7 สิงหาคม 2546 14:43 น.
ทะเลจันทร์
สถานีรถไฟฟ้าในตอนเย็นคราคร่ำไปด้วยผู้คน แพรทอดสายตามองออกไปที่ถนน รถติดเป็นทางยาว ทุกคนคงมีจุดหมายที่ต่างกัน บ้างคงจะเดินทางกลับบ้าน บ้างคงจะเดินไปยังจุดนัดหมายที่ไหนสักแห่ง แต่ทุกคนล้วนมีจุดหมายของการเดินทาง ทั้งสิ้น .. เหมือนเธอในเย็นวันนี้ ทุกวันเมื่อเลิกงาน เธอจะตรงกลับบ้านทันที แต่วันนี้ ไม่เหมือนวันก่อน ๆ วันนี้ เธอมีนัด .. เธอยังจำประโยคที่เธอเป็นผู้เขียนถึงเค้าว่า ..
เย็นนี้ .. พี่ว่างมั๊ยคะ พาแพรไปนั่งที่เงียบ ๆ ได้มั๊ยคะ ??
เค้าบอกเธอว่า .. ได้จ้ะ
ความคิดเธอเลื่อนไหล ลอยไป เมื่อเธอยืนคิดถึงบทสนทนาของเธอในวันนี้กับ เค้า มันทำให้เธออดระทึกใจไม่ได้
อีกไม่ถึงสิบนาทีข้างหน้าแล้วสินะ .. ที่แพรจะได้พบกับ เค้า เค้าคนที่แพรได้พูด ได้คุยได้ระบายอะไรบางอย่างที่เธอไม่สบายใจ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ตลอดทางที่เธอนั่งรถมา เธอเฝ้าถามกับตัวเองว่า เธอกำลังทำอะไร ทำไมเธอถึงได้เอ่ยปากขอนัดกับเค้า ทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่เคยรู้จักหน้าคาดตา ปกติเธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอก็มีเพื่อนทางอินเตอร์เนตมากมาย เธอไม่เคยคิดที่จะต้องการพบกับใคร เธอหวังแต่เพียงว่า เราจะสามารถแลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์ต่าง ๆ หรือการเล่าเรื่องอะไรบางเรื่องที่เธอไม่สามารถพูดให้ใครฟังได้ผ่านตัวหนังสือ ตลอดเวลาเธอไม่ต้องการให้ใครรู้จักเธอมากไปกว่าที่เธอต้องการให้พวกเค้าเหล่านั้นรู้จัก แต่กับเค้าคนนี้ คนที่เธอคุยด้วยเพียงแค่ 2 วัน เธอกลับมีความรู้สึกดี ๆ ให้เค้ามากมาย เสียงโทรศัพท์สะดุดความคิดของเธอ
แพร พี่จอดรถรออยู่ตรงบันใดทางขึ้นฝั่งหมอชิตนะ พี่จอดอยู่คันที่ 3 ทะเบียนรถ 8775 นะจ๊ะ ..
ค่ะ เธอรับคำสั้น ๆ และก้าวเดินไปยังจุดนัดหมาย เธอมองเห็นรถแต่ไกล เธอเปิดประตูและขึ้นไปนั่ง พร้อมกับยกมือไหว้ สวัสดีค่ะ พี่
เค้าอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ผู้หญิง ผมสั้น หยักศก ผิวขาว รูปร่างเล็ก หันมายิ้มให้เธอ พร้อมรับไหว้ และเอ่ยปากถาม
เอาเจ้าถิ่น จะไปทานอะไรที่ไหนกันดี นาน ๆ เข้าเมืองที พี่ไม่ค่อยรู้จักร้านอะไรสักเท่าไหร่
แพรบอกชื่อร้านอาหารและเส้นทาง ระหว่างทางเธอแอบมองเค้าเป็นระยะ ๆ จากการพูดคุยที่เป็นกันเองของเค้ากับเธอ ไม่เหมือนคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก อาจจะจริงกระมัง เพราะ 2 วันที่ผ่านมา เธอคุยกับเค้าทางตัวหนังสือเกือบตลอดทั้งวัน ความประหม่า ความสับสน ความลังเลในการกระทำของตัวเอง เริ่มลดน้อยลงเป็นลำดับ ระหว่างทางเธอคุยกับเค้าตลอดเวลา เหมือนจะค้นหาตัวตนจริง ๆ ว่าต่างจากตัวหนังสือที่เธอคุยกับเค้ามากน้อยเพียงใด
เธอและเค้ามาถึงร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา
อ่ะ แพรสั่งอาหารนะ อยากทานอะไรสั่งเลย อย่าบอกนะว่า อะไรก็ได้ เพราะเมื่อกี๊ พี่ดูในเมนูไม่มีอาหารจานนี้แน่ ๆ เค้าพูดจบก็ยิ้ม ดวงหน้าและรอยยิ้ม ทำให้แพรรู้สึกว่า โลกในค่ำคืนนี้ สว่างไสวขึ้นทันตา เค้าพูดพลางพร้อมกับยื่นเมนูให้เธอ แพรเลือกสั่งอาหาร 2 อย่างแล้วยื่นเมนูคืนให้เค้า ที่เหลือพี่สั่งนะคะ
คืนนี้ .. เธอกับเค้านั่งทานอาหาร พร้อมกับการสนทนาที่ดำเนินไปอย่างราบรื่น ทั้งเธอและเค้าแลกเปลี่ยนความคิด มุมมอง และปัญหาหนัก ๆ ที่เธอเจอมา รวมทั้งปัญหาของเค้าเช่นกัน เค้าให้ความเห็นและเสนอแนะในวิธีแก้ไขมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เธอและเค้าคิดคล้าย ๆ กัน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แพรยกข้อมือ เพื่อดูนาฬิกา ..
ตายละ จะเที่ยงคืนแล้วค่ะพี่ กลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ เราต้องทำงานนะคะ
ระหว่างทางกลับบ้าน เธอแทบไม่เหลือความประหม่าเหมือนตอนเธอเจอเค้าเมื่อหลายชั่วโมงที่ผ่านมา
ณ เวลานี้ .. เธอรู้สึกประทับใจในตัวเค้ามาก คำพูดในแต่ละประโยคทำให้เธอรู้จักเค้าได้มากยิ่งขึ้น เค้าขับรถมาส่งเธอที่คอนโด ยิ่งใกล้จะถึงคอนโด เธอกลับไม่อยากให้เวลาที่ได้อยู่ใกล้ ๆ กับเค้าจบลงแค่ตรงนี้ เธออยากยืดเวลาที่จะได้อยู่กับเค้าออกไปอีก .. เมื่อถึงคอนโด เธอจึงบอกเค้าว่า
พี่จะขึ้นไปข้างบน ดื่มกาแฟก่อนมั๊ยคะ เธอกลั้นใจกับคำตอบของเค้า
แพร ง่วงหรือยังล่ะคะ พี่ไม่รบกวนอะไรนะ
ไม่ค่ะ แพรยังไม่ง่วง
ค่ะ
หัวใจเธอพองโตกับคำตอบรับนั้น เมื่อเค้าก้าวลงจากรถเธอจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปกอดแขนเค้า และเข้าประตูลิฟต์
ไปด้วยกัน
ติ๋ง เสียงสัญญานของลิฟต์หยุดที่ชั้น 15 ถึงแล้วค่ะ เธอไขกุญแจห้อง
จัดห้องได้น่ารักนะ ท่าทางจะเป็นคนโรแมนติกซะด้วย ชอบเทียนด้วยเหรอคะ
ค่ะ
เหมือนพี่เลย พี่ก็ชอบเทียน
ดีเลยค่ะ .. งั้นแพรปิดไฟนะคะ จะได้จุดเทียน
เค้าเดินไปนั่งที่โต๊ะริมระเบียง และเอ่ยขึ้น คืนนี้ พระจันทร์สวยจังนะ ใกล้จะขึ้น 15 ค่ำแล้วแน่ ๆ
เธอเดินออกมาสมทบ พลางจ้องมองพระจันทร์ที่กลมโต สุกสว่าง รัศมีสีเหลืองล้อมรอบดวงจันทร์กลมโตดวงนั้น
เธอเดินเข้าไปหาเค้ายกมือไหว้แล้วบอกว่า พี่คะ ..ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคืนนี้ แพรมีความสุขมากที่สุดเลยค่ะ เค้ามองมาที่แพรด้วยรอยยิ้ม และแววตาที่อบอุ่น เค้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเอื้อมมือมาโอบกอดเธอ ๆ ซุกหน้าลงกับบ่า เค้าลูบผมแพรอย่างช้า ๆ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่มาตามเรียวนิ้วสู่เส้นผม และตรงสู่หัวใจเธอ .. สักพักเธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าเค้า มองเหมือนจะค้นหาบางสิ่งที่อยู่ในใจ แพรมีความรู้สึกดีกับพี่มากเลยนะคะ ..
จ้ะ พี่เองก็เช่นกัน
ดวงหน้าของคนสองคนอยู่ไม่ห่างกันนัก ต่างจ้องมองกันและกัน ถ่ายทอดความรู้สึกในหัวใจผ่านทางสายตา แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ ริมฝีปากเค้าเลื่อนมาประกบริมฝีปากของเธอ แทนที่เธอจะขัดขืน เธอกลับสนองกลับด้วยจุมพิตที่อ่อนหวานเฉกเช่นกัน เป็นจุมพิตที่แสนจะดูดดื่ม เธอเหมือนถูกมนต์สะกดให้ยืนนิ่งอยู่เช่นนั้นเนิ่นนาน สักพักเธอจึงเป็นฝ่ายถอนตัวออกจากจุมพิตนั้น แพรขอตัวอาบน้ำก่อนนะคะ
สายน้ำอุ่นที่ผ่านฝักบัวรินรดอยู่ทั่วกาย ยังเทียบไม่ได้กับจุมพิตที่แสนหวานและอบอุ่น เมื่อคิดก็อดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มกับตัวเอง เมื่อนึกถึงจุมพิตเมื่อครู่ เธอไม่ปฎิเสธเลยว่า มันทำให้เธอหวาบหวิว ตัวเบาเหมือนลอยอยู่กลางอากาศกับสัมผัสริมฝีปากเมื่อครู่ ..
แพรจ๊ะ เสียงเรียกจากด้านนอก ..
คะ เสียงเคาะประตูห้องน้ำ พร้อมกับประโยคที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน
พี่อาบน้ำให้มั๊ย เธอปิดน้ำเพื่อฟังให้ชัดว่า เธอไม่ได้หูฝาดไป ..
พี่ว่าอะไรนะคะ
พี่ว่า พี่อาบน้ำให้มั๊ย
เธอนิ่งอยู่ชั่วครู่ ตั้งแต่เกิดจนโตมาป่านนี้ เธอไม่เคยได้ยินประโยคนี้เลย อดที่จะขำกับตัวเองไม่ได้ แต่ปากเธอกลับบอกเค้าไปว่า
ค่ะ
ดวงหน้าใสเล็ก ๆ โผล่เข้ามา มาพี่อาบให้
แล้วพี่ล่ะคะ จะอาบน้ำทั้งชุดเนี่ยเหรอ
ดวงหน้าขาว ๆ และรอยยิ้มหายลับไป แล้วกลับเข้ามาใหม่พร้อมกับร่างกายที่เปล่าเปลือยเช่นเธอ แพรหันหลังให้ เค้าคว้าฟองน้ำถูตัวจากมือของเธอไปถูหลังให้อย่างช้า ๆ และเบามือ เป็นสัมผัสที่นุ่มนวล นิ้วเรียวของเค้าค่อย ๆ ไล้แผ่นหลังเธอ เค้าจับต้นแขนเธอให้หันหน้ามา ดวงหน้าทั้งสองต่างจ้องมองกัน ถ่ายทอดความรู้สึกจากดวงตาสู่หัวใจ ดวงตาของเค้าฉายแววที่ล้ำลึกอยากเกินอธิบายเช่นกัน และเธอก็ไม่อาจปฎิเสธความต้องการของธรรมชาติได้ เค้ารั้งเธอเข้ามาประทับรอยจุมพิตอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นจุมพิตที่เร่าร้อน มือเค้าอยู่ที่หน้าอกของแพร ลูบไล้อย่างเบามือ และค่อย ๆ คลึงเค้นเป็นจังหวะ เค้าค่อย ๆ ถอนริมฝีปากจากปากของเธอ ระเรื่อยมาที่หน้าอก ปลายลิ้นโลมไล้อยู่ที่หน้าอกของเธอ เธอไม่อาจขัดขืน หรือปฏิเสธได้ สัมผัสจากลิ้นทำให้อารมณ์ของเธอกระเจิดกระเจิง ปลายลิ้นจากหน้าอกค่อย ๆ ไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าท้อง เธอยืนนิ่ง ปล่อยให้สายน้ำอุ่นไหลเรื่อยลงทั่วร่าง
ลิ้นเค้ายังไม่ยอมหยุดไล่ละจนถึงเนินหญ้าน้อย ๆ ลิ้นของเค้าชอนไขสัมผัสกับเนินหญ้านุ่ม เรื่อยไล้ลงสู่รอยแยก เค้าจงใจที่จะไล้ลิ้นหาแอ่งน้ำ ในลำธารน้อย ๆ นั้น ซึ่งบัดนี้ชุ่มฉ่ำไปด้วยธารน้ำธรรมชาติ แทนที่เธอจะบอกให้เค้าหยุด เธอกลับจับศรีษะเค้าให้กดชิดแน่นเข้าไปกับแอ่งน้ำนั้น ลิ้นของเค้ายังไม่หยุดการซอกซอนไปทั่ว ร่างเธอสั่นสะท้านจนแทบจะไม่สามารถที่จะพยุงตัวให้ยืนอยู่ได้
นาทีนั้น เธอรับรู้ได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาภายในร่างกายเป็นจังหวะ ถี่ ๆ และเร็วขึ้น ๆ เป็นลำดับ เธอรู้สึกเสียวซ่านภายใน และความเกร็งของช่องท้อง ร่างกายของเธอเหมือนถูกบิดเป็นเกลียวคล้ายเชือก ยิ่งเค้าเร่งจังหวะ เธอก็ขยับสะโพกรับกับจังหวะของเค้า
พี่คะ .
สักพักร่างกายที่รัดตรึงคล้ายถูกปลดปล่อยให้เบาคล้ายล่องลอยอยู่ในอากาศ เค้าลุกขึ้นยืนมองหน้าเธอ ๆ ก็มองหน้าเค้าเช่นกัน สองร่างกอดกันแนบแน่นภายใต้กระแสน้ำอุ่นจากฝักบัวที่ไหลรดร่างกายเปลือเปล่าคู่นั้น มา พี่เช็ดผมให้ เค้าหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดผมให้เธออย่างเบามือ
สักพักร่างที่ปราศจากอาภรณ์ของคนทั้งคู่ก็ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนานุ่ม เธอนอนหนุนไหล่เค้า ๆ ลูบผม และก้มลงมาจูบหน้าผากของเธอ
แพรจะเชื่อพี่มั๊ย .. ถ้าพี่จะบอกว่า .. แพร คือ .. นางเอกในชีวิตของพี่ ที่พี่ค้นหามาค่อนชีวิต ..หลับซะนะจ๊ะ
เค้าจูบเธอเบา ๆ ที่เปลือกตาทั้งสอง .. หลับซะ .. นางเอกของพี่ .. พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว .. ละครชีวิตบทต่อไป กำลังรอให้นางเอกของพี่แสดงอยู่นะ