29 เมษายน 2546 16:55 น.

เพื่อมวลชน

ณรังษี

พราวพร่างฟ้าพาคืนค่ำไม่ล้ำร้าง 
ความฝันคว้างกลางนภาท้าลมหนาว 
ยังโชนแสงแห่งไฟสู้อยู่คู่ดาว 
ศรัทธายังพร่างพราวรัตติกาล 

หนาวน้ำค้างห่างมิตรสนิทใกล้ 
ดาวร้างไปเพราะสุรีย์ที่ฉายฉาน 
เปิดห้วงใจที่ลึกล้ำถ้ำวิญญาณ 
ซ่อนแสงดาวให้ส่องซ่านอยู่ในใจ 

ในคืนที่ไร้ดาวในคราวอื่น 
ดวงใจยังสดชื่นไม่หวั่นไหว 
ชาตินักสู้ยังทะนงคงสู้ไป 
สร้างความฝันอันพิไลเพื่อมวลชน 				
29 เมษายน 2546 11:02 น.

รักของฟ้า

ณรังษี

ม่านราตรีมีแสงจันทร์อันพิลาศ 
พรมละอองผ่องผาดวาดเวหา 
เกลื่อนรอยดาวให้ไร้แสงแข่งจันทรา 
ทัศนาศศิมณฑลจนเคลิ้มใจ

คืนนี้มีเพียงเดือนเป็นเพื่อนฝัน 
ดาริกาทุกช่วงชั้นพลันหลับไหล 
หริ่งระงมพรมพร่างที่กลางไพร 
ร่ายเพลงมนต์ดลใจให้คะนึง 


ว่าคนไกลจะรู้ไหม..ใครเฝ้าฝัน 
และคงมั่นมอบหัวใจฝากไปถึง 
พร้อมรักแย้มแต้มแต่งใจ..ให้ตราตรึง 
แม้นเนานานหวานลึกซึ้งสลักใจ


คืนบุหลันเลื่อนลอยคอยความรัก 
เมื่อใดจักพบคู่อยู่เคียงใกล้ 
ฝากลมพลิ้วแผ่วผ่านม่านหัวใจ 
กระซิบบอกความนัยให้รู้ความ


ฟ้ายังรอดวงดาวมาพราวฟ้า 
ฟ้ายังรอจันทรามาไถ่ถาม 
ฟ้ายังรอสุรีย์มาคลี่ยาม 
ฟ้ายังรอเมฆงามเสมอมา 


จะกี่ดาวกี่เดือนที่เคลื่อนพ้น 
กี่ทิวาราตรีหนที่เยือนหล้า 
ฟ้ายังคงยืนอยู่คู่เวลา 
รักของฟ้า.ดุจดังฉันมั่นรักเธอ				
29 เมษายน 2546 10:52 น.

ก้าวไป

ณรังษี

ฟังเพลงลมพรมใบไม้ไล่เสียงหวาน 
บอกตำนานกาลเวลามาให้รู้ 
สิ้นเสียงฝนพร่างพรายปลายฤดู 
ลมเกรียวกรูบอกข่าวให้หนาวทรวง 

ความสดเขียวเรียวใบไม้กลายสีส้ม 
กาลเวลาย้อมบ่มลมพัดร่วง 
ทิ้งร่มเงาให้หม่นเศร้าคราวรักลวง 
เห็นลมควงปลิดใบไม้คล้ายใจเรา 

หนาวเหลือเกินเดินเดียวดายในเส้นทาง 
หัวใจคว้างร้างใยรักจากเรือนเหย้า 
มีเพียงฝันที่เพริศพรายในม่านเงา 
มาเป็นเพื่อนเตือนใจเหงาให้ก้าวไป
				
29 เมษายน 2546 00:17 น.

เรือชีวิต

ณรังษี


เฉกชนม์นี้มีความหมายคล้ายเรือน้อย 
ที่เพียงลอยตามแรงแห่งคลื่นโหม 
ยามทุกข์เบียดบีฑาฝ่าคลื่นโครม 
ยามสุขไร้คลื่นโจมลำนาวา 

ลอยเรื่อยไปในห้วงน้ำตามกระแส 
ชลาลัยผันแปรเปลี่ยนทิศา 
เวียนวกไปในน่านธารธารา 
ไม่พบท่าเทียบฝั่งยั้งหยุดเรือ 

มองชะแง้แลทิศคิดอยู่นิ่ง 
ถ่วงเรือไว้ด้วยสิ่งทำหางเสือ 
กำหนดทางคัดท้ายอยู่ปลายเรือ 
ต้านกระแสความเชื่อที่เคยมี 

หวังจะไปให้ถึงลำสำเภาทอง 
ที่ฉายส่องผ่องประกายรัศมี 
อยู่เบื้องหน้าไกลไกลในนที 
จอดรอรับด้วยไมตรีมาช้านาน 

จึงวาดพายไปบนสายทางเส้นนั้น 
เรือน้อยพลันมีร่องรอยความร้าวฉาน 
เกิดรูรั่วขึ้นมากมายในกระดาน 
เปรียบทวารที่ซ่านไปในอารมณ์ 

เหลียวหาชันยาเรือเมื่อน้ำเข้า 
วิดน้ำเก่าเททิ้งสิ่งหมักหมม 
เพียรวาดพายให้เรือเบาเข้าแรงลม 
อุดรอยรั่ว...วิดน้ำตม...เร่งรีบพาย 

หมายสมัครสามัคคีมีในทาง 
ไม่อ้างว้างมีเชือกเหนี่ยวเกลียวแปดสาย 
กลายเป็นหนึ่งถึงสำเภาที่เงาพราย 
เรือลำน้อยถึงที่หมายไม่เวียนวน

				
28 เมษายน 2546 21:08 น.

ในเกลียวคลื่น

ณรังษี

......ธารสวาทสาดคลื่นอยู่ครืนโครม 
เรือลำน้อยล่องรี่โถมถลาใส่ 
โต้กระแสชลธีที่เกรี้ยวใจ 
มิเกรงกลัวสิ่งใดในสายธาร 

......ม่านโลกีย์บังใจให้บ้าคลั่ง 
ล่องเรืออออกจากฝั่งอย่างกล้าหาญ 
มีรอยยิ้มอิ่มเอมใจชมสายธาร 
คลื่นมายาซัดซ่านสู่อารมณ์ 

......ล่องลอยไปธาราใสกลับเปลี่ยนแปร 
เรือรักแพ้พ่ายคลื่นจนขื่นขม 
เรือกระดาษไม่อาจทานกระแสลม 
คลื่นรักลวงทำเรือจมกระแสธาร 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณรังษี
Lovings  ณรังษี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณรังษี
Lovings  ณรังษี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณรังษี
Lovings  ณรังษี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงณรังษี