30 พฤษภาคม 2546 13:35 น.

หวั่นไหว

ณรังษี

พระพายไหวไกวกวัดพัดเปลวไหว 
ประกายไฟเอนลิ่วพลิ้วลมหวน 
ไร้แก่นสารซ่านไปใจรัญจวน 
กิเลสยวนยั่วเย้าเข้าคลุกใจ 

เคยแน่วแน่แผ่ไฟให้สว่าง 
เพียงพริบตาแสงพรางเพราะหวั่นไหว 
แทบวูบวับดับสิ้นชวาลไวย 
สะท้อนสะท้านซ่านไปในแรงลม 

สะกดนิ่งทิ้งสิ่งกระทบกระแทก 
สัมผัสแปลกเพียงแผ่วเบาเคล้าผสม 
ดุจระลอกกลอกซ้ำย้ำแรงลม 
ความเคลื่อนไหวไล่ระงมในเปลวเพลิง 

เพียงรับรู้ผู้มาเยือนถึงเรือนเหย้า 
เพียงแผ่วเบาที่กระทบให้ภพเหลิง 
เพียงขาดความเหนี่ยวรั้งยั้งเปลวเริง 
เพียงใจไหวไปในเพลิงก็ไหม้พลัน 
				
22 พฤษภาคม 2546 20:52 น.

อัสดง

ณรังษี

อัสดงลงลับกับทิวไม้ 
ตะวันฉายบอกลาฟ้าใกล้ค่ำ 
ฟากฟ้านี้หมดหน้าที่ที่ควรทำ 
สาดแสงจนเย็นย่ำหมดเวลา 

.......ยามราตรีคลี่ม่านผ่านพื้นโลก 
ยังความลับอับโชคไปทั้งหล้า 
หวาดกลัวนักเมื่อสิ้นศักดิ์สุริยา 
ดั่งดวงตามืดมิดสนิทพลัน... 

				
22 พฤษภาคม 2546 20:45 น.

แบกอารมณ์

ณรังษี


แบกทุกข์....ที่รุกโรมโหมจิต 
มาตลอดชีวิต....เหนื่อยหนักหนา 
แบกอารมณ์....ขมข้นบนชีวา 
จนกายาคู้ค้อมน้อมสู่ดิน 

ไม่มีโอกาสมองท้องฟ้า 
แม้เพียงชายตาผันผิน 
ไปยังเงื้อมยอดศิขริน 
เพราะทุกข์ทั้งสิ้นโอบล้อมกาย 

อยากพักในถิ่นเสรี 
มากมีสุขล้นเหลือหลาย 
เป็นเพียงความฝันเพ้อพราย 
เป้าหมายห่างไกลเหลือเกิน 

เห็นเพียงแผ่นดินเป็นครู 
ให้รู้ยืนหยัดไม่ขัดเขิน 
รองรับปฏิกูลทูนเทิน 
ใครย่ำใครเมินไม่ท้อใจ 

แผ่นดินยังเป็นแผ่นดิน 
รองรับศิขรินกว้างใหญ่ 
รองรับผืนน้ำฉ่ำใจ 
อยู่คู่ทุกสมัยกับอัมพร
				
22 พฤษภาคม 2546 20:38 น.

ขอพักใจ

ณรังษี

หากหัวใจยังมีรัก..ก็พักเถิด 
อย่าเตลิดเพราะความเศร้าเรื่องร้าวฉาน 
กลีบดอกรักจะซูบซีดไม่เบ่งบาน 
สายสัมพันธ์อาจแหลกราญเพราะร้อนใจ 

ค่าของใจอยู่ตรงใจ.ที่ได้รัก 
ค่าของรักจะแน่นหนัก....แม้นผลักไส 
ค่าของคนอยู่ที่ให้.ด้วยจริงใจ 
ค่าของรักมิเสื่อมไปเพราะใครเลย 

พักหัวใจสีทองประคองขวัญ 
พักความโศกสักวันเถิดใจเอ๋ย 
พักความเศร้าเพื่อนเก่าที่คุ้นเคย 
พักดวงใจเถิดเอย..อย่าช้ำไป 

วันนี้เขาอาจสิ้นไร้ใจเมตตา 
รอวันหน้า..เขาอาจสำนึกได้ 
อย่าเศร้าสร้อยโศกศัลย์เลยนะใจ 
รอเวลาให้อภัย.กับใจลวง 
				
20 พฤษภาคม 2546 06:55 น.

บางขณะของชีวิต

ณรังษี

.....ตะวันโรยโปรยแสงแฝงรอยเศร้า 
ดูเงียบเหงามัวหม่นทุกหนแห่ง 
ความกระจ่างจัดจ้ามาอ่อนแรง 
ความเข้มแข็งคลอนคลายสลายลง 

...สายนทีรี่ไหลไปเรื่อยเรื่อย 
สวะลอยเรื่อยเปื่อยราวใหลหลง 
สายธารามีขึ้นและมีลง 
สวะยังอยู่คงเพื่อล่องลอย 

...สายลมพัดแกว่งกวัดใบไม้ไหว 
อาจปลิดปลดบางใบร่วงลงผล็อย 
หรือปลิดดอกปลิดผลช่อน้อยน้อย 
ให้ล่องลอยหล่นล่วงควงลงดิน 

...มองท้องฟ้า ใบไม้ และสายน้ำ 
ล้วนมีความเปลี่ยนแปรไม่สุดสิ้น 
ใจก็ปรุงไปตามที่ยลยิน 
และตัดสินไปตามความหมายปอง 

...ใบไม้หล่น..บางคน...มีความสุข 
บางคนทุกข์...เสียดาย..ใบไม้หมอง 
เศษสวะ..มากมาย...ลอยในคลอง 
บางคนมอง..ว่าสวย...ช่วยทิ้งเติม 

....คราอาทิตย์..อัสดง..ลงขอบฟ้า 
บางคนว่า..ช่างสุขใจ...ได้สร้างเสริม 
บรรยากาศ..ตามแสงไต้...และคบเพลิง 
ดูร่าเริง..ก่อกองไฟ...ได้ชีวา 

...บางขณะของชีวิตคิดเช่นนั้น 
พอเปลี่ยนวันก็เปลี่ยนไปไม่หรรษา 
บางขณะ...ของคนที่มีปัญญา 
จึงรู้ค่าความเปลี่ยนไปในเปลี่ยนแปลง 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณรังษี
Lovings  ณรังษี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณรังษี
Lovings  ณรังษี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟณรังษี
Lovings  ณรังษี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงณรังษี