักนักรักหนา
    กับฟ้ายามโพล้เพล้
    กับใจเหว่ว้าดวงนี้ 
    ที่ชอบเวลาตะวันตกดินอย่างที่สุด
    มากำนัลนะคะ
    
    
    
    ให้หัวใจได้รำลึกว่า 
    ทุกเวลาแห่งความฝันความรักความสุขนั้น
    ใช่ยาวยืน 
    จงใช้..
    ทุกวินาทีที่แสนดีให้มีค่าอย่างที่สุดค่ะ
    นับจากนาทีนี้เป็นต้นไปนะคะ
    
    
    
    และ
    
    สุดท้าย
    พุดพัดชา
    ตั้งสมาธิเพียรภาวนาอธิษฐานจิตกราบกราน
    คุณพระศรีรัตนตรัย
    และ
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเมืองเรานี้
    และ
    ด้วยพระเมตตาบุญบารมีแห่งพระสยามธิราชทุกพระองค์
    ได้ทรงประสิทธิ์ประสาทพร
    ให้..
    
    
    ประเทศไทย
    และ
    คนไทยได้พบธรรมะสุขสวัสดี 
    
    ให้ผ่านพ้นเรื่องราว
    ที่แสนเศร้าไปกับปีเก่านะคะ
    ให้
    เรารวมพลังรักสามัคคีสมานฉันท์
    เพื่อสรรรสร้างสิ่งดีดี
    ให้แก่ผืนดินธรรมแผ่นดินทองนี้
    อย่างไม่ยอมแพ้พ่ายค่ะ
    
    จนกว่า 
    ตะวันแห่งดวงชีวีเรา
    จะอับแสงทิ้งฟ้าสวย
    
    ด้วยความปิติเกษมภาคภูมินะคะ
    
    
    ผมกับตะวันโพล้เพล้เหว่ว้า
    
    
    ยามสนธยา ..
    ในเวลาที่ตะวันกำลังโพล้เพล้
    ผมได้ยินเสียงเพลง*งามแต๊แม่ปิง*
    บทเพลง
    ที่ชวนให้ผมหลงใหลใฝ่ฝันในมนต์เมืองเหนือ
    
    ราวอยากครวญคร่ำ
    ฝากถ้อยคำรำพันแสนงามนั้นไปถึงใครสักคน
    
    ให้ดลจิตดลใจ
    มานั่งแนบแอบเอนอิงพิงไหล่ผม
    
    เพื่อดูสายน้ำปิง
    ที่ราวกับสายน้ำนิรันดร์ด้วยกัน
    
    เพื่อแบ่งฝันปันงามกันและกันในยามนี้
    ที่กำลังเกิดโศกนาฎกรรม
    เกิดแผ่นดินไหวคลื่นยักษ์
    ที่ทำให้หัวใจเราไหวสะเทือนโศกพอกัน
    
    
    
    เพราะ
    สิ่งนี้คือธรรมชาติเตือนจิต
    อย่าให้ทุกชีวิตเบียดเบียนกันและกัน
    และ
    ราวมาฝากคำมรณาณุสติให้รู้ว่า
    ชีวิตคนเรานั้นดั่งธุลีหล้า
    ที่มิอาจจะเอาชนะธรรมชาติไปทั้งสิ้นทั้งมวลได้
    
    
    นอกเสียจาก
    เพียรพยายามทะนุถนอมยอมถ่อมตน
    ทำตัวให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ 
    ที่แสนจะยิ่งใหญ่
    
    อย่างผู้ที่มาอาศัยหยัดยืนเพียงชั่วครู่ชั่วคราว
    ใช่จะยาวนานเสียที่ไหน
    
    
    
    และ
    ต่อให้มนุษย ์มีเงินสักเท่าไร
    ก็มิอาจจะซื้อ
    ความเป็นธรรมชาติไปได้เสียทั้งสิ้นทั้งหมด
    
    โลกก็คือโลก
    ที่นับวันจะแสนเปราะบาง
    ก็เพราะด้วยน้ำมือมนุษย์
    ที่เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายนี่แหละใช่ใคร
    
    
    และ
    ทุกคราครั้ง
    ที่หัวใจดวงร้าว*ดวงเศร้าธรรมชาติ*ใช่อยากเป็น
    เกิดเบื่อโลกโศกสุขและทุกผู้คนอลวนอลเวง
    
    ที่ผมมองเห็นว่า
    กำลังบรรเลงบทเพรงกรรมกันมิได้ว่างเว้น
    ผมก็เร้นร่าง ให้ห่างเมืองเข้าไว้
    
    
    
    พาตัวเองมายังบึงกว้าง
    ที่แสนเงียบงามอ้างว้าง
    หากให้งามสงบล้ำดำดื่มแบบไม่อยากลืมตา
    มาผจญคนคนคนบนผืนโลกนี้
    ที่แสนวายวุ่นวกวนอีกเลยแล้ว
    
    
    
    บึง...
    ที่งามด้วยบัวหลากสีนานาพรรณ
    งามสอนธรรมชาติธรรมแสนสวัสดี
    ที่
    ทายทักให้เรานำน้อมมาหลอมละลายใจ
    ให้รู้ไหวรับดับทันรู้รำงับ
    
    
    และ
    พลันพาให้รำลึกนึกไปถึง
    คำสอนของพระพุทธองค์
    เสมือนดั่งคำว่า
    *หากเจ้ามองเห็นธรรมก็จะมองเห็นเรา*
    
    เพราะ
    ธรรมะคือธรรมชาติชีวิตนั่นเอง
    ไม่ว่าจิตเดิมแท้
    ที่เราเพียรหากันแทบตาย
    หากแท้จริงไซร้แล้ว
    ก็อยู่ภายในกายธรรม*บ้านภายใน*ใจของเรานี่เอง
    
    
    
    และณ..ที่แห่งนี้
    ที่ผมขนานนาม
    อันแสนไพเราะเพราะพริ้งพราวแถมได้สัจจธรรม
    ให้ตามมาคอยย้ำดวงจิตดวงใจผมเองว่า
    
    
    *บึงรักนิรันดร์*
    
    
    ที่ผมกำลังแอบมาซุกร่างใจ
    ในดงดอกหญ้าที่แสนงาม
    
    ที่กำลังพริ้วระบัดไหวล้อสายลมในยามย่ำสนธยา
    ที่...
    ผมเพียงแค่มาเพื่อขอผสานร่าง
    ให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
    
    
    
    กับ
    มาหมายมาดมา
    พบความดายเดียวลำพัง
    
    มาฟังเสียงสายน้ำครวญ
    มาฟังเสียงมวลหมู่ภมรภู่ผึ้ง
    บินหึ่งหาหอมถาถนอมลงคลุกเคล้า
    ในละอออ่อนกลางกลีบเกสรบัวอันอะร้าอร่าม
    
    หากทว่า
    ยังคงความบอบบาง
    อ่อนหวานอ่านไหวอ่อนโยนยิ่งนักแล้ว
    
    
    
    ผมหลับตานิ่งนิ่ง
    ทิ้งทุกสรรพสิ่ง
    ที่แสนสับสนไว้นะภายนอก
    แล้ว
    ค่อยๆปลดปล่อยจิตวิญญาณ
    หลอมปนไปกับทุกธรรมชาติรายรอบ
    อันแสนเงียบงาม
    
    
    
    ผมแทรกจิตวิญญาณ
    ลงแหวกว่าย
    ในสายละหานอันแสนชุ่มชื่นฉ่ำเย็น
    เป็นดั่งสายธารธาราธรรมเกษม
    ที่ช่างแสนงาม
    และ
    แสนว่างเปล่าหากสงบสุข
    สิ้นทุกข์ทุกสิ่ง
    
    
    
    บางเวลา...
    ผมจะพาจิตทะยานขึ้น...
    ผ่านม่านเมฆหมอก
    ลอยเหนือหล้าเหนือพสุธา 
    ไปสัมผัสดวงดารา ดาระดาด
    ราวกับทะเลเพชรพราว
    ด้วยดาวดวงสุกใส*ดั่งอัญมณี*
    
    ที่สะท้อนแสงสีรุ้งบรรเจิด
    เพริศพริ้งพรายกระจายพราวพร่าง
    ให้งามเท่างามในจิตใสในใจนึกจินตนาการ
    อันหาขอบเขตสิ้นสุดหยุดหาได้ไม่
    
    
    
    ราวเวิ้งฝันลวงติดบ่วงมิอาจลาล่วง
    ได้ไปพบที่อันมีเพียงความว่างเปล่าเงียบงาม..อย่างอนันตกาล
    ที่จักงามเท่างามตราบชั่วนิจนิรันดร
    
    
    
    ผมไปเอื้อมคว้าดาว
    มาหว่านโปรยโรยรับขวัญ
    ปันแบ่งให้ทุกดวงใจ
    ที่รู้ค่าในงามใสอะคร้าว
    
    มาประดับดวงจิต
    เป็นนิมิตว่า...
    เราคือคนมีนวลใจละไมละมุนพอกันเสมอกัน
    
    เพื่อได้ฝันพลีรังสรรค์บทกวี
    ที่แสนงามดับร้อนผ่อนเย็นให้ผืนโลกเรา
    
    
    
    บางที..
    ผมก็แทรกผสานไปกับสายลมในยามค่ำ
    ไปพัดพรายพรมห่มให้อุ่นไอ
    
    ให้ทุกดวงใจรู้ค่าคำรักคิดถึงคะนึงหากัน
    อันคือ
    ความรักเมตตา
    และ
    ชวนกันพาคนดีในคำนึง
    ข้ามพ้นทะเลโลกย์โศกครวญ
    
    ไปให้ถึงที่อันคือความปิติเกษมว่างเปล่า
    อันงามเงียบสงบเย็น
    
    
    
    ที่จะเกิดก่อพลังอันโชติช่วงพร่างพราย
    มิจำต้องมาวนว่ายรับร้ายดีในชีวีชีวิต
    ตามลิขิตกรรมนี้อีกต่อไป..
    ...........
    
    
    
    http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=340
    กว่าจะรักกันได้   
    สุนทราภรณ์ พันธ์พร วัฒนเรืองไร : : Key Ab  
    กว่า เรา จะรักกันได้
    รู้ ไหม ยากเย็นยิ่งเอย
    จน กว่า จะได้ชมเชย
    เคียง เขนย สมดังฤทัย
    ต้อง คอย ถนอมรักอยู่
    ชื่น ชู สู้ออมจิตใจ
    แม้น มี อุปสรรคใด
    กั้น ไว้ ยังทลายลง
    แล้ว เธอ มาโกรธเคืองฉัน
    ทุก วัน คอยเฝ้าพะวง
    ผิดนิดเดียว เธอตัดได้ลง หรือ น้ำใจ
    ก่อน เธอ เคยสัญญามั่น
    รัก นั้น เสื่อมมนต์ใช่ไหม
    เธอ คง จะตัดเยื่อใย
    หรือ ใจ เธอมีใหม่ครอง
    
    กว่า เรา จะรักกันได้
    รู้ ไหม ยากเย็นยิ่งเอย
    จน กว่า จะได้ชมเชย
    เคียง เขนย สมดังฤทัย
    ต้อง คอย ถนอมรักอยู่
    ชื่น ชู สู้ออมจิตใจ
    แม้น มี อุปสรรคใด
    กั้น ไว้ ยังทลายลง
    แล้ว เธอ มาโกรธเคืองฉัน
    ทุก วัน คอยเฝ้าพะวง
    ผิดนิดเดียว เธอตัดได้ลง หรือ น้ำใจ
    ก่อน เธอ เคยสัญญามั่น
    รัก นั้น เสื่อมมนต์ใช่ไหม
    เธอ คง จะตัดเยื่อใย
    หรือ ใจ เธอมีใหม่ครอง...
    ...........
    
    
    
    
    
    
    http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=536
    ชั่วนิจนิรันดร   ปุ้ม อรวรรณ เย็นพูนสุข 
    
    ฉันรักเธอ
    แม้เทียบเสมอ กับดวงชีวิต
    รักเธอ ชั่วนิจนิรันดร
    แม้ เธอห่างไกล
    ใจก็หวงห่วง นิวรณ์
    ถึงแม้ม้วยมรณ์
    ไม่ถอน รักที่มี
    รักฉันนั้น เหมือนดังตะวัน
    มั่นรักฟากฟ้า
    รักดัง หมู่ปลารักวารี
    เหมือน ดังกับแหวน
    แสนจะรัก แก้วมณี
    เหมือนขุนคีรี
    สวาทพื้น ดินเดียวกัน
    มากมาย ราวกับห้วงมหรรณพ
    มิรู้จบ ดังกับมีทำนบกั้น
    แต่มั่นคง เหมือนดั่งสิงขร
    ซ้อนแผ่นดินนั้น
    ทั้งความซื่อสัตย์ มัดใจคงมั่น
    ดั่ง ตะวันซื่อต่อฟ้า
    ฉันรักเธอ แท้จริงเสมอ
    ไม่ลวงให้หลง
    รักฉัน มั่นคงดังวาจา
    เห็นใจเถิดหนอ
    ขอมอบไว้ให้ สัญญา
    ฉันจะบูชา ชั่วนิจนิรันดร
    
    ฉันรักเธอ แท้จริงเสมอ
    ไม่ลวงให้หลง
    รักฉัน มั่นคงดังวาจา
    เห็นใจเถิดหนอ
    ขอมอบไว้ให้ สัญญา
    ฉันจะบูชา ชั่วนิจนิรันดร
    ชั่วนิจนิรันดร
    ชั่วนิจนิรันดร...
    
    
      
    
    
    
    
    
  • ดอกบัว

    26 ธันวาคม 2549 16:04 น. - comment id 640105

    พี่พุดค่ะ บัวมารับคำงดงามจากพี่พุดค่ะ
    และทุกๆคำที่พี่มอบให้น้องๆมา
    บัวขอให้พี่รับกลับไปเท่าทวีคูณค่ะ
    
    พี่พุดค่ะความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอมา
    และเนิ่นนานทุกยุคทุกสมัย
    มีความรักประกอบกับการดำเนินชีวิต
    เป็นความรักเริ่งแรกจากพ่อแม่
    ญาติพี่น้องเพื่อนฝูง
    และสุดท้ายความรักจากหญิงชาย
    ที่เป็นเนื้อคู่กัน และความรัก
    ทุกรูปแบบ ความรักเป้นสิ่งที่งดงามเสมอ
    ถ้ารักเป็นจะไม่เจ็บปวดเพราะความรัก
    แค่ได้รักแค่มอบความรู้สึกผูกพันให้เค้า
    แค่ยามเค้ามีทุกข์ปลุกปลอบกันและกัน
    แค่คิดว่าถ้าคู่กันแล้วจะอย่างไรก็ต้อง
    อยู่ด้วยกัน 
    หรือว่าบัวจะบ้าไปแล้วค่ะเนี๊ย
    บัวขอให้พี่พุดมีสุขภาพที่แข็งแรงนะค่ะ
    รักค่ะพี่พุด
    
    16.gif46.gif36.gif
  • แมวคราว..

    26 ธันวาคม 2549 16:16 น. - comment id 640123

    มารับพรปีใหม่ครับ
    และขอให้พรรนั้นจงตอบสนองคุณพุดเป็นเท่าทวี..สวัสดีปีใหม่ครับ...36.gif36.gif36.gif46.gif
  • พุด

    27 ธันวาคม 2549 11:49 น. - comment id 640396

    16.gif
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2825.html
    อาจจะเป็นคนนี้ 
    
    ผ่านความระทม
    เกือบจมน้ำตา ช้ำ มานานเท่าไหร่
    ถูกทำลาย หมดจนไม่เหลือ อะไร
    มี เพียงความอ้างว้าง
    พอมีใครซักคน เดินเข้ามา
    เป็นความหวัง ครั้งใหม่
    ใจ จึงทุ่มเทไป อย่างเลื่อนลอย
    อย่าง เลื่อน ลอย
    เผื่อจะเป็น คนนี้
    ที่เรา เฝ้าคอยไขว่คว้า
    ที่เรา คอยมองหา ที่คง
    ไม่ทำไม่ทำให้เราให้เรา
    ช้ำ-ใจ
    อาจจะเป็น คนนี้ คนนี้ ที่ใจ
    จะไม่ โหดร้าย ไม่โหดร้าย เกินไป
    หวัง ว่าใจ เขาคงดี
    
    พอมีใครซักคน เดินเข้ามา
    เป็นความหวัง ครั้งใหม่
    ใจ จึงทุ่มเทไป อย่างเลื่อนลอย
    เผื่อจะเป็น คนนี้
    ที่เรา เฝ้าคอยไขว่คว้า
    ที่เรา คอยมองหา ที่คง
    ไม่ทำไม่ทำให้เราให้เรา
    ช้ำ-ใจ
    อาจจะเป็น คนนี้ คนนี้ ที่ใจ
    จะไม่ โหดร้าย ไม่โหดร้าย เกินไป
    หวัง ว่าใจ เขาคงดี
    
    เผื่อจะเป็น คนนี้
    ที่เรา เฝ้าคอยไขว่คว้า
    ที่เรา คอยมองหา ที่คง
    ไม่ทำไม่ทำให้เราให้เรา
    ช้ำ-ใจ
    อาจจะเป็น คนนี้ คนนี้ ที่ใจ
    จะไม่ โหดร้าย ไม่โหดร้าย เกินไป
    หวัง ว่าใจ เขาคงดี
    เผื่อจะเป็น คนนี้
    ที่เรา เฝ้าคอยไขว่คว้า
    ที่เรา คอยมองหา ที่คง
    ไม่ทำไม่ทำให้เราให้เรา
    ช้ำ-ใจ
    อาจจะเป็น คนนี้ คนนี้ ที่ใจ
    จะไม่ โหดร้าย ไม่โหดร้าย เกินไป
    หวัง ว่าใจ เขาคงดี... 
     
    
    trans.gif36.gif
    ด้วยซึ้งใจ
    *น้องดอกบัวทอง*ผ่องผุดพิสุทธิพราวในดวงใจพี่พุดมานานวันค่ะ
    และ..
    *คุณแมวคราว* แมวที่เป็นที่รักแห่งเราค่ะ
    
    36.gif
    
    ลีลาวดีสะพรั่งพราวเต็มราวกิ่ง
    และ..
    กำลังค่อยๆปลิดปลิวละลิ่วลอยร่วงหล่นลงมา
    กับสายลมหนาวในยามเช้าลงสู่ลานหญ้าเบื้องล่าง
    อย่างช้าช้า....
    เธอ...ก้มลงเก็บอย่างทะนุถนอมเบามือมาสามสี่ดอก
    นวลดอกยังสดเศร้า ให้รู้สึกดื่มด่ำล้ำลึกอย่างเหลือเกิน
    
    ดวงทิวากำลังพรายพร่างโผล่พ้นขอบฟ้าทิศตะวันออก..รำไรๆ
    แสงอุษาไสวเริ่มต้นทายทักดงดอกหญ้าที่กำลังไหวเอน
    ฟ้าเป็นสีฟ้ากระจ่างสดใส...  งามอ่อนหวานอ่อนโยน
    แสงสุริยากำลังให้พลังโอบประคองโลกหล้าไว้ในอ้อมกอด
    ราวต้องการปลอบประโลมใจดวงสับสน...แห่งผู้คน
    
    ในท่ามความเป็นไปอันผันแปรไม่เน่นอนของมวลมนุษย์ชาติ
    และ...
    สำหรับ...
    เธอ..คนดี  นาทีนี้เธอได้ค้นพบ..จิตวิญญาณภายใน
    ที่คือ...
    *พลังแห่งปาฏิหารย์รัก*
    อันแสน
    ยิ่งใหญ่งามงดหมดจดอย่างที่สุดแล้ว....!!!!
    
    
    36.gif
  • พุดไพร

    27 ธันวาคม 2549 12:12 น. - comment id 640409

    36.gif16.gif008_sec04.jpg
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song420.html
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5820.html
    ......................
    ดายเดียวสู่ดินแดนนิรันดร์กับพระจันทร์สีเงินงาม..
    
    
    
    ตะวันทิ้งดวง..เหนือทิวสน..ยามย่ำสนธยา
    เรียวเมฆหวานล้ำ
    งามเหนือคำบรรยายใดใด
    ในซาบซึ้ง..ตรึงใจตรงหน้า
    
    สีฟ้า..โศกสวย..
    ม่วงพรายพรมอมชมพูเทาเทา 
    อ่อนอ่อน  จางจาง  บางบาง..เบาเบา..ราวขนนกนุ่มนุ่ม
    ดูนวลนวลพร่างพร่างราวร่างระบายด้วยสีน้ำ
    ให้มองดูนิ่มอิ่มสีกลมกลืน
    ในผืนฟ้ากว้างแทนผืนผ้าใบ..
    
    
    ทั่วผืนน้ำ..ทะเล 
    แปรสีเป็นเงินงาม..
    ครามเคลือบม่วงอมชมพูตามโค้งฟ้าคลุมครอบ..
    ฟ้างามอะคร้าวราวสายรุ้งพร่างพราว
    ม่านเมฆราวเกร็ดเพชรเป็นช่อชั้น..สวรรค์บันดาล..
    
    ไพลเอนร่างนอนเหนือเนินทราย..
    ใต้ร่มไม้ใต้ทิวสนแผ่ใบสล้าง..
    
    
    พังเสียงลมครางสนครวญ
    เสียดสีซัดส่ายใบ
    ไหวซอกแซกๆซู่ซ่าๆ..
    ท้าตะวันให้ฝันไกล.แสนไกล..ในคะนึง
    
    ฟังเสียง.คลื่นคลอทราย..เว้าวอน.อ้อนออดชายชล..
    ปล่อยกมล..ว่าง..วางไว้..
    ให้หาดทรายร้างไร้ยาวเหยียดสุดตา..
    ให้ทะเลเหว่ว้าโค้งจรดฟ้าไกล..
    ปลอบหัวใจดวงละมุนดายเดียวเดียวดาย..
    ระบายเศร้าเสน่หา..
    พร่างพาพรมห่มดวงใจด้วยธรรมชาติแสนดี..
    
    
    
    แสงสีส้ม..อมก่ำฉ่ำดวงแดงราวไข่ดาวดวงโต..โผล่กลางทิวสน
    ทอทอดลอดแสงพร่างโลมไล้ร่างให้มลังเมลืองราวทองทา..
    แสงเรืองรอนรอน สะท้อนสายสร้อยทองโบราณรอบลำคอ
    ร้อยรัดราวรูปสลักโบราณ...กับร่างหนึ่งนอนนิ่ง..งัน
    
    
    ในเรียวตานั้น....
    เพชรน้ำพร่างวิบวับระยับสะท้อนรับแดดละออราวรุ้ง
    เป็นซึ้ง ซ่าน หวานสุข เศร้า 
    ราวโลกร้างว่างเปล่าเหงาเงียบเฉียบเย็น
    เป็นดื่มด่ำร่ำรสสุข
    มิหวังให้ผู้ใดรับรู้..เห็น..
    
    
    มีเพียงงามหัวใจสุขเร้น  เต้นแผ่วๆ..สุขล้ำ..ลำพัง
    กับงามในทุกสรรพสิ่ง..รายรอบ
    มองฟ้างาม น้ำจรดฟ้า
    มองท่าโผผินบินสู๋ท้องนภาเวหาหาวของนกนางนวล
    มองเรือน้อยค่อยค่อยลอยลำลา วิ่งฝ่ากระแสชล 
    เหนือทิวคลื่น ทั่วผืนน้ำ งามระยับจับดวงใจ
    
    
    
    จากย่ำสนธยา ตราบดวงตะวันลาลับฟ้าต่อถึงยามราตรี
    ที่ดาวประจำเมืองเรืองรุ่ง 
    โผล่พ้นโค้งคุ้ง
    ทิวทุ่งข้าวสีทองลอมฟางหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว
    
    เดือนครึ่งดวงลอยคว้างฟ้า
    ราตรีคลี่ม่านหว่าน
    ดวงดาราพริบพราวสุกใสนับพันดวง
    บทเพลงฝันวันปีใหม่กระหึ่มก้องกังวาน
    ไปกับสายลมในยามค่ำ
    
    
    
    ไพลไหวร่างเดินทอดน่องห่างจากเนินทราย
    ดูพรายพระจันทร์ดวงเศร้าแสนหวาน
    ดูแสงไฟวับแวมวะวิบกระพริบล้อนวลแสงดาว
    ที่ประดับประดาไว้พร่างพราว
    ตามราวกิ่งไม้และตามสุมทุมพุ่มพฤกษ์
    
    
    ไพลมีความสุขที่ได้เร้นกาย..
    จากงานปาร์ตี้เรียบง่ายสบายๆแบบครอบครัวใหญ่
    ในทุกปี ที่มีงานเลี้ยงแสนดี คืนแสนงาม 
    
    หลังให้โมงยามแห่งชีวีได้ทำสิ่งมงคล กราบแม่พ่อ ขอพร
    และญาติมิตรพี่น้องได้ร่วมกัน แย้มยิ้มยินดี
    มีคืนสามัคคีอบอุ่นเป็นสุขร่วมกัน
    หลังตรากตรำแยกย้ายกัน ดำรงร่างใจทำตามหน้าที่ตน..
    
    
    
    ไพลชอบเดินอาบน้ำค้างพร่างพรูกรูเกรียวลมหนาวกอดตระกอง
    และปล่อยให้หัวใจทั้งสี่ห้อง..ว่างเปล่า...
    ไพล..พยายามถอดหัวใจ ไม่รู้สึก ในทุกเรื่องราว 
    ราวชาดิ่งดื่มด่ำกับดายเดียว 
    
    
    ให้ทุกคืนวันผันผ่านมาลาเลยลับนับทวีเพียงกาล..
    ก็แค่เพียงนิยามคืนผ่าน หวานเลย..
    ให้รู้ทำใจเฉยนิ่งชินชา 
    ที่เหลือก็..คือความเหว่ว้าว่างเปล่า กับเหงาเงียบที่ซ่อนซุก
    ในรู้สึก..ที่ยากยิ่งอธิบาย..กับผู้ใด ด้วยนวลใจไหวละมุนนี้
    
    ที่มองชีวีและทุกสรรพสิ่ง อย่างแผกผิด พิเศษพิสุทธิ์
    มาเนานานเนิ่นเกินนับและจักเป็นนิรันดร์
    ไสว สว่าง ราวสวรรค์สร้างเสก สล้างกลางใจ ในทุกงามง่าย 
    คล้ายชีวีที่พอใจในวิถีติดดิน
    ถวิลแต่งามเงียบเรียบง่ายไร้มายา..
    
    
    ไม่ว่ารักใด ไม่อยากผูกพัน ไม่อยากยึดมั่น ถือมั่น
    และไพลเพียงแวบหวั่น คิดถึงสายวสันต์
    ที่เคยพรมพร่างใจในวูบวับกับหนาวเหน็บนี้
    และพลันหัวใจไพล..ราวลอยละล่องท่องไปในโลกฝัน
    กับบทเพลง..หวานแว่ว แผ่วพลิ้วมา...
    
    
    บทเพลง..
    MY HEART WILL GO ON   
     
    Every night in my dream
    I see you,I feel you
    That is how
    I know you go on
    Far across the distance
    and spaces between us
    You have come
    to show you go on
    Near,far,
    wherever you are
    I believe that the
    heart does go on
    Once more,
    you open the door
    And youre here
    in my heart,
    And my heart
    will go on and on
    Love can touch us
    one time and last
    for a lifetime,
    And never let go
    till were gone
    Love was when
    I loved you,
    one through time
    I hold to
    In my life well
    always go on
    Near,far,
    wherever you are
    I believe that the
    heart does go on
    Once more,
    you open the door
    And youre here
    in my heart,
    And my heart
    will go on and on
    
    Youre here,
    theres nothing I fear
    And I know that
    my heart will go on
    well stay
    forever this way
    You are safe
    in my heart,
    And my heart will
    go on and on... 
    
    
    ******
    
    
    ไพลใช้เวลาแสนดีแสนงามในยามนี้
    ทบทวนกับทุกสิ่งในดวงฤดีไหวอ่อนนี้ที่แสนเข้าใจ..
    ทุกชีวี..
    ในโลกนี้..ที่ คิดดิ้นรนใฝ่คว้า หาความสุขภายนอก
    มาลวงหลอนหลอกปลอบประโลมใจตน ตามๆกันไป
    ตามใจตน  ตามเงินในกระเป๋า
    
    
    เป็นสุขชั่วคราวมิยาวมิยั่งยืน..ถาวร..
    มีรถหรู.. มีบ้าน หลังที่สองที่สาม 
    มีสตางค์ เดินทางท่องเที่ยวเกี่ยวเก็บประสบการณ์..
    มีภรรยางามหรูประทิ่นทับ
    ประดับโฉมด้วยเครื่องสำอางจากต่างประเทศแสนแพง..
    
    
    มีหวานหวัง..ที่ยังมีอยาก..และอยาก  
    อยากมีนั่นมีนี่..ที่ก่อเกิดกิเลสให้ฤดีถวิลหาตลอดเวลา..
    สนองโหยหา สุขวูบวับ  ดับ ดับ แล้วก็เกิด เกิดใหม่..
    ไปตามใจอยาก มากมีกิเลส รักในวัตถุมากมี..มิรู้สิ้นรู้จบทบทวี
    จนกว่าผืนดินจะกลบหน้า 
    พาวกวนหลงทาง  มิวางแอกแบกหนักบนบ่า
    มิพากันปลดเปลื้องตราบวันตาย..
    
    
    
    ไพล..เบื่อเหลือที่ 
    กับชีวีวนซ้ำ กับการพบเห็นทุกแห่งแหล่งที่
    มากมีมากมาย การจับจ่าย แบบมอมเมา  
    กับเหงาล้ำ เมื่อใจไพลคอยย้ำว่า..เบื้องหลังนั้น
    ทุกครอบครัว อาจจะเป็นหนี้ 
    หนีระบบเงินผ่อนไม่พ้น 
    จนต้องนอนสะดุ้งผวาไปแทบทุกครัวเรือน
    ผ่อนบ้าน..ผ่อนรถ..มิทันหมด ก็ผ่อนตู้เย็น คอมพิวเตอร์
    เผลออีกนิดก็คิดผ่อนโทรศัพท์มือถือ..
    เครื่องใช้ไฟฟ้า ตามโฆษณามอมเมาดอกเบี้ยต่ำ 
    ที่กระหน่ำลดแลกแจก(และแถม..ความเครียดให้ทั่วหน้าประชาชี)
    
    
    
    ไพล..เบื่อ การกินเกินพอดี 
    ที่มีทุกหัวระแหง แย่งกันเข้าคิว
    กิน กิน กิน เกินอิ่ม เกินพอเพียง
    จนร่างกายเดี้ยงด้วยโรคภัย และลืมสนใจการออกกำลังกาย 
    ทำร้ายตัวเองทางอ้อมวันแล้ววันเล่า..
    
    
    
    ไพลกำลัง..ดายเดียว กับโลกนี้ที่หมุนวนตามกระแสโลกโศกรอ..
    รอเวลาระเบิด..รายรอบบ้านเรารานรุก..บุกล้ำ ก้ำเกินกัน
     ด้วยความเร่าร้อน รุนแรงแฝงไปทุกถิ่นที่ทุกประเทศ
    
    
    เพราะเพียรแสวงหากันเพียงสุขเปลือกภายนอกหลอกใจไปวันวัน
    จนจิตวิญญาณไร้ขวัญ 
    สิ้นฝันอันอ่อนโอบ เอื้ออาทร รักกันฉันท์น้องพี่
    ทั่วทั้งโลกนี้ที่อยากให้เกี่ยวก้อยร้อยรัดใจเป็นหนึ่งเดียว
    ไม่เกี่ยวกับศาสนา การเมือง การปกครอง 
    
    
    เพียงปรองดองรู้รักสามัคคีมั่น
    สานฝัน สรรสร้างโลก ให้สิ้นโศก 
    มีแต่โลกอันพรายแพรวดั่งแก้ววิเศษ
    ผ่องแผ้วสวยใสงาม..ด้วยนิยามแห่งคำว่ารักกัน..
    
    
    สำหรับ..
    ไพลเพียรฝัน เพียรสร้างพลังพยายาม ให้หัวใจ สะอาด สว่าง
    คิดดี พูดดี ทำดี มีความพอเพียงเพียงพอ..
    และขอเลือกโลก ทางใจใสงาม..
    สวดมนต์ทุกยาม 
    *ให้กรรมเก่าที่ตามมาได้หมดสิ้นกันไป ไม่ขอถวิลรักผู้ใด
    เพราะไพลซาบซึ้ง..คำ*ทุกข์ใดไหนเล่าเท่ารัก..
    หนักดังถูกหินทับไว้ใต้หล้าโลกให้โศกครวญมิรู้จบ*
    
    
    ดั่งคำตรัส..ของพระพุทธองค์.
    *ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์*
    
    ตัดรักได้ ตัดทุกข์ได้ทันที 
    ทุกข์ที่เป็นดังบ่วงใจ..บ่วงดวงใจ!
    เลิกไหววิโยคครวญ  โหยหา ห่วงใย 
    ละล้าละลัง หมดสิ้นพลังที่จะก้าวเดิน
    ไปสู่เส้นทาง แห่งความว่าง..ความสงบ
    
    พบเส้นทางสีขาวพราวด้วยดวงดอกพุทธะ.
    เก็บมาสอนตนห่มใจบ่มดวงใจ
    ให้รู้ตื่น รู้เบิกบาน 
    ปานประหนึ่งดอกบัวพ้นน้ำเสียที..
    
    ให้สะอาดสวยใสเย็น
    ปานประหนึ่งสายน้ำนิรันดร์ 
    มีเรือสำเภาทองคำเทียบท่า
    มารอรับสู่สะพานนิรันดร์ พาไปถึงฝั่งฝันพระนิพพาน..
    
    
    ที่ยากยิ่งนัก.. 
    มาตรแม้นตัดรัก หักอาลัย ในสรรพสิ่ง มิได้ 
    อย่าได้หมายมาดเลยชั่วกัลป์กัปป์...
    ให้ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี..
    ******
    
    
    ไพล ไม่อยากหลงวน หลงหวั่น หลงฝัน หลงรอ หลงคอย
    ราวต้องคำสาปจากชาติปางก่อน
    ให้ร้าวรอน พรายพลัดพรากจากรัก..แท้..
    
    หลงพ่าย หลงแพ้ คำเว้าคำวอนอ้อนให้ติดในวัฎสงสาร
    ให้หัวใจดวงหวานดวงละมุน..ครองโศก 
    หนีไม่พ้นวิโยค..
    โลกรักวน  ซ้ำซ้ำ ตามย้ำรอย 
    ว่ายวนตามเพรงกรรมนำพา..อีกต่อไป
    ********
    
    
    
    ทุกคืนค่ำในราตรีอันงามเงียบเรียบง่าย
    ไพลเพียรทรุดตัวนั่งเบื้องหน้าพระพักตร์พระพุทธพระผู้พิสุทธิคุณ..
    ไพลเพียร ถวายพวงมาลัยจากใจดวงละมุนงาม
    พร่ำกราบกรานบอกถึงความในใจ
     ขอพรท่าน ให้กุศลบันดาล
    
    ให้ใจไพลพบทางสว่างทางออกแสนงาม นามความว่าง ความสงบ 
    พบสุขที่แท้จริง มิพักวิ่งไปขอรอจากดวงใจใคร...
    
    
    ให้รู้ลบ รู้เลิก ความฝันอันงามตระการ
    ที่หลงพลัดผ่านเข้ามา
    หลอมดวงชีวา จิตวิญญาณตัวเอง 
    ที่รอคอยมาแสนนานตราบชั่วกาลชั่วชีวิต..
    
    
    ราวรอพระพรหมสรรสวรรค์ปันเศษเสี้ยวแหว่งวิ่น
    ให้หัวใจสิ้นหวังได้ต่อติดเติมเต็ม..
    
    แม้ไกลร่าง..ห่างกาลวัยวัน..
    ขอเพียงจิตวิญญาณพิสุทธิ์ใสนั้น
    ได้หลอมละลายกันเป็นหนึ่งเดียวบริบรูณ์..เสียที
    เพียงภพนี้ชาตินี้ ..
    เพียงเท่านี้เพียงแค่นี้ ก็แสนดีแสนงามแล้วนะคนดีนะดวงใจ!
    
    
    
    36.gif
  • ลักษมณ์

    27 ธันวาคม 2549 18:56 น. - comment id 640592

    สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๐ ครับ ..
    
    :]
  • เพียงพลิ้ว

    28 ธันวาคม 2549 10:17 น. - comment id 640895

    8-20061127144629.jpg
    
    สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่พุด
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • ผู้หญิงไร้เงา

    31 ธันวาคม 2549 22:20 น. - comment id 641964

    มีความสุขมาก ๆ นะค่ะ  คิดสิ่งใดขอให้ได้สมปรารถนาค่ะ สวัสดีปีใหม่นะค่ะพี่พุด
  • แมงกุ๊ดจี่

    1 มกราคม 2550 01:41 น. - comment id 642089

    5.jpg
  • ต้นกล้า อันดามัน

    1 มกราคม 2550 15:52 น. - comment id 642282

    สวัสดีปีใหม่ครับ  
    
    36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน