12 กันยายน 2546 16:20 น.

บุปผาชน

)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

ในกระท่อมหนึ่ง   ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความสงบสวยงามของธรรมชาติ   หมู่แมกไม้นานาชนิด   สัตว์ป่าที่สวยงามและหายาก   ยิ่งยามค่ำคืนเสียงจักจั่นเรไรส่งเสียงร่วมกันบรรเลงเพลงธรรมชาติ   นี่คือสิ่งที่ผมได้พบเห็น 
                     ในระหว่างที่หลงป่าเพราะกำลังเข้ามาหาล่าสัตว์ป่ามาเป็นอาหาร ผมจะทำเช่นนี้อยู่ประจำยามว่างจากงาน   แต่แปลกมากคืนนี้เดินจนหลงป่าจนได้ กระท่อมหลังนั้นที่ไม่น่าอยู่กลางป่าลึกเช่นนี้   ใจหนึ่งก็กลัวเพราะเห็นแสงไฟอยู่ภายในกระท่อม   อีกใจหนึ่งก็อยากรู้   
                      จึงตัดสินใจเข้าไปดู   ยิ่งเข้าไปใกล้ใกล้ก็ยิ่งเห็นชัดเข้าทุกที   สิ่งที่เห็นเป็นชายกลางคน   ผมยาวรุงรัง   หนวดเคราเหมือนผ่านการโกณมาแล้วเป็นสิบสิบปี   ที่มือกำลังถือกระบอกไม้ไผ่ที่เอามาประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นบ้องกัญชาที่เรารู้จัก   เขาค่อยค่อยหยิบกัญชาที่ผสมแล้วมาใส่ตรงกรวยด้านข้างของกระบอกไม้ไผ่อันนั้น   แล้วบรรจงจุดด้วยไฟพร้อมกับสูบเอาควันของมันเข้าไปในปรอด   กระท่อมหลังนั้นก็เต็มไปด้วยควัน 
                     ระหว่างที่ผมแอบดูอยู่   ชายผู้นั้นก็ส่งเสียงเรียกให้เข้าไปด้านในกระท่อม   ผมตกใจมากถึงกลัวแต่ก็เข้าไป   คำถามแรกที่ชายผู้นั้นถาม    คุณมายิงเค้าทำไม ?    คำตอบก็ไม่พ้นจากความจริง   เขาก็ไม่พูดอะไรต่อ   ได้แต่ส่งสิ่งที่เขาทำอยู่ให้กับเรา   ถึงแม้ว่าจะกลัวแต่ลึกลึกแล้วก็ดีใจที่ยังมีคนเป็นเพื่อน   แถมยังมีที่ให้ซุกหันนอน   ด้วยความเป็นลูกผู้ชายผมก็ไม่ปฏิเสธสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้ 
                      เมื่อผมได้ทำตามเขาอย่างทุกขั้นตอน  แล้วมันรู้สึกเคลิบเคลิ้ม อารมณ์ที่เกิดขึ้นตรงนั้นไม่อยากจะไปไหนทั้งนั้น   อยากนอนฟังเสียงจักจั่นเรไรส่งเสียงร้องร่วมบรรเลง   มันเป็นเพลงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนผมฟังอย่างละเอียดจนเผลอหลับไป    ตื่นเช้าขึ้นมาได้ยินเสียงนกร้องปลุกแต่เช้า    ผมเดินตามเขาไปล้างหน้าล้างตาที่ลำธารใกล้ใกล้   เห็นดอกไม้เบ่งบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล   ช่างเป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจยิ่งนัก   เสร็จแล้วเข้าก็มาทำภาระกิจที่รู้สึกว่าจะขาดมันเสียไม่ได้เลย    ทำไมคุณจะต้องสูบมันด้วย    ผมถามเขาด้วยน้ำเสียงที่แสดงความสงสัย    เพราะมันนี่แหละ..ที่ทำให้ผมอยู่ได้แบบไม่ต้องการอะไรอีกเลย    เขาตอบอย่างตรงไปตรงมาผมก็ยังงงอยู่   เขาก็ส่งให้ผมเหมือนเช่นเคย 
                       ในที่สุดผมก็เคลบเคลิ้มไปกลับธรรมชาติเหมือนราวกับว่ามันออกมาจากจิตใจในส่วนลึก   ทุกสิ่งทุกอย่างยิ่งดูงดงามยิ่งนัก   เขาถามว่า  หิวหรือยัง ?  ถ้าหิวก็ตามมา    ด้วยความสงสัยจะเดินเข้าไปหยิบปืนแล้วเดินตามเขาไป    เดี๋ยวก็มา..ไม่ต้องเอามันไปอยู่ที่นี่ไม่ต้องใช้มันหรอก    ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูอบอุ่น   เดินไปไม่ใกล้นัก   เขาใช้ไม้ขุดหัวมันที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ   เราเผาให้สุกแล้วกินแทนอาหารที่ผมเคยกินผมอยู่ประจำ   หนึ่งอาทิตย์ต่อจากนั้นมาผมก็ยังอยู่กับเขา   ยังนึกแปลกใจตังเองเลยว่าทำถึงไม่คิดอยากที่กลับบ้าน   ยิ่งอยู่นานเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกว่ามันอบอุ่น   ผูกพันธ์กับสิ่งที่เป็นอยู่ จนลืมวันลืมคืนไปเลย   อยากจะอยู่กับมันให้นานที่สุด   ร่างกายของเราเปลี่ยนไปผมยาวรกรุงรัง   หนวดเคราไม่มีการสนใจที่จะตัดมัน   จนเวลาผ่านไปจนไม่รู้ว่าตัวเองอายุเท่าไร   อยู่มาเขาผู้ที่คอยให้แสงสว่างแกผมก็ได้จบชีวิตลงด้วยโรคชรา   ต้องเหลือผมคนเดียวที่อยู่กับทุกทุกอย่างที่เขาได้เป็นผู้ค้นพบ  ไม่อยากจะไปไหนอีกแล้วแค่พอมีพอกิน   ตื่นขึ้นมาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากเดินรอยตามเขาผู้นั้นมาตลอด    ในชีวิตนี้จะไม่มีการแก่งแย่ง   ไม่มีการเข่นฆ่าซึ่งกันและกัน   แวดล้อมด้วยสัตว์ป่าที่เคยตามล่า   บัดนี้เหลือแค่ความสงสารไม่อยากทำร้าย   รู้สึกรักและผูกพันธ์   ในที่สุดสิ่งที่เราเคยสงสัยมันก็รับรู้ด้วยตนเอง    ชาตินี้เราจะขออยู่กับเจ้าไปจนวันตาย 				
10 กันยายน 2546 13:36 น.

พระจ๋า..คุณยายช่วย

)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

วันนี้เป็นวันพระ หญิงสาวกำลังจัดเตรียมปิ่นโตที่จะไปทำบุญที่วัดกับพ่อของเขา พอมาถึงวัด มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมองเธอด้วยสายตาที่หยาดเยิ้ม จนหญิงสาวรู้สึกอาย เธอค่อยๆบรรจงถ่ายอาหารในปิ่นโตออกใส่จานเพื่อเตรียมที่จะนำขึ้นถวายพระ เสร็จแล้วพ่อก็พาเขามานั่งฟังพระสวดมนต์ เด็กวัยรุ่นกลุ่มเดิมพยายามเข้ามานั่งใกล้หญิงสาวที่สุด จนถึงเวลาที่จะต้องประเคนภัตตาอาหารให้พระภิกษุ ผู้เป็นพ่อรีบขึ้นไปประเคนด้วยความเคยชิน เด็กหนุ่มได้โอกาศถามชื่อหญิงสาว และพูดจาพาแซว  หญิงสาวเอียงอายอย่างบอกไม่ถูกจนเผลอตัว..ตด..ออกมาเสียงดัง เด็กวัยรุ่นเผลอตกใจอุทาน ..อุ้ย !   หญิงสาวอายหน้าแดงไม่รู้จะทำอย่างไรดี  พอดีมียายที่นั่งข้างๆหันมามองเห็นหญิงสาวกำลังอาย จึงพูดพร้อมกับขยับก้นออกไปว่าออกไปว่า ..โอ้ย..สบายท้อง 
ฝ่ายหญิงยิ้มให้กับยายแบบเขินๆ ระหว่างที่เด็กหนุ่มได้แต่นั่งเกาหัว

                                    )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((				
10 กันยายน 2546 12:40 น.

นี่นะหรือโชคชะตา

)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

นี่นะหรือโชคชะตา
	เอก..ซึ่งทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้าง ได้ทำงานให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง เอก เป็นผู้ที่มีฐานะยากจนมาก เคยอยู่เหมือนขอทานเก็บถุงพลาสติกขายเป็นอาชีพ แต่ไม่พอกิน เนื่องจากเขายังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ ต้องเลี้ยงภรรยาที่มีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง และลูกสาววัย 6 ขวบที่ป่วยเป็นโปลิโอขาลีบทั้งสองข้าง ครอบครัวของเขาอาศัยกระท่อมเก่า ๆ ไว้ซุกหัวนอนที่ดูว่าเลิศหรูที่สุดในชีวิต เอกได้ค่าจ้างจากนายจ้างวันละ 95 บาทเขาภูมิใจมาก สิบห้าวันมีการจ่ายค่าจ้างหนึ่งครั้ง

ภรรยา	 พี่คะพรุ่งนี้เงินก็ออกแล้วคงจะได้เยอะซินะ? 
เอก	 ประมาณพันกว่าบาทได้แหละ..ก็ได้วันละตั้ง  95   บาทเลย 
                        ทำงาน 15 วันก็..??? โอ้ยช่างมันเถอะคิดไม่ออกปวดหัว  
                        เดี๋ยวเขาก็คิดให้เองนั้นแหละ
ภรรยา	 เออ..พี่พรุ่งนี้ซื้อ น้ำปลา หัวหอม กระเทียม พริกแห้งมาด้วยนะ
                        คะ บ้านเราจะได้มีครบซักที 
เอก	 ได้จ๊ะเดียวพรุ่งนี้พี่แวะซื้อที่ตลาดมาให้
ลูกสาว	 พ่อซื้อตุ๊กตาให้หนูด้วยนะคะ
เอก	 ได้ซิจ๊ะลูก..เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อซื้อมาให้
ลูกสาว	 จริงๆนะ..เย้ๆๆๆๆ  ดีใจจังคะแม่ หนูจะได้มีน้องตุ๊กตาแล้ว 

                      เอก เขาเป็นคนที่รักครอบครับมาก วันรุ่งขึ้นหลังเลิกงาน พนักงานทุกคนก็รอรับเงินค่าจ้างรวมทั้งเอก
ด้วย พอถึงเอก..

นายจ้าง	 ชื่อเอกใช่ไหมเรานะ? 
เอก	 ครับ 
นายจ้าง          วันละเก้าสิบห้าบาท..สิบห้าวันก็เป็น1 ,425..  บาทนะ อ่ะนี่เอาไป
เอก	ครับ

	เอก ดีใจมากเขาไม่เคยมีเงินเยอะแยะขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต เขารีบไปซื้อของตามที่ภรรยาและลูกสาวต้องการ เขาเดินไปเจอร้านตุ๊กตาที่วางขายตามแผงลอยข้างทาง เห็นป้ายราคาติดไว้ตัวละ สามสิบห้าบาท เขาเลือกเอาตัวที่สวยที่สุด แล้วรีบขึ้นรถเมล์กลับบ้านไวไว คนขับก็เหมือนรู้ใจ ออกรถจนผู้โดยสารที่ยืนแทบงายหลังกันเลย

ลูกสาว	 เย้แม่จ๋าพ่อกลับมาแล้ว 
เอก	 ได้แล้วจ๊ะ..ตุ๊กตาของหนูจ๊ะ 
ลูกสาว 	 ขอบคุณคะพ่อ 
เอก	 อุ้ย..ใครสอนให้ลูกพูดคะ? 
ลูกสาว	 แม่ค่ะ 
ภรรยา	 ไหนของที่สั่งให้ซื้อล่ะคะคุณ? 
เอก	 อ้าว..ลืม  เดียวผมออกไปซื้อให้ใหม่แล้วกันนะ 
ภรรยา	 ไหนเงินคะพี่ขอฉันดูมั่ง..อู้ฮู..!!..ใบละห้าร้อยตั้งสองใบ 
                        ฉันไม่เคยจับเลยเคยจับแต่ใบละร้อย
เอก	 พี่อยากให้มันอยู่กับเรานานที่สุดเลย..เราใช้มันใบเดียวนะ 
                        อีกใบหนึ่งเราเก็บมันไว้	

	ทันใดนั้นเสียงเบรคของรถเมล์คันนั้นก็ดังขึ้นสนั่น เอก..ตกใจตื่นแต่ตัวก็ไปกระแทกกับรถ มีโดนผู้โดยสารคนอื่นกระเด็นมาทับ เขารู้สึกเจ็บท้องมาก จะร้องให้ช่วยก็ร้องไม่ออก เพราะตนเองถูกทับอยู่ล่างเพื่อนจนมูลนิธิมาช่วยยกขึ้นทีละคน เอก รู้สึกหายแน่นท้อง แต่ยังรู้สึกเจ็บเหมือนร่างกายจะขาดเป็นสองท่อน แล้วฝ่ายมูลนิธิที่มาช่วยก็พูดขึ้นมาว่า  ไอ้คนข้างล่างนี่โดนเหล็กทิ่มทะลุเลยว่ะ..มาช่วยกันดึงหน่อยเร็ว..!   เอก ถูกยกใส่เปล มีคนตะโกนบอกเขาว่า  เฮ้ย..อย่าหลับนะทำใจดีดีเอาไว้เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว เขาหันไปเห็นตุ๊กตาที่หล่นอยู่บนถนน พยายามร้องให้ตะโกนให้คนอื่นหยิบให้ แต่ไม่มีเสียง ได้แต่ตะโกนอยู่ในใจ  ตุ๊กตาของผม  เขารวบรวมแรงทั้งหมดที่มีพลิกตัวเองให้ตกจากเปล แล้วคลานไปหยิบตุ๊กตา พอเอื้อมมือหยิบ เขาไม่อาจทนความ
ง่วงได้จนเผลอหลับไป แล้วมันก็เป็นการหลับครั้งที่ยาวนานที่สุดโดยไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกเลย.

                                          )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
Lovings  )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**((( เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
Lovings  )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**((( เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
Lovings  )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**((( เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึง)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((