7 มีนาคม 2553 20:31 น.

เงยมองฟ้า หรือก้มหน้ามองโคลนตม

วาวเดือน

ระบำดาวพราวกระพริบระยิบแสง
งามปรุงแต่งแห่งเวิ้งฟ้าราตรีศิลป์
ลมระยับจับต้องผิวหวิวในจินต์
พร้อมโชยกลิ่นไอดินหอมกล่อมเงาดาว

เสียงความเงียบเงียบจริงยิ่งกว่าเงียบ
ความเย็นเยียบเฉียบฉาบในคราบหนาว
เสียงใบไม้ไหวระริกพลิกร่วงกราว
น้ำค้างพราวราวหยาดฝนหล่นร่วงริน

ถามความมืดคืนสงบสนิทนิ่ง
อยากรู้จริงความในทรวงดวงถวิล
ตอบได้ไหมใครสร้างเจ้าเงามลทิน
อีกดวงนิลนิรัติศัยในนภา

ความมืดยินสิ้นคำถามตามสงสัย
มิร่ำไรไขแจ้งแห่งกังขา
เห็นหรือไม่ในความมืดอันจืดตา
บนฟากฟ้ายังดาดาวพราวแสงนวล

เจ้าเห็นไหมในเวิ้งฟ้าอากาศกว้าง
แม้นเวิ้งว้างว่างเปล่าราวกำสรวล
หากมีดาวพราวสักดวงห้วงฟ้ามวล
ก็อบอวลชวนแอบอุ่นกรุ่นกลิ่นใจ

มืดเยี่ยงข้าฤๅกล้าสู้หลู่แสงทิพย์
แม้ระยิบระยับแสงแรงอ่อนไข
แต่ก็สู้อุตส่าห์ส่องท้องฟ้าไกล
หวังเพียงให้แสงระยับขับมืดมัว

เมื่อมืดมิดจึงรู้ค่าคราไร้แสง
โลกจึงแจงแต่งตัวข้ามาสลัว
ให้แสงดาวที่เจ้าถามมาตามตัว
ไล่ความกลัวแห่งมนุษย์ฉุดปัญญา

นิศากาลจะผ่านไปในไม่ช้า
แต่อัตตายังมืดมนยากค้นหา
อากาศมืดเพียงชั่วฟากก็จากลา
แต่ปํญหาคือใจมืดไม่จากจร

เจ้าเลือกเองจะก้มหน้าฝ่ามืดมิด
และยึดติดมองโคลนตรมจมปลักหนอน
ฤๅเงยหน้ามองดาราฟ้าอมร
ข้าลาก่อนต้องจรไปในทิวา

ฉันยืนเดี่ยวเหลียวมองรอบกรอบชีวิต
เพิ่งได้คิดธรรมชาติสาดนาสา
หอมกลิ่นดินผินมองฟ้าหาปํญญา
แล้วหลับตาเสพไอดินสูดกลิ่นดาว

07/03/2553 
วาวเดือน


ในความมืดยังมีจุดสว่าง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ย่อมดีกว่าคอตกก้มหน้าดูดินโคลน  
เพราะเบื้องบนยังมีแสงดาว ....

 ปล.   ความบางตอนจากหนังสือเล่นนั้น และขออนุญาตผู้เขียนนำมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆในบ้านกลอนค่ะ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวาวเดือน
Lovings  วาวเดือน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวาวเดือน
Lovings  วาวเดือน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวาวเดือน
Lovings  วาวเดือน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวาวเดือน