6 กุมภาพันธ์ 2554 03:00 น.

บัวพ้นน้ำ(ล้ำ)

ศรีสมภพ

บัวพ้นน้ำ (ล้ำ)


วันเดือนเปลี่ยน เวียนไป ปีไล่วก
สัจจะโลกโศกสุข คลุกเปลี่ยนผัน
บัวพ้นน้ำ ค้ำช่อ ล้อตะวัน
ใต้น้ำนั้น พลันสยบ กลบฝังตาย

หยิ่งผยอง พองขน ว่าพ้นล้ำ
อยู่เหนือกรรม ทำกร่าง ไม่วางหาย
หลงอวดเก่ง เบ่งบ้า ฆ่าไม่ตาย
เหมือนเหล่าหลาย ใต้น้ำ ช้ำจมดิน

อีกเหนือนั้น ตะวันแดง สาดแสงกล้า
แผดเผาไหม้ใต้ฟ้าอาณาถิ่น
เหนือใต้น้ำหรือข้ามพ้นทั้งบนดิน
อาจดับดิ้นสิ้นแรงแห่งกฎกรรม

จะโง่เง่าก้าวฉลาดก็พลาดพลั้ง
หากจิตยังอยากได้ไม่อิ่มหนำ
ทั้งตัณหาราคะไม่ละทำ                       
ถึงเหนือล้ำก็แค่รอ ...ฝ่อแห้งตาย				
5 กุมภาพันธ์ 2554 13:08 น.

ชัยชนะ! ของผู้แพ้

ศรีสมภพ

ชัยชนะ ! ของ..ผู้แพ้
  
..ซากกองสุม คลุ้มคลั่ง หลังเรื่องยุ่ง
 สาบกลิ่นคลุ้ง  ควันชัง หลังเผาผลาญ
เสียงสวดส่ง ปลงผู้สิ้น สืบวิญญาณ                                                               
ร่ำไห้กัน กลั้นสะอื้น ฝืนบรรเทา

 ข้างสองฟาก ซากเคยอยู่ ของผู้แพ้
เหลือเพียงแค่ แลร้าง ความว่างเปล่า
บ้านร่วมอยู่ อู่อิงอุ่น นอนหนุนเกล้า
ถูกสองเรา เผาผลาญ คืนผ่านมา
   
ไฟโกรธา.. ถาโถม โหมน้องพี่
กลบความดี ที่เรา เฝ้าก่อกล้า                                                                      
เกาะเกี่ยวก้อย คอยช่วยกัน ฝ่าฟันมา                                                         
สร้างหลังคา คลุมดิน ถิ่นแม่พ่อ  

    ไฟโลภหลง ปลงปลด หมดสายเยื่อ
ไม่มีเหลือ เชื้อตระกูล คุณเคยก่อ
เป็นศัตรู ไม่รู้ตัว กลัวไม่พอ
   ซ้ำเติมต่อ พ่อแม่ยั้ง ไม่ฟังกัน                                

ช่างน่าเศร้า.. ต่างเผาบ้าน อนันต์อนาถ                                                         
เข้าฟันฟาด ประกาศศึก ฮึกเหิมลั่น                                                            
เลือดพี่น้อง ผองเผ่า เราขาดกัน !                                                                  
ต่อนี้นั้น บ้านจะพัง ช่างหัวใคร    

  รวมเพื่อนกล้า ถาโถม โรมรันสู้
ถ้ากูอยู่ มึงอย่าอยู่ จงรู้ไว้
เร็วพวกเรา ! เผาเข้าไป ให้วอดวาย
เอาให้ตาย ต้องชนะ  ฉะพวกมัน !


เห็นกองซาก ยากกอบกู้..จะอยู่อย่างไร ?                                                     
เหลือเศษไฟ ไหม้ดำ ช้ำโศกศัลย์                                                                   
ฝั่งฟากสอง พี่น้องจ้อง มองตากัน                                                                     
ร่ำรำพัน ฝันหรือจริง นิ่งงงงวย


ใครชนะ.. หรือ ใครแพ้.. ก็แค่นี้
หลงตนดี หลงตัวไป ใครจะช่วย
บ้านมอดไหม้ ใครหลายคน ก็มอดม้วย
หวังใครช่วย ร่วมด้วยกัน เผาบ้านเอง				
5 กุมภาพันธ์ 2554 07:09 น.

ละแล้วว่าง..วางก็เบา

ศรีสมภพ

..ธรรมชาติ วาดและบรรเลง เพลงธรรมชาติ
    คือสิ่งสัจจ์ ชัดแจ้ง ทุกแห่งหน
    สรรพสิ่ง  วิ่งหรือว่าย ในวังวน
    มีอีกมาก อยากพ้น ยังวนในขอบ
  
      แสงทอง..ส่องทาง สร้างสัจจะ
     ธรรมะ คละเคล้า เข้าคลุมครอบ
     หลากหลายคน ค้นคว้า  หาคำตอบ
     หารู้ไม่ ?  อยู่รายรอบ ..ใกล้ใกล้ตัว

     แสวงหา มานาน  วันคืนพ้น
     ศึกษา คว้าค้น จนถ้วนทั่ว
     ลองถูก ลองผิด จนจิตมัว
     ที่แท้ แค่รอบตัว ..ตามัวเอง

       ไม่มีอะไร !  .. ในความว่าง
     ทุกอย่าง มีเหตุปัจจัย ใช่กาจเก่ง
     เหตุและผล วนว่าย ในตัวมันเอง
     ธรรมชาติ วาดและบรรเลง ในเพลงเดิม

     มนุษย์ปัญญาน้อย.. ลอยไหล ไปตามความอยาก
     เคี้ยวเต็มปาก ยังอยากจะเคี้ยว มาเกี่ยวเสริม
     อิ่มก็สุข อยากก็ทุกข์ ..คลุกอย่างเดิม
     แล้วก็เริ่ม แล้วก็จบ  กี่ภพกี่ชาติ่ !

     ต่างหลงใหล ในสุข จนทุกข์ท่วม
     สุขทุกข์ร่วม รวมเป็นสุข สนุกเป็นทาส
     ทางแห่งพุทธ หยุดมันได้ ให้หลุดให้ขาด
     แค่สลัด !  ปัดพ้นร่าง  ..ก็บางเบา

       พบแล้วนะ ? ..ธรรมมะ ละแล้วว่าง
    หลงแบกหนัก ไม่พักวาง..ก็เป็นอย่างเก่า
    ปลดแอกลง ปลงจากบ่า อย่าไปเอา ! 
    ปล่อยตัวเบา   เปล่าว่าง ! ..อย่างชื่นบาน				
5 กุมภาพันธ์ 2554 01:49 น.

พอเพียง เพื่อเพียงพอ

ศรีสมภพ

พอเพียง.. เพื่อเพียงพอ

กึ่งกลางระหว่างด้าน  ณ จุดนั้น คือจุดนิ่ง
ขวาซ้ายไม่ประวิง   เป็นความจริง สัจจธรรม   
ฉลาดคิดผลิตผล  อย่าทำล้นจนเกินล้ำ
น้อยนักผลมักงาม  มากซ้อนซ้ำทำลายตน
ซัพพลาย ต้องไม่โลภ  ดีมานด์จบ ครบเหตุผล
ประมาณประเมินตน   ไม่ไหลล้นหล่นหายซ้ำ
เกษตรเหตุแห่งต้น  ปลูกพืชผลอย่าล้นหลาม
สินค้าอุตสาหกรรม  อย่ามากล้ำทำเกินไป
พออยู่สู่พอกิน   หมั่นออมสินหนี้สิ้นหาย
บัญชีมีรับจ่าย    จัดการได้ไม่ฟุ่มเฟือย
สร้างภูมิคุ้มกันไว้  ต้องใส่ใจไม่ชาเฉื่อย
ฝึกซ้ำทำเรื่อยเรื่อย   เหนื่อยก็พักไม่หักหาญ
รอบคอบใฝ่รอบรู้    ตามโลกดูรู้โลกทัน
เทคโนฯ อย่าโลว์สั้น  ต้องใช้มันให้ทันตาม
ซื่อสัตย์ขจัดชั่ว   บาปเกรงกลัวบัวพ้นน้ำ
สุจริตคิดดีงาม   มีคุณธรรมมีทำใจ
พร้อมสู้อยู่กับโลก   ไม่รอโชคตกมาใส่
มือสองสมองใช้  ทำด้วยใจให้เหมาะควร
แบ่งปันและสรรค์สร้าง  สิ่งรอบข้างอย่างขวายขวน
ทรัพยากรอาทรถ้วน  ใช้เหมาะควรคำนวณกัน
สังคมสมสุขได้      ต่างร่วมใจไม่เหหัน
ระบบนิเวศน์นั้น   สมดุลมั่น ฐานเหมาะสม
สายกลาง..หนทางพุทธ   ไม่สะดุดฉุดไม่ล้ม
ไม่หลวมฝืด จืดเค็มขม   ไม่หวานอม ข่มขืนกิน
พอเพียง..เพื่อพ้นผ่าน  วิกฤติการณ์อันผกผิน
เพียงพอ..ต่อชีวิน   ก็พอกินสิ้นชั่วกาล
พอเพียง ไม่เสี่ยงสูญ  จึงมีคุณหนุนคงมั่น
มีภูมิคอยคุ้มกัน  จึงสุขสันต์อย่างมั่นคง
เศรษฐกิจแนวคิดนี้  ในหลวงชี้ มีพระประสงค์
ให้โลกอยู่ คู่คนคง    ยั่งยืนยง..ตรงพอดี				
5 กุมภาพันธ์ 2554 01:43 น.

บางระจัน ตำนานสามัคคี

ศรีสมภพ

 บางระจัน !  ตำนานสามัคคี 

 รำลึกก่อน..ย้อนหลังในครั้งนั้น
พม่าโหมโรมรันประจันหน้า
ทัพใหญ่พร้อมล้อมตี ศรีอยุธยา
ทั่วพาราระส่ำระสาย เลือดไหลริน

   พม่าจับขับเข็นข่มเช่นทาส     
ไล่ต้อนกวาดคัดค้นปล้นทรัพย์สิน
เหยียบย่ำใจใคร่ข่มขืนผืนแผ่นดิน
เห็นทีสิ้น ถิ่นสุด.. อยุธยา !

  บางระจันบ้านสิงห์ไม่นิ่งน้อม  
ทุกคนพร้อมหลอมรวมใจไล่ฟันฆ่า
ทิ้งคมเคียว มือเกี่ยวดาบปราบผู้มา
หักหาญกล้าพม่าสยบ พบคนจริง !

นายแท่นนายอินนายโชตินายเมือง
พร้อมพันเรือง เคืองแค้นแทนคนสิงห์
มึงเป็นใคร ? ทำไมใจร้ายจริง
เด็กผู้หญิง นิ่งเห็นไม่เว้นวาง

กูขอสู้.. อยู่หรือตายไว้ลายชื่อ
ให้เขาลือว่าชาวบ้าน หาญขัดขวาง
กองทัพใหญ่ที่ใครยอมพร้อมเปิดทาง
น้ำน้อยกร่างกล้าดับไฟใจทระนง

 ไอ้ทองเหม็นไอ้ดอก กรอกปืนใหญ่    
ยิงเข้าไปให้มันรู้กูประสงค์
ข้ามศพกู ผู้พร้อมยอมปลดปลง
ให้เลือดไทยไหลหลั่งลง..ชโลมดิน
  
 มาคำนึงถึงไทย..สมัยนี้          
ว่าความรักสามัคคี มีหรือสิ้น ?
ไม่สืบสาน ต้านหรือต่อ ก่อหรือกิน ?
ทั่วธานินทร์ จึงสิ้นสุข ลุกเป็นไฟ !

แย่งกันใหญ่ ขายขี้หน้าบ้าดีเดือด
ไม่มีเลือด บางระจัน อันยิ่งใหญ่
แบ่งสี แบ่งพวก แบ่งพรรค น่าหนักใจ
ไร้ยางอาย.. บรรพบุรุษ สุดระอา !				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงศรีสมภพ