14 สิงหาคม 2545 16:52 น.

ชีวิตนักเขียนในวัยเยาว์...

ปลาทูสามเข่ง

ในช่วงเวลาพักน้อยของโรงเรียนแห่งหนึ่ง.....
                          "นี่ๆ......อีฟทำอะไรอยู่น่ะ ขอดูหน่อยได้เปล่า"ดิฉันถามเพื่อน
ด้วยความสงสัย "อ...อืม" อีฟเพื่อนของดิฉันตอบ  ดิฉันหยิบกระดาษคู่หนึ่งที่ฉีก
มาจากสมุดของโรงเรียน นำมาดู"เอ๋.......เค้ก ฉันรักเธอ????? มันคืออะไรเหรอ
เนี่ย!" ดิฉันถามเพื่อน อีฟตอบด้วยสีหน้าทียิ้มแย้มว่า"เราแต่งนิทานอยู่เรื่อง
หนึ่งนะ กะจะเขียนเกมส์ไปด้วย!"  "หืม???" ดิฉันมองกระดาษคู่นั้นและอ่านดู
"เค้ก------------------------ -------- ------------------- -------------- -------------!!!" และดิฉันก็วางกระดาษคู่นั้นลงและพูดกับอีฟว่า "อืม.........สนุกดีนะ ไหนๆ...เราไม่อยากทำ
แบบนั้นหรอก แต่เราอยากทำให้เป็นเรื่องราวผจญภัยมากกว่าน่ะ อืม.........ตอน
นี้เรากำลังคิดเรื่องอยู่น่ะ ว่าจะเอาชื่อเรื่องแบบไหน!" อีฟมองดิฉันด้วยสีหน้าลุ้น
และพูดว่า "งั้นเรามาแต่งเรื่องกันมั้ย?" ดิฉันหันมองอีฟ และพูดขึ้นว่า "อืม!น่า
สนดีนะ อ้อ! เราคิดชื่อได้แล้วชื่อว่าดรีมผจญภัยในป่าและในเมืองดีแม๊ะ! " อี
ฟพูดด้วยอารมณ์ยิ้มแย้มว่า"อืม!"
ในชั่วโมงพักกลางวันของโรงเรียน........
                     "อีฟ! ดูนี่สิเราแต่งเสร็จแล้วนะหนึ่งแผ่น!" ดิฉันพูดด้วยความภาคภูมิใจ "ไหนๆ การณ์มาอ่านหน่อยสิ" อีฟพูดขึ้นพร้อมหยิบกระดาษคู่ที่อยู่ใน
ในมือดิฉันขึ้นมาอ่าน "อืม! สนุกดีนะ" อีฟพูดด้วยความชื่นชม และก้มลงแต่ง
เรื่องของตัวเองต่อไป    สักพักต่อมาดิฉันก็แต่งเรื่องได้อีก พอดิบ พอดี มี
เพื่อนชื่อนำเดินผ่านมาและถามด้วยความสงสัยว่า"อีฟ การณ์ทำไรอยู่เหรอ???" 
ดิฉันเงยหน้าขึ้นและพูดขึ้นว่า"อ๋อ! กำลังแต่งเรื่องอยู่น่ะ" นำ มองดูกระดาษและ
พูดว่า "ขอยืมอ่านหน่อยได้ไหม??"  ดิฉันตอบว่า"อืม.....ได้นะ" นำหยิบขึ้นมา
อ่านแล้วก็บอกว่า "นี่ๆ....เราขอแต่งด้วยได้ปะ เราสนใจน่ะ อยากลองแต่งดู"
ดิฉันมองหน้าอีฟในใบหน้าที่ยิ้มตอบกลับมา และคำตอบก็คือ "ได้เลย" เราสามคนนั่งแต่งไปสักพัก มีเสียง "เกรี้ยงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!" มันคือสัญญาณให้ขึ้น
ห้องเรียน ดิฉันคิดว่า เห็นทีต้องมานั่งเรียนอีกแล้ว เฮ้อ..............
ในช่วงพักกินนมของโรงเรียน..............
                     ดิฉันกับเพื่อนมานั่งแต่งเรื่องต่อไป (วันๆไม่มีอะไรทำเลยเหรอ
เนี่ย)    เราสามคนได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คนนู่นที คนนี้ที ต่างหยิบ
กระดาษขึ้นมาอ่าน และก็ได้มาแต่งด้วยมากมาย ดิฉันมองไปทางอีฟ เห็นอีฟทำสี
หน้ารำคาญเต็มที่แล้ว ดิฉันก็คิดเหมือนกัน..........."-------นี่! เรามาทำมาขายกันเถอะ----------" มีเสียงหนึ่งเอ๋ยขึ้นโดยดิฉันก็จำไม่ได้ว่าเป็นใคร........แต่ความคิด
นี้ก็ถูกสนับสนุนเป็นรอย่างดี ดิฉันก็เห็นดด้วยเช่นกัน!!!!!!!!!! 
                      และงานพวกนี้ก็เริ่มขึ้น!
   เราได้ร่วมรวมสมาชิกก็มีคนให้ความร่วมมือกันสิบกว่าคน(แต่ละคนเข้ามาส่วน
ใหญ่เพราะสาเหตุอยากอ่านเรื่องที่พวกเราแต่ง)  แต่งานนี้ก็เริ่มได้ดี ตอนเย็น
ปรึกษากันว่าจะแบ่งให้ชอป(สมาชิกในผู้สมัคร)ไปซีหร็อกมา (เยอะๆจะได้นำไป
เย็บเล่ม)พวกเราต่างดีใจที่ได้เริ่มทำงานพวกนี้  และตั้งความหวังว่าอนาคตคงจะไปได้ดีแต่...........
            เช้าวันรุ่งขึ้น........
    "เป็นไงบ้างชอป ซีหร็อกมาได้ยัง????" ดิฉันพูดขึ้นหลังเก็บกระเป๋าเสร็จ
"เออ......คือว่า น้าเราบอกว่ากระดาษพวกนี้เขียนสีอ่อนเกินไป เวลาถ่ายออกมา ไม่ติดหรอก"ชอปพูดด้วยสีหน้าเสียใจ พอดีอีฟเดินมาได้ยินเข้า และก็พูดว่า"เอา
ไงดีละ???" ดิฉันก็เห็นสีหน้าเพื่อนที่ไม่สบายใจเลยพูดขึ้นว่า"งั้นเดี๋ยวประชุมกันตอนพักนะ"
                                 ไปติตามชมต่อไปนะคะ ไม่ว่างพิมพ์คะรีบ 
                         


เมื่อกี้ผิดพลาดขอโทษอีกรอบนะคะ				
13 สิงหาคม 2545 17:43 น.

มิตรภาพ #1ตอน เข้าสู่โลกความฝัน

ปลาทูสามเข่ง

คำคืนหนึ่งในฤดูหนาว ลมเย็นโบกพัดมา ทำให้รู้สึกห่างจากเตาผิงไม่ได้เลยทีเดียว หลายบ้านในแถบนี้ มีต้นไม้ปกคุมร่มรื่น พระจันทร์กลมๆส่องแสงแวววับจับตา หิมะก็เริ่มค่อยๆตกลงมา ลงมา........

      " แม่จ๋าเล่านิทานให้หนูฟังหน่อยสิจ๊ะ"น้องฟาง เด็กหญิงหน้าตาน่ารักตัวน้อยๆอายุราวๆ6ขวบเห็นจะได้ พูดกับแม่ขึ้น"แต่เอ๊ะ.......น้องฟางพรุ่งนี้ลูกต้องไปเรียนแต่เช้านะ"แม่ของฟางเอ๋ยขึ้น "นะ...นะ แม่จ๊ะหนูอยากฟัง เอาเรื่องดินแดนผจญภัย ก็ได้ น่า....นะแม่จ๋า" ฟางพูดขึ้นพร้อมทำสีหน้าอ้อนวอนเป็นพิเศษ " หนูสัญญาว่าพรุ่งนี้จะรีบไปโรงเรียน จะตื่นแต่เช้า จะตั้งใจเรียน จะเชื่อฟังแม่....และหนู.....จ..จะ.." "เอาละๆ" แม่เด็กหญิงเอ๋ยขัดขึ้น  "พอได้แล้ว งั้นตกลงแม่จะเล่านิทานให้หนูฟังแต่สัญญานะ ว่าพรุ่งนี้ต้องรีบๆตื่น!" "จ๊ะ จะ...แม่หนูสัญญาโดยให้ดวงจันทร์เป็นพยาน หนูจะทำตามที่แม่สั่งทุกอย่าง! เว้นเสียแต่............แม่อย่าเลิกเล่านิทานให้หนูฟังก็แล้วกันจ๊ะ"ฟางพูดขึ้นด้วยท่าทีที่มุ่งมั่น แต่สายตาของเธอดูไม่มุ่งมั่นเอาซะเลย ดูเหมือนเธอจะ ทำได้ไม่ครบตามที่บอก "อืม! ดีมากลูกคนนี้" แม่ลูบหัวฟางแล้วสายตาเต็มเปี่ยมด้วยความชื่นชม "งั้นแม่จะเริ่มเล่าเลยละกัน เดี๋ยวเสียเวลาไปมากกว่านี้!.............ฟังนะลูก
           "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ได้มีกลุ่มปีศาจที่ตั้งตนเป็นใหญ่ ได้กวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ยากที่จะหาผู้ใดมาห้ามปราบได้! แต่มีอาสาสมัครเพียงไม่กี่คนที่จะกล้าเสี่ยงชีวิต คนแล้วคนเล่า เข้าไปในดินแดนของพวกมัน แต่นับจากนั้นมาก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวของเล่าผู้กล้าพวกนั้นอีกเลย......  ชาวบ้านแถวนั้นก็ไม่มีใครที่จะกล้าเข้าแวะข้องเกี่ยวกับพวกมัน..........  แต่พอนานเข้า....พวกนั้นก็กวาดล้างทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง...... มีคนในหมู่บ้านถูกจับให้ไปใช้งาน ถูกเฆี่ยนตี จนไม่มีใครอีกเลย...... ที่จะกล้าไปเผชิญต่อสู้.....กับพวกมัน........"แม่พูดแค่นี้ก็หยุดแล้วก็ตั้งคำถาม ถามฟางว่า ถ้าเป็นลูก ลูกจะกล้าเข้าไปช่วยพวกนั้นไหม........... ฟาง......ฟางจ๊ะ"แม่พูดแล้วก้มลงมองดูฟาง แม่เห็นฟางหลับไปเสียแล้ว แล้วเอ๋ยขึ้นว่า "หลับฝันดีนะจ๊ะ"พร้อมก้มลงหอมแก้มเด็กน้อยที่หลับปุ๋ย สักพักแม่ก็เดินออกจากกห้องปล่อยให้เด็กน้อยนอนให้สบาย
          "นี่!!! ฟาง!!!!!!! ตื่นได้แล้ว!!!!.......สายแล้วนะ" เช้าวันต่อมาแม่ของฟางตะโกนเรียก "แม่จ๋า.....ทำไมเวลามันเร็วจังจ๊ะ หนูรู้สึกว่าพึ่งหลับไปเมื่อตะกี้เอง......" ฟางพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่งงงัน แต่แม่ไม่ได้ตอบอะไร   เดินลงไปข้างล่างเพื่อเตรียมอาหาร ฟางเห็นเช่นนั้นก็นึกสงสัย แต่ไม่กล้าถาม ลุกขึ้นมาเพื่ออาบนำแต่งตัว..........แต่งเสร็จก็เดินลงมาบันได เห็นแม่ไม่อยู่แล้ว ก็คิดในใจว่าแม่คงออก ไปทิ้งขยะข้างนอกละมั้ง ฟางนั่งลงกินข้าว และก็เดินออกจากบ้านเพื่อออกไปรอรถรับส่ง      แต่ว่ารอแล้ว รอเล่ารถก็ยังไม่มาอีก ฟาง ซึ่งนิสัยเด็ดเดี่ยว(อายุเพียงแค่6) จึงเดินไปโรงเรียนเองโดยถ้ายืนรอต่อไป ไปโรงเรียนสายแน่ๆ คงรถเสีย........พร้อมนึกในใจ วันนี้ เป็นอะไรกันไปหมดนะ...........ทำไมแถวนี้เงียบ จัง  ขณะนั้นลมก็โบกพัดมา เล่นเอาฟางหยุดอยู่กลับที่.......ไม่อยากเดินเพราะความหนาว.....ฟางมองออกไปรอบๆตัว มองเข้าไปในป่า มองลึกเข้าไป.......เห็นแสงสีทองๆ ใหญ่เหลืองๆ ฟางนิสัยที่ยังเด็กเพราะความอยากรู้อยากเห็น จึงเดินเข้าไปดู แต่ในใจไม่อยากไปเพราะกลัวไปโรงเรียนสาย แต่นิสัยของเด็กจึงเดินออกไปดู   และฟางก็มาถึงที่ที่มีแสงนั้น ฟางมองออก ไปรอบๆและ! และฟาง...ก็ต้องตกใจ เพราะที่ตาเห็นมันก็คือ..........คนแคระกำลังขนย้ายลูกแอ็ปเปิ้ลสีทองอยู่มีแคระคนหนึ่งเป็นหญิง แก่ชราพอสมควร เหลียวมองเห็นฟาง จึงยิ้มให้และยื่นลูกแอ็ปเปิ้ลให้ฟางลูกหนึ่ง พอฟางหยิบที่จะรับลูกแอปเปิ้ล ก็รู้สึกเหมือนตัวเองจมลึกเข้าไป ไม่รู้สึกถึงความรู้สึกต่างๆ ฟางลองมองไปรอบๆสิ่งที่เห็นเป็นเหมือนผนังมีลวดลายจะว่าได้!!!  ตรึง!!!!!!!!!!!..............โอ้ยย!!!  ฟางตระโกนขึ้น ด้วยความเจ็บ เพราะรู้สึกเหมือนก้นเธอกระแทกแล้วรู้สึกเหมือนว่าตัวเองอยู่บนที่นอน ฟางมองไปรอบๆ นี้คือห้องของเรา!!!!นี้นี้เราฝันไปรึ??? ฟางนึกอยู่ในใจแต่ก็ดีแล้วที่ฝัน แต่ฟางก็ต้องเอะใจเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรอยู่ที่มือของตัวเอง และลองก้มลงมองไปดู ก็ต้องเห็นแอ็ปเปิ้ลที่คนแคระชราให้มามันอะไรกันนี่????? เราไม่ได้ฝันไปเหรอนี่!!!   แต่ก่อนที่ฟางจะคิดทบทวน แม่ก็เดินมาเคาะประตู "ฟาง.....ฟางจ๊ะ..ลูก  ตื่น!!!!ได้แล้ว เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ"  ฟางก็ขานรับ"จ๊ะแม่เดี๋ยวหนูลงไป" และเช้าวันใหม่ที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครรู้ก็มาถึง(นอกจากผู้แต่งที่รู้ อิ..อิ)
                          ตอนต่อไปคือ แอ็ปเปิ้ลสีทองคะโปรดติดตามชมตอนต่อไปนะคะ				
9 สิงหาคม 2545 21:47 น.

นมอันตราย!!!!!!!!!

ปลาทูสามเข่ง

นมเป็นนำที่พวกเราเชื่อกันว่าให้ประโยชน์ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต
ใช่!!!!!!!!!นมทำให้เราตัวสูงจริง ตัวใหญ่ขึ้น แต่ก็เหมือนวัว ก็เพราะเรา
ดื่มนมวัวเนี่ยแหละ 
           ในสัญชาตณาญของคนเรา เราจะถูกให้อย่านมตั้งแต่อายุ
2-3 ปี แต่มีผู้ใหญ่บางกลุ่มที่ถูกสอนเขี้ยวเข็ญไว้ว่า"ดื่มนมแล้วมีประโยชน์"
เลยบังคับสั่งสอนให้เราดื่มนมตั้งแต่นั่นเป็นต้นมา คุณเคยสงสัยไหมว่า
พวกลูกๆของสัตว์จะให้ดื่มนมแม่ตั้งแต่ตอนแรกเกิด แต่พอสัตว์พวกนี้โตขึ้น
จะมีบ้างไหม????? ที่สัตว์พวกนี้จะดื่มนมแม่ต่อไปจนถึงวันตาย มันไม่มี!!!!!
แต่มนุษย์เราไปเบียดเบียนสัตว์ รีดนมวัว มาให้ดื่มกิน
         มีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มตกเป็นเหยื่อผลิตภัณฑ์นมพวกนี้ ยากจะหา
นักวิทยาศสตร์มาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง คุณว่าจริงไหม?????
         คุณเคยเห็นหรือเปล่าพวกฝรั่งที่ชอบดื่มนมตัวสูงงงงงงงงงงงงงงงง
และก็ตายเร็ว และนมเป็นต้นสาเหตุให้เกิดโรคบางชนิดโดยไม่รู้สาเหตุ
นมสามารถทำให้เกิดโรค ท้องผุ วิงเวียนศีรษะ ภูมิแพ้ ฯลฯ และโรคที่อันตราย
มากที่สุดคือ"โรคมะเร็ง"
         แล้วแต่คุณว่าจะเชื่อเรื่องพวกนี้หรือไม่ เพราะขึ้นอยู่ที่ตัวของคุณนะ
ไม่ต้องตกใจอะไรมาก ยังไงเราก็ต้องตายอยู่แล้ว55555555555 อืม.........
ขอบคุณคะที่อ่านบทความ ๑^__^๑				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลาทูสามเข่ง
Lovings  ปลาทูสามเข่ง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลาทูสามเข่ง
Lovings  ปลาทูสามเข่ง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลาทูสามเข่ง
Lovings  ปลาทูสามเข่ง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปลาทูสามเข่ง