
ไม่เมาเหล้าแต่เราเมาความคิด
อำมหิตเกินใจอย่ามัวหา
เชือดนิ่มๆทั้งที่ยิม้พริ้มสบตา
ถึงรู้ว่า...ก็ยังต้อง...ต้องยอมทน
ขุนกระบี่เกรียงไกรในใต้หล้า
ปราบบรรดาเหล่าชั่วทั่วทุกหน
มีวิชาฝีมือแน่ไม่แพ้คน
แต่ต้องทนแพ้ใจในอกซ้าย
ไอ้หนุ่มแขนซ้ายลายมังกร
มีพรแห่งยันต์อันเหลือร้าย
หอกดาบปืนไฟไม่ระคาย
แต่ต้องพ่ายให้ความคิดจิตใจตัว
ดื่มเหล้าโรงเช้าสายยังหายสร่าง
ความคิดช่างเช้าสายไม่หายหัว
คอยขังครอบกรอบกั้นพันธนาตัว
ทุกข์ถ้วนทั่วแม้ฝืนอยู่มิสู้ตาย
แต่คิดตายก็อาย...ไอ้ความคิด
เป็นถึงศิษย์ตถาคตผู้ผ่องใส
เอาชนะกิเลสมารที่ซ่านใจ
คิดตัวให้น้อยหน้าระอาอาย
แต่จะขอฝืนสู้ดูสักครั้ง
ความคิดช่าง...ช่างความคิด...ที่คิดร้าย
มองแง่ดี...คิดที่ดีมีมากมาย
ถึงจะร้ายถ้าคิดดีคงดีเอง

ลมอ่อนๆจรเอื่อยๆเรื่อยระริก
กระซี้ซิกช้อนใบใล้พฤกษา
ใบระรี้กิ่งระริกกระดิกไปมา
เย็นนัยน์ตาเมื่อมายืนชื่นกระชวย
ทินกรอ่อนโอ้อัสดง
รอนรอนลงริบริบพริบนั้นสวย
แต่ชั่วคิดอาทิตย์ตกอกระทวย
เพราะคนสวยไม่มายืนชื่นชมนำ*
หวนนึกถึงครั้งนานเนาเก่ากาลก่อน
ทินกรอ่อนทีไรได้คมขำ
มายืนเคียงเบี่ยงกายซบ...ซบนำคำ
ว่าหล่าคำฮักอ้ายอายหน้าแดง
อย่าลืมนวลด่วนลาเดออ้ายเด๊อ
อย่าทำเผลอลืมคำมาทำแหลง
ทุกข้อคำนำพูดหล่าคำแพง
อ้ายไยเสกล้าแสร้งแกล้งทำลืม
ถึงศุกร์จึงมาที่เก่าแต่เช้าตรู่
ตามคำชู้สัญญาไม่ลืมหลง
รอยยิ้มร่าเปี่ยมสุขได้หุบลง
เพราะข้าคงยืนอยู่เดียวเปลี่ยวเอกา

โลกร้างกลางใจที่ไร้รัก
ฟูมฟักความเศร้าเปล่าเปลี่ยว
เจอตัวความเหงาเข้าไปเกี้ยว
ลดเลี้ยวไม่กล้าเกี้ยวจีบสาว
หลายครั้งเมินเดินผ่านทำไม่สน
หลายครั้งจนบ่มเพาะเป็นนิสัย
มากครั้งเข้าจนไม่กล้าสบตาใคร
เก็บเนตรนัยน์สบตาเหงาใต้เงาจันทร์

จากดอกดินถึงดอกฟ้าว่าคิดถึง
จากหัวใจดอกจึงรําพึงหา
จากวันนั้นจากฉันจากกานดา
จากเธอมาด้วยน้ำตาจากหัวใจ
จากนำคำหวานหวามที่ซ่านซาบ
จากวันนั้นรู้ใหมซาบอาบใจไผ
จากนำคำหนึ่งน้อยของกลอยใจ
จากกันไกลนึกถึงชู้มิรู้วาย
จากวันครั้งนั่งลาเถียงนาเศร้า
จากฟากเก่าฝนกร่อนสะท้อนไหว
จากรักมั่นต้องมาร้างลาไกล
จากนานไปหวั่นรักเป็นเช่นไพจาก
ขอคนดีที่ฉันรักดั่งตาแก้ว
ขอให้แว่วเสียงฉันครวญอย่าด่วนพราก
ขอให้แจ้งใจฉันไยเช่นไพจาก
ขอให้รู้รักเธอมากจากดอกดิน

พัลจิลพันใจเจ้า จงจํา
พันหมื่นบ่คืนคํา หว้าเพื่อน
พันใจแต่ก็จํา จากเมื่อ ถึงครา
ครานั้นเพียงกายเคลื่อน ห่อนได้ ใจแปรถึงเพื่อน