5 กันยายน 2545 12:42 น.

หน้าต่าง กับ หัวใจ

วรศรี.

ย้ายหอเที่ยวนี้โชคดีเหลือหลาย
          เพราะได้มาใกล้ชิดน้องสมศรี
          หน้าต่างห้องเราตรงกันพอดี
          ทุกเช้าตัวพี่ตื่นเต้นดีใจ

          ตื่นเช้าขึ้นมารีบเปิดหน้าต่าง
          เปิดให้กว้างๆเพื่อมองหน้าสมศรี
          ต่างคนต่างจ้องมองกันทุกที
          หน้าต่างบานนี้เหมือนมีมนต์ดลใจ

          หน้าต่างตรงกันสำคัญอยู่ที่ใจ
          ตัวพี่อยากให้ใจเราตรงกัน
          โปรดเปิดประตูสู่ใจของฉัน
          ใจเราตรงกันว่า **ฉันรักเธอ**

          แต่มีสิ่งหนึ่งยังตรึงใจพี่
          มุ้งลวดบานนี้ถอดออกได้ไหม
          เห็นน้องไม่ชัดพี่มันอึดอัดในหัวใจ
          โชคดีแล้วไซร้........ทำไมจึงมีกรรม

          ถ้าหากน้องเผลอมาเจอกลอนนี้
          อย่าบ่นอู้อี้รีบแจ้งแถลงไข
          ว่าน้องจะรับรีบกลับไปปรับใจ
          ถอดกลอนใจไว้...............พี่....จะ....ไป....เปิด....เอง.

                                                                                     วรศรี				
30 สิงหาคม 2545 13:29 น.

อยากฝากถาม...ตามหาแม่ยาหยี

วรศรี.

จับปากกาวาดอักษรเป็นกลอนเศร้า
เมื่อถึงคราวเธอมาหลบหน้าหนี
เคยกระซิบบอกว่ารักแถมภักดี
จนป่านนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงา

พี่ทำผิดสิ่งใดใคร่อยากรู้
แล้วจู่ ๆ เธอมาพรากไปจากพี่
แม้แต่คำว่า..ร่ำลา..ยังไม่มี
ทุกข์ทวีท่วมท้นล้นฤทัย

อยากฝากดาวบนท้องฟ้าตามหาน้อง
พี่จะจ้องดูดารากระพริบหมาย
หากพบน้องช่วยสักนิดสะกิดกาย
ว่ามีชายคนหนึ่งเศร้าเคล้าน้ำตา

อยากฝากลมช่วยบอกให้เธอรู้
ช่วยกระซิบข้างหูเธอได้ไหม
ว่าชายนี้รักเธอยิ่งกว่าสิ่งใด
โปรดดลใจให้เธอกลับไป**ทับกวาง**

อยากฝากมหาสมุทรสุดลึกล้ำ
หากเธอจะลงไปแล่นน้ำและดำหัว
ขอให้ฟองคลื่นน้อยๆค่อยๆพยุงตัว
เพื่อผิวน้องนวลละออได้ปลอดภัย

อยากใคร่ฝากพื้นทรายตามชายหาด
ยามที่เธอนวยนาดไปหรรษา
โปรดช่วยจำ**รอยเท้า**น้อยๆของนัดดา
พี่จะรีบคลานมาถ่ายรูปจูบแทนใจ

อยากฝากตามถนนและหนทาง
ยามที่เธอจะเยื้องย่างไปทางไหน
ขอได้โปรดช่วยสักนิดสะกิดใจ
ว่าชายไทยคอยฝันหาด้วยอาวรณ์

ฝากอะไรกันไปหลายอย่างแล้ว
เหลือก็แต่เพื่อนแก้วในกลอนใส
หากใครพบนวลน้องหน้ายองใย
โปรดนำเธอกลับคืนไป.............ใส่ในจอ. (นะจ๊ะ)
                                                         วรศรี				
29 สิงหาคม 2545 13:26 น.

บทเรียนก่อนวิวาห์

วรศรี.

ญ. ใกล้ถึงวันวิวาห์พาใจสั่น
     ทั้งตื้นตันและใจหายมลายสูญ
     กลัวว่าพี่จะมาบีบคั้นให้อาดูรย์
     ขอเทิดทูนอย่าให้ช้ำระกำใจ

ช. รักอย่างนี้มีหรือจะให้ช้ำ
     พี่ขอย้ำรักเธอแน่ไม่แปรผัน
     จะขออยู่ร่วมหอไปทุกคืนวัน
     จวบชีวันของพี่สิ้นดิ้นดับไป

ญ. งั้น..น้องขอถามอะไรพี่หน่อย
     พี่ค่อยๆเฉลยงามตามอักษร
     คืนแรกนี้ก่อนที่น้องจะเข้านอน
     น้องจะจรไปทิศไหนถึงจะดี

ช. ทิศไหนไม่สำคัญหรอกขวัญพี่
     อยู่ตรงกลางนี่แหละดีกว่าทิศไหน
    หากผีมาใจของน้องต้องแกว่งไกว
    พี่ก็จะขอเปิด....ดวงใจ....ให้ผีดู

ญ. ส่วนข้อสองที่น้องจะถามพี่
     น้องจะยืนอยู่ตรงนี้จะดีไหม
     หากคุณพี่จะต้องการของสิ่งใด
     น้องจะได้รีบหามาบริการ

ช. โอย! ไม่ต้องยืนทั้งคืนหรอกจอมขวัญ
     ทั้งเจ็ดวันให้น้องนอนได้เต็มที่
     แต่คืนแรกพี่ขอหอมแก้มน้องสักสองที
     ต่อจากนี้แล้วแต่น้องจะต้องการ

ชญ.อ๋อ! งานวิวาห์ก็เป็นเช่นแบบนี้
     รู้อย่างงี้แต่งกันทุกคืนก็ยังไหว
     ไม่เห็นจะต้องมายุ่งยากลำบากใจ
     แต่งกันไปสักสองปี.......ลูกสี่คน

                                                  วรศรี				
22 สิงหาคม 2545 12:23 น.

ไก่กับพลอย

วรศรี.



สุภาษิตโบราณท่านสอนไว้
ลูกหลานได้เก็บมาคิดเป็นปริศนา
ว่าคำสั่งคำสอนแต่ก่อนมา
ยังมีค่าคุณอนันต์แก่บรรพชน

เรื่องยังมีแม่ไก่แจ้อยู่ตัวหนึ่ง
ทุกวันซึ่งคุ้ยเขี่ยหญ้าหาอาหาร
ได้พบพลอยเม็ดงามตามกลางลาน
ใจซาบซ่านนึกว่าได้สมอารมณ์ปอง

ไก่จึงพูดขึ้นมาว่าข้าไม่โปรด
ต้องขอโทษจะคืนไปให้เจ้าของ
อยู่กับเราไม่มีค่าราคาครอง
จำใจต้องคุ้ยเขี่ยไปไม่เหลียวแล

สุภาษิตบทนี้ท่านสอนไว้
ของสิ่งใดต้องมีคู่อยู่ผสม
เหมือนเราได้...ของดี...มานานนม
ต้องอกตรอมเพราะไม่รู้ว่า....มีค่า...เอย.

                                                    วรศรี.				
6 สิงหาคม 2545 14:45 น.

กลอนสอนใจ (ของหลวงพ่อจรัญ)

วรศรี.

วันพรุ่งนี้            อยู่ไกล             ยังไม่เกิด
ช่างมันเถิด        อย่าร้อน           ไปก่อนไข้
วันวานนี้           ตายแล้ว           ให้แล้วไป
อย่าเอาใจ         ไปข้อง               ทั้งสองวัน
ถ้าวันนี้             สดชื่น                ระรื่นจิต
อย่าไปคิด         หน้าหลัง             มาคลั่งฝัน
สิ่งที่แล้ว           แล้วไป               ให้แล้วกัน
สิ่งที่ฝัน            ยังไม่มา              อย่าอาวรณ์

         กลอนบทนี้ของพระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพ่อจรัญ)
         แห่งวัดอัมพวัน  อ.พรหมบุรี  จ.สิงห์บุรี				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวรศรี.
Lovings  วรศรี. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวรศรี.
Lovings  วรศรี. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวรศรี.
Lovings  วรศรี. เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวรศรี.