24 ธันวาคม 2552 13:18 น.

ผญาวันนี้

สุรศรี

ผญาวันนี้       ขอเสนอผญาภาษิตครับ  
ผัวเมียนี้ผิดกันเป็นอื่น         พี่น้องนี้คือขี้บ่เหม็น
 เพิ่นหากว่า  ผัวเมียนี้            ใหญ่มาจั่งพ้อหน้า
บ่ฮู้จักขี้พื้น                             ดีฮ้ายเป็นจังใด๋
เห็นแต่สวยรวยหน้า              ในใจหากบ่แม่น
บาดเทื่อใจดำปื้อ                    ในห้องส่องบ่เห็น
เห็นหน้าแล้ว                         สวยงามกะบอกฮัก
กินดองพ้อม                           ลุงป้ากะว่าดี
บาดห่าเอากันแล้ว                 ลายเสือกะเลยออก
กูมึงกะได้เว้า                         ยามเจ้าเพิ่นสูน
บาดห่าผิดกันแล้ว                  กะลืมไลฮ้างหย่า
มันบ่คือพี่น้อง                        อาวอาน้าบ่าว
ให้เบิ่งใจกันไว้                      ดีฮ้ายจั่งค่อยเอา   ดอกเด้ ฯ
....................
ศัพท์     พ้อ               -         พบ  เจอ
         เป็นอื่น            -         ตัดขาด  หย่าขาด
            ขี้พื้น             -         กำพืด
            จังใด๋             -        อย่างไร  ยังไง
         บาดเทื่อ            -        บางที
          ใจดำปื้อ           -        ใจดำมาก
เอากัน, กินดอง          -       แต่งงาน
        บาดห่า               -     เมื่อถึงเวลา
          สูน                  -     โกรธ
          ผิดกัน             -     ทะเลาะกัน
           ลืมไล              -     ลืม  ทิ้งกัน  หย่ากัน
              ฮ้าง              -     ร้าง
          ดีฮ้าย               -     ดีร้าย
.....................
ความหมาย     สามีภรรยากันนั้น  ถ้าได้ทะเลาะกันแล้ว  มักจะเลิกกัน  หย่ากัน  เพราะว่าไม่ใช่พี่น้องที่แท้จริงของตนเอง  คือตัดขาดกันไปเลยนั่นเอง  ไม่เหมือนญาติพี่น้องแม้จะทะเลาะกัน แต่ก็ตัดกันไม่ขาด  ภาษิตจีนเขาบอกว่าพี่น้องเปรียบเหมือนนิ้วมือครับ  ตัดไม่ขาด  ตัดไม่ได้    ภาษิตนี้สอนให้คนรอบคอบก่อนแต่งงาน  คิดให้ดีก่อน  ถ้าแต่งแล้วก็ให้ถนอมน้ำใจกันครับ
 สำหรับสุรศรี  ยังไม่แต่งครับ  กำลังดูใจกันอยู่ ครับ  ไม่รู้จะมีวาสนาหรือเปล่า  เศร้าจังเยย				
23 ธันวาคม 2552 07:15 น.

ผญา วันละบทกับสุรศรี

สุรศรี

ผญาวันนี้   
                 สองสลึงอยู่ฟากน้ำอย่าฟ้าวอ่าวคะนิงหา
                 สตางค์แดงเฮามีให้ค่อยเก็บเอาไว้ 
                  อย่าไปเด็ดดอกฟ้ามือมันเด่บ่มีเถิงดอกนา
                 กาดำกับหงส์ทองบ่ฮ่วมคอนกันได้
                 เงินเดือนยังบ่ได้อย่าฟ้าวถอยรถมาขี่
                 ให้มันได้แท้แท้แท้โตเจ้าจั่งค่อยเอา
                 เลขยังบ่ซื้อเจ้ามือยังบ่จ่าย
                  อย่าฟ้าวเซ็นคะเจ้าไทบ้านเพิ่นสิโส
ศัพท์      ฟ้าว-  รีบร้อน
              เฮา-  เรา
              คะนิง- คิด คำนึง
              เด่- ยื่นมือ
              ฮ่วม-  ร่วม
              คอน- รังนอน
              เซ็น  เชื่อไว้ยังไม่จ่าย
              คะเจ้า- คนอื่น
              สิโส- จะพูดนินทา
   ความหมาย   ผญาบทนี้สอนให้คิดรอบคอบในการใช้จ่ายให้ระมัดระวัง  อย่าหมายน้ำบ่หน้า  หรือสิ่งที่ยังมาไม่ถึงลม ๆ แล้ง ๆ  เดี๋ยวจะเดือดร้อนภายหลังครับ
                    ผญาภาษิตที่เข้ากันอีกบทหนึ่งก็คือ ฮ่างท้องใส่ไข่แลน  คือคนจะไปเที่ยวป่าล่าสัตว์ไม่ได้เตรียมอาหารไปทานด้วย  ฮ่างท้อง คือตั้งใจไว้  เอาท้องไว้คอยกินไข่ตะกวดที่จะไปล่ามันที่อยู่ในป่า  หมายความว่ายังไม่เห็นตัวตะกวดนั่นเองครับ				
22 ธันวาคม 2552 15:01 น.

มองย้อนหลังปีเก่า(กาพย์แสงสุริศรี)

สุรศรี

**ส่งท้ายปีเก่า		ขอเรานึกถึง
	ผ่านมาปีหนึ่ง		อย่างไร

	** ทำประโยชน์	คุณโทษไฉน
	ดีชั่วแก้ไข		ตัวเอง

  	**วันคืนล่วงผ่าน	เนิ่นนานรีบเร่ง
	ประหนึ่งบทเพลง	ชีวิต

	**ดีร้ายปะปน		ระคนถูกผิด
	สุขทุกข์ฉุกคิด		ไตร่ตรอง

	**คราดีสุขใจ		คราไร้ใจหมอง
	คราสุขสมปอง		ดั่งหวัง

	**คราทุกข์หม่นใจ	ยากไร้ประดัง
	ทรุดแทรกเซซัง	ทับถม

	**บทเพลงชีวิต	ลิขิตสุขสม
	หรือทุกข์ระทม	เพราะใคร

	**ตัวเราทำเรา	ตัวเขาทำใคร
	ทำกรรมอะไร		ร่วมกัน

	**คิดดีพูดดี		สุขศรีทุกวัน
	ทำดีเท่านั้น		สุขใจ
	....................................................
                     ปีเก่ากำลังจะจาก (พวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับ
	โถ..เห็นหน้ากันอยู่หลัด ๆ น่าจ๋งจ๋าน) ก็ขอให้เตรียมรับแต่สิ่งที่ดี ๆ
	ที่จะเข้ามาในชีวิต  เพียงเรา  คิดดี  พูดดี และทำดี 
                     แค่นี้ก็พอแล้วครับ ขอให้เพื่อนพ้องน้องพี่  เตรียมรับมือกับ
                     ความสุขให้ดี ๆ ครับผม
                                                        จากใจ  สุรศรี				
22 ธันวาคม 2552 08:31 น.

อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ

สุรศรี

** คิดถึงทุกครา      เวลาที่เหงา
คราเมื่อสองเรา      ร่วมเรียง

**  ลำนำคำถ้อย       น้องน้อยฝากเสียง
ดุจเป็นสำเนียง       ความนัย

**  จำใจจากจร       อาวรณ์หวั่นไหว
ดวงตาห่วงใย         ทุกคราว

**  เหมันต์ผ่านมา    อุราเหน็บหนาว
ฝากบอกดวงดาว     ถึงเธอ

**  ค่ำคืนแห่งรัก      ประจักษ์เสมอ
ยังคงละเมอ              มิวาย

**  ขอรักคืนเรือน    ย้ำเตือนความหมาย
คิดถึงมิคลาย           แน่นอน.......ฯ

                                        ราชิกา

   ** ความหลังความรัก    ยากนักถ่ายถอน   
อาลัยอาวรณ์                   ทุกครา

     ** เคยสุขสมหวัง         หลายครั้งหรรษา
สุมในอุรา                        อิ่มใจ

     ** ยามรักห่างหาย         มิวายอาลัย
เจ็บปวดทรวงใน               ประจำ

    ** หลายสิ่งหลายอย่าง   ทุกย่างที่ย้ำ
ทุกอย่างที่ทำ                    เพื่อเธอ

    ** กี่ร้อนกี่หนาว            ทุกคราวก็เพ้อ
 ถึงห่างเสมอ                     มิหวั่น

    ** ถ้าใจเข้าใจ              ฤทัยยึดมั่น
    ในกันและกัน              ห่วงใย   

    ** ขอรักห่างห่าง           อยู่อย่างเข้าใจ
    ห่วงหาอาลัย                อาวรณ์ ... ฯ
                                     
                                        สุรศรี
..............................................................................
     คุณราชิกา ได้โพสในรักสามเศร้าผมอ่านแล้วมันเพราะมาก
      เลยอยากให้ทุกคนได้อ่าน  โดยแต่งต่อแล้วนำมาลงอีกครั้งครับ
     ในทำนองลีลารักอาลัยอาวรณ์  ที่ยอดฮิตติดชาร์ท  ครับผม
      ยังไงอยากให้ทุกท่านได้ต่อยอดครับ ระวังจะติดใจ นา......				
20 ธันวาคม 2552 11:22 น.

รักสามเศร้า ฉัน เขา เธอ (กาพย์แสงสุริศรี)

สุรศรี

เธอเดินเข้ามา          เวลาที่ฉัน    
เหงาในชีวัน               พอดี
    คนหัวใจง่าย          ผู้ชายคนนี่
จะทำไงดี                    หวั่นไหว
    ฉันคนเงียบขรึม    เศร้าซึมหัวใจ
โอนอ่อนฤทัย             โหยหา
      เธอคนสนุก          ไร้ทุกข์เริงร่า
ช่างพูดช่างจา               เอาใจ
      ฉอเลาะออดอ้อน  งามงอนไฉไล
ไม่เคยขัดใน                 ผู้คน
      แรกแรกให้นึก       รู้สึกสับสน
พะวักพะวน                 อยู่นาน
      น้ำหยดลงดิน         หินยังร้าวฉาน
สุดจะทนทาน              อยู่ไหว
     ความรักก่อตัว         ในขั้วหัวใจ
จะใครก็ใคร                 ลองดู
     สายตามันฟ้อง         ไม่มองก็รู้
มีใครซ่อนอยู่                ข้างใน
      ขอฉันสมัคร           รักเธอได้ไหม 
ไม่ขออะไร                   กว่านี้
       เธอรับเงื่อนไข      เข้าใจฉันดี
ขออย่าให้มี                 อื่นใด 
       ฉันมีบางสิ่ง         ความจริงรู้ไหม
ว่าฉันมีใคร             อยู่แล้ว
     เขารับไม่ได้       หัวใจฉันแป้ว
ใจเขาแน่แน่ว          หย่ากัน
      ฉันอธิบาย         บรรยายทั้งวัน
เหตุผลที่ฉัน            ทำไป
      เขาไม่ยอมฟัง    เสียงดังเข้าใส่
ไม่ยอมเข้าใจ          ฉันเลย
      เหตุผลคนโง่     อวดโวเชยเชย
.ใครเขาจะเคย        รับฟัง
      ฉันแสนเจ็บปวด  ร้าวรวดประดัง
  บ้าจนจะคลั่ง       จะตาย
    ฉันบ้าใช่ไหม    ได้โปรดอธิบาย
 ให้ฉันได้หาย        งวยงง
      ฉันยอมรับผิด      ที่คิดใหลหลง
ฝันใฝ่พะวง               ร่ำไป
       คนหัวใจง่าย       จะตายเพราะใจ
 ที่แอบรักใคร             หลายคน
       เธอเจ็บเขาปวด   ร้าวรวดสุดทน
วุ่นวายสับสน             เพราะใคร            

..............................
ลองแต่งกาพย์แสงสุริศรี  อีกครั้งครับ 
ในรูปแบบเนื้อหาที่ยอดฮิต  Fall   in  love .   (Love  story) 
ยังไงช่วยติชมลีลา  รูปแบบ ของกาพย์ใหม่นี้ด้วยครับเป็นยังไง
เพื่อจะหา บทสรุปว่า มันเหมาะสมที่จะแต่งเข้ากับเนื้อหาประเภทไหน
ส่วนเนื้อหานั้น ค่อนข้างหบาบครับต้องขออภัยไว้ก่อนครับ
................
กาพย์แสงสุริศรี ผมกับคุณสุริยันต์ประดิษฐ์ขึ้นครับ
1   บท  มี  4  วรรค ๆ 1-3  มีวรรคละ 4  คำ  วรรคที่ 4 มี 2 คำ
คำสุดท้ายวรรคที่ 1  สัมผัสกับ คำที่ 1-2 ของวรรคที่ 2
คำสุดท้ายวรรคที่2  สัมผัสกับคำสุดท้ายวรรคที่ 3  
คำสุดท้ายวรรคที่ 4 ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายวรรคที่ 2 ของบทต่อไป 
การวางคำในแต่ละวรรค  วางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนครับ
.......................
เพื่อนพ้องน้องพี่ขอได้ลองแต่งคนละ 2 บทนะครับ นะนะ ห้ามมากกว่านั้นครับ
เดี๋ยวจะติดใจ  จะว่าไม่เตือน  คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ควรมีพ่อแม่
นั่งสอนอยู่ข้าง ๆ ครับ จะได้เข้าใจยิ่งขึ้น  ...1..2......3				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุรศรี