6 มิถุนายน 2552 18:28 น.

เด็กคนนั้น

ลุงเอง

เด็กคนหนึ่งเข้าค่ายพุทธบุตร
อยู่ในชุดสีขาวช่างสดใส
เพียงใบหน้าบ่งบอกวามเศร้าใจ
สายตาให้บ่งบอกชอกช้ำทรวง

   ถึงเวลาได้ทานอาหารแล้ว
เด็กเข้าแถวเรียงตัวพร้อมยิ้มหัว
เด็กคนนั้นน้ำตาใหลอย่างลืมตัว
มือสั่นรัวถือถาดให้บาดใจ

    เข้าไปถามด้วยความห่วงใยเด็ก
เหมือนถูกเด็ดดวงใจให้สั่นไหว
เธอบอกเห็นอาหารเศร้าหทัย
น้องอยู่ไกลไม่ได้กินอย่างเธอ

    คิดถึงแม่แต่ละมื้อไม่เคยอิ่ม
คิดถึงพ่อยอมให้ลูกเสมอ
มีเพียงน้ำปลาร้าที่พบเจอ
น้ำตาเอ่อมองกับข้าวช่างเศร้าใจ

   เด็กคนนั้นกินข้าวกับน้ำตา
ใจถามหาแม่พ่อน้องอยู่ใหน
หากที่นี่อยู่กันไม่ห่างไกล
จะขอไปให้ที่บ้านท่านได้กิน

   เป็นเรื่องจริงที่ประสบพบเห็น
น้ำตาเร้นตกข้างใจใช่ใจหิน
ต้องเดินหลีกปลีกตัวน้ำตาริน
ภาพหลังทิ้งบาดใจให้เจ็บทรวง

   ข้าวทุกเม็ดต้องหมดไม่ตกเหลือ
โปรดเอื้อเฟื้อเด็กยากจนที่ต้องห่วง
อนาคตของชาติช่างน่ากลัว
หากคนหว่งเพียงแค่แต่ตัวตน				
6 มิถุนายน 2552 17:57 น.

เรื่องของคน

ลุงเอง

สัจจธรรมนำชีวิตลิขิตเกิด
บางคนคนเลิศมั่งมีเป็นเศรษฐี
แต่บางคนอับจนไม่เคยมี
แบ่งชนชั้นศักดิ์ศรีมีกับจน

   เศรษฐีกินทิ้งขว้างอย่างเหลือทิ้ง
คนจนกินอัตคัดขัดสน
แบ่งกันกินประทังหิวทั่วคน
นี่แหละชนสังคมแห่งคนเมือง

   หมาเศรษฐียังกินเนื้อกระป๋อง
ยาจกต้องทนกินเพียงเศษเนื้อ
ลูกเศรษฐีกินกันอย่างเหลือเฟือ
เด็กสลัมกินของเหลือในเหลาดัง

    เรื่องความมีน้ำใจไม่เคยเห็น
ดุดั่งเช่นสังคมแต่หนหลัง
ต่างแข่งแย่งกัดฟัดบ้านเมืองพัง
เด็กยากจนนั่งฟังคำหลอกลวง				
2 มิถุนายน 2552 19:30 น.

สวัสดีด้วยคิดถึง

ลุงเอง

สวัสดีญาติมิตรที่คิดถึง
อีกหลานซึ่งจากหายมานานโข
ด้วยงานมากยากจะออกมาโชว์
คุยเหมือนโม้โถลุงให้กลุ้มใจ

   กลับจากงานต้องทำโปร์เจกร์ต่อ
แม้บางครั้งอาจท้อต่อไม่ไหว
แต่ว่าวานรับผิดชอบต้องทนไป
ใจนั้นไหวแต่กายกลายทรุดโทรม

   หมอนัดไปให้ตรวจสุขภาพ
ด้วยงานมากเลยนัดผลัดมากโข
หมอโทรมาต่อว่าด้วยโมโห
ลุงแทนต้องขอโทษโปรดอภัย

   ทั้งอบรมทั้งสอนต้องเรียนอีก
อยากจะปลีกหลีกเร้นป่าอาศัย
แต่ภาระจำต้องยอมทำใจ
สู้ต่อไปจนกว่าจะราโรย

   ที่เขียนมาเพื่อผ่อนคลายความเครียด
ร่างกายเสียดเหน็บชาพำให้โหย
จิบน้ำชาพลางมองงานให้อิดโรย
ลมพัดโชยโปรยปรายสายพิรุณ

   อากาศเย็นเช่นนี้ที่อ่อนล้า
หวัดนั้นมาถามหาไข้ปวดหัวหมุน
โรคภูมิแพ้อากาศมาเร้ารุม
แต่ต้องทุ่มผลงานสานเด็กไทย

   ดีที่สุดที่เราตั้งใจให้
ทุกนาทีผ่านไปใจยังไหว
สักวันหนึ่งถึงเวลาพักหลับไป
ไม่หวังใครอาลัยในตัวลุง

   อันวัวความหมายมีเขายามจาก
คชสารฝากงามีค่าคุ้ม
เสือมีหนังยังมากค่าคนรุม
ลุงแทนมุ่งคาวมดีอาจมีพอ

   สายตาพล่าการงานที่สานต่อ
จ้องที่จองานสร้างไม่อาจท้อ
หวังความรู้ให้เขามีเพียงพอ
เท่านี้พอขอให้ได้ผลจริง

   สุขอะไรไม่เท่าสุขที่จิต
งานอุทิศที่พร้อมยอมทุกสิ่ง
เพียงมีแค่สักคนรู้ความจริง
สุขใจยิ่งในสิ่งที่อดทน

.........ก็แค่เขียนคลายเครียดเนาะ  อย่าถือสาคนแก่เนาะ				
20 พฤษภาคม 2552 20:18 น.

ในที่สุดก็....เอวัง

ลุงเอง

..... เมื่อยามร้อนก็บ่นว่าอบอ้าว
แอร์ก็ห้ามเปิดด้วยช่วยประหยัด
มีพัดลมก็พังใบพัดหัก
ร้อนชะมัดอึดอัดให้ขัดใจ

..... พอฝนตกก็บ่นว่าเฉอะแฉะ
เสียงเหมาะแหมะรำคราญเสียงฝนใหล
ฟ้าคำรามเสียงดังชังช้ำใจ
ไม่สดใสหมองหม่นทนฝนพรำ

..... พอว่าหนาวครางสั่นให้ขัดขืน
ไม่สดชื่นนอนขดทนหนานซ้ำ
ทั้งเป็นหวัดจามดังน้ำมูกฉ่ำ
ให้ระกำสามฤดูต้องสู้ทน

,,,,, ไม่ว่าร้อนฝนหนาวเจ้าบ่นชัด
ให้เคืองขัดกลัดกลุ้มทุกแห่งหน
ในที่สุดเสียงบ่นก็หมดลง
เมื่อคนบ่นต้องตายหายรำคราญ				
19 พฤษภาคม 2552 23:10 น.

เฮ้อ.....เสร็จเสียที

ลุงเอง

ต้องนั่งเขียนโครงงานการศึกษา
ให้รู้ค่าพอเพียงเพียรศึกษา
ทั้งหลักการเหตุผลที่ยกมา
มีคุณค่าสอนเด็กเคล็ดโครงงาน

ชื่อแผนงานการทำต้องเด่นชัด
ไม่ให้ขัดชื่อโครงการงานศึกษา
หลักการและเหตุผลที่ยกมา
วัตถุประสงค์นั้นหนาตรงกัน

อีกเป้าหมายการทำต้องมีหลัก
วิธีการเด่นชัดไม่กลับหัน
ระยะเวลาต้องกำหนดกัน
ไม่พลิกผันเกินงบเป็นจบกัน

ใครรับผิดชอบโครงการสำทับ
หน่วยงานรับผิดชอบไม่เหหัน
การประเมินผลงานประสานกัน
ผลประโยชน์ที่ได้นั้นดั่งจำนงค์

การวางแผนต้องมองอนาคต
ตัดสินใจทั้งหมดต้องไม่หลง
ปฏิบัติงานนั้นต้องมั่นคง
ทั้งทีมตรงสัจจะสามัคคี

กว่าจะเขียนตามเป้าเข้าตามหลัก
ฉันนั่งพักหลายครั้งพักตาหรี่
เพื่อต้องสอนนักเรียนโครงงานดี
รู้ใหมนี่ลุงแทนหัวแทบพัง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงเอง
Lovings  ลุงเอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงเอง
Lovings  ลุงเอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงเอง
Lovings  ลุงเอง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลุงเอง