14 พฤษภาคม 2547 09:24 น.

ขอแค่ 1 นาที

น้ำตา_

ขอแค่ 1 นาที
...ชายหนุ่มไฟแรงมุมานะทำงานอย่างมุ่งมั่น
เขามีความฝันจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์กับแฟนสาว
เธอจะมารอการกลับมาหน้าประตูบ้านเขาทุกวัน
เขาพบเธอยิ้มแย้มต้อนรับสนทนากันและเธอก็กลับไป 
วันนี้เขากลับช้ากว่าปกติมาก
แต่แปลกที่ยังเห็นเธอยืนรอเช่นทุกวัน
"โทษทีนะที่รัก วันนี้มีงานด่วนเลยกลับช้า"
เธอยังยิ้มให้เขา

คุณทำงานจนมีรถ มีบ้านอย่างที่ตั้งใจแล้ว
ทำไมยังทำงานหนักอีก"
"ผมอยากมีบ้านที่มีบริเวณมากกว่านี้
รถที่ดูโอ่อ่ากว่านี้..เพื่อคุณนะจ้ะ"

เวลาผ่านไป 1 ปีหญิงสาวมาบ้างไม่มาบ้าง
แต่เขาไม่มีเวลามาใส่ใจกับเรื่องนี้

วันหนึ่งเธอเอ่ยถามเขา
"คุณมีเงินพอจะซื้อบ้านหลังใหญ่รึยัง"
"ขอเวลาอีกหน่อยผมอยากซื้อแหวนวงใหม่มาเปลี่ยนให้คุณ"
เขาจุมพิตมือที่สวมแหวนทองวงเล็กเบาๆ
"ฉันบอกหรือว่าอยากได้แหวนวงใหม่"
"ผมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ..ที่รัก"

3 เดือนแล้วที่เขาไม่เห็นเธอหน้าประตูบ้าน
วันนี้เขามีบ้านหลังใหญ่จึงตัดสินใจลางาน 1 วันเพื่อไปหาเธอ
เขาขับรถคันหรูผ่านเส้นทางที่ขรุขระอย่างยากลำบาก
"นี่คุณต้องเดินผ่านทางเส้นนี้มาหาผมทุกวันเหรอ.."

เมื่อมาถึงแม่ของเธอออกมาต้อนรับและมอบกล่องไม้ใบหนึ่งให้
เขาและบอกทางไปสถานที่ ที่เขาจะพบเธอได้
เนินเขาเล็กๆ รายล้อมไปด้วยดอกไม้แท่นหินสลักชื่อหญิงสาวตั้งอยู่กลางเนิน
มือสั่นเทาเปิดกล่องไม้อย่างช้าๆ ข้างในอัดแน่นไปด้วยกระดาษแผ่นเล็ก
เขาเริ่มอ่านข้อความทีละใบ

"วันนี้คุณกลับมาช้า ฉันรอ2ชม.ไม่เป็นไร ฉันรักคุณ"
"วันนี้ฝนตกฉันยังรอแม้ไม่เจอคุณ แต่ฉันยังรักคุณ"
"ฉันเริ่มป่วยจนไปหาไม่ได้คุณคงไม่ทันสังเกต แต่ฉันยังรักคุณ"
"วันนี้คุณบอกจะเปลี่ยนแหวนวงใหม่...
คุณคงลืมว่าฉันตอบแต่งงานกับคุณเพราะแหวนวงนี้ ฉันยังรักคุณ"

"ฉันป่วยมากจนไม่อาจไปพบคุณได้...
ภาวนาให้คุณรู้สึกตัวสักทีว่าฉันแค่ต้องการคุณเพราะฉันรักคุณ"

ชายหนุ่มเรียนรู้แล้วว่า...
บางทีสิ่งที่เขาไขว่คว้ามาตลอดชีวิต
อาจเทียบไม่ได้กับสิ่งเล็กน้อยที่เขาเคยได้รับจนเป็นเรื่องปกติของทุกวัน

รถคันหรูแล่นไกลออกไปมีเพียงกล่องแหวนเพชรราคาแพงหน้าหลุมศพ
ที่ดูไม่เหลือค่าอะไรสำหรับเขาอีกต่อไป
ผมมีบ้านหลังใหญ่แต่คงกว้างไปสำหรับอยู่คนเดียว
ผมมีรถราคาแพงแต่ไม่รู้จะขับพาใครไปไหน

ผมมีเวลาอยู่กับงานครึ่งชีวิตแต่ไม่เคยมีเวลาที่จะได้อยู่กับคนที่ผมรัก
ตอนนี้ผมมีเงินมากมายแต่ไม่อาจซื้อเวลาเพียง 1 นาทีที่จะบอกรักเธอ

ผมมีทุกอย่างเพียบพร้อมแต่ขาดส่วนที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ได้				
13 พฤษภาคม 2547 14:22 น.

ความรักครั้งยิ่งใหญ่

น้ำตา_

ผมทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงในนิวยอร์ค บางครั้งอาชีพนี้ก็ทำให้หดหู่ใจ
เพราะคราใดที่บ้านถูกไฟเผาผลาญ คุณจะหัวใจแหลกสลายไปด้วย 
พนักงานดับเพลิงเจอแต่เรื่องน่าสพึงกลัว และบางครั้งก็ต้องเจอความตาย 

แต่วันที่ผมเจอเจ้าแมว "สการ์เล็ต" เป็นอีกเรื่องหนึ่ง 
และมันเป็นเรื่องของชีวิตและความรัก วันนั้นเป็นวันศุกร์ 
เรารุดออกไปดับเพลิงตามที่ได้รับแจ้งตั้งแต่เช้าตรู่ว่ามีไฟไหม้ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง 
ระหว่างที่เตรียมอุปกรณ์อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแมวร้อง 
แต่ผมหยุดมือไม่ได้ต้องดับไฟก่อนแล้วจึงจะหาแมวได้ 
ไฟไหม้ครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตมาก 
เราจึงมีหน่วยงานอื่นๆ มาช่วยสนับสนุนด้วย ทั้งฝ่ายตะขอเกี่ยวและบันได 

เราได้รับแจ้งว่าทุกคนในอาคารนี้ออกมาได้โดยปลอดภัยแล้ว 
ผมเองก็หวังเช่นนั้นเพราะที่ปั๊มมีแต่เปลวไฟเต็มไปหมด
ใครขืนเข้าไปกู้ภัยคงจะไม่รอดแน่ 
กว่าจะดับไฟได้ก็คงกินเวลานานมาก และต้องใช้กำลังคนมากมาย

ถึงตอนนี้มีเวลามองหาแล้วว่าเสียงแมวมาจากไหน 
ควันไฟยังพวยพุ่งออกมาจากตัวปั๊มเต็มไปหมด 
ผมมองอะไรไม่ค่อยเห็น ได้แต่เดินตามเสียงแมวร้องไปเรื่อยๆ 
จนถึงบริเวณบาทวิถี ห่างจากหน้าปั๊มราวๆ 5 ฟุตเห็นจะได้ 
ก็เห็นลูกแมวตัวเล็กๆ ท่าทางอกสั่นขวัญแขวนสามตัวกอดกันกลมส่งเสียงร้องกันระงมอยู่ 
พอมองไปรอบๆ ผมก็เจออีกสองตัวอยู่บนถนนตัวหนึ่งส่วนอีกตัวหนึ่งอยู่อีกฝั่งถนนหนึ่ง
แมวพวกนี้คงจะติดอยู่ในอาคารเป็นแน่เพราะขนมันถูกไฟลนเสียจนโกร๋น 
ผมตะโกนขอลังสักใบและมีนักมุงหามาให้ใบหนี่ง 
ผมจับลูกแมวทั้งห้าตัวใส่ในลังและอุ้มลังไปพักไว้หน้าระเบียงบ้านหลังหนึ่งแถวนั้น 
ผมมองหาแม่แมว สังหรณ์ว่าแม่แมวคงจะเข้าไปในปั๊มที่กำลังไฟไหม้ 
และทยอยคาบลูกออกมาวางไว้บนบาทวิถีทีละตัว 
ลองคิดดูก็แล้วกันว่าต้องวิ่งเข้าไปในกองไฟที่ลุกโชติช่วงถึงห้าครั้งห้าคราว 
จากนั้นก็ต้องพยายามให้ลูกแมวไปอยู่อีกฝั่งไกลอาคารออกไปทีละตัวเช่นกัน 
แต่แม่แมวดูเหมือนจะยังขนลูกออกมาไม่หมด

เอ๊ ..แล้วแม่แมวไปอยู่เสียทีไหน 
ตำรวจคนหนึ่งชี้บอกผมว่าเห็นแม่แมวเข้าไปที่ร้านตรงที่ผมเจอลูกแมวสองตัวสุดท้าย 
แม่แมวอยู่ที่นั่นจริงๆ มันนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด 
แผลไฟไหม้ดูสาหัส ตาเป็นแผลพองจนลืมไม่ขึ้น 
อุ้งเท้าดำเพราะถูกไฟลน ขนถูกไฟลามเสียจนเห็นหนัง 
บางแห่งจะเห็นเนื้อแดงเหวอะหวะ ตัวอ่อนปวกเปียกจนเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้ 
ผมเดินไปหามันช้าๆ ค่อยๆ พูดกับมันเบาๆ มันคงจะเป็นแมวป่า 
ผมไม่อยากให้มันตกใจ เมื่อผมอุ้มมันขึ้นมา 
แม่แมวร้องอย่างเจ็บปวดกลิ่นขนและเนื้อหนังของมันส่งกลิ่นเหม็นไหม้ 
มันไม่กระดุกกระดิกแต่พยายามจะลืมตามองดูผม แต่ลืมไม่ขึ้น 
ดูมันเหนื่อยอ่อนเต็มประดา ได้แต่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนผม 
ผมตื้นตันน้ำตาคลอ เมื่อรู้สึกว่าแม่แมวไม่กลัวผม ไว้ใจผม 
ผมตั้งใจจะช่วยชีวิตแม่แมวผู้กล้าหาญและลูกทั้งห้าตัวของมัน 
ชีวิตของพวกมันขึ้นอยู่กับผม ผมค่อยๆ วางแม่แมวลงในลังรวมกับลูกๆ ของมัน 
แม่แมวตาบอดยังอุตส่าห์ใช้จมูกแตะลูกแมวแต่ละตัวจนทั่วเพื่อให้แน่ใจว่าทุกตัวปลอดภัย 
มันคงเบาใจที่ลูกของมันอยู่ครบทุกตัว แม้ตัวมันเองจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม 
แมวทั้งหมดต้องได้รับการรักษาโดยด่วน 

ผมนึกถึงบ้านสงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่งชื่อสันติบาตสัตว์นอร์ทชอร์ 
ผมเคยนำสุนัขที่ถูกไฟไหม้อาการสาหัสไปให้ที่นั่นรักษาแผลเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน 
องค์การนี้ช่วยได้แน่ ผมโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ว่ากำลังพาแม่แมวและลูกแมวที่ถูกไฟลวกอาการสาหัสไปให้รักษา 
ผมไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้ายังสวมชุดดับเพลิงที่มีกลิ่นคราบควันไฟอยู่เต็ม
แล้วบึ่งรถบรรทุกของผมไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ 
เมื่อไปถึงก็เห็นสัตว์แพทย์และเจ้าหน้าที่สองชุดเตรียมตัวรับแมวอยู่แล้วที่ลานจอดรถ 
พวกเขารีบนำแมวทั้งหมดเข้าไปในห้องพยาบาล 
ทีมหนึ่งรักษาแม่แมวอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่ง 
และอีกทีมหนึ่งดูแลลูกแมวอยู่บนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง 
ผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นกำลังจาการกดับไฟ 
และพยายามไม่เข้าไปเกะกะในห้องพยาบาล 
ผมไม่ค่อยหวังเท่าใดว่าแมวเหล่านี้จะรอดชีวิต 
แต่ถึงอย่างไรก็ทิ้งมันไม่ลงจริงๆ หลังจากรออยู่ครู่ใหญ่ 
สัตว์แพทย์ก็บอกผมว่า เขาต้องเฝ้าอาการแม่แมวและลูกของมันทั้งคืน 
และไม่มั่นใจว่าตัวแม่จะรอดหรือเปล่า 
วันรุ่งขึ้นผมกลับไปอีก รอแล้วรอเล่า กำลังจะเลิกล้มความหวัง 
สัตว์แพทย์ก็เดินเข้ามาบอกข่าวดีกับผมว่า ลูกแมวรอดแล้ว 
"แล้วแม่แมวล่ะ" ผมกลัวคำตอบเหลือเกิน "ยังบอกไม่ได้ครับ ต้องรอดูก่อน" 
ผมไปที่นั่นทุกวันเพื่อฟังอาการ 
แต่ละวันก็ได้ยินแต่คำตอบซ้ำๆ ว่า "ต้องรอดูก่อน" 
ประมาณหนึ่งสัปดาห์ให้หลังผมไปที่สถานสงเคราะห์อีกครั้งด้วยความหดหู่ใจ 
นึกในใจว่าถ้าแม่แมวไม่ตาย 
ป่านนี้ก็รู้แล้วละว่าจะมีอาการร่อแร่อย่างนี้ไปอีกนานเท่าใด 

ทันทีที่ผมเดินเข้าไป สัตว์แพทย์ก็ยิ้มรับและยกนิ้วให้สัญญาณผมว่า 
แม่แมวไม่เพียงแต่รอดพ้นจากขีดอันตรายเท่านั้น 
อีกหน่อยมันจะมองเห็นได้อีกด้วย 
เอาละในเมื่อแม่แมวไม่ตายอุตส่าห์รอดมาได้ก็ต้องตั้งชื่อกันเสียหน่อย 
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตั้งชื่อว่า "สการ์เล็ต" 
แปลว่าแดงก่ำเพราะผิวที่แดงเถือกของมัน 
ผมสะเทือนใจที่ได้เห็นแม่แมวเจอหน้าลูกๆ อีกครั้ง 
เพราะรู้ดีว่ามันต้องกัดฟันต่อสู้ขนาดไหนกว่าจะรอดมาได้ 
แล้วทายซิว่าสิ่งแรกที่แม่แมวทำคืออะไร 
มันนับลูกอีกครั้งโดยเอาจมูกแตะลูกทีละตัวๆ 
เพื่อให้มั่นใจว่าลูกๆ อยู่กันปลอดภัยโดยครบถ้วน 
มันยอมเสี่ยงภัยเพื่อลูกไม่ใช่ครั้งเดียว 
แต่ถึงห้าครั้งและได้ผลด้วยลูกๆ ของมันรอดชีวิตทั้งหมด 
อาชีพอย่างผมนี่มีโอกาสได้เห็นวีรกรรมที่กล้าหาญอยู่ทุกวัน 
แต่ที่แม่แมวพิสูจน์ให้เห็นในวันนั้นเป็นสุดยอดวีรกรรม 
เป็นวีรกรรมที่มาจากความรักของแม่โดยแท้! 

มีหลายๆ สายตาที่ได้มองต่อกันเป็นทอดๆ ดังนี้ 
สายตา(แม้ว่าจะเกือบบอด)และจมูกของแม่แมวที่พยายามมองและสัมผัสไปยังลูกๆ 
นักดับเพลิงมองไปยังแม่แมวกับลูกๆ และพยายามช่วยเหลือจนสำเร็จ 

สายตาและความคิดอ่านของท่าน...... 
ความรักมีอยู่ในโลกใบนี้เสมอ 
สิ่งต่างๆ ยังคงกำเนิดมาจากความรักทั้งสิ้น 
แม้โลกนี้ที่เป็นไปอยู่นี้จะไม่สวยงามอย่างที่คิด 
แต่โลกก็อยู่ได้ด้วยคนที่มีน้ำใจเมตตา 
ทำให้โลกใบนี้ยังคงเป็นโลกอยู่เสมอ 

จากเพื่อนคนหนึ่ง.............. ณ นครนิวยอร์ค				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตา_
Lovings  น้ำตา_ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตา_
Lovings  น้ำตา_ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำตา_
Lovings  น้ำตา_ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงน้ำตา_