19 พฤศจิกายน 2545 02:13 น.

Feeling part 7 : ความทรงจำในอดีต

จากความฝันสู่ความจริง

ตอนที่ 7 : ความทรงจำในอดีต
     กริ๊ง!!!!!
     ฮืม. ผมงัวเงี่ยขึ้นมามองนาฬิกาข้างๆเตียงพึ่ง 6 โมงเช้าเองหรือเนี้ย ขอนอนต่ออีกหน่อยดีกว่าเพราะวันนี้หยุดเพราะเมื่อคืนนอนดึกด้วย
     ...................
     พอตื่นมาอีกทีก็ 11 โมงซะแล้ว
     ฮ้าว! ไปอาบน้ำดีกว่า ผมตะโกนบอกกับตัวเองเพื่อบังคับให้ความง่วงที่พยายาม ให้ผมนอนต่อให้หายไปซะ
      หลังจากผมอาบน้ำเสร็จผมก็เดินลงมาหาอะไรกินข้างล่าง เลยเดินไปร้านขาย ก๋วยเตี๋ยวของเจ๊เล้ง
      อ้าว! อาตี๋ ลื้อจะกินอะไร
      เอาเส้นเล็กแห้งแล้วกันครับเจ๊
      รอเดี๋ยวนะ แล้วเจ๊เล้งก็ไปลวกบะหมี่
      อาศรีเอ๊ย อาศรี! ลือมาเอาก๋วยเตี๋ยวไปให้แขกที เจ้เล้งเรียกลูกมือชื่อ ศรี ที่เมื่อกี่เห็นเดินไปหลังร้าน
      ของผมหรือครับ เจ๊เล้ง ผมถามทั้งๆทีพึ่งสั่งไปไม่นาน
      เปล่า ของอาหมวยโต๊ะ 8 โน้น แล้วเจ๊เล้งก็ชี้ไปยังโต๊ะไกลสุดโน้น
      ผมมองไปตามที่เจ้เล้งชี้ก็ เห็นมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่
      งั้นผมไปส่งให้เองครับเจ๊ ผมอยากจะไปส่งให้ เพราะอะไรไม่รู้
      ขอบใจมากอาตี๋เอ๊ย อาศรีอีก็ไม่รู้ไปไหนเฮ้อ! เจ้แกบ่นไปและก็เริ่มทำชามของผม
      ผมถือก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่น้ำไปให้สาวที่นั่งอยู่ ซึ่งนั่งอ่านนิยายอย่างไม่วางตา
      ใหญ่น้ำได้แล้วครับ
      ขอบคุณค่ะ หญิงสาวตอบพร้อมเงยน้ำจากหนังสือที่อ่านอยู่
      เอ๊ะ! นี้เอกใช่ไหม? สาวที่นั่งรอก๋วยเตี๋ยวถาม
      ผมได้แต่อึ่ง เพราะว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้คือ ริน ซึ่งเคยเป็นเพื่อนผมตอนมัธยม 
      ริน เป็นเพื่อนหญิงที่สนิทมากที่สุดเลย เรามักจะอยู่กลุ่มเดียวกัน เธอเป็นคนที่ผมแอบรักเลยก็ว่าได้ละครับ แต่ผมก็ได้แต่แอบรักอยู่อย่างนั้น จนกระทั้งใกล้จบ มีอยู่วันหนึ่งเธอก็มาบอกว่าชวนไปเป็นเพื่อนหน่อย เพราะเธอบอกว่าแฟนเธอนัดไปดูหนัง 
      แฟนหรอ ผมถาม
      ใช่! เราเจอกันที่ร้านหนังสือนะ รินบอ
      อืม..แล้วทำไมถึงมาชวนเราละ น่าจะไปกัน 2 ต่อ 2 นะ ผมถามแกมกังวล
      ก็เราพึ่งคบกันได้ไม่นานนะ เลยอยากให้เธอไปด้วยนะนะ รินเริ่มจะใช้ลูกอ้อน
      เอ้า! ก็ได้ ผมตอบไป เพราะอยากจะเจอเหมือนกัน
      แต่วันนั้นแฟนเธอก็ไม่ได้มา เราเลยกลับกันไปอย่างจ๋อยๆ

      ใช่! เอกหรือเปล่า รินถามอีกครั้งทำให้มถึงกับสะดุ้งในขณะที่กำลังนึกถึงความหลัง	
      ใช่! ริน หรอเนี้ย ผมถามกลับ
      นี้ไม่ได้เจอตั้งนาน หันมาเป็นบ๋อยร้านก๋วยเตี๋ยวหรือไง รินคงถามแกมหยอกมั้ง
      ไม่ใช้นี้มาหาอะไรกิน เพราะวันนี้วันหยุดนะ แล้วนี้มาเที่ยวบางแสนหรอ
      ใช่ มากับเพื่อนๆของรินเอง
      แล้วนี้เพื่อนกลังไปแล้วหรือไงผมพูดพร้อมนั่งลงที่โต๊ะของริน
      เปล่า! เพื่อนๆไปเดินแถวชายหาดกันนะ
      หรอ ผมตอบ
      แล้วนี้เรียนอยู่ที่นี้หรือเอก
      อืม..ใช่แล้วรินละ เรียนที่ไหน
      ก็เรียนที่มหาลัย กรุงเทพนั้นแหละ แล้วนี้ เอกเรียนเป็นไงบ้าง
      ก็ดีนะ เพราะที่ผ่านมาก็ได้เกรด A ไม่ก็ B มาตลอดเลย
      อืม ผมมองหน้า ริน รู้สึกเหมือนเธอดูเศร้าๆ ยังไงไม่รู้ เอ...หรือว่าคิดไปเอง
      นี้ริน มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า ผมถาม
      ไม่หรอก..ไม่มีอะไรและรินก็กินต่อ
      "อ้าว! อาตี๋ ชามลื้อได้แล้ว" เจ๊แกตะโกนบอก
      "ครับ"
      และผมก็ไปเอามานั่วกินกับริน
      เราก็คุยไปกินไป ได้ซักครู่
      เออ.. เอกที่นี้มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง อยู่ที่นี้มา 2 ปีกว่าแล้วนี้ 
      อืม..เดี๋ยวนะขอคิดก่อน.........งั้นไปเที่ยวทะเลก่อนแล้วกัน ดีไหม
      ไม่เอาดีกว่า เพราะเพื่อนรินอยู่ที่นั้น ไม่อยากไปซ้ำนะ
      เอ้า! งั้นไปเขาสามมุกก็แล้วกัน ดีไหมละ
      อืม ก็ดี
      ผมกับริน เลยนั่งรถสามล้อเล็กไปเที่ยวเล่นกัน ไปถึงก็ได้ไปไหว้เจ้าแม่เขาสามมุก ที่จริงวันนี้เป็นวันหยุด คนน่าจะเยอะ แต่แปลก คนกลับโหลงเหลงเลยเข้าไปไหว้ถึงศาล ได้ง่าย และเราสองคนก็ไปให้อาหารลิงรินเกือบโดนลิงกัดเพราะไปให้อาหารลิงโดน การปาใส่ ิงมันคงโกรธน่าดู
      จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่อ่างศิลา เพราะรินอยากได้ของที่ระลึก เลยไปซื้อแมวแกะ สลักตัวเล็กๆ ราคา 30 กว่าบาท และก็กลับมาที่ตลาดหนองมน ไปหาอะไรกินกัน ได้ข้าวหลามและ ขนมหม้อแกง มานั่งกินกันที่ร้านอาหารตามสั่งริมทะเล 
รินที่นั่งอยู่ข้างผมตรงนี้ก็ยังเหมือนรินคนเดิมที่มีความน่ารักแต่ต่างไปที่แววตาไม่สดใสดังเดิม ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไม 
      กินกันได้สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอรินมองที่เบอร์โทรเข้าก็ทำหน้าตาตกใจ และก็คุยกับคนในสาย
      ฮัลโหลเออ.นี้มาหาอะไรกิน..อืมมากับเพื่อน.เพื่อนเก่าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ และรินก็วางสายไป
      ใครหรือริน ผมถามดู
      เพื่อนนะ โทรมาตามนะ รินตอบแบบร้อนลนยังไงไม่รู้ซิ
      หรองั้นเดี๋ยวรีบกับกันดีกว่าเดี๋ยวเพื่อนรอ
      ผมก็เลยหาซื้อขนมไปเพื่อนกินที่หอพัก รินก็ซื้อไปฝากเพื่อน และรีบกลับไปที่หาดอีกครั้ง รินออกจะรีบร้อนมองหากลุ่มเพื่อนของเธอ มองไปมองมาก็เห็นกลุ่มเพื่อนยืนรอกันที่หน้าร้านขายโรตี รินเลยวิ่งไปหากลุ่มเพื่อน
      ไปไหนมายัยริน รอเธออยู่คนเดียวเลยนะเนี้ย
      ไปเที่ยวมานะ อ้าวแล้ว เอ็มละไปไหน
      ขอตัวรีบกลับก่อนนะ เห็นว่าเจ้าเอ๋ เรียกตัวกลับก่อน
      หรอ.. แล้วรินก็ทำหน้าเศร้า
      นี้ยัยริน ไปกับนายคนนี้มาหรอ และก็มองมาทางผม      
      อืมเพื่อนเก่านะ ชื่อเอก
      หวัดดีค่ะ เพื่อนๆรินพูด
      หวัดดีครับ ผมตอบไปอย่างเก้ๆกังๆ เพราะปรกติเป็นคนเขินผู้หญิงได้ง่าย
      นี้ เอก มาจีบรินหรือเปล่า เพื่อนรินแซว
      บ้า! นะยัยโอ๋
      เปล่าหรอกครับ ผมตอบไปก็หน้าแดง
      นี้ รินมีแฟนแล้วนะ เจ้าเอ็มไง มิ้งบอก
      ผมได้แต่อึ้ง แล้วก็ได้แต่ตอบว่า หรือครับ
      แต่ก็ดีนะ จะได้ให้รินเลิกกับเอ็มซะที เอ็มมันเจ้าชู้จะตายนะริน
      นี้อย่าไปว่า เอ็มเขาซิ เอ็มเขาไม่ได้เป็นยังงั้นหรอก รินพยายามแย้ง
      จะว่าไม่ใช้อีกหรอ นี้ยัยเอ๋ นะก็มาตอแยเอ็มอยู่ไม่ใช่หรอ
      นี้อย่าเอ็มได้ไหม รินเริ่มจะโกรธ
      ก็มันจริงนิ....
      พอได้แล้ว! รินตะโกนแล้วก็วิ่งไปที่รถ
      เฮ้อ! เจ้าโอ๋บอกแล้วว่าอย่าไปตอกย้ำมันไง แววพูดห้าม
      ทำไมหรือครับ เอ็มเป็นใครหรือครับ
      เอ็มเป็นหลานของเจ้าบ้านเช่าแถวมหาลัย รวยมากเลยนะ แต่ก็มักจะเจ้าชู้ เนี้ย รินไม่รู้ร้องไห้ให้กับความเจ้าชู้ของเอ็มไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่ยั้ยรินก็รักเอ็มมากเลย
      หรือครับ ผมได้แต่ตอบไปยังงั้น
      แล้วเพื่อนรินก็ขอตัวกลับแล้ว ผมเลยมาส่งที่รถ ผมโบกมือลา แต่เมื่อมองไปใน รถ รินไม่ยอมโบกมือ ได้แต่หลบหน้าผม คงไม่อยากให้ผมเห็น น้ำตาละมั้ง ผมเลยเดินกลับมาที่หอพัก ระหว่างทางก็ แวะเข้าร้านพี่สิน
       อ้าว! เอก เป็นไงสบายดีไหม
      สบายดีครับพี่
      เออ..นี้เอกมีหนังสือเล่มใหม่มานะ อยากลองเอาไปอ่านไหม
      ไหนหรือครับพี่
      ผมรับหนังสือมา เป็นเรื่องสั้นของคนแอบรักเขาข้างเดี๋ยว ซึ่งมันตรงใจผมพอดีเลยกับตอนนี้ ผมลองอ่านทีละหน้า
      นี้ เอก พี่สินทักผม
      ครับ!!! ผมตกใจกับที่พี่เรียก
      เป็นอะไร เห็นอ่าน ค้างเลย สงสัยพึ่งเป็นทุกข์กับความรักมาหรือไง
      เปล่าหรอกพี่ ผมพยายามตอบเลี่ยง
      ความรักนั้นนะ เอก บางทีมในก็มีสุขบ้าง และก็ทุกข์บ้าง บางทีการที่เรารักใครสักคนมันไม่จำเป็นหรอกที่เขาจะต้องรักเราตอบ เพียงแต่เรามีความรัก มันก็สุขใจพอแล้วกับการมีชีวิตในแต่ละวันนะ พี่พูดไปก็จัดหนังสือไป
      โห พี่คิดได้ไงเนี่ย
      พี่ไม่ได้คิดหรอก แอบอ่านจากหนังสือมาอีกทีนะ แล้วพี่ก็หัวเราะเล็กๆ
      งั้นผมไปแล้วพี่ครับ
      จ้า! มีความสุขกับวันหยุดนะ
      ผมเดินออกมาจากร้านหนังสือของพี่รินแล้ว บางทีพี่รินอาจจะพูดถูก เพราะความรักย่อมไม่ได้หมายถึงความรักของคนสองคน แต่เป็นเพียงคนเดียวก็ได้ 
      ผมเดินกลับมาที่ห้อง นอนเล่นอยู่สักพัก ก็คิดว่าน่าจะกลับบ้านไป เพราะนี้อีกหลายวันกว่ามหาลัยจะเปิด ผมเลยรีบลงมาข้างล่าง โทรไปบอกพ่อแม่ก่อน แม่ดีใจมากที่ลูกชายจะกับบ้าน พอว่างหูเสร็จ โทรเสร็จ ก็รีบขึ้นมาจัดเก็บของที่จำเป็น ลงมาบอกเฮียสุชาติว่าจะไม่อยู่หลายวัน ฝากด้วยแล้วกัน แล้วว่าจะไปหารถทัวร์กลับบ้าน

                              ***********************************************				
4 พฤศจิกายน 2545 17:10 น.

Feeling part 6 : เรื่องตลก ที่ขำไม่ออก

จากความฝันสู่ความจริง

ตอนที่ 6 : เรื่องตลก ที่ขำไม่ออก
       ตอนนี้ผมนั่งนึกถึงเรื่องสอบเก็บคะแนน ที่การสอบดูเป็นเรื่องเล็กไปเลยเมื่อเจอกับเรื่องพวกเด็กเก็บร่มแถวหาดไปดีกับเด็กท้ายตลาด แต่ถ้ามันไม่เกี่ยวกับ มหาวิทยาลัยก็คงไม่เป็นไร แต่นี้คนในมหาวิทยาลัยเราที่เจ็บก็ดันเป็นเจ้าวิทย์ ด้วย เรื่องมันเกิดเมื่อ 3 วันก่อนเอง

     เฮ้ย! เด็กท้ายตลาดตีกันหน้ามหาลัย เจ้าหมง วิ่งกระหือกระหอบมาบอกพวกเรา และไปตามห้องอื่นๆด้วย ผม เจ้าชิด และ เจ้าวิทย์ ลงไปดูกัน ก็เห็นเด็กเก็บร่มเกือบ 10 คน กำลังตีกับพวกเด็กช่างกลอยู่ ผมกำลังยืนดูเพลินๆ ก็เหลือบไปเห็นปิ่น จ๋อมและนก กำลังยืนดูอยู่อีกฝาก ผม เลยเดินไปทักปิ่น
     อ้าว! ลงมาดูด้วยหรอ เอก
     อืม ก็เจ้าหมงชวนลงมานี้แหละ
     ไม่น่าตีกันเลยนะ เราว่าน่าจะอยู่กันอย่างเป็นเพื่อนมากกว่า
     เราก็เห็นด้วย
     แต่เราว่ามันน่าจะโดนจับไปให้หมดเลย นกพูดแทรกขึ้นมา
     มีแต่เด็กมีปัญหาเท่านั้นแหละ ที่คิดอะไรตื้นๆแบบนี้
     ผมก็เห็นด้วย แต่พอผมหันไปดูพวกนักเรียนตีกันเมื่อกี้ มีอยู่คนนึงคงได้ยินที่นก คุยมั่ง เลย มองหน้านกและเดินถือไม้หน้าสามเข้ามาหา
     ทำไมวะ จะตีกีนมันหนักหัวใครวะ
     มันไม่หนักหัวใครหรอก แต่มันนักแผ่นดินวะ นกตอบกลับ ผมแทบจะซ็อคเลย เด็กท้ายตลาดก็เลย ง้างไม้กะจะฟาดนก พวกคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าก็แตกเป็นทางให้อย่างดีเลย ไม่มีใครสักคนขวางไว้ ส่วนนก ก็ได้แต่กลัวเพราะมันวิ่งเข้ามาเลย
     บึก! เสียงดังลั่นเลย และก็ตามมาด้วยเสียงโอดครวญ แต่มันไม่ใช่เสียงของนก กลับเป็นเสียงของเจ้าวิทย์ซึ่งนอนร้องอยู่ที่ทางเท้า มันวิ่งจากหลังผมไปขวางให้นกเมื่อไหรไม่รู้ เจ้าเด็กช่างกลก็งง ผมเลยรีบเข้าไปผลัก
     เฮ้ย! คู่แกอยู่ทางโน้น ไปตีกันต่อเลยไป๊
     ส่วนนก ก็คุกเขาลงไปดูเจ้าวิทย์ ซึ่งตอนนี้ลงไปนอน บริเวนหัว มีเลือดออกมา
     วิทย์.....วิทย์.....เป็นอะไรหรือเปล่า
     ผมก็เลยเรียกเจ้าชิดรีบพยุงเจ้าวิทย์ไปห้องพยายาบาล อาจารย์บอกว่าต้องพาไปโรงพยายาบาลแล้ว เพราะแผลลึกมาก อาจารย์เลยให้รถตู้หน้ามหาลัยไปส่งที่โรงพยาบาล ผมนั่งไปกับรถตู้ด้วย เจ้าวิทย์เงียบไปแล้วสงสัยหมดสติไป พอไปถึงหมอก็ส่งไปยังห้องฉุกเฉินเพื่อเย็บแผล
      ระหว่างนั้นเราก็รอกันอยู่ข้างนอก รออยู่ได้ซักครึ่งชั่วโมง หมอบอกว่ายังให้เจ้าวิทย์กลับไม่ได้เพราะว่า ต้องรอผลการเอ็กซ์เรย์ คงต้องพักอยู่ที่โรงพยาบาลซักสองสามวัน เราก็เลยไปหาเจ้าวิทย์เพื่อลากลับ แต่เจ้าวิทย์มันยังไม่ได้สติเลย เราก็ได้แต่ไปลาหมอเท่านั้น
     ผมกลับมานอนที่ห้องก็นอนไม่ค่อยหลับหรอกเพราะเป็นห่วงเจ้าวิทย์มัน แต่ก็ทนความง่วงไม่ได้ หลับไปซัก 2-3 ชั่วโมง ก็ตื่นรีบไปเรียน ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร พออาจารย์ปล่อยเลิก ก็แทบจะพุ่งตัวออกจากห้องเลคเชอร์ เลย ผมนั่งรถเมล์ ไปหาเจ้าวิทย์มัน
      เมื่อไปถึงโรงพยาบาลผมถามพยาบาลบดูบอกว่าอยู่ชั้น 3 เลยขึ้นบันไดไป พอไปถึงห้องเจ้าวิทย์ก็เจอกับนก นั่งอยู่ข้างวิทย์ที่นอนหลับอย่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย
     มานานหรือยังนก ผมเอ่ยถามนก
     อืม! ก็มาได้ซักครู่แล้วละ พยาบาลบอกว่า วิทย์อาการดีขึ้นแล้ว สามารถขอออกจากโรงพยาบาลได้วันนี้ละ
     หรอ แล้วนี้มาคนเดียวหรือไง
     เปล่า เรามากับพวกปิ่นนะแหละ แต่ปิ่นไปซื้อขนมกับจ๋อม
     อืม. ผมก็เดินไปดูอาการเจ้าวิทย์ซักหน่อย ซักพักปิ่นกับจ๋อมก็เดินเข้ามาพร้อมกับชิด ผมทำหน้าแปลกใจเพราะไม่เห็นนกบอกผมเลย
     เฮ้ย! นายก็มาด้วยหรือวะ ชิด
     ก็เออดิ เราก็ต้องมาอยู่แล้ว เพื่อนนอนโรงพยาบาลทั้งที ก็ต้องมานะซิ
     แล้วนายมากับปิ่นได้ไงวะ
     ก็เราเดินเข้ามาที่โรงพยาบาล ก็เจอกับจ๋อมที่ข้างล่าง ก็เลยเดินขึ้นมาพร้อมกันเลย
     หรอ! ผมกับเจ้าชิดก็มานั่งข้างเตียงเจ้าวิทย์มัน ผมอดคิดไม่ได้ว่าตอนเจ้าวิทย์เข้าไปขวางนกไว้ นกเขาจะคิดยังไงกับเจ้าวิทย์มัน เพราะเจ้าวิทย์มันอุตสาห์ไปช่วยนกทั้งๆที่มันก็ไม่ได้มีความกล้าสักเท่าไหรเลย นี้ถ้ามันตื่นขึ้นมาตอนนี้ เจ้าวิทย์คงหน้าแดงและพยายามซ่อนตัวใต้หมอนแน่ๆเลย เฮ้อ! เซ็ง หว่าจะกลับมาที่ที่หอก็ตอนเย็นแล้ว เพราะพยาบาลไล่ให้กลับบ้านแล้ว เกรงว่าอาจจะรบกวนคนไข้
      ก๊อกๆๆ ผมสะดุ้งจากเหตุการ์ณเมื่อ 3 วันก่อน ผมกำลังนั่งนั่งเขียนไดอารี่ เล่มเดิมอยู่ เจ้าชิดก็มาเคาะประตู ขอเข้ามายืมเทปเพลงหน่อย ห้องผมตอนนี้เป็นเหมือนร้านขายเทปเลย เจ้าชิดชอบมายืมประจำ
     อืม.... แล้วคราวนี้นายจะยืม เพลงอะไรบ้างละ
     ผมบอกให้มันเข้ามาก่อนแล้วเดินไปที่ตู้เก็บเทป
     เอาเพลงอะไรก็ได้เกี่ยวกับความรัก
     เอ้า! รอเดี๋ยวนะ
     ผมหันไปหยิบเทปได้ 5-6 เทปแล้วก็หันกลับมาให้
     เอ้า! เอาไปเลย แล้วนี้จะเอาไปฟังหรือเจ้าชิด
     เปล่าหรอกวะ กะว่าจะไปอัดเป็นเพลงรวม ให้จ๋อม
     หรอ
     ไปละ
     เจ้าชิดกลับห้องไปแล้วผมก็คิดว่ามิหน่าเจ้าชิดถึงอยากจะอัดเพลง ความคิดมันก็ดีเหมือนกันแหะ น่าจะอัดไปให้ปิ่นบ้างดีกว่า ผมเลยลองหาเพลงรัก แต่ดันให้เจ้าชิดไปซะหมด ก็เลยไม่มี ต้องรอมันเอามาคืน นอนแล้วดีกว่าง่วงแล้ว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟจากความฝันสู่ความจริง
Lovings  จากความฝันสู่ความจริง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟจากความฝันสู่ความจริง
Lovings  จากความฝันสู่ความจริง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟจากความฝันสู่ความจริง
Lovings  จากความฝันสู่ความจริง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงจากความฝันสู่ความจริง