4 ธันวาคม 2553 21:56 น.

กี่ก้าวแล้ววันวารที่ผ่านพ้น

นิดดา

กี่ก้าวแล้ววันวารที่ผ่านพ้น		
ในทุกข์ทนแห่ล้อมทุกหย่อมหญ้า		
ยังมอบรักเหมือนเช่นเคยเป็นมา		
ยังห่วงหาไม่เคยสิ้นทุกดินแดน		
		
ดั่งสายธารทิพย์แถนจากแมนสรวง		
ชโลมห้วงรินเรื่ออยู่เหลือแสน		
มหาศาลมิอาจหมดการทดแทน		
ทั้งสองแขนสองมือหรือชีวิต		
		
ลืมเถิดความขุ่นแค้นในแผ่นดิน		
ก่อนเหือดสิ้นความแหนหวงจนร่วงปลิด		
อันเคลื่อนผ่านกาลเวลาทีละนิด		
จนมืดมิดก่อตัวในหัวใจ		
		
เถิด...ให้ความป่าเถื่อนอันตรธาน		
แล้วเหลือเพียงจดจารการแก้ไข		
ใต้ร่มเงาพักพิงของกิ่งใบ		
ที่พ่อสร้างเอาไว้เพื่อให้เรา		
		
จนร่องรอยชื้นหมาดของหยาดเหงื่อ		
ปรากฎเรื่อบนรอยทางพ่อย่างเท้า		
ซึมลึกผนึกร่างลงบางเบา		
ควรหรือเปล่ากับการคิดพินิจตรอง		
		
แห่งเรา-สามัญชน		
ผู้ดิ้นรนทุกตนตัวทั่วทั้งผอง		
แผ่นดินเกิดอันเคยเหือดหลั่งเลือดนอง		
นั้นเป็นของ...แผ่นดินพ่อ-แผ่นดินเรา		
		
กี่ก้าวแล้ววันวารที่ผ่านพ้น		
เราตอบตัว ตอบตน ได้หรือเปล่า		
ว่าคือพ่อผู้กรำงานมานานเนาว์		
และกล่อมเกลาให้อยู่ รู้พอเพียง		

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 
		
เพียงรูปภาพแผ่นหนึ่งมาตรึงไว้		
ก็ดาลใจหลั่งรื้นสะอื้นเสียง		
มาหลอมหล่อรวมพลังทุกวังเวียง		
โดยพร้อมเพรียงทั่วหล้าบูชาพลี				
1 ธันวาคม 2553 19:18 น.

ระบำดาว

นิดดา

1246436263dancing_on_moon.gif

ดูสิ! ความอ่อนโยนบนโพ้นฟ้า
ประโลมปลอบโลกหล้ายามฟ้าหนาว
เปล่งประกายระยิบอยู่วิบวาว
ระบำดาวเด่นสรวงแต้มดวงตา

ขณะลมโบกไหวใบไม้ปลิว
เพลงผิวจึงพลิ้วพาดปรารถนา
กล่อมคืนเหมือนเช่นเคยเป็นมา
หาญกล้าเหมือนเช่นเคยเล่นลม

เป็นท่วงทำนองอันล่องลอย
ดื่นคล้อยเพลิดเพลินเสียเกินข่ม
เถิด...อาบคราบไคลในเศร้าตรม
ห้อมห่มความเหงาด้วยเงาฟ้า

โล้เลื่อนเหมือนเมฆที่ล่องลอย
รายร้อยรำพันกับจันทร์จ้า
ขณะสวรรค์พร่ำพรรณนา
บอกว่าคืนนี้อีกยาวนัก

แด่ฉันและเจ้าผู้เข้าใจ
การพรากจากไกลได้ประจักษ์
ความรู้สึกสุดท้ายเข้าทายทัก
บอกว่าการมีรักมักปวดร้าว

ในแววตาทั้งคู่ฉันรู้ดี
หยดน้ำที่ฉ่ำชื้นในคืนหนาว
มิแตกต่างกับดื่นค่ำระบำดาว
ที่วามวาว ... หลั่งเรื่อ แ ต้ ม เ นื้ อ ต า


images?q=tbn:ANd9GcQI5mcY-8LwALPNVYE9AG1				
28 พฤศจิกายน 2553 11:09 น.

สวัสดี...กวีที่รัก

นิดดา

สวัสดี...กวีที่รัก
เราเคยรู้จักกันใช่ไหม
นานมาแล้ว เนิ่นนาน ล่วงผ่านไป
เธอจำได้หรือไม่...ในครั้งนั้น

มันเป็นลมหนาวเดือนธันวา
ฉันเห็นเธอหน้าชา...และมือสั่น
กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นยังอุ่นควัน
เธอประคองถ้วยนั้นด้วยสองมือ

มือที่เคยลูบผมคราวลมพัด
หยิบปอยผมมาทัดแล้วขานชื่อ
กระซิบแผ่ว  แว่ววัก  ว่ารักคือ....
ตัวหนังสือ สีเศร้า ในเงาตา

ในเงาตา หมองหม่นของคนหนึ่ง
ที่ปราศซึ่งเรี่ยวแรงแสวงหา
เป็นเพียงผู้สูญสิ้นของ ดิน-ฟ้า
ที่เธอลอบชำเลืองตาและกล้ารัก

ยอมรับในความไม่แน่นอน
ของผู้พเนจร...ไม่รู้จัก
ซึ่งอาจปวดร้าวมายาวนัก
และอาจเป็นกับดักของรักลวง

ให้เธอมอบศรัทธาเพื่อว้าวุ่น
โดยต้นทุนคือน้ำตาอันล้าล่วง
และกำไรคือเคว้งคว้างอันร้างกลวง
รอให้เธอตักตวงเติมดวงจินต์

ในดวงจินต์ฟุ้งเฟ้อเธอกับฉัน
ผู้ติดปีกความฝันจะผันผิน
ดั่งลูกนกในอกใจว้างไหวบิน
แล้วดับดิ้นร่วงตกแทบอกฟ้า!

เราก็ต่างปวดร้าวเท่าๆกัน
ที่วามวันเหือดหายไปต่อหน้า
ที่รุ้งทอวับวิบชั่วพริบตา
เพื่อบอกว่าการมาจบสิ้นแล้ว

ลาก่อน...กวีที่รัก
อุ่นรอยตักในเรือนใจเธอไหวแผ่ว
แว่วความหลังฝังฝากหยั่งรากแวว
ดั่งดวงแก้วแตกสลายทลายเลือน.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนิดดา
Lovings  นิดดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนิดดา
Lovings  นิดดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนิดดา
Lovings  นิดดา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนิดดา