17 กันยายน 2546 14:06 น.

ธารรัก

ผีขี้เมา


ธารน้ำไหลไหลวนชลกระแส
สุดตาแลแลน้ำงามหนักหนา
สายสัมพันธ์พันเฝ้าเจ้าพระยา
สายธาราลาเลื่อนจนเลือนไกล

แต่สายจิตจิตวน  ณ  ชลนี้
ฝากวารีรี่หลากช่วยฝากให้
เจ้าพระยาอย่าพรากให้จากไป
ขอจงไหลไหลวนชลเคียงกัน..ฯ				
16 กันยายน 2546 16:10 น.

เหลือแต่ช้ำ

ผีขี้เมา


 อยากฝากใจที่ร้าวและหนาวเหน็บ
ให้เธอเก็บรักษาเยียวยาแผล
ในวันนี้มีใครที่ไหนแล
จะมีแต่คนย่ำให้ช้ำตาย

เอาความช้ำมาฝากอย่างมากล้น
หวังพึ่งคน เคยรักสมัครหมาย
หากความหวังพังภินทร์บิ่นทะลาย
คงต้องวายปราณลง  ณ  ตรงนี้

รู้ตัวว่าผิดไปไม่ยั้งคิด
เหลิงชีวิตจนอับยับยู่ยี่
ไม่ฟังคำพร่ำเตือนเพื่อนคนดี
จึงหมองศรีมีคาวอื้อฉาวไป

กลับมาอย่างคนพ่ายแทบตายด้าน
มีแต่ความร้าวรานเกินขานไข
เจ็บครั้งนี้สาหัสถนัดใจ
ทนอยู่ได้เพียงหวังอีกครั้งเดียว

เธอเท่านั้นที่หมายได้พึ่งพัก
หากไม่รักกลับเมินปล่อยเดินเดี่ยว
จะไม่ว่าอะไรสักน้อยเชียว
ขอไปตายทางเปลี่ยวอย่างเดียวดาย...ฯ				
15 กันยายน 2546 11:07 น.

ถลำรัก

ผีขี้เมา


ฉันต้องการกาลเวลาสักคราหนึ่ง
เพื่อหยั่งถึงถึงรักจริงสิ่งไฉน
จะได้อ่านอ่านให้ซึ้งถึงความนัย
เพื่อต่อไปไปใฝ่หามาพัวพัน

ระยะทางทางอีกไกลดังไต่เขา
เหมือนใครเอาเอาโลกใส่บนไหล่ฉัน
ในม่านเมฆเมฆยังแฝงแสงตะวัน
แสงรักอันอันอุ่นใจคลายเยือกเย็น

ในห้วงจิตจิตสลายคล้ายบาดเจ็บ
ทนหนาวเหน็บเหน็บและหนาวอย่างร้าวเข็ญ
เดินทางเปลี่ยวเปลี่ยวชีพเหงาเศร้าลำเค็ญ
มองไม่เห็นเห็นต้องย่ำซ้ำอีกที

อยากรู้รักรักนั้นเป็นเช่นไฉน
ช่วยขานไขไขให้แจ้งอย่าแหนงหนี
ฉันอยากรู้รู้ถึงรักความภักดี
เพราะจะชึ้ชี้นำทางอย่างมั่นใจ

ฉันต้องการกาลเวลาสักคราหนึ่ง
เพื่อมองถึงถึงรอบข้างไม่คว้างไหว
ฉันสุดหาหาที่สุขซุกซ่อนใจ
ดุจรักได้ได้สิ้นอย่างพบทางตัน....๚ะ๛				
11 กันยายน 2546 09:49 น.

ลาเมืองกรุง

ผีขี้เมา


ณ  ลานกว้างรายล้อมแมกไม้โมก
แผ่ใบปกต่างเพิงเป็นเชิงชั้น
ยามดนตรีสิ้นเสียงกระหึ่มพลัน
ชายหญิงต่างกรูกันรีบผันไป

ดังฝูงผึ้งหึ่งแตกเมื่อแยกย้าย
ดูวุ่นวายพลุกพล่านในย่านใหญ่
ไม่เหลือไว้เวลาคอยท่าใด
พากันไขว่ลานลนเรื่องตนเอง

ไม่สนใจฟ้ากว้างหรือทางเปลี่ยว
แม้จันทร์เสี้ยวยังค้างอย่างคว้างเคว้ง
ท่ามกลางอลม่านพาลวังเวง
ต่างคนต่างขรึมเคร่งทำเบ่งเบือน

ในเมืองกรุงลานกว้างกลับร้างไร้
เหมือนอยู่ใกล้ทุ่งกว้างกลางเมืองเถื่อน
แหงนดูดาวพราวพริบกระซิบเดือน
มองหาเพื่อนที่ไหนยังไม่มี

ดังขยะก้อนหนึ่งซึ่งไร้ค่า
ในสายตาคนเมืองอันเรืองศรี
ขอหลีกไกลหายหน้าจากธานี
สู่พงพีดงดอนดังก่อนมา...				
10 กันยายน 2546 12:13 น.

อย่าใกล้

ผีขี้เมา


แสงสุรีย์ลาเลื่อนลับเขื่อนขัณฑ์
งามเพ็ญจันทร์กระจ่างสู่กลางหาว
ระยิบยับวับผ่องละอองดาว
กลางไอหนาวเย็นซ่านสะท้านทน

ทอดกายลงปลงตกระทกท้อ
เพียงเฝ้ารอสิ้นใจอีกหลายหน
ความรวดร้าวเคล้าขลุกซุกกมล
ไม่ผ่านพ้นสักคราคอยราวี

ใจดวงเดียวเปลี่ยวร้างอย่างว้างเวิ้ง
ไร้ซึ่งเชิงเล่ห์หลอนแต่ก่อนนี้
จึงถูกย่ำหยามหมิ่นสิ้นใยดี
จากคนที่เคยรักฝากสัมพันธ์

จะไม่ของ้องอนคอยอ้อนออด
ใจดับมอดหมดแล้วในแววฝัน
อยู่กับเหล้าเมามายได้ทุกวัน
ดีกว่ากันมากนักหากใกล้เธอ..				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผีขี้เมา
Lovings  ผีขี้เมา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผีขี้เมา
Lovings  ผีขี้เมา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผีขี้เมา
Lovings  ผีขี้เมา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงผีขี้เมา