20 พฤษภาคม 2554 23:03 น.

ฝันกลางวัน

การัณยภาส


ยินเสียงก้องร้องเห่เวลาบ่าย
ฉันเคลื่อนย้ายสายตาดูผนัง
เข็มสั้นชี้เลขหนึ่งจึงโห่ดัง
แล้วลงนั่งใต้ฝานาฬิกา

เอื้อมมือหยิบนิทานอ่านหนังสือ
แต่ตาปรือง่วงเหงาหาวนอนหนา
พลันบางสิ่งดิ่งตรงร่วงลงมา
จากท้องฟ้าสู่ดินพื้นหินทราย

กามเทพตัวน้อยลอยจากพื้น
ลุกขึ้นยืนงามเลิศดูเฉิดฉาย
สะท้อนแสงสีสันพรรณราย
แล้วเยื้องกรายเหาะเหินเดินตรงมา

เขาบอกกล่าวเล่าเรื่องเมืองสวรรค์
พร้อมชวนฉันลดเลี้ยวเที่ยวเวหา
เราลอยล่องท่องผ่านกาลเวลา
ลัดเลาะฟ้าฟากโน้นโผนทะยาน

เมื่อถึงถิ่นดินแดนอันไกลโพ้น
เรากระโจนโหนห้อยลอยลงฐาน
มีภูเขาสายน้ำในลำธาร
เห็นดอกไม้เบ่งบานตระการใจ

เขาล้มลุกซุกซนบนสายรุ้ง
แล้วพยุงฉันเดินเพลินลื่นไหล
เราจูงมือถือแขนโลดแล่นไป
แสนสดใสสวยสมอารมณ์ดี

เขาบอกว่าคนนั้นคอยฉันอยู่
เป็นเนื้อคู่ร่วมเรียงเคียงราศรี
คือชายหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยดี
ให้ฉันนี้ทายทักรู้จักกัน

กามเทพตัวนิดคิดแผลงศร
วาดเป็นกลอนสนุกแสนสุขสันต์
แล้วล้อเลียนเขียนอ่านพาลตื้นตัน
เสกรักนั้นพันผูกปลูกสายใย

บันไดพรมสีแดงแสงเจิดจ้า
ทอดลงมาพาฉันนั้นหวั่นไหว
เคียงข้างกายชายหนุ่มเดินดุ่มไป
ก้าวเท้าได้พร้อมกันอย่างมั่นคง

กามเทพย้ายโยกโบกมือให้
ว่ารักนี้จริงใจมิใช่หลง
เนรมิตจิตสร้างอย่างทระนง
ช่วยเสริมส่งทางรักเพื่อพักพิง

พลันแว่วเสียงเรียกร้องก้องจากฟ้า
หมดเวลาหาคู่มาสู่สิง
สะดุ้งตื่นขึ้นเห็นความเป็นจริง
ล้วนทุกสิ่งตัวฉันแค่ฝันไป

เงยหน้ามองใต้ฝานาฬิกา
เข็มสั้นชี้เลขห้าน่าสงสัย
จึงได้ยิ้มแสนเศร้าเราคิดไกล
หดหู่ใจรักร้างฝันกลางวัน
				
17 พฤษภาคม 2554 14:32 น.

บัวพ้นน้ำ

การัณยภาส


วิสาขบูชาในครานี้
ตั้งฤดีทำบุญหนุนกุศล
ชำระบาปหยาบชั่วในตัวตน
เสริมคุณค่าสร้างคนเพื่อพ้นกรรม

แม้เป็นบัวขาวใสในแดนพุทธ
มิอาจหลุดโคลนตมโถมถลำ
หวังเรืองรองส่องแสงด้วยแรงธรรม
ให้พ้นน้ำล้ำเลิศเกิดปัญญา

แม้ร้อนรุ่มแผ้วพานด้วยมารหมู่
สำนึกรู้แก้ไขในปัญหา
ขอปิดทององค์พระปฏิมา
ให้ดวงตามองเห็นหลีกเร้นภัย

แม้เพลี่ยงพล้ำนำมาซึ่งอาเพศ
เพราะกิเลสยั่วยวนชวนหลงใหล
ขอคุณพระศรีรัตนตรัย
คุ้มครองไว้ให้เกิดกำเนิดฌาน

บัวดอกนี้มีวันที่ผันเปลี่ยน
ยังว่ายเวียนในวัฏสงสาร
เมื่อรู้คิดจิตถึงซึ่งนิพพาน
จักได้เป็นบัวบานผ่านพ้นกรรม
				
6 พฤษภาคม 2554 04:15 น.

ดอกฟ้าราตรี

การัณยภาส


ม่านสีดำอำพรางร่างชีวิต
เหมือนลิขิตขีดเส้นเป็นอักษร
คนกลางวันหันกลับเพื่อหลับนอน
หากอีกนางรำฟ้อนร่อนคืนแรม

คนกลางคืนฝืนตนทนเลี้ยงชีพ
ต้องตัวลีบหดห่อดูล่อแหลม
เพียงแสงสีบดบังยังวับแวม
ช่วยแต่งแต้มท้องฟ้ายามราตรี

เหมือนสินค้าลดแลกไว้แจกแถม
เป็นกับแกล้มรสเลิศเฉิดฉวี
ใส่เครื่องหอมปรุงเหล้าเคล้านารี
ค่ำคืนนี้มีเบี้ยเรี่ยรายทาง

อำนาจเงินเก็บเกลี้ยงเลี้ยงปากท้อง
ตุนสำรองไว้ก่อนตอนรุ่งสาง
ด้วยน้ำพักน้ำแรงแห่งเนื้อนาง
แม้เรือนร่างไร้สุขทุกข์ระทม

เขายกย่องให้เป็นเช่นดอกฟ้า
มีคุณค่างดงามยามสู่สม
ใช้กายาหากินถิ่นนิยม
ใช้อารมณ์บ่มรักสมัครใจ

เขาให้เกียรติจับต้องดั่งของเล่น
คล้ายเครื่องเซ่นบูชาน่าเลื่อมใส
มีราคาค่างวดอวดเนื้อใน
เพื่อลูบไล้จุมพิตอิสตรี

เปรียบดอกไม้ริมทางข้างถนน
เทียบกับคนง่ายรักไร้ศักดิ์ศรี
คือคำหวานซ่านซึ้งถึงฤดี
ฝากวจีโลมไล้ให้แก่กัน

ม่านสีขาวพราวพร่างสว่างแล้ว
จึงเห็นแววความจริงใช่สิ่งฝัน
ภาพมายาพร่าเลือนเตือนใจพลัน
เพียงเท่านั้นมาลีแสงสีทอง
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟการัณยภาส
Lovings  การัณยภาส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟการัณยภาส
Lovings  การัณยภาส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟการัณยภาส
Lovings  การัณยภาส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงการัณยภาส