24 พฤศจิกายน 2552 07:58 น.

ผญา วันละบทกับสุรศรี

สุรศรี

ผญา  วันนี้ขอเสนอประเภทความสามัคคีครับ
 ไม้ลำเดียวล้อมฮั้วบ่ไขว่    ไพร่บ่พร้อมแปลงบ้านบ่เฮือง
 เพิ่นว่า ไม้ลำเดียว              ล้อมฮั้วฮาวคือสิหุ้ม
   อาศัยไม้ใหญ่น้อย               เป็นร้อยจั่งล้อมเป็น
  การปกครองเมืองบ้าน        คำโบราณเพิ่นว่า
  คันแม่นไพร่บ่พร้อม           แปลงบ้านกะบ่เฮือง
ศัพท์   ฮั้ว      หมายถึง    รั้ว
          ฮาว     หมายถึง    ราว
          หุ้ม      หมายถึง   รอบ
       ไพร่   หมายถึง   ราษฎร
           แม่น  หมายถึง   แม้น
          แปลง  หมายถึง  สร้าง
          บ่       หมายถึง   ไม่
         เฮือง   หมายถึง   รุ่งเรือง
แปล  ไม้ลำเดียวไม่สามารถนำมาล้อมรั้วให้ล้อมรอบได้  เปรียบเสมือนการปกครองบ้านเมือง
ถ้าราษฎรไม่มีความพร้อม  บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้  ไม่เจริญรุ่งเรือง
 ความหมาย   การปกครองบ้านเมืองนั้นต้องให้ราษฎรมีความพร้อม  คืออยู่ดี กินดี เสียก่อนถึงจะพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองได้  ถ้าราษฎรยังอดอยากเดือดร้อนอยู่ การจะพัฒนาให้เจริญนุ่งเรืองก็เป็นการยาก เหมือนกับการเอาไม้ลำเดียวมาสร้างรั้วย่อมทำไม่สำเร็จ
9.  ผญา  วันนี้ขอเสนอประเภทการศึกษา  ครับ
 จันโทแจ้งบ่ท่อแสงสุริเยศ      แสงกะบองหมื่นเล่มบ่ใสแจ้งแข่งจันทร์
 เพิ่นว่า  จันโทแจ้ง                บ่ท่อแสงตาเว็นส่อง
   เถิงสิหุ่งทั่วฟ้า                       ยังบ่กล้าท่อตาเว็น
  แสงกะบองเป็นร้อย               ส่องเห็นฮอย  ยังบ่สู้อีเกิ้งส่อง
  เถิงสิหุ่งทั่วพื้น                       กลางคืนนั้นบ่สู้จันทร์
                                                   สุรศรี				
23 พฤศจิกายน 2552 11:50 น.

นิทานไม่รู้จบ 5

สุรศรี

นิทานไม่รู้จบ 5
          นิทานเรื่องนี้ยังไม่จบครับ
         ช่วยกันหน่อยครับ ใครที่มาต่อนิทาน
          เรื่องนี้ชีวิตจะพบแต่เรื่องสนุก ๆ ดี  ๆ ครับ 

    กาลครั้งหนึ่งซึ่งไม่นานผ่านมานนี้
แถวนี้มีชาย "มา"อยู่อาศัย
กับ "ดีด้า"หมาน้อยคู่ดวงใจ
และ"เรไร"สุดสวยอยู่ด้วยกัน
                                  สุรศรี
  
        เมื่อไม่นานมานี้มีไฟไหม้
ไม่มีใครรอดตายกายมอดมั่น
หมาก็ร่างเกรียมไฟหนีไม่ทัน
บัดนี้ควันเริ่มจางทุกอย่างจบ 
             Khuad Kao 
   
     กล่าวถึงพระฤๅษีผู้วิเศษ
เรียนพระเวทย์ทั่วไปในพิภพ
มีวิชาแก่กล้าผ่านมาพบ
ยังไม่จบเปิดแผ่นสองต้องติดตาม 
                   สุรศรี 

    พระฤาษีเป่าคาถามหาประลัย
ชุบชีวิตขึ้นใหม่ได้ทั้งสาม
พากันไปใช้ชีวิตในอาราม
คอยติดตามฤาษีผู้มีคุณ 
                เสมอจุก 

     นายมาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นไชย่า
ภรรยาทำผมใหม่เป็นวัยรุ่น
"อิสซาเบล..ไลล่า" หน้าละมุล
ส่วนจอมจุ้นดีด้า หมาเหมือนเดิม 
                   สุรศรี 

จะมาแต่งต่อสักหน่อย
เจอสระ เ-ิม เลยอ่านเฉยๆดีกว่า   อิอิ 
                กิตติกานต์ 

   เธอเดินมาท่าระหงส์ดูทรงเด่น
หน้าตาทะเล้นเล่นพิลึกฮึกเหิม
ทั้งแยกเขี้ยวเลี้ยวครางทำอย่างเดิม
เหลือเพียงเริ่มตบหน้าเวลานอน (ละเมอ)  อิอิ

                กวีน้อยเจ้าสำราญครับ  

              สองวันก่อนไชย่าไปล่าเป็ด
มาแกงเผ็ดพริกไทยไฟอ่อนอ่อน
กลิ่นหอมฉุยมาแต่ไกล.. ให้บังอร
ไลล่านอนกลางวันไม่ทันลุก
         เสียง บ็อก  บ็อกดีด้าหมามันเห่า
เห็นเพียงเงามาแต่ไกลไอ ขลุกขลุก
รีบไปบอกทรามวัยใยไม่ลุก
ถึงจะปลุกเท่าไรไม่ไหวติง.........
          แย่แล้วละครับเธอเป็นอะไรไม่รู้ครับ
          เรียก 1669  ดีไหมนี่
                       สุรศรี 

แล้วใยไม่พาเธอไปหาหมอ
หรือจะรอพาสยบพบฤาษี
ปฐมพยาบาลเบื้องต้นคงพ้นพลี
หรือไชย่าไม่มีวิธีพยาบาล
                        วันสุข 

แล้วใยไม่พาเธอไปหาหมอ
หรือจะรอให้ฤาษีเป่าทุกสิ่ง
ไชย่านี่นะแย่จริงจริง
ไม่ดูแลแม่ยอดหญิงให้ดีดี

           ยังไม่ฟื้นนะคะ
                   วันสุข 

โทรเรียกหว๋อหมอตรวจสำรวจผล
ฤาหน้ามลก่นล่าคราไล่วิ่ง
แล้วจึงจุกลุกยากลำบากจริง
อย่าปล่อยทิ้งติงบอกออกจากใจ

อิอิ....กว่าจะหาที่ลงได้ น้อง ๆ เนี่ย....
ช่างสรรหานะคะ
                            ปรางทิพย์ 

ฤๅว่าเป็นไข้หวัดสองพันเก้า
หรือเมียเราแพ้ท้องไม่รู้ได้
คุณหมอครับช่วยด้วยช่วยไวไว
ค่ารักษาเท่าไรไม่ว่ากัน 
                           สุรศรี  

     ไม่เป็นไรมากหรอกจะบอกให้
แค่เป็นไข้มีน้องท้องแค่นั้น
สามเดือนแล้วยอดแก้วดวงชีวัน
อย่าขยันจงพักผ่อนนอนให้พอ 

                      เสมอจุก 

เกิดไฟไหม้อีกแล้วที่แถวนี้
เผาทุกอย่างที่นี่ไม่เหลือหลอ
ทั้งคน,หมาเกรียมไหม้ไฟเคลียคลอ
ฤาษีก็ถูกย่างทุกอย่างจบ 
                       ขวดเก่า 

กี่วันแล้วไชย่าคิดผ่าเหล่า
ผัดขี้เมาให้บังอรกลับนอนนิ่ง
เจ้าดีด้ามาเห่าเหมือนเป่าลิง
เหมือนจะยิ่งทำไชย่าหาสูตรลอง

*จึงโทรฯถามร้านอาหารชื่อ (จานด่วน)
คล้ายจะป่วนกุ๊ก-กุ๊ก จุกสมอง  (คิดมะออก อิอิ)
ผัดสูตรไหนให้บังอรมาย้อนมอง
กุ๊กเลยต้องบอกสูตรใหม่ให้ผัดส้นตรีน (อิอิ แรงไปไหม  555+)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ 
  
โขลกกระเทียมพริกสดพอให้แหลก
ตั้งไฟแรกตั้งน้ำมันคั่วให้สิ้น
เหยาะน้ำปลาซอสน้ำตาลเหลืองน่ากิน
ผัดอุ้งตีนพริกไทยอ่อนร้อนเต็มจาน
     ตักข้าวสวยสีนวลขาวมีสาวเสิร์ฟ
มันน่าเปิบเป็นกับแกล้มรสแสบซ่าน
มีเหล้าขาวสักขวดดวดสำราญ
ร่ำกวีกับเราท่านมันน่าลอง
                               สุรศรี 

  ขอเป็นคนอ่านก็แล้วกันนะคะ
จบตรงเหล้าขาวนี่กระมังคะ
                       เพียงพลิ้ว 

ตักข้าวสวยสีนวลขาวมีสาวเสิร์ฟ
มันน่าเปิบเป็นกับแกล้มรสแสบซ่าน
มีเหล้าขาวสักขวดดวดสำราญ
ร่ำกวีกับเราท่านมันน่าลอง
                               สุรศรี

โถ..มัวมองสาวสวยและหมวยอึ๋ม
เมียนั่งซึมหน้างอคอยรอถอง
ถีบผีวจอมเจ้าชู้ลงไปกอง
แล้วเรียกน้อง....หิ้วปีกไป..ใส่ท้ายรถ..
                             ป้าปลา 

มองเหล้าขาวสาวเสิร์ฟมิเลิฟพี่
วิสกี้ดีหน่อยค่อยฉลอง
สั่งมิกเซอร์เธอหน่อยดั่งคอยจอง
ชวนพวกพ้องลองแจมกับแกล้มไทย

                      ปรางทิพย์ 
*เป็นนิทานหลายบทหลากรสชาติ
แต่ว่าขาดเงินมาเลยหน้าหมอง
ได้แต่กลืนน้ำลายหมายลิ้มลอง
แต่เจ้าของยกจานหนีไม่ฟรีเลย
  *สุรศรีตักข้าวราวหิวโหย
เราจะโวยร้องไปได้แค่ เหวย
นี่น้ำใจไม่ชวนกันกระนั้นเลย
ล่ะโธ่เอ๋ยของแซ่บหลาย...เราจ่ายตังค์ อิอิ

ลง งงๆๆ  บทแรกบอกไม่มีเงิน บทสองบอก เราจ่ายตังค์ 
เห้ออ มุขไม่ฮา พาเพื่อนเซ็ง อิอิ
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ 
  
    ไลล่าก่อนมาอยู่ที่ป่านี้
เคยเป็นสาวออฟฟิศที่มีความหลัง
มาเที่ยวป่าเกิดพลัดหลงคงพะวัง
ตอนนั้นยังเป็นสาวสวยนวยเงินทอง
      ไชย่าพบประสบพักตร์รักจนหลง
ในป่าดงกลางป่าสองต่อสอง
จนได้เสียเป็นเมียมาครอบครอง
จนนวลน้องตั้งท้องตามที่กล่าวมา
      ญาติตามหาปานว่าพลิกแผ่นดิน
ข่าวลงเหน็ตทีวีสิ้นจจนทั่วหน้า
จ้างนายพรานติดตามทุกเวลา
เดี๋ยวนี้ใกล้เจอหน้าไลส่าแล้ว 
                            สุรศรี 
 
  เรื่องยาวที่น่าติดตามนะคะ สนุกดีค่ะ
                               เพียงพลิ้ว 
 
 
 
เพียงพลิ้วพัดผ่านพ้น         พุดไป
สุรศรีแทบหัวใจ                ขาดดิ้น
กวีน้อยฯเจ้าอยู่ไส             เงียบฉี่
โคล่อนก็หายสิ้น               หลบหน้าไปอยู่ไส

เพียงพลิ้วครับ กลับมาต่อนิทานให้หน่อยครับ
นะ นะ คนสวยได้โปรดเถอะ 
                                      สุรศรี 
 
 คิดหลบหนีปีเดือนไร้เรือนหอ
นวลละออขอมอบตอบความฝัน
ด้วยเพราะรักภักดิ์อยู่รู้ใจกัน
แม้มิหวั่นขวัญท้องต้องหยุดที

อิอิ....ท้องแล้วนี่คะจะพาไลล่าหนีหลุน ๆ
มิได้แล้วนะ
                  ปรางทิพย์ 
 
 
 มาวันหนึ่งไชย่าหลับตาฝัน
เห็นดวงจันทร์ครึ่งซีกเที่ยวหลีกหนี
ด้นดั้นเมฆตรงมาหน้าพอดี
ตกลงที่กระท่อมหน้ากลางป่าลึก
    สะดุ้งตื่นตกใจเหงื่อใหลอาบ
ยังไม่ทราบดีร้ายให้รู้สึก
ปลุกเมียรักให้ตื่นฝืนระทึก
ตอนกลางดึกทำนายฝันให้ฉันที 
                            สุรศรี				
23 พฤศจิกายน 2552 08:04 น.

ผญา ของจิตร ภูมิศักดิ์ (ต่อ)

สุรศรี

ผญา   ของจิตร  ภูมิศักดิ์ บทที่  2  ครับ ผมเพิ่งค้นพบ ดีใจมากครับ
อันว่าหอคำแก้ว             ผาสาทแกมแสง
ไผนอปลูกปูนแปลง       บ่แม่นมวลไพร่ฟ้า
เถิงว่าบุญขุนกล้า            เกินคนพ้นขนาด
ผาสาทสร้อยสิหยาดฟ้า  เองได้บ่ห่อนมี
ศัพท์   
ผาสารท         หมายถึง                 ปราสาท
ไผ               หมายถึงใคร
ปลูก             หมายถึง   สร้าง
ปูนแปลง     หมายถึง  ปรุงแต่ง
ไพร่ฟ้า       หมายถึง  ราษฎร
เถิงว่า      หมายถึง  แม้ว่า
ขุน        หมายถึง  เจ้านาย
พ้นขนาด  หมายถึง  เก่งเกินคน
หยาดฟ้า   หมายถึง  สวยงาม
ห่อนมี    หมายถึง   ฤๅมี
แปล  ปราสาทที่ใหญ่โตสวยงามนั้น  ใครกันหนอเป็นคนสร้าง
          ไม่ใช่ราษฎรดอกหรือ แม้ว่าเจ้านายจะมีบุญบารมี(บุญขุนกล้า)มามายขนาดไหน    ปราสาทก็คงจะใหญ่โตเองไม่ได้ถ้าไม่อาศัยราษฎรเป็นคนลงมือทำ
ความหมาย             บ้านเมืองจะใหญ่โตเจริญรุ่งเรืองได้มิใช่อาศัยบุญบารมีของข้าราชการเจ้านาย      เสกบันดาลให้เป็นไป  แต่ที่จริงแล้วต้องอาศัยกำลังแรงกาย ของราษฎรเป็น   คนสร้างต่างหาก
                                            สุรศรี				
22 พฤศจิกายน 2552 06:55 น.

ผญา ของจิตร ภูมิศักดิ์

สุรศรี

ผญา    วันละคำวันนี้ พูดถึง ผญา  ที่   จิตร  ภูมิศักดิ์  นักคิด  นักเขียน เคยแต่งเอาไว้ครับ
               จิตร  ภูมิศักดิ์  สมัยที่หนีเข้าป่าภูพาน เคยคลุกคลีกับชาวบ้านเคยศึกษาวัฒนธรรม พื้นบ้านน้อยคนนักที่จะรู้ว่า  ครั้งหนึ่ง เขาก็เคยแต่ง ผญาไว้หลายบท  ที่พบเห็นต้นฉบับนะ   ครับแต่ที่น่าเสียดายคือบันทึกของท่านขณะอยู่ในป่า ส่วนหนึ่งหายไป  ส่วนหนึ่งถูกทำลาย  ไม่อย่างนั้น  เราอาจได้เห็นผญาที่ ท่านแต่งออกมาเป็นเล่มก็เป็นได้ครับ 
                  ผมมีผญาของท่าน  2  บทครับ  วันนี้ เอา  1  บทนะครับ  ผมชอบมาก  ๆ  เลย ผมท่องเวลาที่ตนเองท้อแท้ ครับ
                 เถิงสิใหญ่ล้นฟ้า         สยองหยาดธรณี  
               ใหญ่ท่อใหญ่ฝูงผี            สิโสตายต่อสู้
                กูสิตามเพม้าง               ผลาญผีเผตห่า
                เถิงสิกีดแผ่นฟ้า            มือน้อยสิค่อยถาง  เอาแล้ว
    ศัพท์    เถิง                 หมายถึง          ถึง
                สยองหยาด    หมายถึง      ย้อยหยดลงมาจากฟ้าสู่พื้นดิน (ธรณี)
                 ท่อ                  หมายถึง         เท่า.
                   สิ                    หมายถึง         จะ
                  โส                  หมายถึง         ยอม
                 เพ  ม้าง          หมายถึง         พัง  ทำลาย
                 ผีเผต              หมายถึง          ผีเปรต
   แปล    ถึงจะใหญ่โตจนล้นฟ้า  หยาดลงมาสู่พื้นดิน  โตเท่าฝูงภูตผี   
              ข้าก็จะยอมตาย  ข้าจะตามทำลาย  ล้างผลาญพวกผีเปรต
              ถึงจะมีอุปสรรค  ขวางกั้น มือน้อยข้าก็จะค่อย ๆ ให้จงได้
    ความหมาย  สมัยนั้นจิตร  ภูมิศักดิ์  ท่านได้หนีเข้าป่าพร้อม  ๆกับเพื่อน  ๆนักศึกษาด้วยสาเหตุเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนหนึ่งเอารัดเอาเปรียบราษฎร ลัทธิคอมมิวนิสต์เพิ่ง   เข้ามา  ท่านคิดว่ามันน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี  ถึงพวกนายทุน  เจ้าหน้าที่ของรัฐพวกนี้   (ผีเผตห่า)  จะใหญ่โตคับฟ้าแค่ไหนถึงมันจะมีอุปสรรคแค่ไหน  ท่านก็จะต่อสู้ด้วย     สองมือน้อย ๆ  ของท่าน  แม้ตัวท่านจะตายก็ยอม  
            ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใดครับที่ท่านแต่ง ผญา ได้สุดยอดถึง
 เพียงนี้  แม้แต่ลัทธิมาร์กซิส ของเลนิน  ท่านยังสามารถอ่านได้อย่างแตกฉานเพียงใช้เวลาไม่นาน และเขียนวิจารณ์ แปลออกมาเป็นเล่มโต  ให้พวกที่สนใจได้  อ่านกันครับ   
         พรุ่งน้ค่อยว่ากันต่อครับ

                                                 สุรศรี				
20 พฤศจิกายน 2552 18:14 น.

ผญา วันละบทกับสุรศรี

สุรศรี

ผญา  วันนี้ขอพูดถึงความสัตย์ที่เป็นคำสอนของผู้เฒ่าผู้แก่สมัยโบราณ
         ทุกข์ยากไฮ้ขอขอดแลงงายกะดีถ่อน    อย่าสุลืมคำสัตย์ซื่อจริงคำมั่น


  อันว่าคนเฮานี่   เถิงสิทุกข์ยากไฮ้    ขอขอดแลงงาย  กะดีถ่อน
                            เงินบ่มีในถง          ข้าวบ่มีในท้อง
                            แต่ว่าวาจาต้าน       ให้มีคำสัตย์ซื่อ
                          เว้าแต่คำจริงนั้น      คนสิย้องว่าดี

ศัพท์     ทุกข์ยาก   หมายถึง    ยากจน
            ยากไฮ้     หมายถึง     ยากไร้
            ขอขอด      หมายถึง   ขัดสน  อัตคัด
            กะดีถ่อน   หมายถึง   ก็ช่างเถอะ
            สุ               หมายถึง       อย่า 
             คำมั่น      หมายถึง  วาจาสัตย์
            แลง           หมายถึง  อาหารเย็น
            งาย          หมายถึง  อาหารเช้า
           ถง           หมายถึง  ถุง
           ย้อง           หมายถึง  ยกย่อง
แปล           คนเรานั้น ถึงแม้จะยากจนขัดสน อาหารจะกินก็ไม่มี  เงินทองก็ไม่มี แต่เวลาพูดจานั้น  ก็ขอให้มีความซื่อสัตย์  คนจะได้ยกย่อง
ความหมาย   คนอีสานนั้น ศรัทธาและยึดมั่นในหลักคำสอนของพุทธศาสนามาแต่โบราณกาล  จะเห็นได้จากคำสอนจากผญาหลาย  ๆ บทและวรรณคดีอีสานหลาย  ๆ เรื่อง    คำสอนเหล่านี้จะถูกปลูกฝังมายังรุ่นลูกรุ่นหลานสืบต่อ ๆ ไป				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุรศรี