ค่ำคืนหนึ่ง

ทะเลจันทร์

สถานีรถไฟฟ้าในตอนเย็นคราคร่ำไปด้วยผู้คน แพรทอดสายตามองออกไปที่ถนน รถติดเป็นทางยาว  ทุกคนคงมีจุดหมายที่ต่างกัน  บ้างคงจะเดินทางกลับบ้าน บ้างคงจะเดินไปยังจุดนัดหมายที่ไหนสักแห่ง  แต่ทุกคนล้วนมีจุดหมายของการเดินทาง  ทั้งสิ้น .. เหมือนเธอในเย็นวันนี้  ทุกวันเมื่อเลิกงาน เธอจะตรงกลับบ้านทันที  แต่วันนี้ ไม่เหมือนวันก่อน ๆ   วันนี้ เธอมีนัด  .. เธอยังจำประโยคที่เธอเป็นผู้เขียนถึงเค้าว่า ..
 เย็นนี้ .. พี่ว่างมั๊ยคะ พาแพรไปนั่งที่เงียบ ๆ  ได้มั๊ยคะ ??  
เค้าบอกเธอว่า ..  ได้จ้ะ   
ความคิดเธอเลื่อนไหล  ลอยไป  เมื่อเธอยืนคิดถึงบทสนทนาของเธอในวันนี้กับ  เค้า    มันทำให้เธออดระทึกใจไม่ได้
อีกไม่ถึงสิบนาทีข้างหน้าแล้วสินะ .. ที่แพรจะได้พบกับ  เค้า    เค้าคนที่แพรได้พูด ได้คุยได้ระบายอะไรบางอย่างที่เธอไม่สบายใจ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา  ตลอดทางที่เธอนั่งรถมา เธอเฝ้าถามกับตัวเองว่า เธอกำลังทำอะไร  ทำไมเธอถึงได้เอ่ยปากขอนัดกับเค้า ทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่เคยรู้จักหน้าคาดตา   ปกติเธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอก็มีเพื่อนทางอินเตอร์เนตมากมาย เธอไม่เคยคิดที่จะต้องการพบกับใคร  เธอหวังแต่เพียงว่า เราจะสามารถแลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์ต่าง ๆ  หรือการเล่าเรื่องอะไรบางเรื่องที่เธอไม่สามารถพูดให้ใครฟังได้ผ่านตัวหนังสือ   ตลอดเวลาเธอไม่ต้องการให้ใครรู้จักเธอมากไปกว่าที่เธอต้องการให้พวกเค้าเหล่านั้นรู้จัก  แต่กับเค้าคนนี้ คนที่เธอคุยด้วยเพียงแค่  2  วัน เธอกลับมีความรู้สึกดี ๆ ให้เค้ามากมาย   เสียงโทรศัพท์สะดุดความคิดของเธอ
 แพร พี่จอดรถรออยู่ตรงบันใดทางขึ้นฝั่งหมอชิตนะ พี่จอดอยู่คันที่ 3  ทะเบียนรถ 8775 นะจ๊ะ  ..  
ค่ะ เธอรับคำสั้น ๆ  และก้าวเดินไปยังจุดนัดหมาย เธอมองเห็นรถแต่ไกล เธอเปิดประตูและขึ้นไปนั่ง   พร้อมกับยกมือไหว้  สวัสดีค่ะ พี่    
เค้าอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ผู้หญิง ผมสั้น หยักศก  ผิวขาว รูปร่างเล็ก หันมายิ้มให้เธอ   พร้อมรับไหว้   และเอ่ยปากถาม
  เอาเจ้าถิ่น จะไปทานอะไรที่ไหนกันดี นาน ๆ เข้าเมืองที พี่ไม่ค่อยรู้จักร้านอะไรสักเท่าไหร่  
 แพรบอกชื่อร้านอาหารและเส้นทาง    ระหว่างทางเธอแอบมองเค้าเป็นระยะ ๆ  จากการพูดคุยที่เป็นกันเองของเค้ากับเธอ   ไม่เหมือนคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก อาจจะจริงกระมัง เพราะ 2 วันที่ผ่านมา เธอคุยกับเค้าทางตัวหนังสือเกือบตลอดทั้งวัน  ความประหม่า ความสับสน ความลังเลในการกระทำของตัวเอง เริ่มลดน้อยลงเป็นลำดับ  ระหว่างทางเธอคุยกับเค้าตลอดเวลา  เหมือนจะค้นหาตัวตนจริง ๆ ว่าต่างจากตัวหนังสือที่เธอคุยกับเค้ามากน้อยเพียงใด
เธอและเค้ามาถึงร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา 
 อ่ะ แพรสั่งอาหารนะ อยากทานอะไรสั่งเลย อย่าบอกนะว่า อะไรก็ได้ เพราะเมื่อกี๊ พี่ดูในเมนูไม่มีอาหารจานนี้แน่ ๆ  เค้าพูดจบก็ยิ้ม ดวงหน้าและรอยยิ้ม ทำให้แพรรู้สึกว่า  โลกในค่ำคืนนี้  สว่างไสวขึ้นทันตา    เค้าพูดพลางพร้อมกับยื่นเมนูให้เธอ  แพรเลือกสั่งอาหาร 2 อย่างแล้วยื่นเมนูคืนให้เค้า   ที่เหลือพี่สั่งนะคะ 
คืนนี้ .. เธอกับเค้านั่งทานอาหาร พร้อมกับการสนทนาที่ดำเนินไปอย่างราบรื่น ทั้งเธอและเค้าแลกเปลี่ยนความคิด มุมมอง และปัญหาหนัก ๆ ที่เธอเจอมา รวมทั้งปัญหาของเค้าเช่นกัน  เค้าให้ความเห็นและเสนอแนะในวิธีแก้ไขมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เธอและเค้าคิดคล้าย ๆ  กัน  เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แพรยกข้อมือ เพื่อดูนาฬิกา ..
 ตายละ จะเที่ยงคืนแล้วค่ะพี่ กลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ เราต้องทำงานนะคะ   
 ระหว่างทางกลับบ้าน เธอแทบไม่เหลือความประหม่าเหมือนตอนเธอเจอเค้าเมื่อหลายชั่วโมงที่ผ่านมา
ณ  เวลานี้ .. เธอรู้สึกประทับใจในตัวเค้ามาก  คำพูดในแต่ละประโยคทำให้เธอรู้จักเค้าได้มากยิ่งขึ้น   เค้าขับรถมาส่งเธอที่คอนโด  ยิ่งใกล้จะถึงคอนโด เธอกลับไม่อยากให้เวลาที่ได้อยู่ใกล้ ๆ กับเค้าจบลงแค่ตรงนี้   เธออยากยืดเวลาที่จะได้อยู่กับเค้าออกไปอีก .. เมื่อถึงคอนโด เธอจึงบอกเค้าว่า 
  พี่จะขึ้นไปข้างบน  ดื่มกาแฟก่อนมั๊ยคะ   เธอกลั้นใจกับคำตอบของเค้า
  แพร ง่วงหรือยังล่ะคะ  พี่ไม่รบกวนอะไรนะ   
  ไม่ค่ะ แพรยังไม่ง่วง   
 ค่ะ    
หัวใจเธอพองโตกับคำตอบรับนั้น  เมื่อเค้าก้าวลงจากรถเธอจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปกอดแขนเค้า และเข้าประตูลิฟต์
 ไปด้วยกัน     
 ติ๋ง  เสียงสัญญานของลิฟต์หยุดที่ชั้น 15   ถึงแล้วค่ะ   เธอไขกุญแจห้อง  
 จัดห้องได้น่ารักนะ   ท่าทางจะเป็นคนโรแมนติกซะด้วย  ชอบเทียนด้วยเหรอคะ  
  ค่ะ  
 เหมือนพี่เลย พี่ก็ชอบเทียน    
  ดีเลยค่ะ .. งั้นแพรปิดไฟนะคะ จะได้จุดเทียน    
 เค้าเดินไปนั่งที่โต๊ะริมระเบียง และเอ่ยขึ้น    คืนนี้ พระจันทร์สวยจังนะ  ใกล้จะขึ้น 15 ค่ำแล้วแน่ ๆ   
เธอเดินออกมาสมทบ  พลางจ้องมองพระจันทร์ที่กลมโต สุกสว่าง รัศมีสีเหลืองล้อมรอบดวงจันทร์กลมโตดวงนั้น 
เธอเดินเข้าไปหาเค้ายกมือไหว้แล้วบอกว่า   พี่คะ ..ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคืนนี้  แพรมีความสุขมากที่สุดเลยค่ะ   เค้ามองมาที่แพรด้วยรอยยิ้ม  และแววตาที่อบอุ่น เค้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเอื้อมมือมาโอบกอดเธอ ๆ ซุกหน้าลงกับบ่า  เค้าลูบผมแพรอย่างช้า ๆ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่มาตามเรียวนิ้วสู่เส้นผม และตรงสู่หัวใจเธอ .. สักพักเธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าเค้า มองเหมือนจะค้นหาบางสิ่งที่อยู่ในใจ  แพรมีความรู้สึกดีกับพี่มากเลยนะคะ .. 
 จ้ะ พี่เองก็เช่นกัน  
ดวงหน้าของคนสองคนอยู่ไม่ห่างกันนัก ต่างจ้องมองกันและกัน ถ่ายทอดความรู้สึกในหัวใจผ่านทางสายตา แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ  ริมฝีปากเค้าเลื่อนมาประกบริมฝีปากของเธอ แทนที่เธอจะขัดขืน เธอกลับสนองกลับด้วยจุมพิตที่อ่อนหวานเฉกเช่นกัน  เป็นจุมพิตที่แสนจะดูดดื่ม  เธอเหมือนถูกมนต์สะกดให้ยืนนิ่งอยู่เช่นนั้นเนิ่นนาน  สักพักเธอจึงเป็นฝ่ายถอนตัวออกจากจุมพิตนั้น     แพรขอตัวอาบน้ำก่อนนะคะ    
สายน้ำอุ่นที่ผ่านฝักบัวรินรดอยู่ทั่วกาย  ยังเทียบไม่ได้กับจุมพิตที่แสนหวานและอบอุ่น เมื่อคิดก็อดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มกับตัวเอง เมื่อนึกถึงจุมพิตเมื่อครู่  เธอไม่ปฎิเสธเลยว่า มันทำให้เธอหวาบหวิว ตัวเบาเหมือนลอยอยู่กลางอากาศกับสัมผัสริมฝีปากเมื่อครู่ .. 
 แพรจ๊ะ   เสียงเรียกจากด้านนอก .. 
คะ   เสียงเคาะประตูห้องน้ำ พร้อมกับประโยคที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน   
 พี่อาบน้ำให้มั๊ย   เธอปิดน้ำเพื่อฟังให้ชัดว่า  เธอไม่ได้หูฝาดไป ..
 พี่ว่าอะไรนะคะ 
  พี่ว่า พี่อาบน้ำให้มั๊ย   
เธอนิ่งอยู่ชั่วครู่ ตั้งแต่เกิดจนโตมาป่านนี้  เธอไม่เคยได้ยินประโยคนี้เลย อดที่จะขำกับตัวเองไม่ได้ แต่ปากเธอกลับบอกเค้าไปว่า
 ค่ะ  
ดวงหน้าใสเล็ก ๆ โผล่เข้ามา  มาพี่อาบให้   
แล้วพี่ล่ะคะ จะอาบน้ำทั้งชุดเนี่ยเหรอ  
 ดวงหน้าขาว ๆ  และรอยยิ้มหายลับไป  แล้วกลับเข้ามาใหม่พร้อมกับร่างกายที่เปล่าเปลือยเช่นเธอ   แพรหันหลังให้ เค้าคว้าฟองน้ำถูตัวจากมือของเธอไปถูหลังให้อย่างช้า ๆ และเบามือ  เป็นสัมผัสที่นุ่มนวล  นิ้วเรียวของเค้าค่อย ๆ ไล้แผ่นหลังเธอ  เค้าจับต้นแขนเธอให้หันหน้ามา ดวงหน้าทั้งสองต่างจ้องมองกัน  ถ่ายทอดความรู้สึกจากดวงตาสู่หัวใจ   ดวงตาของเค้าฉายแววที่ล้ำลึกอยากเกินอธิบายเช่นกัน  และเธอก็ไม่อาจปฎิเสธความต้องการของธรรมชาติได้   เค้ารั้งเธอเข้ามาประทับรอยจุมพิตอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นจุมพิตที่เร่าร้อน  มือเค้าอยู่ที่หน้าอกของแพร ลูบไล้อย่างเบามือ และค่อย ๆ คลึงเค้นเป็นจังหวะ  เค้าค่อย ๆ  ถอนริมฝีปากจากปากของเธอ ระเรื่อยมาที่หน้าอก ปลายลิ้นโลมไล้อยู่ที่หน้าอกของเธอ เธอไม่อาจขัดขืน หรือปฏิเสธได้ สัมผัสจากลิ้นทำให้อารมณ์ของเธอกระเจิดกระเจิง ปลายลิ้นจากหน้าอกค่อย ๆ ไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าท้อง เธอยืนนิ่ง ปล่อยให้สายน้ำอุ่นไหลเรื่อยลงทั่วร่าง   
ลิ้นเค้ายังไม่ยอมหยุดไล่ละจนถึงเนินหญ้าน้อย ๆ  ลิ้นของเค้าชอนไขสัมผัสกับเนินหญ้านุ่ม เรื่อยไล้ลงสู่รอยแยก เค้าจงใจที่จะไล้ลิ้นหาแอ่งน้ำ ในลำธารน้อย ๆ นั้น  ซึ่งบัดนี้ชุ่มฉ่ำไปด้วยธารน้ำธรรมชาติ แทนที่เธอจะบอกให้เค้าหยุด เธอกลับจับศรีษะเค้าให้กดชิดแน่นเข้าไปกับแอ่งน้ำนั้น ลิ้นของเค้ายังไม่หยุดการซอกซอนไปทั่ว  ร่างเธอสั่นสะท้านจนแทบจะไม่สามารถที่จะพยุงตัวให้ยืนอยู่ได้  
นาทีนั้น  เธอรับรู้ได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาภายในร่างกายเป็นจังหวะ ถี่ ๆ และเร็วขึ้น ๆ เป็นลำดับ  เธอรู้สึกเสียวซ่านภายใน และความเกร็งของช่องท้อง  ร่างกายของเธอเหมือนถูกบิดเป็นเกลียวคล้ายเชือก  ยิ่งเค้าเร่งจังหวะ  เธอก็ขยับสะโพกรับกับจังหวะของเค้า  
  พี่คะ  .
สักพักร่างกายที่รัดตรึงคล้ายถูกปลดปล่อยให้เบาคล้ายล่องลอยอยู่ในอากาศ  เค้าลุกขึ้นยืนมองหน้าเธอ ๆ   ก็มองหน้าเค้าเช่นกัน  สองร่างกอดกันแนบแน่นภายใต้กระแสน้ำอุ่นจากฝักบัวที่ไหลรดร่างกายเปลือเปล่าคู่นั้น     มา พี่เช็ดผมให้   เค้าหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดผมให้เธออย่างเบามือ   
 สักพักร่างที่ปราศจากอาภรณ์ของคนทั้งคู่ก็ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนานุ่ม เธอนอนหนุนไหล่เค้า ๆ ลูบผม และก้มลงมาจูบหน้าผากของเธอ         
 
 แพรจะเชื่อพี่มั๊ย .. ถ้าพี่จะบอกว่า .. แพร คือ .. นางเอกในชีวิตของพี่ ที่พี่ค้นหามาค่อนชีวิต ..หลับซะนะจ๊ะ 
เค้าจูบเธอเบา ๆ  ที่เปลือกตาทั้งสอง .. หลับซะ .. นางเอกของพี่ .. พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว .. ละครชีวิตบทต่อไป กำลังรอให้นางเอกของพี่แสดงอยู่นะ 				
comments powered by Disqus
  • maruko_sos

    18 สิงหาคม 2546 13:52 น. - comment id 69416

    เขียนได้เป็นธรรมชาติมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้เขียนแนวนี้ต่อไปเรื่อยๆนะคะ เพราะหาคนเขียนไม่ค่อยได้สักเท่าไร ขอให้ใช้ภาษาสวยๆอย่างนี้ต่อไปนะคะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน