14 ธันวาคม 2552 16:21 น.

คนแบกโลก

ลูกหว้า

คนบางคนอยู่ในสภาพที่น่าจะสุข
แต่กลับมีความทุกข์ คนบางคน
อยู่ในสภาพที่น่าอยู่ในสภาพทุกข์
แต่กลับมีความสุข อยู่ที่ว่าคนๆนั้น
จะแบกโลกหรือวางโลก

คนแบกโลกคือคนที่ไม่รู้จักพอไม่รู้จักคิด
จะแบกทุกเรื่องราวจนคิ้วย่น จมูกยู่
ปากแบะ หาคนทั้งโลกที่ถูกใจสักคน
ยากเต็มที มีแต่ความหวาดระแวง
ผูกโกรธ อิจฉาจ้องจับผิดผู้อื่น
มักหาทุกข์หาโทษหาศัตรูใส่ตัวเองเสมอ

ไฟย่อมเผาตัวของมันก่อน
แล้วค่อยเผาสิ่งรอบข้างให้มอดไหม้
ฉันใด คนแบกโลกก็จะเผาตัวเองก่อน
แล้วเผาลามไปสู่คนรอบข้างฉันนั้น

ได้โปรดเถิด...อย่าแบกโลกเอาไว้เลย
ปลดโลกลงเสียเถิด วางโลกลงเบาๆ
แล้วอยู่บนโลกอย่างคนวางโลกทั่วไป
ปรับตัวปรับใจกับผู้คนการงานและสิ่งแวดล้อม
เสียใหม่ยอมรับเรื่องความไม่เที่ยง
ความไม่เท่า ความไม่แท้ของสรรพสิ่ง
ฝึกให้เป็นคนรู้จักพอใจ อดทน 
พร้อมที่จะให้อภัยแก่ทุกๆคน
ควรหมั่นรักษาใจให้เป็นปกติ
รู้จักข่มใจให้กระเพื่อม แม้จะ
ได้สุขหรือทุกข์มากระทบ
 ก็ไม่แสดงอาการขึ้นๆลงๆ
มีใจมั่นคงอยู่เสมอ แล้วจะรู้ว่า
ในสภาพที่น่าจะทุกข์ ทำไมถึงมี
ความสุขได้

"....อยากจะมีสุขไหม มันง่าย
นิดเดียว อย่าไปเกี่ยวทุกข์
เอามาใส่ใจ..."

*** คนแบกโลก  มักโชคร้าย  ตายก่อนเขา
เพราะมัวเอา  ความทุกข์  จากทุกหน
คนวางโลก  มีความสุข  ในกมล
เพราะรู้ตน  รู้ปรับใจ  อภัยเป็น				
13 ธันวาคม 2552 16:01 น.

แม้เป็นเพียง1ในใครที่เธอรัก

ลูกหว้า

แม้เป็นเพียงหนึ่งในใครที่เธอรัก

จะขอภักดิ์รักเธอไม่แปรผัน

จะขอเป็นหนึ่งในใครที่ผูกพัน

แม้บางวันอาจไร้เธอเคียงกาย

แม้เป็นเพียงหนึ่งในใครคอยแก้เหงา

จะขอเฝ้าปลอบประโลมให้เธอหาย

จากความเหงาความเศร้าเร้ารุมกาย

จนวันตายมั่นรักเธอไม่เปลี่ยนแปร				
13 ธันวาคม 2552 15:41 น.

บุปผากลางดินที่ถูกลืม

ลูกหว้า

ผีเสื้อน้อย  ลอยละล่อง ร่อนถลา
กุสุมา กลีบบาง พลิ้วปลิวไสว
เจ้าปีกสวย ดอมดม ชมชื่นใจ
ดูดดื่มไซ้ จนอิ่มหนำ สำราญทรวง
สุธาหวาน ปานน้ำตาล ที่ลิ้มรส
พอดูดหมด หยดน้ำหวาน ที่แสนหวง
กระพือปีก ลาจากเกสร  ทั้งรวง
พอตักตวง ลวงให้ช้ำ ก็บินไป
ไยสวรรค์ สาปฉันเป็น ดังเช่นบุปผา
เหล่าภุมรา เชยชม สมใจหมาย
ก็ทอดทิ้ง ให้เปล่าเปลี่ยว อย่างเดียวดาย
เป็นดอกไม้ กลางดิน ที่ถูกลืม				
11 ธันวาคม 2552 23:56 น.

โอ้ว่ายศ

ลูกหว้า

ยศตำแหน่ง เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์
มันเป็นของคู่โลกมานานแล้ว ทั้งอดีต 
ปัจจุบัน และคงจะมีต่อไปในอนาคต

ถ้ามียศได้ยศ ก็อย่าได้ดีใจนักหนา
เพราะว่าถ้าใช้ยศไม่เป็น
ใช้ยศเพื่อกอบโกยหรือเบียดเบียนผู้อื่น
ความอัปยศจะบังเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ถ้าไม่มียศ ไม่ได้ยศอย่าไปร้อนใจ
เศร้าใจนักหนาเพราะว่าที่สุด
ของยศ คือการไม่มียศ หากมันไม่จากเราไป
เราก็ต้องจากมันไป คิดเสียว่า ถ้าเราทำ
ดีที่สุดแล้ว ยศย่อมวิ่งมาหาเราเอง 
แม้เราไม่ต้องการก็ตาม

เมื่อได้ยศแล้ว ก็อย่าไปยึดมั่นถือมั่นนัก
เพียงแต่ให้ยึดมันถือมันนำมาใช้
ให้เป็นประโยชน์สุข โดยชอบธรรม
แก่คนหมู่มากให้มากที่สุด
แล้วยศที่ได้มานั้น จะเป็นเกียรติยศ 
ยศอันทรงเกียรติ ยศอันน่าภาคภูมิใจ
และควรค่าแก่การบูชา คารวะจากอนุชนรุ่นหลังสืบไป...

** อันตำแหน่ง แลยศ ยืดหดได้
หากใส่ใจ มันนัก มักปวดหัว
ทำวันนี้ ดีที่สุด อย่าไปกลัว
ตัวของตัว ย่อมรู้ดี สุขีเอย				
11 ธันวาคม 2552 22:59 น.

น้ำใจ

ลูกหว้า

เมื่อใดใจตระหนี่ ใจคิดอยากจะเอา อยากจะได้
เมื่อนั้นใจจะผิดปกติ เร่าร้อน เป็นใจที่อาภัพที่สุด

เพราะแม้ว่า หากได้สมบัติหมดฟ้าหมดแผ่นดิน
ก็ไม่สามารถยังความพอใจให้คนโลภเพียงคนเดียวได้

คนตระหนี่ไปสวรรค์ไม่ได้เลย คนตระหนี่มีความสุข
ไม่ได้เลย ผู้ฉลาดจึงเปลี่ยนความโลภ ความตระหนี่
เป็นความเสียสละ แบ่งปัน รู้จักให้และมีน้ำใจต่อกัน

น้ำสามารถกัดกร่อนขุนเขามหึมาได้ แต่น้ำใจทำได้
ยิ่งกว่านั้นทน้ำใจย่อมซื้อใจ ซึ่งเงินไม่สามารถซื้อได้
น้ำใจจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ

นักรบ ที่มีวินัย แม้กำลังจะน้อย ย่อมเอาชนะข้าศึก
ผู้มีกำลังมากฉันใด บุคคลผู้มีน้ำใจ แม้จะช่วยเหลือ
แบ่งปัน ให้ทีละน้อยก็ย่อมชนะใจทุกคนได้ฉันนั้น

น้ำใจ จึงเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าอย่างเอเนกอนันต์				
ไม่มีข้อความส่งถึงลูกหว้า