5 กันยายน 2546 00:16 น.

ซึ้งใจในกลอนสุนทรภู่

ปณิธาน รอดเหตุภัย

ซึ้งใจในกลอนสุนทรภู่

แว่วคำ ครูกลอนกานท์ ที่หวานแว่ว
ไหวดวงแก้วเก็จกวีวิเวกไหว
ใจระรวยด้วยคมคำสัมผัสใจ
ร้อนเพียงใดกลับสลายคลายรุ่มร้อน


บทนิราศ  กลอนเสภา  สุภาษิต
สอนชีวิต  แทรกหลักธรรม  สื่อคำสอน
กลอนเห่กล่อม  พร้อม นิทาน  หวานคำกลอน
ตรึง ละคร เปี่ยมมนต์ขลัง.ยังตราตรึง

ศรีแห่งไทยใจประจักษ์ใจศักดิ์ศรี
หนึ่งวรรณศิลป์ จินตกวี ที่เป็นหนึ่ง
คะนึงคำลำนำครวญหวนคะนึง
สุนทรซึ้ง สุนทรภู่ ครูกวี				
2 กันยายน 2546 03:11 น.

ความเป็นไทยในยุคโลกาภิวัตน์

ปณิธาน รอดเหตุภัย

เสียงกลองรบในสำนึกเริ่มแผ่วหาย
คมขวานทองค่อยค่อยคลายความยิ่งใหญ่
ผืนไตรรงค์เพียงผืนผ้าที่พับไว้
ความเป็นไทย  เริ่มเลือนร้างเริ่มสร่างซา

เมื่อแผ่นดินทุกหย่อมหญ้าที่เหยียบย่ำ
ล้วนร่องรอยวีรกรรมอันหาญกล้า
กลับเหือดแห้งแตกระแหงแรงโรยรา
ไร้สายธารแห่งศรัทธาจากผู้คน

มรรยาทไทยยิ้มแย้มจิตแช่มชื่น
น้ำใจไทยหยิบยื่นไม่หวังผล
วิถีไทยพอเพียงเลี้ยงชีพตน
สังคมไทยไร้เล่ห์กล  ไร้ชนชั้น

ศาสตร์ศิลป์ไทยภูมิปัญญาค่าสืบสาน
ภาษาไทยเอกผลงานการสร้างสรรค์
ขนบไทยตามครรลองสืบครองธรรม์
ความเป็นไทยธำรงมั่นบรรพกาล

.ฤๅจะคลายมนต์ขลังครั้งเก่าก่อน
.อนุสรณ์แห่งวานวันที่ผันผ่าน
.ฤๅจะขายชีวิตจิตวิญญาณ
.ปิดตำนานไทยเราเพียงเท่านี้ !?

จะยอมปล่อยกาลเวลาโลกาภิวัตน์ 
ให้กร่อนกัดขวานทองทุกท้องที่
หรือชาวไทยจะรวมรักสามัคคี
ร่วมกอบกู้ศักดิ์ศรี---ความเป็นไทย---

เสียงกลองรบในสำนึกดังกึกก้อง
คมความทองเปี่ยมมนต์ขลังยังยิ่งใหญ่
ผืนไตรรงค์สะบัดพลิ้วท่าวทิวใจ
ความเป็นไทยบานสะพรั่ง........ทั้งแผ่นดิน
				
2 กันยายน 2546 02:31 น.

.....อิสระ.....

ปณิธาน รอดเหตุภัย

แหวกว่าย  วังวน  แห่งคืนวัน
ทนทุกข์  สุขสันต์  เวียนผันผ่าน
เหน็ดเหนื่อย  หนักหนา  มาเนิ่นนาน
ความไหวหวั่น  แห่งวันวาน  เฝ้าผลาญใจ

ทุกความหวังฝักฝากกับฟากฟ้า
จึงมุ่งหน้าไขว่คว้าฝันอันยิ่งใหญ่
ยังสานต่อ  ก้าวต่อก้าว  กี่ยาวไกล
เดินต่อไป  ไม่เคยพัก  เลยสักครา


.....................................
.....................................


..........รอยยิ้มของใครคนหนึ่ง..........
ปลดภาระอันหนักอึ้งลงจากบ่า
เปิดดวงใจ..........ให้รับแสงแห่งศรัทธา
เปิดดวงตา..........ให้มองเห็นความเป็นไป

.........ฉันจึงหยุดการแสวงหา.........
หอบเอาใจอันอ่อนล้ามาเริ่มใหม่
โบกปีกบินเที่ยวท่องล่องลอยไกล
ถักทอรุ้งด้วยสายใยใจสองดวง

............อิสระ............
ไร้พันธะอุปสรรคอันหนักหน่วง
ทิ้งรอยแผลแห่งความหลังสิ้นทั้งปวง
นอนหลับฝันอยู่ในห้วง........แห่งความรัก
				
30 สิงหาคม 2546 14:28 น.

สวัสดี (อีกครั้ง)

ปณิธาน รอดเหตุภัย

การทักทายอย่างไทยต้องไหว้สา
พร้อมกล่าวว่า สวัสดี วจีหวาน
ด้วยหัวใจและรอยยิ้มอิ่มดวงมาน
มิตรภาพยาวนาน ชั่วนิรันดร์				
30 สิงหาคม 2546 13:07 น.

ร่อนเร่พเนจร

ปณิธาน รอดเหตุภัย

ร่อนเรพเนจร				
แรมรอน  เหินห่าง  ร้างถิ่น
ดั้นด้น  กันดาร  แดนดิน				
โบยบิน  สู่ฟ้า  คว้าดาว		

เธอเจ็บปวด.ฉันก็ใช่จะไม่เจ็บ		
เธอหนาวเหน็บ.ฉันก็ใช่จะไม่หนาว
ลองไถ่ถามความรักดูสักคราว			
ใจที่เคยรวดร้าวคงเข้าใจ

ดาวดวงนั้นใช่ไหมเธอใฝ่ถึง			
สักวันหนึ่งจะคว้าฝันนั่นใช่ไหม
รู้ทั้งรู้ระยะทางยังยาวไกล				
จะฝ่าฟันมาให้ได้ในสักครั้ง

จะท้อถอยคอยชะตาอย่างนี้หรือ			
แพ้ต้นมือ--หรือลองสู้ดูสักตั้ง
จะแปรเปลี่ยนอุปสรรคเป็นกำลัง			
หรือจะฝังร่างตนอย่างคนแพ้

พายุกรำกระหน่ำโหมเข้าโถมถั่ง			
มิอาจหยุดฉุดรั้งผู้แน่วแน่
เปรียบทะเลผันผวน  ฟ้าปรวนแปร			
บททดสอบ  มอบแด่.คนสู้ทน

ระยางโยงรุ้งพาดสายจากปลายฟ้า			
คือรางวัลผู้หาญท้าพายุฝน
รวงรุ้งงามคือความหวังพลังชน			
จึงดิ้นรน  จึงค้นหา  จึงท้าทาย

เกิดเพื่อดับ..ระหว่างนี้คือ ชีวิต			
ต้องรู้คิด  มือต้องปีน  ตีนต้องป่าย
จงยิ้มสู้  จงหยัดยืน  ฝืนใจกาย  			
สู่จุดหมายดวงดาราบนฟ้านั้น

มนุษย์ทุกคน  ล้วนเดินทาง			
แตกต่าง  มีทุกข์  มีสุขสันต์
เก็บเกี่ยว  ประสบการณ์  แห่งวารวัน			
ตักตวงฝัน  อันเรืองรอง  ของชีวิต

แดดหรือฝน  สูงหรือต่ำ  ดำหรือขาว		
สั้นหรือยาว  คดหรือซื่อ  ถูกหรือผิด
เลือกเส้นทาง  ก้าวต่อไป  อย่างใจคิด 			
แล้วลิขิต  ดี-ชั่ว  ด้วยตัวเอง
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปณิธาน รอดเหตุภัย
Lovings  ปณิธาน รอดเหตุภัย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปณิธาน รอดเหตุภัย
Lovings  ปณิธาน รอดเหตุภัย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปณิธาน รอดเหตุภัย
Lovings  ปณิธาน รอดเหตุภัย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปณิธาน รอดเหตุภัย