25 มกราคม 2547 21:39 น.

กราบเบญจางค์

พี่ดอกแก้ว

เพ่งพักตร์กลางปรักโบสถ์ 
รอยพระโอษฐ์แย้มละไม 
เนิ่นนานผ่านสมัย 
สงบนิ่งมิกริ่งเกรง 

กี่กาลที่ผ่านพ้น 
รอยคราบหม่นมาข่มเหง 
รุกล้ำมิยำเยง 
ก็เพียงผิวมีริ้วรอย 

ภาพศิลป์พุทธลักษณ์ 
ยังงามนักมิเสื่อมถอย
เพริศพิศประดิดประดอย 
ละออองค์ทรงพุทธา 

เสียงโพธิ์โล้ใบร่ำ 
ดุจลำนำแห่งภาษา 
บูชิตพระสัมมา 
ทรงพละชำนะมาร 

สกุณถลาเหิร 
ร่วมสรรเสริญซ้องขับขาน 
พระพายละลายพาล 
คลายรุ่มร้อนผ่อนเผากาย 

มาลาผกากรอง 
บนพานทองกลิ่นกำจาย 
อวลจิตให้พิศพราย 
ดื่มด่ำภาพกราบเบญจางค์ 

				
25 มกราคม 2547 21:32 น.

เพื่อน

พี่ดอกแก้ว

เสียงรอยเท้าย่ำทางจางจากพื้น 
กลางค่ำคืนเดียวดายในความเหงา 
เสียงไพรพฤกษ์พลุ่งพล่านทั้งม่านเงา 
ไร้เพื่อนมาแบ่งเบาความในใจ 

เคยเหนื่อยยากลำบากด้วยกันมา 
ร่วมฟันฝ่าบนทางอย่างชิดใกล้ 
สุมความคิดพิชิตพาลเพื่อรานภัย 
เพื่อนร่วมใจต่อสู้กู้ชะตา 

อิ่มและอดหมดเสบียงลำเลียงสุข 
เคยร่วมทุกข์ท้องกิ่วหิวหนักหนา 
ผ่านวันคืนรอยแผลแห่งเวลา 
มีหัวเราะหยาดน้ำตาทุ่มเถียงกัน 

ระหว่างเพื่อนเหมือนขมฝาดขาดรสหวาน 
ไร้น้ำตาลมธุรสพจน์เฝื่อนผัน 
คราวกริ้วโกรธโทษว่ากันและกัน 
เข้าห้ำหั่นบั่นใจใส่อารมณ์ 

คราวรู้คิดสะกิดถ้อยคอยขอโทษ 
สิ้นความโกรธสดชื่นลืมขื่นขม 
กอดคอกันฟันฝ่าป่าหนามคม 
คืออารมณ์ร้ายร้ายให้คลายไป 

รสน้ำตาลไร้มิตรคิดรักแท้ 
ความหวานแปรปลิ้นปลอกหลอกลวงได้ 
ดุจสายลมพัดผ่านแล้วเลยไกล 
สิ้นร่องรอยให้ไล้จับต้องตน 

เหมือนผู้ห้อมล้อมดาวคราวมีสุข 
ยามมีทุกข์ความหวานพานล่องหน 
กลายเย็นชืดจืดชาวางท่าตน 
มิใช่คนช่วยเหลือเมื่อภัยมา 

เพื่อนรสขมระทมใจไม่หวั่นหวาด 
เข้าฟันฟาดติติงอิงอาสา 
จวบจนสิ้นกำลังไร้ชีวา 
ทอดกายาแทบพื้นไม่ฟื้นชนม์ 

เหลือเพียงเดียวเปลี่ยวจิตคิดทดท้อ 
เห็นแสงทอจากฟ้าเวหาหน 
ดุจรอยยิ้มจากเพื่อนเตือนกมล 
ให้อดทนต่อสู้สู่ดวงดาว 

				
24 มกราคม 2547 07:54 น.

แสงธรรม

พี่ดอกแก้ว

ม่านดวงตาพร่าแสงแห่งชวาล 
ส่องประกายสักการที่เบื้องหน้า 
ประทีปคู่บูชิตพระศาสดา 
สาดมรรคาสว่างฉายให้เส้นทาง 

กว้างแสนกว้างร้างมิตรสนิทใคร่ 
คือโลกใหญ่มืดมนจนอ้างว้าง 
ดุ่มเดินเวียนทางรกปรกอำพราง 
ต้องครวญครางกลางวัฏฏ์มัดชีพตรึง 

ร้อยอารมณ์ถมใจไว้ด้วยช้ำ 
ร้อยกงกรรมเกี่ยวเกาะเพาะบาปขึง 
ร้อยชีวิตติดตมจมใต้บึง 
ร้อยชาติหนึ่งกับอีกชาติขาดปัญญา 

พบแสงทองส่องประกายยามใกล้ค่ำ 
คือแสงธรรมจากพุทธศาสนา 
ปริยัติปฏิบัติจัดชีวา 
ก้าวเข้าสู่มัชฌิมาสามัคคี 

ประทีปธรรมนำทางสว่างจิต 
ดุจมิ่งมิตรเคียงข้างสร้างราศี 
ไม่โดดเดี่ยวเปลี่ยวร้างคว้างฤดี 
ทุกถิ่นที่สว่างไสวในแสงธรรม 
				
15 มกราคม 2547 08:13 น.

คุณเอ๋ย...คุณครู

พี่ดอกแก้ว

คุณเอ๋ย...คุณครู 
ท่านคือผู้ประสิทธิ์วิชชาให้ 
อนุเคราะห์ขยายอรรถชัดความนัย 
กระจ่างใจต้องความตามวิธี 

เพียรบ่มเพาะเกาะเกี่ยวไม้เรียวรัก 
กระหวัดสัก..รอย..อดทนบนศักดิ์ศรี 
ให้กลับตัวกลับใจใฝ่รักดี 
สมกับที่เกิดมามีค่าคน 

ท่านโอบเอื้อเกื้อศิษย์ด้วยเมตตา 
ดุจนาวาบรรทุกผู้อยู่กลางหน 
โต้กระแสชลากล้าผจญ 
ขึ้นฝั่งชลพ้นห้วงจากบ่วงพาล 

แม้นศิษย์ดื้อถือวาทะระรานจิต 
ยังอุทิศเวลามาเพียรขาน 
ให้รักตนรักรู้วิชาการ 
และเชี่ยวชาญเพื่อชนม์ได้พ้นภัย 

พระคุณท่านนั้นเหลือจะแทนทด 
เกินกำหนดกล่าวขานเทียบสิ่งไหน 
น้อมเกศก้มประนมกรด้วยอ่อนวัย 
กราบดวงใจด้วยเคารพนบนอบเอย				
8 มกราคม 2547 21:34 น.

..ฝากลมหนาว..

พี่ดอกแก้ว

แสงพร่างพรายรายระยับวับวิบแวม 
แตะแต่งแต้มติดตรึงถึงห้วงฝัน 
ส่องประกายเฉิดฉายใต้แสงจันทร์ 
คือดวงตาคู่นั้นที่งดงาม 

บ่งความนัยบอกถึงใจที่เปี่ยมรัก 
แจ้งความภักดิ์ซื่อตรงคงล้นหลาม 
เผยถึงห้วงห่วงใยในทุกยาม 
สรุปความว่ามิตรแท้แน่แก่ใจ 

สายลมหนาวคราวนี้ที่ต้องผิว 
ชำแรกริ้วคำถามยามหวั่นไหว 
ตาคู่นั้นจักสุขทุกข์ประการใด 
ฝากลมไกวปลอบขวัญวันห่างกาย 
				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว