27 กันยายน 2553 20:21 น.

น้ำ ขึ้น รีบ ตัก

ปติ ตันขุนทด

น้ำ---ในคลองปริ่มขึ้น        ตามกาล
ขึ้น---ที่บนกระดาน            ท่าน้ำ
รีบ---รุดเร่งจัดการ             เร็วรี่
ตัก---ใส่ภาชหลายซ้ำ         ก่อนสิ้นชลธี				
23 กันยายน 2553 11:09 น.

กลอนคำพังเพย ***หมูท้าราชสีห์***

ปติ ตันขุนทด

ตัวเป็นหมูขู่ท้าสีหราช
พาลรานปราชญ์นั้นหนาอย่าคิดหมาย
สุนัขป่าท้าสู้บู๊เสือลาย
เป็นวัวควายอวดแรงทำแข็งคด

ระฆังดีตีดังยังแพ้ฆ้อง
แม้นเอาทองถูหินคงสิ้นหมด
น้ำตาลอ้อยย้อยลงตรงใกล้มด
มันจะอดใจได้อย่าหมายนึก

พระสมถะจะสละซึ่งโลกีย์
หากสตรีเข้าไปคะคงจะสึก
เห็นชลามหาสมุทรที่สุดลึก
ยังตรองตรึกลึกไม่กว่าใจมนุษย์

สุนทรภู่ครูสอนกลอนสุภาพ
อ่านซึมซาบแสนเสนาะไพเราะสุด
อันความรู้คู่ปัญญาเปรียบอาวุธ
ใช้แย้งยุทธจังฑาลได้การนัก

คำพูดจาคารมคมเหมือนมีด
ควรปราณีตเก็บใส่แต่ในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก
จึงค่อยชักเชือดฟันไปทันใด				
20 กันยายน 2553 20:21 น.

เกษียณแล้วทำอะไร

ปติ ตันขุนทด

เกษียณราชการผ่านแล้ว          ทำใด   ดีนา
คนแก่กายฝึกใจ        แต่งปั้น
ศีลธรรมนั่นทางไป    มีค่า
ครองอยู่มรรคานั้น     แน่แท้ประเสริฐคุณ				
15 กันยายน 2553 19:03 น.

อุดรธานีในระบอบประชาธิปไตย

ปติ ตันขุนทด

๑
ศรีศรีสวัสดิ์ทั่วด้าว          อุดร
พุทธแผ่ธรรมสงฆ์สอน    ห่างเศร้า
ราชการช่วยนิกร            ทุกหมู่
มีขื่อแปปกเกล้า            อุ่นบ้านงามเมือง
๒
เรืองวิหารช่อช้อย           ลายไทย
ศิลป์แง่งามสวยใส          พร่างพร้อย
พระสงฆ์ท่านสวดชัย       ธรรมส่อง
ดับทั่วกิเลสคล้อย          สู่ด้าวนิพพาน
๓
อุดรเมืองเก่าครั้ง           โบราณ
ราษฎร์ทั่วแดนสำราญ     เล่นร้อง
เกษตรกรหมั่นเวียกงาน   นาไร่
สุขอยู่ในธรรมคล้อง       ก่อเกื้อกรรมดี
๔
ศิลป์ศาสตร์มัดหมี่ผ้า      สวยสี
ลายขิดแปลกตามี          แต่งไว้
ราคาค่าสมดี                หัตถ์ก่อ
เชิญช่วยอุดหนุนใช้       เพื่อเอื้ออุดร
๕
นามนครปางก่อนนั้น      เดิมที
เป็นแต่ไพรพงพี            หมู่บ้าน
ขานหมากเดื่อเรียกมี      กันอยู่
มาเปลี่ยนงามสะคร้าน    ว่าด้าวอุดร
๖
โกสินทรหนึ่งร้อย          ซาวสิบ  เจ็ดนา
เกิดชื่ออุดรพริบ            แหล่งหล้า
ดาวเมืองเด่นระยิบ         พรายพร่าง
เรืองรุ่งยาวนานอ้า         แต่นั้นงามไสว
๗
อุดรนัยหนึ่งพ้น             เหนือโลก
ขูดฆ่ากิเลสโรค            ผ่องแผ้ว
ชนใดมุ่งปลดโศก         สุขอยู่
เห็นแต่มรรคแปดแก้ว    นั่นแล้วตรงไป
๘
ศีลหอมไกลกลิ่นฟุ้ง      ขจายขจร
ศีลทั่วแดนอุดร            แจ่มด้าว
ชายหญิงร่วมสโมสร      ศีลมั่น
เป็นดั่งเมืองเทพท้าว     แห่งห้องทิพย์สถาน
๙
สมาธิเพียรข่มไว้          จิตมาร
สติแต่งจิตเกษมศานติ์   ทั่วพร้อม
อุดรซ่านเบิกบาน         ใจอยู่
งามท่ามกลางธรรมอ้อม  แผ่ป้องนรกอบาย
๑๐
ปัญญายศส่องแจ้ง         เพริศพราย
ขูดฆ่ากิเลสหาย            แช่มช้อย
อุดรทั่วหญิงชาย           ชีพผ่อง
เพราะเชื่อมรรคพาคล้อย   เคลื่อนเข้านิพพาน
๑๑
ทิพย์สุมาลย์แม่แย้ม      ลงดิน  อุดรฤา
งามดั่งอัปสรอินทร์        สู่หล้า
อุดรหนุ่มนึกถวิล           ดองแต่ง   นางนา
ชายหนึ่งใดธรรมกล้า     นั่นแล้จึงควร
๑๒
มนุษย์โลกเรานี่ล้วน      ทุกข์ภัย
สาวหนุ่มแปรตามวัย      ทั่วหล้า
เกิดเจ็บแก่ตายไป        หมดแน่
บุญส่งไปเมืองฟ้า         ชั่วนั้นตกอบาย
๑๓
นิพพานพาผ่านพ้น        ทุกข์ตาย
หยุดก่อกรรมเป็นสาย    ต่อเชื้อ
ตัณหาย่อมโยงยาย      เวียนว่าย
มรรคนั่นเป็นทางเกื้อ     มุ่งเข้านิโรธ์
๑๔
ตัณหาเป็นบ่วงคล้อง     อัตโน    เนื่องนา
มันหน่วงชักทุกขโต      แน่นไว้
ทรัพย์สินสิ่งโลโก        ชมชื่น
มันแค่มายาไซร้          แต่ล้วนอนิจจัง
๑๕
นิพพิทาหน่ายแล้ว       กามัง
จึงมุ่งละทุกขัง            ชั่วร้าย
เห็นจริงซึ่งสัจจัง          มรรคสี่
ผลสี่เป็นสุดท้าย          นั่นเป้าพึงยล
๑๖
ในวัยสาวหนุ่มเนื้อ       งามฉงน   นักเอย
เอาแต่บำรุงตน           แช่มช้อย
ถึงวัยแก่กายขน         ผมร่วง   หงอกนา
หนังเหี่ยวนมยานย้อย   ร่างร้ายทุรพล

***คำว่าเหี่ยว  ไม่ใช่คำไม่สุภาพ  เป็นคำที่แสดงสภาวธรรม  ธรรมดา
๑๗
ปัญญาพาล่วงพ้น        ไตรภพ
กิจที่ควรทำจบ            แน่แล้ว
เรือนกายเน่าเป็นศพ    คืนสู่   โลกนา
ตัดบ่วงกรรมคือแร้ว     ฆ่าสิ้นตัณหา
๑๘
อวิชชาห่อหุ้ม             ตาใจ
มารซ่อนสิงภายใน      ใหญ่กล้า
ชักนำแต่จังไร            ตกต่ำ
ใดชั่วมันพาบ้า           รุ่มร้อนสับสน
๑๙
คนหญิงชายต่ำต้อย    จนรวย   ศักดิ์นา
รูปชั่วฤาสะสวย          ทั่วแคว้น
ความตายบ่เอออวย    ผันผ่อน   เลยนา
จงอย่าหมายพายแจ้น  จ่ายซื้อชีพยัง
๒๐
ตายไปฝังป่าช้า         จมดิน
ละสิ่งเป็นทรัพย์สิน     หมื่นล้าน
ทำดีชั่วอาจิณ           ตามแต่
บุญนั่นแลคือบ้าน       อยู่เบื้องปรภูมิ
๒๑
ขุมนรกใหญ่น้อย        ควรกลัว
ตายเมื่อไรอกรัว         สั่นร้อง
ยมบาลท่านพาตัว       ไปสู่
ขุมที่บาปกรรมข้อง      ชั่วสร้างปางบรรพ์
๒๒
รักเมียรักเพื่อนพ้อง    วงศ์วาน
รักมั่นในศีลทาน        นั่นด้วย
รักทรัพย์ห่างหนีการ    พนันชั่ว
รักแต่ธรรมตราบม้วย   นั่นแล้รักเป็น
๒๓
เห็นลาภยศอย่าได้      เมามาย
สุขที่จิตเบาสบาย        ปล่อยเปลื้อง
มีสติผ่อนคลอนคลาย  ถือมั่น
เพียรบ่มสมาธิเยื้อง     ย่างเข้าสุขฌาน
๒๔
ตนแลจึงพึ่งได้          ทุกกาล   แลนา
คนอื่นมิยืนนาน         ร่วมเลี้ยง
ฝึกตนหมั่นเวียกงาน   ทุกสิ่ง   ดีเอย
ตนย่อมอิสระเพี้ยง    ท่านผู้มีชัย
๒๕
ปัญญาเป็นดั่งแก้ว      สวยใส
ฉายส่องแสงวิไล       เด่นหล้า
นรชนย่อมเกรียงไกร  ในหมู่  คนนา
เพราะนั่นปัญญากล้า   ส่องให้เห็นผล
๒๖
ปัญญาเป็นดั่งแก้ว       นรชน
ฉายส่องความมืดมน    แจ่มแจ้ง
เห็นทางท่องสากล      เกินกว่า   ใครนา
ทุกข์นั่นอาจเหือดแห้ง  เนื่องด้วยปัญญา
๒๗
ศรัทธาเป็นดั่งต้น         พฤกษ์พันธุ์
จิตมั่นตรัยรัตนือัน        ค่าล้ำ
ผูกใจใฝ่ในกรรม์         ดีก่อ
บุญยิ่งพูนสวัสดิ์ค้ำ       ห่างพ้นอบาย
๒๘
จงเตือนตนพร่องด้วย    ดีใด
กลับสู่ศีลวินัย             ใหม่อ้า
ตนจึงผ่านผองภัย         พาลชั่ว
เป็นอยู่สุขในหล้า       ร่วมด้วยนรชน
๒๙
กายวจีจิตผ่องพ้น        ทุจริต
รักแผ่ไปทุกทิศ          ทั่วผู้
เวราอย่าตามติด          ใครอื่น
หมายมุ่งทางตรัสรู้       นั่นแท้คนดี
๓๐
ปฐพีภพใหญ่กว้าง        สากล
เป็นอยู่อุดรคน            ชื่อก้อง
เสียสละเพื่อผองชน     ทุกหมู่
มิแบ่งแยกแตกฟ้อง     ใส่ร้ายชังกัน
๓๑
จิตกตัญญูต่อผู้           มีคุณ
บุญย่อมจักเนืองหนุน   เพิ่มล้น
ชนใดก่อเนรคุณ         ในท่าน
มีแต่ปราชัยด้น           สู่ด้าวเดรฉาน
๓๒
เป็นชายชาญเผ่าเชื้อ    ขุนทหาร
มิหมิ่นริดระราน           นิ่มน้อง
เชิดชูแม่นงคราญ        งามชื่น
จึงชื่อทำถูกต้อง         แต่งให้งามบน
๓๓
ใครยกตนข่มผู้           เป็นมิตร
มีแต่เสียสนมสนิท       เชื่อมซ้อน
เจรจาที่สุจริต             ดีกว่า
มากเพื่อนคอยดับร้อน   อุ่นเอื้อสัมพันธ์
๓๔
งดจัณฑาลกล่าวร้าย        ชนใด
เป็นที่รักจับใจ            เพื่อนพ้อง
จักไปแห่งหนใด         อบอุ่น
ตายสู่สวรรค์ห้อง        ชื่นร้อยทิพย์รมย์
๓๕
อุดรคนรุ่งฟ้า             ยืนนาน
ดาวเด่นแดนอิสาน      แผ่นกว้าง
ผองชนเก่งเวียกงาน    กินอิ่ม
เซ็งแซ่เสียงสนุกอ้าง       เอ่ยไว้ฟังกัน
๓๖
นุชอุดรหนึ่งนี้         งามจริง
สมที่เป็นยอดหญิง     เด่นหล้า
ใครปองแต่งแอบอิง   เคียงคู่
มาสู่อุดรอ้า             เอ่ยเอื้อนขอนาง
๓๗
คนกายทุจริตตั้ง       โจรกรรม
ลักฆ่าผิดศีลธรรม      ชั่วช้า
ตายไปสู่นรกจำ        จองอยู่
เกิดใหม่อายุอ้า        เสื่อมสั้นทรพล
๓๘
คนพูดจากล่าวร้าย        จัณฑาล
อีกส่อเสียดโจษขาน     เลื่อนเปื้อน
ตกนรกยั่งยืนนาน          ลึกลุ่ม
เกิดใหม่เลวขยับเขยื้อน  อยู่ชั้นเดรฉาน
๓๙
คนคิดการแส่สร้าน        ทุจริต
ตรึกแต่ในทางผิด          ค่ำเช้า
ตายไปตกนรกติด         เหนียวแน่น
เกิดใหม่กายหมองเศร้า  เสื่อมสิ้นราศี




[/size]  

--------------------------------------------------------------------------------

 04253_006.jpg (39.16 KB, 373x491 - ดู 144 ครั้ง.)				
3 กันยายน 2553 12:16 น.

สุจริตตน

ปติ ตันขุนทด

ปฐพีใหญ่กว้าง            สากล
เป็นอยู่สุจริตตน          ชื่อก้อง
เสียสละเพื่อผองชน     ทุกหมู่
มิแบ่งแยกแตกฟ้อง    ใส่ร้ายชังกัน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปติ ตันขุนทด
Lovings  ปติ ตันขุนทด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปติ ตันขุนทด
Lovings  ปติ ตันขุนทด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปติ ตันขุนทด
Lovings  ปติ ตันขุนทด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปติ ตันขุนทด