15 พฤษภาคม 2553 21:23 น.

ความขัดแย้ง บน ความหวัง

วิทย์ ศิริ

     โหมกระหน่ำ  กรรมซัด  วิบัติภัย
เมื่อสิ้นบท  ปราศรัย  ในไมตรี
หมดทายทัก  รักใคร่  ในปรานี
ปฐพี  แห่งนี้  ที่เดียวดาย


     คนกลุ่มใด  ใคร่ยินดี  ปรีดิ์ปราโมทย์
ได้ประโยชน์  สมหวัง  ยังเป้าหมาย
มุ่งสำเริง  เชิงชั้น  ปั่นอุบาย
มุ่งทำลาย  หายนะ  ธรณินทร์


     ความขัดแย้ง  รุนแรง  แข่งโต้ตอบ
หมดความชอบ  กรอบความดี  ที่ยลยิน
ความถูกต้อง  คับข้องใจ  ในแดนดิน
คราวสูญสิ้น  สามัคคี  ที่เกี่ยวดอง


     ความหวังนั้น  สั่นไหว  ใจทั่วหล้า
ขอความกล้า  พลิกฟื้น  คืนขวานทอง
หวังทวงถาม  ความเข้าใจ  ไทยเรืองรอง
หวังสติ  ตริตรอง  ครองใจมั่น


     ความขัดแย้ง  บนความหวัง  ยังปรากฏ
หากเพียงลด  ทิฐิ  ที่ขวางกั้น
ร่วมแก้ไข  ในเหลื่อมล้ำ  ค้ำขีดขั้น
เพราะสังคม  ชนชั้น  นั้นข่มเหง				
11 พฤษภาคม 2553 21:43 น.

รักนี้......(หลากมิติ)

วิทย์ ศิริ

       รักนี้........ที่มีนิยาม
มากบทความร่วมกล่าวขาน
รวมเรื่องสั้นแห่งวันวาน
แม้กระทั่งคำสาบาน........ของคนรัก


      รักนี้........ที่มีคำตอบ
ครั้นปลุกปลอบชโลมจิต
สารบรรณแห่งชีวิต
กลับย้อนเงาเพ่งพินิจ........ถึงคำถาม


      รักนี้........ที่มีลมหายใจ
เติมเต็มไม่เว้นหวั่นไหว
ทุกอณูแห่งคลั่งใคล้
ยากลบเลือนจดจำใคร........คนสุดท้าย


      รักนี้........ที่มีพลัง
สร้างมนต์ขลังอเนกอนันต์
เป็นคัมภีร์แห่งนิรันดร์
หนุ่มสาวใดใจรักมั่น........ถูกจองจำ


      รักนี้........ที่มีความหมาย
บรรยายสู่ห้วงเหวลึก
ตำนานแห่งแก้วผลึก
เหลี่ยมวาวล้ำคำจารึก........รักข้างเดียว


       รักนี้........ที่มีอนาคต
สวยหมดจดจวบบรรจบ
วันหน้าแห่งมหรรณพ
ใจเสกสรรค์ฝันใฝ่ครบ........ไม่แน่นอน


      รักนี้........ที่มีความหลัง
คืนความหวังเคยเสาะหา
เนตรสวรรค์แห่งเมตตา
ดำรงธรรมช่วยนำพา........พร้อมเงื่อนปม


      รักนี้........ที่มีเสียสละ
สิ้นราคะอบายภักดิ์
ยิ่งใหญ่แห่งอัตลักษณ์
วิมานอยู่คู่ประจักษ์........เพียงพ่อแม่				
7 พฤษภาคม 2553 21:40 น.

เวลา.....เหรียญแห่งชีวิต

วิทย์ ศิริ

     เปรียบคือเหรียญ  หนึ่งเดียว  ที่เที่ยวหา
คนมากหน้า  หลายตา  มองหากัน
มีอยู่ทั่ว  ทุกตัวคน  ชนทุกชั้น
คืนและวัน  มันอยู่  คู่เหตุการณ์

     กล่าวกันว่า  ของมีค่า  ที่น่าครอง
ต้องสิ่งของ  สมบัติ  พัสถาน
ต้องหายาก  ซุกซ่อน  ร่อนสายธาร
ต้องยิ่งใหญ่  โอฬาร  ตระการตา

      แต่จริงแท้  แน่แก่ใจ  ในชีวี
บรรดามี  ก็ที่ใจ  ใคร่เซาะหา
หากตระหนัก  ประจักษ์ตรึง  ถึงมรรคา
สิ่งล้ำค่า  ร่ำลือ  คือ "เวลา"

     ครั้นเป็นเหรียญ  เพียรมอง  ทั้งสองด้าน
ชั่วหรือดี  ที่หน่วยก้าน  พื้นฐานกล้า
ต้องมั่นเพียร  เรียนรู้  คู่ศรัทธา
แยกสัจจา  อวิชชา  อย่าสับสน

     ครั้นกล่าวถึง  เวลา  มีค่ายิ่ง
หากชีวาตม์  มุ่งมาดจริง  มิ่งกมล
ซ่อนวาระ  สาระแน่  แต่ละคน
ขาดอดทน  จนพลั้งพลาด  อาจเสียดาย

     หวังก่อเกิด  ปราโมทย์  ประโยชน์นาน
ก่อสัณฐาน  การทำดี  ที่มุ่งหมาย
อย่าลดละ  เจียระไน  ประไพฉาย
ก่อนจะสาย  ตะวันลับ  ชีพดับสูญ

     เวลา ณ.  ขณะนี้  ชี้ชะตา
ผลข้างหน้า  เพราะวันนี้  ที่เกื้อกูล
แลข้างหลัง  หากยังคิด  จิตอาดูร
เสียเวลา  อากูล  พูนกังวล

     ด้านหนึ่งนั้น  สำคัญผิด  ติด "เวลา"
กลายนำพา  ร่ายเรียง  เปลี่ยนผู้คน
เหตุเบื้องหน้า  ท้าชม  สมเหตุผล
อีกระคน  ปนเท็จ  ช่างเด็ดดวง

     มองอีกด้าน  ของ "เวลา"  พาเปิดเผย
"ตัวตน"เคย  ซ่อนเร้น  ประเด็นลวง
เพ-ลาผ่าน  ม่านชีวิต  พินิจทรวง
ชนทั้งปวง  ล่วงเลย  เผย "ตัวตน"				
5 พฤษภาคม 2553 21:37 น.

สิ้นมนต์ขลัง?

วิทย์ ศิริ

     ทุกสิ่งสรรพ์  ลับลา  พาใจแป้ว
คงไม่แคล้ว  แปรเปลื่ยน  หมุนเวียนไป
เคยต้องมนต์  สนเท่ห์  เสน่ห์ใจ
สุขหทัย  ไป่สิ้น  ปิ่นไมตรี

     ใจดำริ  ตริคิด  จิตซุกซ่อน
หวังเหมือนก่อน  คงอ่อนล้า  ท้าวิถี
แม้นต้องปล่อย  ล่องลอย  ค่อยวจี
หวังอีกที  ฤดีนี้  ที่ปล่อยวาง

     สิ่งสร้างสรรค์  พลันสดุด  หยุดไหวติง
สะกดนิ่ง  ยิ่งฉงน  ผลขัดขวาง
เหตุปัจจัย  ในหรือนอก  บอกหลอกทาง
ช่างเลือนราง  บอบบาง  ฟางเส้นเดียว

     ทอดสายตา  มองหา  ฟากฟ้าใส
นิมิตใหม่  ใช่สุดท้าย  ทางสายเปลี่ยว
สุขเกษม  เปรมปรีด์ไร้   ใครแลเหลียว
ใจลอยล่อง  ท่องเที่ยว  ฟองเกลียวคลื่น

     สิ่งพึ่งพิง  ยิ่งไขว่คว้า  ใจว้าวุ่น
บ้างเคืองขุ่น  หนุนนำ  จำกล้ำกลืน
ฤาสิ้นวาว  คราววิลาส  มิอาจฝืน
สุดขัดขืน  ชื่นกานต์ถิ่น  สิ้นมนต์ขลัง?				
16 เมษายน 2553 21:45 น.

ต้นสายปลายเหตุ.....วิกฤติชาติ

วิทย์ ศิริ

     ชาติระส่ำ  กรรมซัด  สุดขัดขวาง
มากเหตุการณ์  ท่ามกลาง  ระหว่างแก้
เหตุขัดแย้ง  อำนาจ  อนาจแท้
ชาติพ่ายแพ้  แน่นอน  แต่ฝ่ายเดียว

     ชาติวิกฤติ  ทั่วทิศ  ยากคิดสาน
อาจเนิ่นนาน  ทศวรรษ  อึดอัดเทียว
เหตุผจญ  ผลประโยชน์  อุโฆษเชียว
หมายอำนาจ  หนึ่งเดียว  เกี่ยวสุดใจ

     ทั้งแบ่งแยก  แตกหัก  ในหลักคิด
กลายวิกฤติ  สถิตซ่อน  อีกบ่อนไซ
ไฟสุมขอน  ภัยรุมล้อม  ทั้งนอกใน
สร้างเภทภัย  นัยชนชั้น  อันแยบยล

     แนวอ้างอิง  อยุติธรรม  นำเสนอ
ยากพบเจอ  เสมอภาพ  สาธุชน
จุดชนวน  ป่วนปั่น  นั้นหวังผล
ทุกแห่งหน  ชนร้าวฉาน  ห้าวหาญใจ

     ย้อนเรื่องราว  คราวริเริ่ม  ประชานิยม
กลหลอกลวง  ให้ปวงชน  คนหลงใหล
เอกปัจจัย  ในชนบท  คนห่างไกล
คนยากไร้  ขาดโอกาส  องอาจพลัน

     สร้างกระแส  วัตถุนิยม  เป็นปมเขื่อง
นโยบาย  เฟื่องเลื่อนลอย  คอยเงินผัน
แสร้งสัจจา  มายาภพ  อย่างครบครัน
กลายเชื่อมั่น  ฝันเรืองรอง  หวังครองทุน

     หากตระหนัก  ความจริง  ยิ่งเหลือเชื่อ
คนรวยเมื่อ  อวยเชื้อเชิญ  เงินเกื้อหนุน
ลดช่องว่าง  กลับห่างกว่า  ว่าค้ำจุน
กลับเพิ่มดุล  เป็นบุญคุณ  ทุนสามานย์

      หากเป็นไพร่  ใช่รากหญ้า  ทั่วหล้ามี
หวังเต็มปรี่  กดขี่สิ้น  ถิ่นแดนขวาน
สรรเสริญอวย  ทวยราษฎร์  วาดก่อการ
หวังเปลี่ยนผ่าน  อภิวัฒน์  รัฐไทยใหม่

     วาทกรรม  กระหน่ำ  ซ้ำแตกแยก  
แบ่งฝักฝ่าย  หญ้าแพรก  แหลกดั่งใจ
บ้างชวนเชื่อ  เอื้ออามิส  สินจ้างให้
บ้างฝักใฝ่  ในลาภยศ  ป้อปดกัน

     ตัวละคร  สอนสั่ง  ลั่นเวที
บทบาทดี  วาดบีฑา  ท้าฟาดฟัน
ไร้ตัวตน  คนศีลวัตร  อัศจรรย์
อภิปราย  ร่ายเมามัน  สันหลังขด

     ความวิโยค  โศกสลด  อดทนไว้
เหตุคลั่งไคล้  หลั่งเลือด  ดั่งปรากฏ
ทุกข์ของชาติ  อนาจมาก  หากเหลืออด
อาจรันทด  อัปยศ  ศึกกลางเมือง

     เพราะต้นสาย  ปลายเหตุ  นักเลือกตั้ง
ขาดยับยั้ง  ชั่งใจ  ในแค้นเคือง
ก่อวิบัติ  สารพัด  ชัดหนุนเนื่อง
เอาบ้านเมือง  ประลอง  ผองภัยพาล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิทย์ ศิริ
Lovings  วิทย์ ศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิทย์ ศิริ
Lovings  วิทย์ ศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิทย์ ศิริ
Lovings  วิทย์ ศิริ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวิทย์ ศิริ