30 พฤศจิกายน 2552 15:54 น.

นิทานไม่รู้จบ 6

สุรศรี

สุรศรี 
             นิทานไม่รู้จบ 
          นิทานเรื่องนี้ยังไม่จบครับ
         ช่วยกันหน่อยครับ ใครที่มาต่อนิทาน
          เรื่องนี้ชีวิตจะพบแต่เรื่องสนุก ๆ ดี  ๆ ครับ 

    กาลครั้งหนึ่งซึ่งไม่นานผ่านมานนี้
แถวนี้มีชาย "มา"อยู่อาศัย
กับ "ดีด้า"หมาน้อยคู่ดวงใจ
และ"เรไร"สุดสวยอยู่ด้วยกัน
                                  สุรศรี
  
        เมื่อไม่นานมานี้มีไฟไหม้
ไม่มีใครรอดตายกายมอดมั่น
หมาก็ร่างเกรียมไฟหนีไม่ทัน
บัดนี้ควันเริ่มจางทุกอย่างจบ 
             Khuad Kao 
   
     กล่าวถึงพระฤๅษีผู้วิเศษ
เรียนพระเวทย์ทั่วไปในพิภพ
มีวิชาแก่กล้าผ่านมาพบ
ยังไม่จบเปิดแผ่นสองต้องติดตาม 
                   สุรศรี 

    พระฤาษีเป่าคาถามหาประลัย
ชุบชีวิตขึ้นใหม่ได้ทั้งสาม
พากันไปใช้ชีวิตในอาราม
คอยติดตามฤาษีผู้มีคุณ 
                เสมอจุก 

     นายมาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นไชย่า
ภรรยาทำผมใหม่เป็นวัยรุ่น
"อิสซาเบล..ไลล่า" หน้าละมุล
ส่วนจอมจุ้นดีด้า หมาเหมือนเดิม 
                   สุรศรี 

จะมาแต่งต่อสักหน่อย
เจอสระ เ-ิม เลยอ่านเฉยๆดีกว่า   อิอิ 
                กิตติกานต์ 

   เธอเดินมาท่าระหงส์ดูทรงเด่น
หน้าตาทะเล้นเล่นพิลึกฮึกเหิม
ทั้งแยกเขี้ยวเลี้ยวครางทำอย่างเดิม
เหลือเพียงเริ่มตบหน้าเวลานอน (ละเมอ)  อิอิ

                กวีน้อยเจ้าสำราญครับ  

              สองวันก่อนไชย่าไปล่าเป็ด
มาแกงเผ็ดพริกไทยไฟอ่อนอ่อน
กลิ่นหอมฉุยมาแต่ไกล.. ให้บังอร
ไลล่านอนกลางวันไม่ทันลุก
         เสียง บ็อก  บ็อกดีด้าหมามันเห่า
เห็นเพียงเงามาแต่ไกลไอ ขลุกขลุก
รีบไปบอกทรามวัยใยไม่ลุก
ถึงจะปลุกเท่าไรไม่ไหวติง.........
          แย่แล้วละครับเธอเป็นอะไรไม่รู้ครับ
          เรียก 1669  ดีไหมนี่
                       สุรศรี 

แล้วใยไม่พาเธอไปหาหมอ
หรือจะรอพาสยบพบฤาษี
ปฐมพยาบาลเบื้องต้นคงพ้นพลี
หรือไชย่าไม่มีวิธีพยาบาล
                        วันสุข 

แล้วใยไม่พาเธอไปหาหมอ
หรือจะรอให้ฤาษีเป่าทุกสิ่ง
ไชย่านี่นะแย่จริงจริง
ไม่ดูแลแม่ยอดหญิงให้ดีดี

           ยังไม่ฟื้นนะคะ
                   วันสุข 

โทรเรียกหว๋อหมอตรวจสำรวจผล
ฤาหน้ามลก่นล่าคราไล่วิ่ง
แล้วจึงจุกลุกยากลำบากจริง
อย่าปล่อยทิ้งติงบอกออกจากใจ

อิอิ....กว่าจะหาที่ลงได้ น้อง ๆ เนี่ย....
ช่างสรรหานะคะ
                            ปรางทิพย์ 

ฤๅว่าเป็นไข้หวัดสองพันเก้า
หรือเมียเราแพ้ท้องไม่รู้ได้
คุณหมอครับช่วยด้วยช่วยไวไว
ค่ารักษาเท่าไรไม่ว่ากัน 
                           สุรศรี  

     ไม่เป็นไรมากหรอกจะบอกให้
แค่เป็นไข้มีน้องท้องแค่นั้น
สามเดือนแล้วยอดแก้วดวงชีวัน
อย่าขยันจงพักผ่อนนอนให้พอ 

                      เสมอจุก 

เกิดไฟไหม้อีกแล้วที่แถวนี้
เผาทุกอย่างที่นี่ไม่เหลือหลอ
ทั้งคน,หมาเกรียมไหม้ไฟเคลียคลอ
ฤาษีก็ถูกย่างทุกอย่างจบ 
                       ขวดเก่า 

กี่วันแล้วไชย่าคิดผ่าเหล่า
ผัดขี้เมาให้บังอรกลับนอนนิ่ง
เจ้าดีด้ามาเห่าเหมือนเป่าลิง
เหมือนจะยิ่งทำไชย่าหาสูตรลอง

*จึงโทรฯถามร้านอาหารชื่อ (จานด่วน)
คล้ายจะป่วนกุ๊ก-กุ๊ก จุกสมอง  (คิดมะออก อิอิ)
ผัดสูตรไหนให้บังอรมาย้อนมอง
กุ๊กเลยต้องบอกสูตรใหม่ให้ผัดส้นตรีน (อิอิ แรงไปไหม  555+)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ 
  
โขลกกระเทียมพริกสดพอให้แหลก
ตั้งไฟแรกตั้งน้ำมันคั่วให้สิ้น
เหยาะน้ำปลาซอสน้ำตาลเหลืองน่ากิน
ผัดอุ้งตีนพริกไทยอ่อนร้อนเต็มจาน
     ตักข้าวสวยสีนวลขาวมีสาวเสิร์ฟ
มันน่าเปิบเป็นกับแกล้มรสแสบซ่าน
มีเหล้าขาวสักขวดดวดสำราญ
ร่ำกวีกับเราท่านมันน่าลอง
                               สุรศรี 

  ขอเป็นคนอ่านก็แล้วกันนะคะ
จบตรงเหล้าขาวนี่กระมังคะ
                       เพียงพลิ้ว 

ตักข้าวสวยสีนวลขาวมีสาวเสิร์ฟ
มันน่าเปิบเป็นกับแกล้มรสแสบซ่าน
มีเหล้าขาวสักขวดดวดสำราญ
ร่ำกวีกับเราท่านมันน่าลอง
                               สุรศรี

โถ..มัวมองสาวสวยและหมวยอึ๋ม
เมียนั่งซึมหน้างอคอยรอถอง
ถีบผีวจอมเจ้าชู้ลงไปกอง
แล้วเรียกน้อง....หิ้วปีกไป..ใส่ท้ายรถ..
                             ป้าปลา 

มองเหล้าขาวสาวเสิร์ฟมิเลิฟพี่
วิสกี้ดีหน่อยค่อยฉลอง
สั่งมิกเซอร์เธอหน่อยดั่งคอยจอง
ชวนพวกพ้องลองแจมกับแกล้มไทย

                      ปรางทิพย์ 
*เป็นนิทานหลายบทหลากรสชาติ
แต่ว่าขาดเงินมาเลยหน้าหมอง
ได้แต่กลืนน้ำลายหมายลิ้มลอง
แต่เจ้าของยกจานหนีไม่ฟรีเลย
  *สุรศรีตักข้าวราวหิวโหย
เราจะโวยร้องไปได้แค่ เหวย
นี่น้ำใจไม่ชวนกันกระนั้นเลย
ล่ะโธ่เอ๋ยของแซ่บหลาย...เราจ่ายตังค์ อิอิ

ลง งงๆๆ  บทแรกบอกไม่มีเงิน บทสองบอก เราจ่ายตังค์ 
เห้ออ มุขไม่ฮา พาเพื่อนเซ็ง อิอิ
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ 
  
    ไลล่าก่อนมาอยู่ที่ป่านี้
เคยเป็นสาวออฟฟิศที่มีความหลัง
มาเที่ยวป่าเกิดพลัดหลงคงพะวัง
ตอนนั้นยังเป็นสาวสวยนวยเงินทอง
      ไชย่าพบประสบพักตร์รักจนหลง
ในป่าดงกลางป่าสองต่อสอง
จนได้เสียเป็นเมียมาครอบครอง
จนนวลน้องตั้งท้องตามที่กล่าวมา
      ญาติตามหาปานว่าพลิกแผ่นดิน
ข่าวลงเหน็ตทีวีสิ้นจจนทั่วหน้า
จ้างนายพรานติดตามทุกเวลา
เดี๋ยวนี้ใกล้เจอหน้าไลส่าแล้ว 
                            สุรศรี 

  เรื่องยาวที่น่าติดตามนะคะ สนุกดีค่ะ
                               เพียงพลิ้ว 



เพียงพลิ้วพัดผ่านพ้น         พุดไป
สุรศรีแทบหัวใจ                ขาดดิ้น
กวีน้อยฯเจ้าอยู่ไส             เงียบฉี่
โคล่อนก็หายสิ้น               หลบหน้าไปอยู่ไส

เพียงพลิ้วครับ กลับมาต่อนิทานให้หน่อยครับ
นะ นะ คนสวยได้โปรดเถอะ 
                                      สุรศรี 

คิดหลบหนีปีเดือนไร้เรือนหอ
นวลละออขอมอบตอบความฝัน
ด้วยเพราะรักภักดิ์อยู่รู้ใจกัน
แม้มิหวั่นขวัญท้องต้องหยุดที

อิอิ....ท้องแล้วนี่คะจะพาไลล่าหนีหลุน ๆ
มิได้แล้วนะ
                  ปรางทิพย์ 


มาวันหนึ่งไชย่าหลับตาฝัน
เห็นดวงจันทร์ครึ่งซีกเที่ยวหลีกหนี
ด้นดั้นเมฆตรงมาหน้าพอดี
ตกลงที่กระท่อมหน้ากลางป่าลึก
    สะดุ้งตื่นตกใจเหงื่อใหลอาบ
ยังไม่ทราบดีร้ายให้รู้สึก
ปลุกเมียรักให้ตื่นฝืนระทึก
ตอนกลางดึกทำนายฝันให้ฉันที 
                            สุรศรี 
 
  
 *เมื่อไชย่าตื่นแล้วอกแก้วขวัญ
เริ่มหวาดหวั่นสั่นตัวกลัวลุกหนี
จากฝันร้ายกลายกลับจับฤดี
จนป่านนี้ไม่รู้ผลหรือกลใด

*เปิดหนังสือตำราว่าทายฝัน
ความรู้นั้นพลันสว่างกระจ่างไข
คลายขุ่นข้องหมองหมางสู่ทางใจ
แต่นี้ไปไชย่ามีภรรยารอง อิอิ

  กวีน้อยเจ้าสำราญครับ 
 
 ตามตำราว่าไว้ให้ทายทัก
หว่างความรักหักล่มระทมเหลือ
ต้องบำเพ็ญเน้นศีลดั่งนีลเจือ
ทำใจเผื่อเพื่อรับกับความจริง

อีกตำราคราหนึ่งซึ่งทายฝัน
ลูกจอมขวัญพลันบอกออกเป็นหญิง
นางจุติพลิเกิดเทิดประวิง
น่ารักยิ่งสิ่งนี้วจีตรอง

ปรางทิพย์ 
 
ไลล่าดีใจไปฝากท้อง
หมอรับรองลูกแข็งแรงแกร่งมหันต์
อีกสามเดือนต่อมาน่าอัศจรรย์
ได้รับขวัญลูกน้อยกลอยฤทัย
        เป็นผู้ชายน่ารักเป็นหนักหนา
ให้ชื่อว่า" ไพรวัลย์"ทันสมัย
ไชย่ามอบธำมรงค์รูปธงไทย
คราที่ไปตลาดนัดจัดเตรียมมา
       มาจะกล่าวบทไปถึงไชย่า
ตั้งแต่เลี้ยงลูกมาปีที่สอง
รักถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงประคอง
รักแต่น้อง ไพรวัลย์ กันร่ำไป
       อยากจะซื้อมอไซด์ให้เจ้าขี่
อยากพาไปดูหมีที่เชียงใหม่
อยากไปเที่ยวสุดหล้าขอบฟ้าไกล
อยากจะไปบิ๊กซีที่โลตัส
                       สุรศรี				
30 พฤศจิกายน 2552 07:16 น.

ผญา วันละบทกับสุรศรี

สุรศรี

ผญา    วันนี้เสนอเกี่ยวกับผญาผาษิตครับ
     กากินปลิงไปคาคอหมั่ง         หมั่งบ่ขี้สามมื้อกระต่ายตาย  
        กระต่ายตายแล้ว                    จั่งเห็นซ้างเน่าเหม็น
       เพิ่นว่า  กากินปลิง                  สังมาคาคอหมั่ง
                   บาดห่าหมั่งบ่ขี้             เป็นหยังนอตายกระต่าย
                   บาดกระต่ายตายแล้ว   ซ้างพรายคือเหม็นเน่า
                   กาผู้กินแท้แท้               สังซ้างมาเน่าเหม็น
                   เรื่องมันเป็นจั่งซี้          เป็นหยังนอบอกข่อยแหน่
                   เจ้านักปราชญ์ผู้ฮู้          ซ่อยข่อยแก้แหน่เป็นหยัง     
       ศัพท์   หมั่ง      หมายถึง      ละมั่ง
                  ซ้าง       หมายถึง      ช้าง
                  บาดห่า    หมายถึง    ทีกับ ,แต่กับ
                   สัง, สังมา,คือ,เป็นหยัง   หมายถึง   ทำไม  เป็นอะไร
                  นอ         หมายถึง     หนอ
                  จั่งซี้       หมายถึง      อย่างนี้
                  ข่อย       หมายถึง      ข้า  ฉัน
                   แหน่     หมายถึง       หน่อย
                  ผู้ฮู้         หมายถึง       ผู้รู้
       แปล   กากินปลิง ไปติดคอละมั่ง  ละมั่งไม่ถ่ายมูล  สามวันต่อมากระต่ายตาย
                     กระต่ายตายแล้ว  จึงเห็นช้างเน่าเหม็น
         ความหมาย   ผญา  บทนี้ มีความหมายว่า  การกระทำของคนคนหนึ่ง  แต่ส่งผล     เดือดร้อนถึงใครอีกหลายคน โดยที่พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำเหล่านั้นเลย แต่ด้วยความที่ผูกพันกัน  เกี่ยวโยงกันอย่างใดอย่างหนึ่งพวกเขาด้องมีส่วนรับผิดชอบอย่างช่วยไม่ได้   ตัวอย่างเช่น  เด็กนักเรียนโดนรถชนในเวลาเรียน ครูผู้รับผิดชอบคนแรก  คือครูประจำชั้น  ต่อไปเป็นครูเวรประจำวัน   จำเลยคนต่อไปคือผู้อำนวยการ  คนเดือดร้อนคือญาติพี่น้องของเด็ก  เพื่อน  ๆ ต้องเสียเวลาไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล  อะไรประมาณนี้ครับ  ผมยังนึกไม่ออกว่าตรงกับคำพังเพย  ภาษิต  ของภาคกลางว่าอย่างไร  ใครรู้บอกด้วยครับ  จะได้เป็นวิทยาทานครับ				
30 พฤศจิกายน 2552 06:37 น.

กลับมาหาฉัน....ได้โปรด

สุรศรี

คิดถึง
      คิดถึงนวลนาง        ครั้งเคยเคียงข้าง       ไม่ห่างไปไหน
ได้อยู่เคลียคลอ     ฉันก็พอใจ    อิงแอบชิดใกล้    รับใช้คนดี
      เหนื่อยไหมยามเหงา    อยากถามนงเยาว์    ที่รักของพี่
นอนดึกอยู่ใหม   ห่างไกลเช่นนี้    อยากให้ชีวี     ใส่ใจดูแล
      เคยโทรศัพท์    โทรไปไม่รับ   ฉันโกรธรู้ใหม
เธอบอกขอโทษ    อย่าโกรธทรายวัย   ไม่ได้เอาไป   ทิ้งไว้ที่บ้าน
     อดีตวันวาน   ผ่านไปไม่นาน    ฉันยังจำได้
ทำงานด้วยกัน    เราแสนสุขใจ   อุปสรรคใดใด    ต้องช่วยฝ่าฟัน
      ฟังเพลงที่ชอบ   ที่เราเคยมอบ   เคยฟังด้วยกัน
สรวลเสเฮฮา    พูดจาสุขสันต์   เริงร่าทุกวัน   ช่างแสนสุขใจ
      เคยเที่ยวด้วยกัน    เชื่อใหมวันนั้น     ไม่เคยลืมเลือน
ถ่ายรูปร่วมกัน    ภาพนั้นย้ำเตือน   ผ่านไปหลายเดือน  ยังจำติดตา
      ยังจำได้ใหม   เธอซื้ออะไร    มอบให้พี่ยา
พิณไม้สีทอง    เรืองรองงามตา    ยิ้มรับเริงร่า   ยิ่งกว่าเงินทอง
      พิณพิสวาศ    ช่างแปลกประหลาด    เล่นให้เธอฟัง
เปิดโทรศัพท์   เครื่องรับเสียงดัง   ดีดไพเราะจัง  เสียงพิณออนไลน์
      ฉันคิดถึงเธอ      อยากโทรหาเธอ   ขอโทรได้ใหม
อยากฟังเสียงหวาน    ซาบซ่านฟทัย   ทุกลมหายใจ     ฉันมีแต่เธอ   
      เธออยู่ที่ไหน   โปรดรู้ว่าใคร    เขารักเสมอ
แต่ค่ำยันเช้า   ฉันเฝ้าแต่เพ้อ   อยากพบอยากเจอ  แต่เธอคนดี
       กลับมาหาฉัน   เหมือนเช่นวานวัน   อย่าหลบหลีกลี้
จะเลี้ยงรับขวัญ   รักมั่นกว่านี้   เห็นแก่ชีวี   พี่....ศรียังคอย ฯ				
29 พฤศจิกายน 2552 15:56 น.

แด่ ....ยาใจคนจน

สุรศรี

แด่...ยาใจคนจน
    เกิดเป็นแฟนพี่นี้                  เหนื่อยใหม
คนไม่มีอะไร                             เพื่อน้อง
ครองรักไม่สดใส                       น่าเบื่อ
ชีวิตคู่อาจต้อง                            แตกร้าวแยกทาง
     บนเส้นทางที่ก้าว                  ย่างเดิน
พบแต่ความขาดเขิน                  ย่อท้อ
ปัญหาที่เผชิญ                            แสนหนัก
ที่ผ่านมานั้นก้อ                          ช่วยแก้กันประคอง
      รถเก๋งจะขับก้อ                     ไม่มี
คนอื่นเขาขับขี่                           อวดโอ้
ดังจะอวดศักดิ์ศรี                       เหมือนข่ม
เราไม่มีวีโก้                             ขับเล่นกินลม
    ขอขอบคุณน้องที่                   มีใจ
ขอโทษถ้าผิดไป                       ผ่านเค้า
ขอเพียงแค่อรทัย                    เคียงคู่
ยิ้มเถิดคนดีเจ้า                       พรุ่งนี้ยังคอย       
     
      เหนื่อยบ้างไหมคนดี   มีพี่ศรีเป็นแฟน
ครองรักด้วยขาดแคลน    ยากแค้นพี่กลัวเธอท้อ
     เราเริ่มจากศูนย์         เงินลงทุนก็ไม่พอ
ความรักที่เทียวก่อ           ประครองกันสู้เรื่อยมา
     เส้นทางที่ขาดเขิน      ทางที่เดินมีปัญหา
คลื่นลมที่พัดพา               เจ้าทนพี่มาเสมอ
     รถเก๋งไม่มีขับ             ปิ๊กอัพไม่มีให้เธอ
ไร้สิ่งที่ปรนเปรอ             อาจทำให้เธอผิดหวัง
     ขอขอบคุณที่มีใจ         ขออภัยหลายหลายครั้ง
ลืมเถิดกับความหลัง        ความหวังข้างหน้ายังมี				
29 พฤศจิกายน 2552 07:16 น.

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน

สุรศรี

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน
       ชีวิตคือการดิ้นรน              ที่คนต้องเดินก้าวไป
ให้ถึงซึ่งหลักชัย                        ก้าวไปให้ถึงที่นั่น
       ชีวิตคือการต่อสู้                  เรียนรู้ด้วยใจตั้งมั่น
เส้นทางจะไกลไม่หวั่น              คนเชื่อมันต้องทำได้
        ฉันคือคนอีกคน                 อดทนดิ้นรนฝันใฝ่
ศรัทธาเชื่อมั่นในใจ                   หลักชัยข้างหน้ายังมี
         ขอแต่เพียงฝันให้ไกล       และไปให้มันถึงที่
จุดหมายในใจที่ดี                      ทำสิ่งที่ใจต้องการ
          หากมีอุปสรรคทับถม     อย่าสะสมค่อยวางงาน
ค่อยคิดค่อยประสาน                คิดหาหนทางแก้ไข
           ชีวิตคือการก้าวเดิน       ต้องเผชิญขอจงก้าวไป
รางวัลคือหลักชัย                      มั่นใจว่าอีกไม่นาน
          ให้กำลังใจตนเอง            ด้วยบทเพลงกวีขับขาน
ยามท้อแท้กับงาน                      ยิ้มสู้เคียงคู่ตนเอง
                                                   สุรศรี				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุรศรี