16 สิงหาคม 2552 07:44 น.

รึ..ดู

กานท์ กานต์

ฤดูเปลี่ยนเวียนผันวันล่วง 
ฤดูใจเปลี่ยนลวงเสน่หา 
ร้อยลมร้อนบั่นทอนกายา 
หนึ่งร้อนรักหนักหนาเจียนบ้าตาย 

เฝ้ารำพันฝันหวานวานก่อน 
ซึ่งซุ่มซ่อนซอกใจมิใคร่หาย 
ลมหนาวเหน็บเจ็บแปลบแสบกาย 
แทบวางวายคราวหนาวเหน็บเจ็บที่ใจ 

เหงาเงียบเงียบเชียบไปกับสายฝน 
น้ำตาล้นเกินทับซ้อนความอ่อนไหว 
ถามสายฝน "เจ้าจะหยุดเมื่อคราใด" 
"คราน้ำตาเธอไหลหยดหมดพร้อมกัน" (สายฝนตอบ)




*บันดาลใจจากงานเขียน ......8 ของท่าน  6uod				
13 มีนาคม 2552 15:38 น.

รอ...

กานท์ กานต์

SANY3762-1-1.jpg


๏ เดือนเด่นดับพยับโพยมมิโลมโลก
ดาวก็โศกสำรอกแสงหมดแรงส่ง
เมฆาลัยที่ไหวติงพลันนิ่งลง
ใจก็ปลงหลงเลือนกับเดือนดาว

กี่ฤดูกี่กาลที่ผ่านพ้น
อีกกี่หนต้องทนรู้ฤดูหนาว
โอ้น้ำค้างกลางสถลหล่นสกาว
เซาะย่างก้าวคราวโศกให้โกรกชัน

เจ้ามิ่งขวัญอยู่หนใดช่างไกลแสน
หากว่าแม้นเจ้ากลับ รอรับขวัญ
คลายเศร้าให้เรืองไรรำไพพรรณ
บางทุกข์นั้นซึ่งซ่อนเร้นทุกเต้นใจ ฯ

...				
9 มีนาคม 2552 11:23 น.

บางขณะ...

กานท์ กานต์

0805.jpg




๏ ค่ำคืนหนึ่งอันมืดมิด
ช่วงชีวิตอันสลัว
เปลี่ยวเปล่าร้าวรานสั่นระรัว
เผยภาพหม่นมัวตัวตน

คิดผ่อนพักดวงฤทัย
เอนกายเอนใจหมายผ่านพ้น
ความวังเวงอันเกิดในวังวน
ขุดคุ้ยค้นสับสนในวิญญาณ์

จ้องมองอากาศ...
ขีดความคิดระบายวาดอย่างคนบ้า
เห็นความเปล่าไร้ในสายตา
อ้างว้างโดดเดี่ยวเหลือคณายังคงมี

มองเข้าไปในกระจกนั้น
แววตาพลันสลดน้ำตาปรี่
ความเศร้ากลั่นก่อตัวจากห้วงดวงชีวี
หยดน้ำอันซ่อนสีก็หล่นซ้ำ

หวีดหวิวแหวกอากาศกระทบพื้น
นั่งปาดน้ำตาสะอื้นพรางร้องร่ำ
ประสานเสียง เรียงร้อย ถ้อยคำ
เป็นลำนำคลอเคล้าไปกับสายลม

บรรยากาศบิดเบือนบังความคิด
ดั่งยาพิษอันไร้ซึ่งรสขม
เครียดขุ่นวุ่นวายที่เพาะบ่ม
เบียนบด จิตจ่อมจม จนล่มเลือน

ลมหายใจไหวอ่อนล้า
แผ่วแผ่วผ่านน้ำตาเกรอะกรังเปื้อน
เผยอดีตกาลซาบซ่านสะท้านสะเทือน
โฉบฉิวเฉือนจินตภาพให้ราบไป

ผุดสติยึดมั่นคำสั่งสอน
ตรึกพุทธปรัชญ์เก่าก่อน...“อยู่หนไหน?”
เร่งสำนึกคึกสำเหนียกพระรัตน์ไตร
และแล้วจิตดวงใสวามวับก็กลับมา

ระดะแก้วแวววาวไหวระริกรี่
ระบายสีสันใส่ให้เห็นค่า
ระดมรักที่แอบซ่อน สอนกายา
กอบเก็บมาขบคิดลิขิตคำ

..................................
..................................
..................................
..................................

...

*จึ่งเริงระบำในค่ำคืนที่แสงจันทร์หลบซ่อนรังสีความสวย
จึ่งเริงฝืนยิ้มรวยรื่นใต้พื้นแสงสีอันหม่นคล้ำ
จึ่งเริงลืมลบภาพทุกข์ในยุคมิคสัญญีอันแสนจะระกำ
จึ่งเริงอยู่ในพันธวัฏฏะ ซ้ำ ซ้ำ ช้ำ ช้ำ..............ต่อไปฯ

...				
7 มีนาคม 2552 07:19 น.

วาง...

กานท์ กานต์

98d8f54005.jpg





๏ค้นหาไต่ยอด
โอบกอดยึดแน่น
จับจดสุขแสน
ในแก่นโลกีย์

ค้นพบสิ่งใด
เห็นไป่ไม่มี
ไขว่คว้าวิ่งหนี
สักกี่หนทาง

กักเก็บกอบโกย
หิวโหยอ้างว้าง
มองเห็นความต่าง
ระหว่างวิถี

ละวางของหนัก
นึกรักษ์เสรี
สุขทุกข์?ชั่วดี ?
ตามที่ต้องการ ฯ




-กานท์ กานต์-				
6 มีนาคม 2552 07:43 น.

ลืม...

กานท์ กานต์

armkatan_Q_060811_112156.jpg



๏ ใต้น้ำค้างกลางหาวในราวป่า
ใต้ผืนฟ้าเรืองรามอร่ามใส
ใต้ใบไม้ปลิวพัดสะบัดใบ
ใต้ซากไม้ซากขอนนอนระเน

ยังมีใครคนหนึ่งซึ่งซึมเศร้า
เฝ้าปลุกปลอบความเหงาเคล้าว้าเหว่
ด้วยตัวตนของตนบนผืนเปล
ไกวระเหระหนทนบนผืนกรรม

ใต้ร่มพฤกษ์ยังมีความเย็นเยียบ
ท่ามความงียบมีเสียงเพรียกของความช้ำ
ใกล้ทางจรมีเสียงคนบ่นงึมงำ
กลบความจำที่ลบเลือนหลังเตือนใจ

เขาลุกขึ้นยืนหยัดปัดฝุ่นเกาะ
ดุ่มลัดเลาะเลียบลานลงธารไหล
กระแสชลซ่านซาบอาบหทัย
เอิบอิ่มไอลบร้อนผ่อนอีกครา

ขึ้นตลิ่งเอนอิงรุกขชาติ
สูดอากาศสุดสะอ้านผ่านเทือกผา
ล้วนหลากแปลกแมกไม้ดงพงพนา
อีกปักษาบินวกวนให้ยลเพลิน

เปรียบโดนสารละลายทุกข์ที่คลุกคลั่ง
จิตก็ดั่งเป็นเช่นนกวิหคเหิน
อิสระเสรีมิมีสิ่งใดเกิน
จนเผลอเดินไปตามนกที่วกบิน

ลืมกลิ่นไอควันพิษติดจมูก
ลืมผิดถูกลืมกฏหมดทั้งสิ้น
ลืมเกรี้ยวกราดอำนาจบาดชีวิน
ลืมแม้กินกามเกียรติเสียดอารมณ์ฯ

...				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกานท์ กานต์
Lovings  กานท์ กานต์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกานท์ กานต์
Lovings  กานท์ กานต์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกานท์ กานต์
Lovings  กานท์ กานต์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกานท์ กานต์